4.6
38 เรตติ้ง (27 รีวิว)
ปิดอยู่จะเปิดในเวลา 10:30
Simmer by praha-ซิมเมอร์ บาย ปราค สินธร
อาหารไทย กับรสชาติเซอไพรส์ ที่หากินได้ง่าย ๆ ในตึกสินธรได้ยินชื่อนี้มานานพอตัว ตั้งแต่เข้า Wongnai มาพักใหญ่ วันนี้มีโอกาสได้กินกับคนอื่นเขาสักที กับร้าน ‘Simmer by Praha’ ร้านอาหารไทยตำรับคุณป้า ที่ตั้งอยู่ในตึกสินธร ถนนวิทยุ ใครจะเชื่อกันว่า ‘การกินอาหารไทย’ ยังทำให้รู้สึกเซอร์ไพรส์ได้อยู่! เมื่อวานวันเกิดหม่าม้า เลยอยากหาร้านอาหารสักร้านที่น่าจะถูกปาก อิตาเลียนไม่ชอบ เกาหลีไม่นิยม ปลาดิบก็ไม่กิน เนื้อวัวก็ไม่ได้ คิดไปคิดมา อาหารไทยนี่แหละ simply delicious ที่สุด แต่จะเป็นอาหารไทยแบบไหน ที่ตราตรึงและคาดเดาไม่ได้สำหรับหล่อน สุดท้ายเลยลงเอยที่นี่ ซึ่งสำหรับ ‘Simmer by Praha’ นี้ ถือเป็นร้านที่เสิร์ฟอาหารไทยแบบไม่คุ้นชิน ส่วนจะไม่คุ้นลิ้นยังไง ตามไปดูเมนูแรกกันเลยดีกว่า -เปิดฉากด้วย ‘แกงกะทิรัญจวน’ ใส่กระดูกหมูอ่อน (ที่เปื่อยโคตร ๆ) บางคนว่าคล้ายต้มยำใส่กะปิ แต่เราว่ารสชาติมันนวลนัวมากกว่านั้น ตัวแกงกะทิหอมกะปิกำลังดี ส่วนหางกะทิที่ใส่เข้าไป ก็ช่วยเพิ่มรสชาติให้กลมยิ่งขึ้น ผักใบเขียวต่าง ๆ ที่ใส่มา ทั้งตะไคร้เอย หอมแดงเอง โหระพาเอย ล้วนใส่มาอย่างมีความหมาย เติมเต็มให้รูป-รส-กลิ่น สมบูรณ์แบบ อดใจไม่สั่งอีกชามไม่ได้จริง ๆ! -ต่อด้วย ‘แซลมอนผัดกะปิ’ คนไม่ค่อยกินปลาอย่างเรา ยังต้องยอมโอนอ่อน แซลมอนหั่นเต๋า ผ่านการกริลมาจนด้านนอกกรอบกำลังกิน ผัดมาในซอสกะปิแปดริ้ว ที่ไม่ฉุน-ไม่เค็มจนเกินงาม มาพร้อมพริกหยวกเขียว หอมแดง และกระเทียมโทน ให้รสหวาน เค็ม เผ็ด ครบ จัดเป็นจานในใจหมายเลขหนึ่งของสมาชิกบนโต๊ะเกินครึ่ง -‘ใบเหลียงผัดไข่’ เห็นทีแรก ตั้งใจจะข้ามไปเสียแล้ว โชคดีที่หล่อนตัดสินใจกดสั่งในท้ายสุด เพราะกลิ่นหอมกระทะของเขาไม่ธรรมดาจริง ๆ หล่อนว่า ‘เขาเลือกใบเหลียงได้อ่อน บางเจ้าจะอ่อน-จะแก่ ก็ใส่มาหมด’ เนืองแน่นทั้งใบเหลียง ไข่ไก่ และกุ้งเสียบ (ที่ทุกคนวอแว ว่าจะไปหาซื้อได้ที่ไหนบ้าง) -‘พะโล้ข้ามคืน’ ข้ามคืนสมชื่อร้านว่า ‘Simmer’ จริง ๆ นั่นแหละ ชามนี้อาจดูหากินได้ทั่วไป แต่ความจริงแล้วพิเศษตั้งแต่เครื่องสมุนไพร ขบวนการการตุ๋น 48 ชม. ไปจนวัตถุดิบอย่างเต้าหู้ (เต้าหู้เขาแตกต่างจากที่อื่นดีนะ เด้งดึ๋ง ไม่มีฟองอากาศ) ราดบนข้าวสวยร้อน ๆ ตักเข้าปากคำโต ๆ อะหื้อออ ฟีลลิ่งเหมือนได้เติมพลังก่อนไปโรงเรียนเลยจ้ะ -‘ต้มเกี่ยมบ๊วย’ ชามนี้ พี่ชายบอกปกติเคยกินแต่ใส่เนื้อปลา คราวนี้เป็นหมูสับ เต้าหู้ และเห็ด เลยแอบแปลกใจเล็กน้อย แต่บอกเลยว่า เขาปรุงรสน้ำซุปมาได้ เปรี้ยว-เค็ม กำลังเหมาะ คล่องคอดีแท้ -มาถึงโหมดของกินเล่นกันหน่อย คนอื่นคงไม่เรียกแบบนี้ แต่พี่ชายบอกว่า ‘มันเหมาะกับจิบเบียร์สักแก้วจริง ๆ’ เริ่มต้นด้วย ‘คอหมูทอดซอสจิ้มแจ่ว’ คอหมูแทรกมันสวยงาม ต่อด้วย ‘หมูกรอบผัดซอสตะไคร้’ กรุบกรอบ พร้อมตะไคร้ไม่ฉุนเกินไป ตามด้วย ‘ไก่ทอดลืมตัว’ พี่ชายพยักหน้าเห็นด้วย ‘ลืมตัวจริง กินลืมอ้วนละเนี่ย’ -และมาถึงไฮไลต์ที่ไม่คิดว่าจะเป็นไฮไลต์ กับเมนูของหวานของร้าน ‘ส้มฉุน’ เมนูดับร้อนที่แม้แต่หม่าม้ายังไม่เคยกินมาก่อน เป็นผลไม้ลอยแก้วที่มีส่วนผสมพิลึกใช้ได้ ทั้งน้ำส้มซ่า ขิงอ่อน และหอมเจียว ส่วนตัวผลไม้ก็เห็นจะมีลิ้นจี่เป็นหลัก อื่น ๆ ไม่แน่ใจนัก (ดูภาพประกอบเอาแล้วกัน) แต่สรุปแล้ว สดชื่น + พาให้ร้อง ‘ว้าว’ ถ้วนหน้า -ปิดท้ายด้วยอีกหนึ่งเมนูของหวานที่พี่ชายต้องขอเบิล ‘น้อยหน่ากะทิ’ เจ้าคนไม่กินน้อยหน่าทั้งหลาย ยังดาหน้าเข้ามาเพราะติดใจ ตัวกะทิหอมหวาน มาแบบเบา ๆ นวล ๆ เนียน ๆ ทำให้ซดได้เรื่อย ๆ ตัวน้อยหน่านั้นไร้เมล็ด เนื้อแน่นนุ่ม แถมพกความเย็นฉ่ำมาเต็มเหนี่ยว ยิ่งมีข้าวพองกับงาดำโรยด้านบน สุดประทับใจ! เบ็ดเสร็จทั้งหมดนี้ เล่นเอาต้องปลดตะขอกางเกงกันยกใหญ่ สมาชิกโหวตให้ร้านนี้ไป 9/10 ทั้งการบริการน่ารัก ๆ ทั้งบรรยากาศสงบและเป็นกันเอง (อาจเพราะเป็นโต๊ะสุดท้ายของวันด้วยมั้งท่า) และแน่นอนที่สุด ‘รสชาติอาหารไทย’ ที่ยังทำให้ร้องว้าวได้อยู่ ใครอยากลอง แวะมากินกันได้ ตั้งแต่ 10.00 - 20.00 น. อ่อ แต่ร้านหยุดทุกวันอาทิตย์นะ ‘ปลาทูต้มเค็มหมด เดี๋ยววันหลังมาลองอีก’ หล่อนทิ้งท้าย 💕... อ่านต่อ
0 Like0 Comment
photo