- หน้าแรก
/
- Rib Eye Grass-fed 250g NZ ร้าน EL TORO Steakhouse and Churrascaria EL TORO House of Meat
เนื้อจะเยียวยาทุกอย่าง! คลังเนื้อชั้นเยี่ยมจากทั่วโลกใจกลางเมืองที่ El Toroสายเนื้อทั้งหลายเตรียมน้ำลายหกกันได้เลยค่ะ วันนี้เรามาอยู่กันที่ร้าน El Toro ร้านสเต๊กเฮ้าส์ชื่อดังหน้าซอยสุขุมวิท 29 ตัวร้านกระจกแค่มองเข้ามาก็เห็นความขลังของคลังเนื้อ ส่วนด้านหน้าเป็นโซน Butchery ที่มีเชฟกำลังหั่นเนื้อให้เห็นกันจะๆ เลยค่ะ มีตู้กระจกโชว์ชิ้นส่วนของเนื้อจากทั่วโลกให้เลือก มีแทบทุกส่วนของเนื้อวัวให้เลือก
เดินเข้ามาอีกนิด จะเจอกับห้องครัวกระจกที่มองเห็นการทำงานของเชฟมืออาชีพ และส่วนโซนห้องอาหารซึ่งตกแต่งแบบสบายๆ ให้บรรยากาศเป็นกันเอง พร้อมกับเพลย์ลิสต์ดีๆ เปิดคลอ
ความพิเศษของสเต๊กที่นี่ คือใช้เนื้อและเครื่องเทศที่นำเข้าแทบทั้งหมด และคุณแจ เจ้าของร้านบอกกับเราค่ะ ว่าที่ร้านคุณจะพบกับเนื้อหลากประเภทจากทั่วมุมโลก ทั้งจากบราซิล อาร์เจนติน่า อเมริกา นิวซีแลนด์ ออสเตรเลียและเนื้อไทย แถมยังมีเนื้อ Dry aged ที่หาทานได้ยากอีกด้วย โดยมีให้เลือก 3 แบบคือแบบ 28 วัน, 45 วันและ 100 วัน และนำมาผ่านการย่างบนเตาถ่านด้วยเชฟมืออาชีพชาวนิวซีแลนด์
จุดเด่นอีกอย่างของสเต๊กแบบ Brazilian and Argentinian cut คือเนื้อชิ้นหนานุ่มสะใจ รสชาติจัดจ้าน แต่ละจานได้ทั้งความชุ่มฉ่ำของเนื้อ รสชาติและกลิ่นแบบเต็มปากเต็มคำทะลุทะลวงวิญญาณ แถมที่นี่ยังเสิร์ฟใน portion ใหญ่มาก อิ่มคุ้มจริงๆ ค่ะ
อาจจะคิดว่าแพงจัง แต่ว่านอกจากเนื้อต่างประเทศแล้วยังมีเนื้อไทยวากิว ที่เมื่อเทียบกับเนื้อวากิวญี่ปุ่น ถือว่าราคาดีและคุ้มค่ามากค่ะ ส่วนใครที่ไม่กินเนื้อ ก็ยังมีเนื้อหมู แกะ ไก่ ปลา และไส้กรอกค่ะ โดยเริ่มต้นที่ 250-
Menu
มาถึงแล้วทางร้านก็จะเสิร์ฟขนมปังโฮมเมดอุ่นๆ ที่ทางร้านทำเองให้ทานกับเนย ตามด้วยสลัดสดกรอบที่ส่งตรงจากสวนโรยด้วยอิตาเลียนชีสให้เรียกน้ำย่อยค่ะ ส่วนตัวสเต๊กทุกจาน ก็จะเสิร์ฟพร้อมกับ baked potato โปะครีม พร้อมผักย่างและกระเทียมย่างหอมกรุ่น และน้ำซอสสูตรพิเศษของที่ร้าน (ตัวซอสมีให้เลือกทั้ง Mushroom sauce, pepper sauce และถ้าชอบเผ็ดที่ร้านมีน้ำจิ้มแจ่วด้วย)
เมนู Best Seller “T-Bone Premium” 550g (1690-) เนื้อทีโบนวากิวที่ใช้ส่วนเนื้อด้านบนติดเทนเดอร์ลอยน์นุ่มๆ ชุ่มซอสย่างบนเตาถ่านร้อนๆ จนได้กลิ่นหอมกลมกล่อม ราดด้วยซอสโฮมเมดสไตล์บราซิลเลียนรสจัดจ้าน สั่งทีโบนชิ้นเดียวจะได้ทั้งเนื้อเซอร์ลอยน์ กับเทนเดอร์ลอยน์เลยค่ะ! ตัดออกมาจะเห็นเนื้อ 2 สีเลย
พลาดไม่ได้จริงๆ กับ “Thai Wagyu Rib Eye” (1228-) ตัดมาแล้วเห็นลายเนื้อที่สวยงาม เนื้อดีมากและที่สำคัญมัน Juicy มากๆ ชุ่มฉ่ำกัดไปมีน้ำซอสฉ่ำ แทรกออกมาเต็มที่ มันดีมากจนต้องหลับตาพริ้ม อมยิ้มละมุนค่ะ ริบอายที่นี่นอกจากเนื้อวากิวไทยแล้ว ก็มีให้เลือกทั้งแบบ NZ Beef ด้วยนะ
“Picanha 250g Wagyu” (1100-) จานนี้เป็นแบบบราซิลเลียนแท้ๆ เลยค่ะ คุณแจ เจ้าของร้านบอกว่า Picanha นี่คือส่วนที่ดีที่สุดและเล็กที่สุดของเนื้อ ชี้ให้เราดูว่าเป็นส่วนเนื้อเล็กๆ ที่อยู่ด้านบนใกล้ๆ กับหางวัว เจ้าจานนี้ก็ดีงามสะเทือนใจ ตัวเนื้อส่วนนี้จะมีส่วนไขมันติดมาด้วยซึ่งตรงไขมันกริลล์หอมๆ นี่แหละความพีคเลย
“El Toro Picanha Steak Burger” (890-) เบอร์เกอร์ชีสไซส์จัมโบ้ที่ใช้เนื้อส่วน Picanha อีกเช่นกัน ที่ร้านนี้ไม่ใช้เนื้อบดนะคะ ที่นี่เขาให้เนื้อสไลซ์มาเต็มๆ เสิร์ฟมาพร้อมกับชีสร้อนๆ ผักสดกรอบในแป้งเบอร์เกอร์นุ่มๆ โฮมเมด พร้อมกับฟรายส์ สับปะรดและแตงกวาดอง
ใครที่ชอบทานเนื้อนุ่มฉ่ำๆ นี่เลย “Grass A Tenderloin” 250g (1258-) เนื้อจากวัวที่ผ่านการกินหญ้าสดเป็นเวลา 100 วัน จนได้เนื้อคุณภาพ ชุ่มฉ่ำ กัดไปเจอแต่ความนุ่ม นุ่ม นุ่ม! หอมลงตัว ยิ่งราดด้วยซอสเห็ดรสกลมกล่อมนี่มันยิ่งฟินมหาฟินค่ะ
“Flank Wagyu” 250g (1100-) เนื้อวากิวส่วนพุงของวัวกริลล์มาร้อนๆ นุ่มนวลและชุ่มฉ่ำเนื้อมากๆ ยิ่งกินกับผักย่างหวานๆ และมันเทศที่ให้มาแล้วด้วยยิ่งเลิสค่ะ
“NZ Striploin” 250g (980-) เนื้อสตริปลอยด์หอมกลิ่นย่างฟุ้ง เนื้อชั้นดีแทรกด้วยไขมันจากส่วนบนของวัว ราดน้ำซอสเข้าไปอีกหน่อย มันใช่เลยค่ะ
ซึ่งทางร้านให้สิทธิพิเศษสำหรับลูกค้าวงในลดทันที 10%!! อีกด้วยนะคะ ส่วนเครื่องดื่ม ที่ร้านมีไวน์ให้เลือกหลากหลาย House wine ของที่นี่มีทั้งไวน์แดง ไวน์ขาว และไวน์นำเข้าจากฝรั่งเศส อิตาลี ชีลี อาร์เจนติน่า ออสเตรเลีย สเปน Sparkling wine และค็อกเทลให้เลือกทานคู่ไปกับเนื้อด้วยค่ะ
ทางร้านยังมี Buffet Churrasco หรือบุฟเฟ่ต์บาร์บีคิวสไตล์บราซิลในราคา 1800++ และนอกจากจะนั่งกินสเต๊กที่ร้านแล้ว ตรงส่วนของ Butchery หน้าร้านยังมีชั้นขายเนื้อให้ลูกค้าสามารถมาเลือกซื้อเนื้อกลับไปทำเองที่บ้าน และยังมีไส้กรอกทำเองขายด้วยนะคะ
การเดินทาง
ร้าน El Toro อยู่หน้าปากซอยสุขุมวิท 29 อยู่ระหว่าง BTS สถานีพร้อมพงษ์และสถานีอโศก หรือใครที่เอารถมาสามารถมาจอดรถได้ที่ซอยทีโอที โดยทางร้านจะออกค่าใช้จ่ายให้ค่ะ ร้านเปิดตั้งแต่ 11 โมงเช้าและเปิดยาวถึงเที่ยงคืนค่ะ (Last Order ตอน 5 ทุ่ม) ที่ร้านมีโชว์แซมบ้าสนุกๆ ให้ชมทุกวันศุกร์ตอนเย็นเวลา 1 ทุ่มครึ่ง และในวันหยุดเสาร์-อาทิตย์แนะนำให้โทรมาจองที่ร้านก่อนนะคะ
8 Likes0 Comment