4.0
262 เรตติ้ง (214 รีวิว)
เปิดอยู่จนถึง 18:00
Bear Hug Cafe'
อัพเดทเมนูใหม่จุใจ กับร้านคาเฟ่แสนเก๋ รางวัล Best of Wongnai 2 ปีซ้อนหลายคนคงได้เคยอ่านรีวิวของน้าอ้วนไปแล้ว กับร้านกาแฟและขนมแสนเก๋ ชื่อน่ารักๆ อย่าง Bear Hug Cafe ไปเมื่อคราวที่แล้ว น้าอ้วนแวะไปรีวิวเมื่อตอนที่เขาเปิดร้านใหม่ๆ จนตอนนี้กระแสของร้าน Bear Hug Cafe เริ่มติดหูคนเชียงใหม่กันมากมาย และเชื่อแน่ว่าหลายๆ คนในที่นี้ก็คงเคยไปเยี่ยมยืนสักครั้งอย่างแน่นอน เวลาผ่านไปปีกว่าๆ ที่ Bear Hug Cafe ได้เติบโตขึ้นมา ได้แสดงถึงศักยภาพในการเป็นร้านกาแฟที่หลายคนชื่นชอบ จนได้รับการโหวตให้เป็น Best of Wongnai (รางวัลร้านอาหารยอดเยี่ยม ที่ได้รับการโหวตจาก users ของ Wongnai ที่มีกว่าล้านคนในปัจจุบัน) 2 ปีซ้อน ตั้งแต่ 2014 และ 2015 และสิ่งที่แปลกตาขึ้นมาอีกอย่างหนึ่งก็คือ อย่างรอบที่แล้วน้าอ้วนได้ไปรีวิวมาแล้ว ร้านนี้เขามี 2 ชั้นนะจ๊ะ โดยตอนแรกนั้นชั้นบนยังไม่ได้เปิดให้ใช้งานอย่างเต็มรูปแบบ แต่รอบนี้มีโอกาสได้ขึ้นไปถ่ายรูปด้านบน ตอนนี้เขาติดแอร์และจัดสถานที่พร้อมให้บริการลูกค้าแล้ว ดังนั้นนอกจากพื้นที่ชั้นล่างแล้ว ลูกค้ายังสามารถขึ้นไปนั่งชิล ตากแอร์เย็นๆ บริเวณชั้นบนได้นะจ๊ะ ถ้าใครนั่งอยู่ข้างหน้าต่างก็สามารถเห็นวิวของคูเมืองจากมุมสูงได้ด้วย ร้านเปิดตั้งแต่ 09:00 – 18:00 น. หยุดทุกวันพุธนะจ๊ะ เรื่องที่จอดรถก็ไม่ต้องเป็นห่วงสามารถจอดที่หน้าร้าน, ที่จอดรถของร้าน แต่ถ้าเห็นว่ามันเต็มก็สามารถเลี้ยวมาจอดในร้านศรีนครค้าไม้ได้เลยจ้า เพราะเขาเป็นเจ้าของเดียวกัน ถึงเวลาที่น้าอ้วนจะมาแนะนำเมนูใหม่ที่มีมาเพิ่มจากเมื่อรีวิวรอบที่แล้วนะจ๊ะ ด้วยร้าน Bear Hug Cafe เขาเปิดร้านกันตั้งแต่ 9 โมงเช้า ดังนั้นเซ็ทอาหารเช้าเขาก็เลยเป็นอะไรที่ขาดไม่ได้ (ที่จริงแล้วที่นี่เขาขายเป็น All-day breakfast ก็คือเมนูอาหารเช้าสามารถสั่งได้ทั้งวันจ๊ะ) และเป็นอะไรที่ลูกค้าชื่นชอบกันมาก อย่างเซ็ทแรกเป็นแพนเค้ก Happy Morning Pancake (115 บาท) แพนเค้กรูปน้องหมีน่ารักๆ แพนเค้กเนื้อนุ่ม และแน่นรสชาติอร่อยมาก เสิร์ฟมาพร้อมกับ Maple Syrup หอมๆ ก่อนทานจะต้องเอาเจ้า Maple Syrup ราดบนตัวแพนเค้กถึงจะฟิน พร้อมทั้งไส้กรอกชีสชิ้นใหญ่ และไข่ดาวที่ไข่แดงเยิ้มๆ น้าอ้วนชอบมาก เป็นอะไรที่เหมาะกับการทานเป็นอาหารเช้าจริงๆ หรือใครที่รักสุขภาพ อย่างทานอะไรแบบว่าเบาๆ และดีต่อร่างกาย ที่นี่เขาก็มีเมนูอาหารเช้าที่เป็น Fresh Morning Yogurt (85 บาท) โยเกิร์ตรสธรรมชาติราดบนผลไม้สดต่างๆ เช่นกล้วย และสตรอเบอรี่ พร้อมด้วยคอนเฟร็กรสชาติกรุบกรอบ ถือเป็นอาหารเช้ามาง่ายๆ เบาๆ และดีต่อสุขภาพนะจ๊ะ พูดถึงว่าถ้ามีแต่อาหารแล้วไม่มีเครื่องดื่ม ก็คงเหมือนว่าขาดอะไรไปสักอย่าง เช้าๆ มาทานอาหารเช้ากันแบบอร่อยอย่าง 2 เมนูที่แนะนำไปข้างต้นแล้ว การได้กาแฟร้อนๆ สักแก้วก็น่าจะทำให้สดชื่น กระปรี้กระเปร่าพร้อมที่จะทำงานกัน อย่าง Hot Latte (45 บาท) ของที่นี่ก็อร่อยไม่แพ้ที่ไหน ด้วยคอนเซ็ปของที่นี่เป็นอะไรที่เกี่ยวกับหมี ดังนั้นลาย Latte Art บนถ้วยกาแฟก็คงหนีไม่พ้นน้องหมีแน่นอน ถึงแม้จะน่ารักยังไงน้าอ้วนก็ไม่พลาดที่จะชิม รสชาตินุ่ม หอมกลิ่นกาแฟ ทำให้กาแฟแก้วนี้รู้สึกถูกปากดี แต่ถ้าใครที่ไม่ทานกาแฟ การได้ชาเขียวร้อนสักถ้วย ก็น่าจะเป็นทางออกที่ดี Hot Green Tea Latte (50 บาท) ชาเขียวหอมๆ แต่กลิ่นไม่ได้ฉุน แต่เมื่อพอจิบเข้าปากแล้วรสชาติความหอม และมันของชาเขียวร้อนแก้วนี้ มันอบอวนอยู่ในปาก ทำให้รู้สึกแบบว่าอยากจะยกดื่มภายในครั้งเดียวให้หมดเลย หรือจะเป็นพาเหรดเครื่องดื่มเย็นของร้าน Bear Hug Cafe เครื่องดื่มเย็นหลากหลายเมนูที่พร้อมเสิร์ฟให้ลูกค้า ไม่ว่าจะเป็น ชาเขียวนม (60 บาท) , นมชมพู (55 บาท) ,โก้โก้เย็น (60 บาท) และชานมเย็น (55 บาท) รสชาติของเครื่องดื่มแต่ละแก้ว ที่นี่ก็สามารถทำออกมาได้อย่างดีครับ ดึงรสชาติที่เป็นเอกลักษณ์ของวัตถุดิบนั้นๆ มาได้อย่างดี เข้มข้นและเย็นชื่นใจดีจริงๆ ส่วนใครที่ชอบเครื่องดื่มเย็นๆ แบบเนียน ๆ เป็นเกล็ดน้ำแข็ง เกร็ดหิมะ ก็นี่เลยน้าอ้วนแนะนำเครื่องดื่มแบบ Smoothie ได้คุณค่าของผลไม้กันเต็มๆ พร้อมทั้งได้ความอร่อย เย็นสดชื่นกันแบบเนียนละเอียด ที่นี่เขาก็มีให้เลือกหลายอย่างนะจ๊ะ แต่วันนี้ขอนำเสนอสตรอเบอรี่โยเกิร์ต (85 บาท) และ บลูเบอรี่โยเกิร์ต (85 บาท) รสชาติเปรี้ยว หวาน อร่อยสดชื่น ท๊อปด้วยวิปครีมนุ่มๆ อากาศร้อนๆ แบบนี้ใครอยากสดชื่น ดับกระหายคลายร้อน บอกเลยห้ามพลาด ต้องสั่งนะจ๊ะ ถ้ามีแต่เครื่องดื่ม ก็คงไม่อยู่ท้อง ดังนั้นน้าอ้วนเลยขอแนะนำให้จัดเมนูหนักๆ แบบว่ากินกันให้อิ่มกันไปเลยกับเมนู Toast ขนมปังอบที่เป็นกระแสในปัจจุบันนี้ Toast ของที่นี่เขาก็มีให้เลือกหลายหน้าด้วยกันนะจ๊ะ แต่วัตถุดิบหลักก็จะเป็นขนมปังชิ้นใหญ่ๆ ที่หั่นเป็น 9 ส่วน แล้วเอาไปใส่เนยชุ่มๆ แบบจัดเต็ม อบจนเนยซึมเข้าเนื้อขนมปัง กรอบนอกนุ่มใน แล้วท๊อปปิ้งด้วยผลไม้ ไอศครีมหน้าต่างๆ โดย Toast ของที่นี่ก็มี Bear Hug Toast , Winter Love Toast และ Sweet & Summer Toastให้เลือกกัน โดย Bear Hug Toast (165 บาท) เป็น Toast ต้นตำรับที่ Bear Hug Cafe เขามีให้บริการมาตั้งแต่เริ่มเปิดร้านใหม่ๆ เป็น Toast ที่ตกแต่งเป็นน้องหมีน่ารักมุ้งมิ้งที่เป็นเอกลักษณ์ไม่เหมือนใครแน่นอน ราดด้วยซอสช็อคโกแลตหวานฉ่ำ แล้วเสิร์ฟพร้อมกับผลไม้อีกหลายชนิด ที่สอง ชื่อ Winter Love Toast (145 บาท) ขนมปังโทสที่ท๊อปปิ้งมาด้วยไอศครีมชาเขียว เสิร์ฟพร้อมกับสตรอเบอรี่ ให้รสชาติของความหวานฉ่ำของสตรอเบอรี่ได้เป็นอย่างดีเลยจ้า อย่างที่สาม ชื่อ Sweet & Summer Toast (145 บาท) เป็นโทสที่เรียกว่าเข้ากับฤดูกาลนี้เป็นอย่างดีเลยแหละ ฤดูนี้ผลไม้ขึ้นชื่อก็คงหนีไม่พ้นมะม่วง มะม่วงหวานฉ่ำ เนื้อเนียน หอมๆ เสิร์ฟคู่กับขนมปังที่อบกับเนยและราดซอสสตรอเบอรี่รสหวานอมเปรี้ยว ทำให้ได้รับรู้ถึงความหวานฉ่ำของผลไม้และซอสต่างๆ ได้เป็นอย่างดี ถ้าใครไม่ชอบ Toast จะเลือกเป็นแบบ Waffle ก็มีนะจ๊ะ Jingle Bell Waffle (ราคาปกติ 145 บาท เสิร์ฟพร้อมกับไอศครีมซานตาคลอสหมี แต่น้าอ้วนทำเก๋ เพิ่มไอศครีมอีก 1 ลูก ได้กวางเรนเดียร์มาอีก 1 ตัว เลยต้อง +55 บาท) Waffle ชิ้นใหญ่ เสิร์ฟกันมาเน้นๆ 4 ชิ้น พร้อมทั้งเครื่องเคียงต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นผลไม้ต่างๆ ที่สุกงอม หวานฉ่ำ หรือจะเป็นไอศครีม (ปกติแล้วจะได้แค่ 1 ลูกนะจ๊ะ ถ้าใครอยากได้เพิ่มก็ 55 บาท จ่ายเขาไป) และวิปปิ้งครีม ปิดท้ายด้วยเมนูคลายร้อน ที่ฤดูนี้ขายดีเป็นเทน้ำ เทท่า ฤดูร้อนเมื่อไรข้าวเหนียมมะม่วงมักเป็นเมนูยอดฮิต ที่หลายๆ ร้านต้องมี และที่ Bear Hug Cafe ก็ไม่พลาดที่จะเสิร์ฟความอร่อยให้ลูกค้า ชื่อ Mango Lover (145 บาท) ข้าวเหนียวมูนสีสันสวยงามเสิร์ฟมาพร้อมกับ มะม่วงชิ้นโต สุกได้ที่ หอมมาก และหวานอร่อย พร้อมทั้งกับไอศครีมมะม่วงซอเบท์ ที่เปรี้ยวๆ หวานๆ เพิ่มความอร่อยให้กับข้าวเหนียวมะม่วงจานนี้ได้เป็นอย่างดี สุดยอดร้านกาแฟที่ได้รับความนิยมจากพี่น้องชาวเชียงใหม่ ด้วยรางวัล Best of Wongnai 2014 และ 2015 ที่ถือว่าเป็นรางวัลที่ชาวเชียงใหม่และชาวไทยร่วมกันโหวตให้ร้านนี้เป็นร้านสุดยอดประจำปีนั้นๆ ร้านกาแฟที่มีเอกลักษณ์เฉพาะ ด้วยความชื่นชอบน้องหมี ทำให้สาวกทั้งหมีพูห์ เท็ดดี้แบร์ หรือหมีอะไรต่างๆ ต่างพากันมาแวะเวียนใช้บริการกันเป็นประจำ น้าอ้วนเกือบลืมบอกว่า เมื่อก่อนไอศครีมของทางร้าน ก็ใช้ไอศครีมธรรมดา แต่ตอนนี้เขาเปลี่ยนมาใช้ไอศครีมของ New Zealand Natural ซึ่งเป็นไอศครีมเกรดพรีเมียมนำเข้า ที่มีให้เลือกกว่า 9 รสชาติ โดยทุกเมนูลูกค้าสามารถเลือกรสชาติของไอศครีมตามใจชอบเลยนะจ๊ะ ถึงว่ารอบนี้น้าอ้วนมาชิมแล้วก็ว่าทำไมไอศครีมถึงอร่อยขึ้น เป็นเพราะอย่างนี้นี่เอง... อ่านต่อ
5 Likes0 Comment
photo