5.0
สิ่งอำนวยความสะดวก/กิจกรรม
ความจริงที่ดีกว่าความฝัน- ขออภัยถ้ามันจะเป็นการพร่ำพรรณนามากเกินไปหน่อย -
โรงเแรมโอเรียนเต็ล น่าจะเป็นโรงแรมที่ใครๆ ก็อยากจะได้ลองเข้าไปพักสักครั้ง
สำหรับฉันก็เช่นกัน ระยะทางไปถึงโรงแรมอยู่ใกล้แค่เอื้อมในทุกๆ วันตอนฉันเป็นเด็ก
แต่ดูมันจะสุดเอื้อมที่จะได้เข้าไปใช้บริการ อยากจะมีสักครั้ง ขอสักครั้งในชีวิตที่จะได้เข้าพัก
ความรู้สึกมันคงเหมือนกับคนซื้อล็อตเตอรี่ ที่หวังจะได้ถูกรางวัลใหญ่
กาลเวลาผ่านไป และแล้วเราก็ลืมเลือนความฝันนั้น แต่มันไม่ได้หายไปไหน
จนมาวันหนึ่ง เมื่อโอกาสนั้นมาถึง ความฝันจะเป็นจริงแล้ว มันจะจริงใช่ไหมที่ฉันจะได้เข้าพักที่นั่น
ความตื่นเต้นคุกรุ่นในใจเล็กน้อยพอดูดี
ก้าวแรกที่เข้าไปถึง พนักงานต้อนรับที่พร้อมรอลูกค้าเข้าเช็คอินเป็นมืออาชีพมากๆ
การกล่าวทักทาย สายตาที่เทคแคร์จริงใจ ให้ความรู้สึกอบอุ่นตั้งแต่แรกพบ
มันเป็นความพิเศษที่ก่อให้เกิดความรู้สึกพิเศษในใจเรามากๆ
อันที่จริงแกก็ดูเป็นคนที่มีอายุแล้ว แน่นอนมากกว่าเรา จึงทำให้คิดได้ว่าแกอาจจะ
ทำงานที่โรงแรมนี้มานานและก็รักในอาชีพและภูมิใจในงานของตนมากพอๆ กับ
สิ่งที่แกแสดงต่อแขกที่เข้าพัก
# แค่จุดแรกนี้ก็วิเศษมากๆ แล้ว
เคยไหมที่เข้าไปในร้านบางร้าน หรือสถานที่บางแห่ง แล้วสายตาของพนักงานที่นั่น
ที่มองมาที่เรา บางครั้งเหมือนกำลังสำรวจตั้งแต่หัวจรดเท้า ทั้งๆ ที่ก็ดูแล้วว่าเขาก็คงเป็น
พนักงานคนหนึ่ง แต่กลับทำให้ลูกค้าอย่างเรารู้สึกเขย็ดขยาดไปนานสองนาน
=> สำหรับที่โรงแรมโอเรียนเต็ลนี้ ไม่มีแบบนั้นเลยนะ ดีมากๆ
อันที่จริงเราไปถึงเร็วกว่าเวลา แต่ห้องก็ใกล้จะเตรียมให้เราเสร็จแล้ว
จึงอาศัยช่วงเวลานั้นไปเดินรอบๆ ก่อน ทุกอย่างดูประณีต งดงาม โถงทางเดิน
ไปจนถึงสระน้ำ ดูมีคลาส เป็นผู้ดีมากๆ
ไม่น่าแปลกใจเลยที่อยู่มาได้กว่า 140 ปีและเคยเป็นหนึ่งในโรงแรมที่ถือว่าดีที่สุดของโลก
เมื่อกลับมารับกุญแจ ก็ทำให้ได้รู้ว่าเขา upgrade ห้องให้เรา
# ความประทับใจที่สอง
อะไรมันจะดีขนาดนี้ ห้องที่นี่ไม่ใช่ถูกๆ เลย แค่ราคาเริ่มต้นก็สองหมื่นอัพแล้ว
นี่คือความจริงใช่ไหม
พอไปถึงห้อง ก็มีพนักงานที่คอยแนะนำเราว่าอะไรอยู่ตรงไหน จึงได้โอกาสถามเขาว่า
ทางโรงแรม upgrade ให้ลูกค้าทุกคนเลยหรือเปล่า เห็นน้องบอกว่า เป็นเพราะเราเพิ่ง
มาพักที่นี่ครั้งแรก จึงอยากสร้างความประทับใจ และเราได้รู้เพิ่มเติมมาว่า ที่เราได้ upgrade นั้น
ไม่ใช่ step เดียว แต่เป็น 2 step เลย
-> เราจองแค่ Deluxe King Room ไป (40 ตารางเมตร) แต่ได้พักห้อง Mandarin Room King (63 ตารางเมตร) ซึ่งรายละเอียด เครื่องอำนวยความสะดวกต่างๆ ในห้องก็แตกต่างกันมากอยู่แล้ว
# ความประทับใจต่อเนื่อง x2
ในห้องมีบริเวณที่เป็นโซฟา และมีถาดผลไม้ไว้ต้อนรับเราหลายอย่าง (กล้วย มังคุด เงาะ ส้ม แอปเปิล องุ่น) ในจุดนี้ น่าจะดีสำหรับลูกค้าต่างชาติที่จะได้ลองชิมผลไม้ไทยดูด้วย
TV เป็นจอแบนขนาดใหญ่พอสมควร ด้านหลังโซฟาเป็นโต๊ะทำงาน ซึ่งมีอุปกรณ์เครื่องเขียนครบครันในลิ้นชักด้านล่าง ไฮไลท์ กาว แม็กซ์ เทป คลิป ยางลบ ปากกา กรรไกร โทรศัพท์
ที่น่าตื่นเต้นคือ โต๊ะที่ดูออกจะเป็นทรงโบราณทางการอย่างนั้น แต่พอเปิดขึ้นมาเป็นที่เสียบปลั๊กเอย ช่องต่อต่างๆ รวมถึงที่ชาร์จ USB ด้วย มันช่างดีงามอะไรเช่นนี้
=> ครบถ้วนในทุกรายละเอียดที่จำเป็น แสดงว่าผ่านกระบวนการคิดพิจารณาด้วยความเอาใจใส่มาอย่างดี ไม่มีกั๊ก
ใกล้ๆ TV มีเครื่องชงกาแฟ ด้านในตู้มีตู้เย็น เครื่องแก้วต่างๆ ครบครัน
ถัดไปก็จะเป็นเตียงนอนขนาดใหญ่ ดูเผินๆ ก็ไม่ได้แตกต่างอะไร แต่พอได้ลงนอนจริงๆ ก็รู้เลยว่า
ความหนาของเตียง ความนุ่ม อารมณ์ที่ได้สัมผัสเครื่องนอนเหล่านั้นมันพิเศษกว่าที่อื่นๆ ที่เคยนอนมาทั้งหมดเลยทีเดียว
=> ต้องได้ลองด้วยตัวเอง
ต่อไปก็เป็นสิ่งที่ให้ความคลาสสิค เข้ากันได้ดีกับบรรยากาศโรงแรม ก็คือ มี CD เพลงคลาสสิค อย่าง Beethoven ไว้ให้ได้อิ่มเอมกับสุนทรียภาพตามจินตนาการได้เลย
#ประทับใจกับทุกสิ่งอย่าง
ต่อมาเป็นบริเวณห้องน้ำกับตู้เสื้อผ้าก็น่าจะใช้พื้นที่เกือบครึ่งหนึ่งของทั้งห้องแล้ว กว้างขวางมากๆ
การจัดสรรพื้นที่เหมาะเจาะลงตัวมาก เดินเข้าไปด้านขวาเป็นตู้เสื้อผ้า คือมีพื้นที่เก็บเยอะมากแบบอยู่ได้อย่างจริงจังเลย ด้านตรงข้ามเป็นโต๊ะเครื่องแป้ง มีกระจกสำหรับส่องขยายให้ด้วย ไดร์เป่าผมพร้อม
ถัดไป เป็นอ่างอาบน้ำ มี Bath Salts ไว้ให้ขัดตัวด้วย อะไรจะพร้อมให้ผ่อนคลายได้อย่างเพลิดเพลินขนาดนั้น ต่อไปเป็นอ่างล้างหน้าและห้องอาบน้ำ สิ่งที่ต้องใช้เพื่อการอาบน้ำเสร็จสรรพ
แต่มีสิ่งหนึ่งที่ขลุกขลัก หาอยู่นาน ทำให้อดคิดไม่ได้ว่า ทำไมโรงแรมที่ดีระดับนี้ไม่มีให้ รองเท้าใส่เดินในห้องและในโรงแรม หาเท่าไรก็หาไม่เจอ ด้วยความที่ห้องกว้างมาก สุดท้ายก็มาเจออยู่ในลิ้นชักหนึ่งของห้องที่เป็นตู้เสื้อผ้า
=> สรุปก็คือมีครบถ้วนทุกอย่างนะ
อ้อ ลืมบอกไป ที่มุมหนึ่งของห้องจะมีระเบียงเล็กๆ สำหรับออกไปรับลมด้านนอกด้วย แม้จะดูไม่ใหญ่โต
แต่ก็มีโต๊ะ เก้าอี้ให้นั่งได้ไม่คับแคบเลย
ห้องนี้มองเห็นวิวแม่น้ำเจ้าพระยาบางส่วน และเห็นวิวตึกบางส่วน มองเห็นยอดของโบสถ์อัสสัมชัญด้วย
การเข้าพักครั้งนี้สำหรับเรา เป็นเหมือนความฝันที่เป็นจริงอย่างไหนอย่างนั้นเลย
วิเศษ ดีงามตลอดตั้งแต่ก้าวแรกจนถึงก้าวสุดท้าย ตอนเช็คเอาท์ที่รวดเร็ว ราบรื่น การเอาใจใส่เรื่องการเดินทางกลับ อาการแสดงความขอบคุณของพนักงานต่อลูกค้า
= ประทับใจมิรู้ลืม =
แม้เราจะเป็นคนไทย อันที่จริงบ้านก็มีนอน แต่เพื่อประสบการณ์อันล้ำค่า น่าจะหาโอกาสลองให้ได้รู้กันสักครั้งว่าการบริการที่ดีเลิศมันเป็นอย่างไร
สิ่งที่ได้ไม่ใช่แค่นี้หรอก แต่เป็นการสะท้อนกลับไปมองตัวเองด้วยว่า ถ้าเราต้องทำหน้าที่ในส่วนของการบริการคนอื่น เราจะทำได้ดีเท่าเขาไหม เราควรจะไปปรับปรุงอะไรในชีวิตการทำงานของเราหรือเปล่า
สายตาที่เรามองคนอื่นมันโอบอ้อมอารีพอหรือยัง
ขอจบฝันที่เป็นจริงแต่เพียงเท่านี้
1 Like0 Comment