- หน้าแรก
/
- หมูอบ ร้าน Nikuyama BKK
ประสบการณ์ใหม่กับการทานเนื้อคอร์สโอมากาเสะร้าน Nikuyama ชื่อมาจากสองคำรวมกัน คือ Niku(เนื้อ)+Yama(ภูเขา) แปลตรงๆ ก็ เนื้อที่ยกมาทั้งภูเขานั่นเอง ชื่อร้านก็บ่งบอกความจริงจังสายเนื้อ อย่างชัดเจน
ร้านนี้เป็นร้าน สไตล์โอมากาเสะชื่อดังจากโตเกียว ได้ข่าวว่าที่ญี่ปุ่นนี่ต้องจองคิวกันข้ามเดือนกว่าจะได้ทานกัน ตอนนี้มาเปิดที่กรุงเทพฯสาขาแรกที่ RainHill ปากซอยสุขุมวิท 47 นี่เอง บรรยากาศก็เป็นร้าน omakase นั่นแหละ เป็นบาร์แบบเชฟเทเบิลนั่งเรียงยาวกัน
รอบเวลาบริการ: ทางร้านจะให้บริการแบบโอมากาเสะเป็นสองรอบต่อวัน 1700 และ 2000 น. ราคาตกคนละ 2400++ บาท เสริฟประมาณ 12 คอร์ส ในรูปจะเป็นจานสำหรับสองที่
ต้องบอกก่อนเลยค่ะ ว่าร้านนี้ไม่ได้เน้นเนื้อแบบมันแทรกเยอะๆ A4 A5 ย่างสุกทาซอสบาร์บีคิวรสชาติเข้มข้นเหมือนสไตล์คนไทยชอบทานกัน จะเน้นเลือกสรรเนื้อวากิวชั้นดีที่แตกต่างกันไป จะเป็นส่วนเนื้อแดงซะมาก ปรุงรสสดใหม่ เบิร์นเนื้อเล็กน้อย เพื่อดึงรสชาติเนื้อแต่ละตัวให้ออกมาได้มากที่สุด และทำออกมาเสริฟในรูปแบบต่างๆ
เริ่มด้วยจานแรก เนื้อ Yukke คล้ายๆ สไตล์เกาหลีทีนำเนื้อหั่นชิ้นเล็กๆ ลวกกึ่งสุกกึ่งดิบ เนื้อฉ่ำและได้รสหวานจากน้ำซุปที่ลวกเนื้อทานกับหัวหอมสไลซ์ ต้นหอมซอย กับวาซาบิ แค่นี้ก็เป็นเมนูเรียกน้ำย่อนได้อย่างดีเลย
สลับจานสองเป็นหมูออร์แกนิคเลี้ยงแบบฟาร์ม free range จากญี่ปุ่น สามารถทานแบบสุก medium rare ได้ ไม่ต้องกลัวไม่ปลอดภัย แม้แต่หมูก็ไม่ได้เน้นปรุงรสหรือทำสุกมากเช่นเคย ถัดมา จานสาม จะเป็น เห็ดออรินจิอบเป็นชั่วโมงจนได้เนื้อนิ่มๆ เด้งๆ แบบนี้แล้วนำมาโรยเกลือ
จานสี่ กลับมาเป็นเนื้ออีกบ้าง เป็น ไส้กรอกทำจากเนื้อวากิว 100% แบบโฮมเมด เนื้อไส้กรอกบดหยาบแต่นุ่ม รสชาติดีอร่อย
จานห้า ข้าวโพดอ่อนเนื้อหวานมากตามธรรมชาติแค่นำมาต้มแล้ว ราดน้ำมันมะกอกและโรยเกลือ ล้างปากกันก่อนต้อนรับจานเนื้อที่รอคอย
ไฮไลท์เนื้อ มาแล้ว
ทางร้านแจ้งว่าคอร์สเนื้อวากิวที่กำลังจะเสริฟนี่เป็นพันธุ์พิเศษจากฟาร์มญี่ปุ่น เช่นพันธุ์ขนน้ำตาล พันธุ์เขาสั้น เอาจริงเราก็ไม่ได้มีความรู้อะไรขนาดนั้น ขอให้อร่อย ทานแล้วรู้สึกมีความพิเศษ จี๊ดฟินก็แฮปปี้แล้ว แต่ละจานจะแค่ย่างหรือเบิร์นลนไฟมาแค่ประมาณ rare หรือ medium rare รสชาติเนื้อดีเยี่ยมทุกตัวเลย เนื้อฉ่ำอร่อยมาก
จะมี Tonkatsu เนื้อหมูเอ็นแทรกชุบเกล็ดขนมปังทอดมา กับแตงกวาญี่ปุ่นสดจิ้มทานกับซอสมิโสะ คั่นเล็กน้อย ก่อนจะปิดท้ายด้วยเนื้อย่างตัวสุดท้าย เนื้อสันแหลมวากิวขนดำ ซึ่งเป็นวากิวพันธุ์ที่มีมันมากที่สุด ฟินนาเล่มากมาก จานนี้ และตามแบบฉบับญี่ปุ่นแท้ๆ ต้องปิดท้ายด้วยข้าวให้อยู่ท้องหน่อย เลือกได้ว่าจะรับเป็น ข้าวต้มเนื้อ หรือ ข้าวแกงกะหรี่ ชามเล็ก ชอบตัวข้าวต้มเนื้อน้ำซุปเข้มข้นกลมกล่อมผสมปลาแห้งสไตล์ญี่ปุ่น ทานกับเนื้อที่เบิร์นบางๆ พอใส่ในน้ำซุปมันหอมและอร่อยมาก ตัวข้าวแกงกะหรี่ก็อร่อยดี มีเชอร์รี่สดเสริฟเป็นการปิดฉากมื้อโอมากาเสะอย่างสวยงาม
โดยรวมเป็นมื้อที่ประทับใจมากสำหรับรสชาติ ได้ทานเนื้อหลากหลายแบบ ปริมาณไม่มากแต่กว่าจะทอยเสริฟจนจบคอร์ส ทานแบบไม่รีบเร่ง จบมื้อก็อิ่มได้เหมือนกัน
พิกัดร้าน: อยู่ชั้น G ในโครงการ Rain Hill ปากซอยสุขุมวิท 47 มีที่จอดรถในอาคาร
14 Likes0 Comment
