3.4
41 เรตติ้ง (30 รีวิว)
ปิดอยู่จะเปิดในเวลา 11:00
Washoku SATO J Park Chonburi
Sashimi รวม 5 อย่าง มี Engawa Ponzu ด้วย
“さと”ร้านอาหารญี่ปุ่นเชนจากเมืองต้นตำรับ since 1958 สาขาในเมืองไทย @J-Park ศรีราชา เมืองจำลองญี่ปุ่นโบราณรีวิวนี้ยังคงต่อเนื่องจากรีวิวก่อนหน้านี้ของผมครับสำหรับการเดินทางท่องเที่ยวในช่วงวันหยุดยาวที่ผ่านๆมาในจังหวัดชลบุรีและจะเป็นรีวิวสุดท้ายของซีรี่ย์ชลบุรีทริปครั้งนี้แล้วครับ รีวิวนี้ผมจะพามาทานอาหารญี่ปุ่นกันภายในบรรยากาศของเมืองญี่ปุ่นโบราณซึ่งสถานที่หรือ Community Mall แห่งนี้คือ J-Park Sriracha ครับ มอลล์แห่งนี้ผมเคยมาแวะถ่ายรูปเดินหาไรทานมาหลายรอบก่อนหน้านี้แล้วรวมถึงได้รีวิวร้านอาหารประมาณ 3 ร้านไปแล้วด้วย ลองย้อนกลับไปหาอ่านดูได้ครับเช่นร้าน Umai Kaiten Sushi, Korakuen Ramen ครั้งนี้ที่มาผมพากันมาเป็นครอบครัวเดินเที่ยวเล่นถ่ายรูปและหาไรทานกันนะครับ สุดท้ายมาลงเอยที่ร้านนี้ครับชื่อว่า “Sato” [ที่ตั้งและการเดินทางมา:] ร้านนี้ตั้งอยู่ฝั่งบริเวณลานจอดรถด้านหลังของ J-Park ศรีราชา ตรงบันไดทางขึ้นที่จะตรงไปห้องน้ำของโครงการ ด้านหน้าร้านมีป้ายไฟชื่อร้านสีแดงเห็นเด่นชัด บรรยากาศภายในร้านจะดูเป็นแบบลักษณะทานกันเป็นครอบครัวคือสว่างๆมีแสงไฟส่องและกระจกใสรอบด้าน ใช้เฟอร์นิเจอร์ไม้เป็นหลัก [Profile:] ชื่อร้านเต็มๆว่า Washoku Sato “和食さと” เป็นเชนร้านอาหารญี่ปุ่นจากญี่ปุ่นโดยตรง มีต้นกำเนิดจากโอซากา ดังนั้นที่นี่อาหารญี่ปุ่นจะเป็นแบบสไตล์ OSAKA และ KYOTO แท้ๆ บริษัทที่บริหารแบรนด์ร้านอาหารนี้ในไทยคือ Nippon Tei Group [ข้อมูลที่ควรรู้:] • เป็นประเภทร้านอาหารแบบครอบครัว (Family Restaurant) คือเหมาะพากันมาเป็นครอบครัวนั่งทานข้าวกัน รวมถึงมีอาหารชุดสำหรับเด็กด้วย (Kid’s Menu) แต่ก็มีเมนูพวกเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ด้วยคือ Beer, Sake, Umeshu • ร้านเปิดทุกวัน 11:30-21:30 (L.O.) ไม่มีแบ่งเป็น 2 ช่วงเหมือนพวกร้านซูชิบาร์ทั่วไป • สำหรับช่วงเย็นทางร้านจะมีบริการอาหารประเภท Shabu Shabu เรียกว่า Sato Shabu คือระหว่าง 17:00-21:00 เป็นแบบบุฟเฟ่ต์ • ภายในร้านจะใช้เทคโนโลยีไร้สายเข้ามาเสริมการให้บริการคือมีปุ่ม Press for Service ที่โต๊ะสำหรับให้ลูกค้ากดเรียกให้พนักงานมาช่วยบริการทั้งออเดอร์ เช็คบิล • ราคาอาหารและเครื่องดื่มทั้งหมดในเมนูยังไม่รวม SC 10% และ VAT 7% (มี ++) • เมนูอาหารก็คล้ายๆกับร้านอาหารญี่ปุ่นทั่วไปคือ Sashimi, Sushi (สั่งเป็นคำ), Salad, Bento, A La Carte Menu, ชุดอาหารสำหรับเด็ก, ของหวาน มีการจัดหมวดหมู่อาหารในเมนูอย่างชัดเจนเป็นหน้าๆไป อ่านแล้วเข้าใจง่าย • เมนูขนมหวานซึ่งผมมองว่าเป็น Hi-light ของที่นี่เลยคือ เป็นเมนูที่ออกแบบและคิดค้นสูตรโดยเฉพาะของ Chef YUYA OKUDA ผู้มีประสบการ์ณด้านนี้ในร้านอาหารญี่ปุ่นตามโรงแรมดังๆในกรุงเทพ เรียกว่าเป็นขนมหวานสูตรแบบ Yuya Style เช่น Matcha Dessert Bento, Matcha Mousse, Roll Cake, Japanese Pan Cake อาหารที่ผมสั่งทั้งหมดครั้งนี้ดังนี้ (ผู้ใหญ่ 2 เด็กเล็ก 1) • Sato Shokado (390 บาท) หรือชุดข้าวกล่องที่เป็น Signature ของ Sato ในกล่องก็จะมีเทมปุระรวม, ข้าวปั้นแบบ Maki ไส้แตงกวากับทูน่า และ Inari แบบห่อเต้าหู้, ปลาดิบบางๆ 3 แผ่น, ไส้กรอกรมควัน ปลาไหล ไข่หวาน โดยรวมเลยผมว่าพวกปลาดิบไม่อร่อย ไม่สด อย่างอื่นพวกของทอดหรือกับแกล้มพอได้ ราคานี้เมื่อเทียบกับชนิดอาหารและปริมาณที่ได้ ผมว่าแพงไปหน่อย ไม่คุ้มเมื่อเทียบกับร้านอาหารญี่ปุ่นเจ้าดังที่มีสาขาตามห้างใหญ่ๆทั่วไป • Sashimi Set ปลาดิบรวม 5 อย่าง (380 บาท) มีแซลมอน ฮามาจิ ปูอัด ทูน่าเนื้อแดง ที่แปลกดีคือมี Engawa แช่ใน Ponzu มาในถ้วยด้วย ลักษณะการแล่ปลาที่นี่แปลกดีคือเป็นแผ่นบางๆและพับอีกทีเป็นชั้น และไม่ได้วางบนน้ำแข็งใดๆเลย (หรือจะเป็นสไตล์ของร้านเค้าอย่างนี้) สรุปเลยผมว่าปลาไม่สด แห้งชืด เหมือนกับเมนูบนเลย • Sushi Nigiri สั่งแยกมา 3 คำมี Salmon (40 บาท), Tako (40 บาท), Engawa (80 บาท) สั่งมาลองชิมดูอีกอย่างสำหรับปลาดิบ ปรากฎว่าผมไม่ให้ผ่านอีกเช่นเคย ปลาไม่สด แห้งชืด ส่วน Engawa นั้นไม่ได้เบิร์นมาแต่อย่างใดๆเป็นแบบดิบๆและไม่สด แถมไม่ให้ Ponzu กินคู่กันอีกต่างหาก ตัวข้าวซูชิก็เย็นแห้งไปดูแล้วไม่เหมือนใช้ข้าวญี่ปุ่นเกรดดี • Chawan Mushi หรือไข่ตุ๋น (30 บาท) เมนูโปรดลูกสาวผม ทานหมดเลย • Asari Butter หรือหอยลายผัดเนย (160 บาท) เป็นกับแกล้ม เสิร์ฟในกระทะร้อนแบนๆ ดูแปลกตาดี หอยลายตัวใหญ่ใช้ได้ ผัดเนยมาหอมๆดี ผมว่าปริมาณเทียบกับราคาน้อยไปหน่อย • **Japanese Pan Cake หรือแพนเค้กซอสถั่วแดงญี่ปุ่น (100 บาท) เมนูทีเด็ดที่เป็น Hi-light กู้หน้าสำหรับการมาใช้บริการครั้งนี้ของผมได้บ้าง ตัวแพนเค้กเป็นแบบนุ่มทั้งแผ่น เหมาะสำหรับให้เด็กทาน ซอสถั่วแดงกลมกล่อมดี ไม่หวานมาก มีตกแต่งด้วยแผ่นทองที่ผิว มาพร้อมคู่กับวิปครีมและผลไม้สีสรรตัดกันดูน่าทานดี ขนมหวานจานนี้ดูมี presentation ที่สวยงามและเป็นมืออาชีพดีครับ • น้ำแข็งใสถั่วแดงราดนม (60 บาท) ธรรมดา • เครื่องดื่ม มี น้ำองุ่นปั่น (100 บาท) ผมว่าแพงไปหน่อย ต้องมี ++ อีก และไม่ใช่น้ำผลไม้สดแต่อย่างใด ชาเขียวเย็นรีฟิล (30 บาท) ค่าเสียหายทั้งหมดหลัง ++ ทั้งหมดประมาณ 1,600 บาท ผมว่าค่อนข้างสูงเหมือนกันเมื่อเทียบกับประเภทอาหารที่สั่งครับ รู้สึกว่าไม่ค่อยคุ้มเท่าไหร่ --------------------------------- ผมขอแยกรีวิวและให้คะแนนแต่ละองค์ประกอบของร้านดังนี้ครับ • คุณภาพอาหารและวัตถุดิบ: (1/5) จากเมนูที่ผมสั่งครั้งนี้ด้านบน ผมให้อยู่ในเกณฑ์ไม่ผ่านครับ (โดยเฉพาะปลาดิบ ไม่ผ่านอย่างแรง) • รสชาติ: (2/5) คหสต.ผมว่าพวกเมนูของครัวเย็นคือ Sushi Sashimi ไม่อร่อยเอามากๆ ผมว่าร้านอาหารญี่ปุ่นสาขาเยอะๆตามห้างยังอร่อยกว่าครับ ส่วนเมนูอื่นพวกของร้อนพอใช้ได้นะครับ แต่มีเมนูที่กู้หน้าช่วยไว้ไม่ให้ fail จนเกินไปนั่นคือ pancake ครับ • ราคา: (2/5) เมื่อเทียบกับรสชาติและปริมาณ โดยรวมผมว่าอาหารที่นี่แพงไปหน่อยครับ • บรรยากาศร้าน: (3/5) ตามมาตรฐานเหมือนร้านอาหารชั้นนำในห้างทั่วไป ดูสะอาดและเป็นระเบียบดี สำหรับที่นี้ผมว่าดูยังใหม่และน่านั่งสบายๆ แต่อาจดูไม่เป็นส่วนตัวเท่าไหร่เพราะที่นั่งค่อนข้างชิดๆกัน • บริการ: (4/5) พนักงานเยอะกำลังดี และเอาใจใส่ดี ยิ้มแย้มต้อนรับเป็นอย่างดีครับ (เนื่องจากมี SC) สรุปโดยรวมจากที่ผม rate ให้คะแนนแต่ละส่วน เฉลี่ยรวมกันเท่ากับ 2.4 ขอปัดลงให้ 2 ดาวครับ มาครั้งนี้ไม่ประทับใจเรื่องอาหารเป็นหลักโดยเฉพาะปลาดิบที่น่าจะเป็นตัวเด่นของร้านอาหารญี่ปุ่น และราคาค่อนข้างแพง แต่จุดดีของร้านนี้ที่ผมสังเกตได้คือการบริการครับ --------------------------------- [ข้อมูลเสริมเกี่ยวกับ @J-Park Sriracha:] J-Park อยู่ริมถนนสายศรีราชา-หนองค้อ ขาที่วิ่งเข้าตัวอำเภอศรีราชา (หรือคนแถวนี้เรียกถนนเส้นนี้ว่า ซอยอัสสัมชัญ) อยู่บริเวณใกล้ๆแยกต่างระดับตัดกับถนนสายบายพาสชลบุรี-พัทยา (หมายเลข 7) ถ้ามาจากกรุงเทพหรือตัวเมืองชลบุรีคือแยกถัดไปจากแยกสวนสัตว์เปิดเขาเขียว ต้องเบี่ยงซ้ายเข้าไปตามป้ายที่เขียนว่าทางเข้าศรีราชาแล้วไปยูเทริ์นข้ามสะพานต่างระดับกลับมา หรือโครงการนี้จะอยู่ปากซอยศรีราชา-หนองค้อ 20 หรือจะเข้ามาจากอีกทางตรงเส้นศรีราชา-หนองยายบู่ (ซอย 27) ก็ได้ครับ คนแถวนี้น่าจะรู้จักคุ้นเคยกันดี เพราะเป็นถนนที่คู่ขนานกันมาตรงสามแยกอัสสัมชัญครับ หลายคนอาจยังไม่รู้ว่า Community Mall แห่งนี้เป็นของเครือสหพัฒน์ จะเห็นว่ามีนิคมเครือสหพัฒน์อยู่ใกล้ๆกันอยู่ถนนอีกเส้นหนึ่งที่วิ่งตัดจากทางหลวงสาย 7 ไปแหลมฉบัง พัฒนาโครงการนี้ขึ้นมาให้เป็นเมืองญี่ปุ่นโบราณ เจาะกลุ่มนักธุรกิจและครอบครัวชาวญี่ปุ่นอาศัยรอบๆนิคมอุตสาหกรรมต่างๆที่มีญี่ปุ่นมาลงทุนมากมายแถวนี้ และมอลล์แห่งนี้ยังเป็น location ถ่ายทำละครทางโทรทัศน์ที่มีเรื่องราวเกิดในประเทศญี่ปุ่นด้วยครับ... อ่านต่อ
23 Likes0 Comment
photo