- หน้าแรก
/
- สายไหม ร้าน Seven Sins 4th Flr. at Siam square one
บาปแค่ไหนก็ต้องยอม เมื่อมาเจอชาบูสุดร้อนแรง ที่พาเหรดมาพร้อมกับวัตถุดิบคุณภาพจากหลากหลายมุมโลกเคยทำบาปกันมากที่สุดแค่ไหนกันครับ ถ้ารู้สึกว่ายังบาปไม่พอ มาทำบาปเพิ่มเติมกันที่ร้านนี้ดีกว่า ร้านนี้นี่ไม่เหมาะกับสายสุขภาพ สายธรรมะอย่างสิ้นเชิง เพราะว่าเป็นร้านชาบูสำหรับคนบาปโดยแท้ครับ ทางร้านนั้นขนวัตถุดิบต่างๆมาเต็ม ถึงจะบาปแค่ไหน แต่สุดท้ายถ้าแลกมาด้วยความอร่อยแล้ว มันก็น่าสนใจอยู่ไม่ใช่น้อยใช่มั๊ยล่ะครับ
ร้านนี้เป็นร้านชาบูที่ไม่เหมือนใคร เพราะทางร้านนั้นมีจุดขายอยู่ที่ความหลากหลายของทั้งน้ำซุป น้ำจิ้ม แล้วก็วัตถุดิบต่างๆที่สดใหม่ถึงขนาดที่เรียกว่าต้องยอมทำบาปเมื่อเห็นของกินตรงหน้ากันเลยทีเดียวครับ ด้วยความที่ร้านมีน้ำซุปและน้ำจิ้มเจ็ดรสชาติพอดี ก็เลยเอามาชูเรื่องราวให้เป็นที่มาของชื่อร้านว่า Seven Sins ซึ่งทำให้คนที่เดินผ่านไปมาหน้าร้านสะดุดหูสะดุดตากับชื่อร้านได้ไม่ยากครับ
[วิธีการเดินทาง]
ร้านนี้ตั้งอยู่ที่ชั้น 4 ของห้าง Siam Square One ครับ ร้านอยู่ในโซนที่เรียกได้ว่าผู้คนเข้าถึงได้ง่ายสุดๆครับ เพราะเป็นร้านแรกหน้าบันไดเลื่อนที่ขึ้นมาจากทางเชื่อม BTS เลย ร้านอยู่ติดกับร้าน Teraoka Gyoza ครับ
ถ้าขับรถมาที่นี่ก็สามารถนำรถมาจอดที่ชั้นใต้ดินของห้างได้ หรือว่าถ้ากลัวรถติดก็นั่งรถไฟฟ้ามาลงที่สถานีสยาม ออกทางออกตรงกลาง เดินขึ้นบันไดเลื่อนมาถึงเลย สะดวกสุดๆสำหรับคนที่กลัวรถติดครับ
[บรรยากาศ/การบริการ]
ร้านนี้เป็นร้านชาบูที่ไม่ใหญ่มากครับ ร้านมีที่นั่งไม่เยอะมากครับ แต่สามารถนั่งทานกันได้แบบไม่อึดอัด ในร้านตกแต่งได้สวยงามดึงดูดลูกค้าได้เป็นอย่างดี มีโซนกลางร้านไว้ให้ลูกค้าเดินมาตักผักสดและน้ำจิ้มทั้งเจ็ดรสชาติที่เติมได้ไม่อั้นตลอดการทานครับ นอกจากนี้ยังมีโซนน้ำดื่ม ไอศครีม แล้วก็สายไหมไว้ให้บริการหลังจากทานมื้อหลักเสร็จแล้วด้วยครับ
ร้านนี้ถ้าใครมาเดินที่นี่บ่อยๆก็จะเห็นว่าลูกค้าแน่นตลอดครับ ถ้าไปทานในช่วงเย็นๆของวันศุกร์หรือว่าวันหยุดสุดสัปดาห์ คิวก็อาจจะยาวเป็นพิเศษหน่อย ถ้าตั้งใจจะมาทานแล้วผมว่ารอคิวเถอะครับ คุ้มค่ากับการรอคอยแน่นอน
การบริการของพนักงานในร้าน ถ้าเต็ม 10 อยากจะให้สัก 12 เลยครับ เพราะพนักงานทุกคนบริการได้ดีมาก ทั้งต้อนรับ รับออเดอร์ เสิร์ฟอาหาร รวมถึงการแนะนำวิธีในการทานในแต่ละเมนูได้เป็นอย่างดี ระหว่างการทานก็คอยสอบถามตลอดว่าอาหารโอเคไหม หรือมีอะไรต้องการเพิ่มเติมหรือเปล่า
อย่างวันนี้ผมสั่งมาทานเยอะ จานไหนที่หมดแล้วพนักงานก็จะเดินวนมาดูคอยเก็บจานเปล่าออกไปให้อย่างรวดเร็ว ผมว่าร้านนี้มีพนักงานเยอะ ดูแลลูกค้าได้ทั่วถึงและทำให้ลูกค้ารู้สึกถึงความใส่ใจได้เป็นอย่างดีเลยครับ
[รสชาติอาหาร/ความคุ้มค่า]
ร้านนี้เป็นร้านที่มีชาบูเป็นเมนูหลักครับ แต่ก็ไม่ได้หมดแค่นั้นเพราะทางร้านยังขนทัพเมนูมาเสริมความอร่อยอีกมากมายทั้ง ซูชิ ของทอด หรือจะเป็นข้าวหน้าต่างๆ
ร้านนี้ไม่ใช่ร้านบุฟเฟต์นะครับ เป็นร้านชาบูแบบ A La Carte อยากสั่งแค่ไหนก็สั่งแค่นั้น อยากทานเมนูพรีเมี่ยมมากน้อยแค่ไหนนั้นก็อยู่ที่เราเลือกได้เองตามใจชอบเลยครับ แต่ถึงแม้ว่าวัตถุดิบต่างๆจะไม่ได้เป็นบุฟเฟต์ แต่ว่าทางร้านก็ยังมี Refill Bar ซึ่งแค่เพิ่มเงิน 99 บาท ก็สามารถทานเครื่องดื่มทุกชนิด (ไม่รวมน้ำเปล่านะครับ) ไอศครีม สายไหม ผักสดแล้วก็น้ำจิ้มรสชาติต่างๆได้แบบไม่อั้นแล้วครับ
ชาบูของทางร้านนั้นแต่เดิม original มีอยู่ 7 รสชาติด้วยกันครับ แต่ด้วยความไม่หยุดคิด ทางร้านจึงได้มีการยกเลิกน้ำซุปชาบูบางรสชาติไปแล้วก็เพิ่มรสชาติใหม่เข้ามา ตอนนี้ทางร้านมีชาบูอยู่ด้วยกัน 9 รสชาติดังต่อไปนี้ครับ
1) ซุปปลาแห้ง
2) ซุปสุกี้น้ำดำ
3) ซุปเห็ดหอม
4) ซุปหม่าล่า
5) ซุปต้มยำ
6) ซุปโคชูจัง
7) ซุปทงคัตสึ *ใหม่
8) ซุปมองโกเลีย *ใหม่
9) ซุปน้ำดำสุกี้ยากี้ญี่ปุ่น *ใหม่
เราสามารถเลือกน้ำซุปได้ทั้งหมด 2 ซุปด้วยกันครับ จริงๆแล้วตัดสินใจเลือกอยู่นานเพราะซุปนั้นก็ดูอยาก อีกซุปก็ดูน่าลอง สุดท้ายแล้วเลยตัดสินใจถามพนักงานว่าซุปตัวไหนขายดีสุด ซุปตัวไหนเป็น signature ของทางร้าน ก็ได้คำตอบมาว่าเป็นซุปหม่าล่า วันนี้ก็เลยสั่งซุปหม่าล่าและซุปสุกี้น้ำดำมาทานครับ
- ซุปหม่าล่าของทางร้านรสชาติดีมากครับ ไม่รุนแรงเท่ากับทานที่ประเทศจีนหรือไต้หวันจนลิ้นชา แต่ก็เผ็ดถูกใจคนชอบรสพริกๆ สามารถซดน้ำซุปทานได้ด้วยครับ อร่อยถูกใจครับ เข้าใจเลยว่าทำไมขายดี
- ซุปสุกี้น้ำดำของทางร้านรสชาติเค็มนิดๆกำลังพอดี เอาเนื้ออะไรลงไปใส่ก็อร่อยไปหมดเลยครับ ซุปนี้แนะนำให้ทานกับไข่ดิบครับเป็นซุปในใจผมสำหรับการมาทานชาบูเลยจริงๆ
น้ำจิ้มของทางร้านนั้นมีอยู่ด้วยกัน 7 รสชาติด้วยกันครับ วันนี้ได้ที เลยตักมาลองทั้ง 7 รสชาติเลย ซึ่งก็บอกเลยว่ารสชาติแตกต่างกันออกไป ตอบโจทย์ได้หลากหลายสไตล์มากๆครับ วันนี้ที่ได้ลองทานแล้วอร่อยทุกรสชาติเลยครับ
1) น้ำจิ้มซีฟู้ด - รสชาติแซ่บจี๊ด เอาพวกเมนูซีฟู้ดมาจิ้มนี่ใช่เลยครับ
2) น้ำจิ้มสุกี้ต้นตำรับ - รสชาติถูกใจ คิดอะไรไม่ออกก็จิ้มตัวนี้ได้
3) น้ำจิ้มบาร์บิคิว - รสชาติออกหวานมัน เอาเนื้อมาจิ้มนี่ใช่เลยครับ
4) น้ำจิ้มแจ่วฮ้อน - รสชาติออกเผ็ดร้อน
5) น้ำจิ้มงาญี่ปุ่น - รสชาติหอมกลิ่นงาถูกใจครับ
6) น้ำจิ้มสุกี้พริกกะเหรี่ยง - รสชาติเหมือนรสต้นตำรับ เพิ่มเติมที่ความเผ็ดขึ้นมาอีกระดับ
7) น้ำจิ้มพอนสึ - รสชาติเปรี้ยวกำลังดี เหมาะสำหรับคนเลือกทานซุปชาบูใสครับ
วัตถุดิบต่างๆที่วันนี้ผมสั่งมาทานกับชาบูนั้นก็คุณภาพยอดเยี่ยมเช่นกันในทุกๆเมนูครับ ถือว่าคุณภาพคุ้มค่าราคาในแต่ละเมนูแน่นอนครับ
เนื้อวากิวฮอกไกโด (390 บาท)
- เมนูนี้เป็นหนึ่งในเมนูสุดพรีเมี่ยมของทางร้านที่พนักงานแนะนำให้ผมสั่ง เป็นเนื้อวากิวแผ่นใหญ่มีมันติดอยู่ด้านบน ส่วนตัวเนื้อนั้นก็มีลายมันแทรกสวยงาม เนื้อชนิดนี้แค่เอาจุ่มน้ำสัก 10 วิแล้วก็เอาขึ้นมาทานเลย อร่อยมากๆครับ ละลายในปากกันเลยทีเดียว (5/5)
เนื้อวากิวฮอกไกโด A4 (690 บาท)
- เมนูนี้เป็นความพรีเมี่ยมขึ้นมาอีกระดับของเนื้อวากิวครับ ทางร้านเสิร์ฟมาอย่างอลังการมีควันพวยพุ่ง ตัวเนื้อนั้นมีลายมันแทรกเยอะกว่าเนื้อวากิวธรรมดา และตัวเนื้อนั้นก็นุ่มมากถึงมากที่สุด หอมอร่อย ละลายในปากอีกเช่นกันครับ เป็นเมนูที่ผมชอบมากที่สุด และเป็นเมนูสำหรับคนรักเนื้อที่ผมการันตีเลยว่าไม่ควรพลาดด้วยประการทั้งปวงครับ (5/5)
หมูคุโรบุตะห่อชีส (119 บาท)
- เมนูนี้เป็นเมนูหมูคุโรบุตะนำไปห่อด้วยชีสด้านใน ทางร้านห่อมาได้ดีมาก ชีสไม่แตกออกมาเลยในขณะที่นำไปต้ม ความฟินมันก็จะเกิดขึ้นตอนเอาเข้าไปทานนี่แหละครับ เพราะตัวหมูด้านนอกนั้นนุ่มได้ใจ ส่วนด้านในนั้นก็เป็นชีสยืดๆอีกด้วยครับ สำหรับเมนูนี้คนทานเนื้อก็สามารถสั่งเป็นเนื้อห่อชีสได้เช่นกันนะครับ (5/5)
เนื้อแกะ (149 บาท)
- เนื้อแกะของทางร้านเป็นเนื้อแกะที่นำเข้าโดยตรงมาจากประเทศนิวซีแลนด์ พนักงานในร้านแนะนำว่าควรลอง เลยสั่งมาลองและก็ไม่ผิดหวังจริงๆครับ เนื้อแกะอร่อย ไม่มีกลิ่น นุ่มละมุนลิ้นครับ (5/5)
สันคอหมูคุโรบุตะ (109 บาท)
- เมนูนี้เป็นสันคอหมูคุโรบุตะ ที่รสชาตินุ่มมากสมกับความเป็นหมูพิเศษจากญี่ปุ่น เนื้อหมูมีมันแทรกสวยงาม อร่อยถูกใจสำหรับคนชอบทานหมูครับ (5/5)
หมูหมักนุ่ม (79 บาท)
- เมนูนี้เป็นหมูหมักนุ่ม เห็นหน้าตาของมันตอนพนักงานมาเสิร์ฟก็พอจะรู้แล้วครับว่านุ่มจริงๆ และพอได้นำไปลงหม้อแล้วก็เอามาทานก็นุ่มสมชื่อจริงๆ ไม่มีความเหนียวเลยครับ (4/5)
เต้าหู้ชีส (49 บาท)
- เมนูนี้เป็นเต้าหู้ชีส เป็นเมนูที่ผมชอบเป็นการส่วนตัว พอเห็นก็เลยสั่งเลย และรสชาติก็ไม่ผิดหวังครับ เต้าหู้อร่อย ชีสก็อร่อยครับ แต่จะทานเมนูนี้แนะนำให้เอาออกมาทิ้งไว้ข้างนอกสักแพพก่อนทานนะครับ ไม่งั้นอาจจะมีลวกปากได้ (4/5)
และนอกจากวัตถุดิบต่างๆที่ผมสั่งมากินกับชาบูอย่างไม่กลัวบาปแล้ว ผมก็ยังสั่งเมนูอื่นๆมาทานเพื่อเพิ่มพื้นที่ให้ท้องตัวเองด้วยอีกเช่นกันครับ
Canadian Lobster (990 บาท)
- เมนูนี้เป็นกุ้งล็อบสเตอร์จากแคนนาดาครับ ทางร้านเสิร์ฟมาแบบอลังการงานสร้างควันพวยพุ่งอีกแล้ว กุ้งของทางร้านตัวใหญ่มาก ทางร้านมีการแกะเนื้อส่วนตัวกุ้งมาให้แล้วเรียบร้อย สามารถทานได้ทั้งเป็นซาชิมิก็ดี หรือจะนำไปต้มในหม้อก็ได้เช่นกัน อย่างผมเป็นสายซาชิมิอยู่แล้ว เลยจัดไปแบบดิบๆนี่แหละครับ ทานกับน้ำจิ้มซีฟู้ด ดีมากๆครับ ส่วนตัวก้ามกุ้งนั้นก็ค่อยๆพยายามแกะแล้วก็ทานแบบซาชิมิไปข้างนึง ส่วนอีกข้างเอาไปต้มจนสุกแล้วก็มาแกะกิน อร่อยทั้งสองแบบเลยครับ (5/5)
ข้าวหน้าหมูลาวาภูเขาไฟ (199 บาท)
- เมนูนี้เป็นข้าวหน้าหมูคุโรบุตะห่มมาด้วยชีสแล้วก็ไข่ด้านบนครับ ถือว่าเป็นเมนูที่หน้าตาดีน่าทานอีกเมนูนึงเลย รสชาติของหมูย่างนั้นก็อร่อยครับ ซอสที่ราดมารวมถึงชีสและไข่ด้านบนก็ทำให้ตัวเนื้อหมูยิ่งอร่อยไปอีก ติดนิดนึงตรงที่ข้าวอาจจะแข็งไปหน่อยครับ ถ้าข้าวมาแบบนุ่มกว่านี้ เมนูนี้คงฟินกว่านี้อีกแน่ๆครับ (4/5)
Salmon Roll Avocado with Teriyaki Sauce (199 บาท)
- เมนูนี้เป็นแซลมอนโรลราดมาด้วยซอสเทอริยากิ ตัวโรลด้านในนั้นก็เป็นอะโวคาโดล้วนๆ แซลมอนทางร้านก็นำไปเบิร์นจนหอมอร่อย ตัวซอสที่ราดมาก็ช่วยให้ตัวโรลนี่ยิ่งอร่อยขึ้นไปอีกครับ นอกจากนี้ทางร้านก็ยังมีครั้นชี่มาช่วยเติมความอร่อยเพิ่มเข้าไปอีก เมนูนี้นี่เป็นดับเบิล ทริปเปิลความอร่อยที่มารวมกันได้อย่างลงตัวเลยทีเดียวครับ (5/5)
Salmon Burn Nigiri (139 บาท)
- เมนูนี้เป็นซูชิปลาแซลมอนลนไฟ ราดมาด้วยซอสรสหวานเผ็ดนิดๆ ทางร้านเสิร์ฟมาสามคำครับ ตัวแซลมอนนั้นได้กลิ่นหอมของการเบิร์นมาเต็มๆ ซอสนั้นก็เผ็ดอร่อยรสชาติคล้ายๆซอสศรีราชาที่เยี่ยมมากๆครับ ติดอย่างเดียวตรงที่ข้าวนั้นแข็งไปนิดอีกแล้วครับ (4/5)
เห็ดเข็มทองพันเบคอน (89 บาท)
- เมนูนี้เป็นเห็ดเข็มทองพันมาด้วยเบคอนก่อนที่จะนำไปทอดครับ ตัวเห็ดเข็มทองนิ่มอร่อย เบคอนก็ได้ความกรอบ เป็นส่วนผสมที่ลงตัวครับ (4/5)
Monster Fries (79 บาท)
- เมนูนี้เป็นเฟรนฟรายทอดที่โรยมาด้วยผงชิลลี่ชีสและบาร์บิคิว เรียกได้ว่ามาแบบ 2 in 1 กันเลยทีเดียว รสชาติของตัวฟรายนั้นอร่อยเลยครับ ไม่นิ่มไม่อมน้ำมัน เสิร์ฟมาตอนร้อนๆอีกยิ่งดี ส่วนรสชาติของผงที่โรยมานี่ก็ไม่ต้องอธิบายมาก มันอร่อยก็ตรงนี้แหละครับ (5/5)
แม้ว่าร้านนี้จะไม่ใช่ร้านชาบูแบบบุฟเฟต์เหมือนร้านไหนๆ แต่เห็นไหมครับ ว่าวัตถุดิบขนาดนี้ผมเชื่อว่าใครๆก็ยอมจ่ายครับ เพราะดูดีกว่าร้านบุฟเฟต์เป็นไหนๆ อิ่มเหมือนกันมั๊ย ใช่ครับ แต่ความอร่อยและความประทับใจนั้นต่างกันแน่นอน
วันนี้ผมได้มาทานแล้วต้องบอกเลยว่าประทับใจครับ ทั้งในส่วนของรสชาติอาหาร บรรยากาศร้าน แล้วก็การบริการของพนักงาน ถือว่าร้านนี้เป็นร้านชาบูแนวใหม่ที่ไม่เหมือนใคร และใครก็ยากที่จะเหมือนอีกด้วย
ถ้าพร้อมที่จะทำบาปด้วยการกินล่ะก็ Seven Sins ชื่อร้านนี้ควรเป็นหนึ่งในตัวเลือกที่สำคัญร้านนึงที่ไม่ควรจะพลาดเลยล่ะครับ
45 Likes0 Comment
