G.O.D ค็อกเทลบาร์แห่งสุดท้ายของ Yolo Group ที่พร้อมปล่อยของทุกอย่างแบบสุดและเกินอย่างที่ทราบกันว่าช่วง 2-3 ปี หลังโควิด Yolo Group ผู้ก่อตั้ง Teens of Thailand และ Asia Today ได้ขยา ยบาร์ในแบบที่ต่างกันเพิ่มในย่านนานา เยาวราช อย่าง TAX และ Independence ก่อนขยับไปเปิด Untitled ในทองหล่อ จนแทบจะครบทุก Category ของบาร์ และนั่นเป็นที่มาของการขยับขยายสู่บาร์แห่งสุดท้าย G.O.D หรือ Genius On Drugs
.
ด้วยการตัดสินใจว่าจะไม่ขยายบาร์ต่อ ทำให้ที่นี่กลายเป็นบาร์ที่ณิกษ์ อนุมานราชธน และบึ้ก-อรรถพร เดอซิลวา ตัดสินใจว่าทุกอย่างในบาร์ ทั้งอารมณ์ การตกแต่ง หรือเครื่องดื่มจะมาในแบบ “ไปให้สุด ไปให้เกินความจำเป็น โดยแทบไม่ได้สนใจเรื่องสมดุลเลยด้วยซ้ำ” จะเรียกว่า Progressive หรือ Agressive Experimental ก็ได้ และแน่นอนว่านี่คือการกลับมายืนผสมเครื่องดื่มของณิกษ์ และบึ้กในรอบหลายปี
.
ทั้งคู่ได้นำเสนอการเสิร์ฟ Sip ไปพร้อมกับ Bite เพื่อสร้างรสชาติที่เปลี่ยนไปในทุกคำที่ดื่มและกิน เพื่อยกระดับรสชาติและประสบการณ์ของการดื่ม แบ่งเป็น 3 ส่วน ส่วนแรก Excessive is Necessary ซิกเนเจอร์ค็อกเทล 6 เมนู ที่ไล่รสชาติไปตามซับซ้อนและลึก ซึ่ง 6 ตัวนี้จะไม่เปลี่ยนตลอดช่วงปีแรก ส่วนที่ 2 เป็น G.O.D’s Uni-Martini Experience ใช้อูนิสร้างรสชาติ และส่วนสุดท้าย Just a Damn XXX ที่นำเอาคลาสสิคค็อกเทลมาทวิสต์
.
เร่ิมที่ส่วนแรก Ramen เครื่องดื่มที่ใช้ผงปลาแห้งมาเป็นส่วนผสมมีอุมามิในตัวเอง แต่เมื่อกินสเฟียร์ราเมงเข้าไป ความอุมามิจะระเบิดออกอีกครั้งแบบเต็มคำ เปิดพาเลตได้ลึกมาก ตามด้วย Trinity: The Father, The Son & Larb Kwaii ตัวเครื่องดื่มเป็นลาบเลือดที่แน่นอนว่าทำให้ใส กินกับแคปควายทรัฟเฟิล
.
ส่วนที่ 2 ใช้อูนิสร้างรสชาติ ซึ่งเมนูนี้ก็อยู่ยาวแต่เปลี่ยนอูนิไปตามฤดูกาล ตอนนี้มีจิน 3 ตัวหลัก ซึ่งเปลี่ยนได้เช่นกัน ไล่เรียกการกินอูนิจากหลังมือ ตามด้วยเครื่องดื่มที่แช่แย็นแบบติดลบ 20 องศา ตามก้วยการกัดโอลีฟรสควัน ก่อนกลับมาดื่มใหม่
.
และส่วนสุดท้ายค็อกเทลคลาสสิคทวิสต์ที่มี 2 เมนู Oyster Martini และ Cacao Negroni เราได้ชิมเมนูออยสเตอร์ที่ดื่มก่อน ตามด้วยการกินหอยนางรมและคอปปาแฮม ก่อนที่กลับมาดื่ม
.
ด้วยคอนเซปต์ Sip & BIte ทำให้ภาพรวมของเครื่องดื่มเปลี่ยนรสชาติไปในทุกครั้งที่จิบและกิน เข้าให้กับคำว่า Genius On Drugs เป็นที่สุด
2 Likes0 Comment
