4.2
419 เรตติ้ง (225 รีวิว)
ปิดอยู่จะเปิดในวันที่ 6 เม.ย. 2024 เวลา 12:00
เมนูของร้าน La VIE Bistronomy
BRW 2018 : La VIE - Creative French Cuisine with a Japanese Touchห้องอาหาร La VIE ของโรงแรม VIE Hotel นี้เป็นห้องอาหารฝรั่งเศสแนว Creative French Cuisine ที่มีการเชิญเชฟจากร้านที่ได้ดาว Michelin จากทั่วโลกมาจัด Michelin Chef Events เป็นระยะๆตลอดทั้งปี ทำให้ทีมเชฟของทางโรงแรมเองก็ได้แลกเปลี่ยนความรู้และเก็บเกี่ยวประสบการณ์มาเป็นแรงบันดาลใจในการสรรค์สร้างเมนูต่างๆ จนได้รับรางวัล Michelin Plate ไปเมื่อต้นปี 2018 นี้ด้วยค่ะ สำหรับ Executive Sous Chef คนปัจจุบันนี้เป็นเชฟชาวญี่ปุ่นคือ Chef Yuya Okuda อาหารฝรั่งเศสของที่นี่จึงมีการแต่งแต้มลูกเล่นแบบอาหารญี่ปุ่นอยู่บ้าง ทำให้มีความเป็นเอกลักษณ์ที่น่าสนใจทีเดียว แอบดูคลิปโปรโมทของโรงแรมแล้ว ท่าโรยเกลือของเชฟนี่คล้ายๆ Salt Bae เลยนะ (ไม่เกี่ยวกับอาหารแต่แอบขำ) ****- 3- Course Lunch Set (590 Baht Net.)-**** มื้อนี้เราลองเป็นเซ็ทอาหารกลางวัน 3 courses ที่เสิร์ฟเฉพาะจันทร์-ศุกร์ ในแต่ละคอร์สมีตัวเลือกเมนูอาหารให้ราวๆ 4-7 อย่าง โดยบางเมนูต้องมีการจ่ายเพิ่มนิดหน่อย และมีชา-กาแฟรวมในเซ็ทให้แล้ว สำหรับคนที่ซื้อดีล Weekday Lunch Set ของร้านนี้จาก Bangkok Restaurant Week ของ Wongnai ก็จะได้เซ็ทเดียวกันนี้เลยค่ะ ครั้งนี้ไปกันหลายคน เลยได้สั่งมาลองแทบทุกอย่างที่มีให้เลือกในเซ็ทเลยล่ะ [Complimentary Bread] Breadsticks ที่วางประจำไว้ที่โต๊ะนั้นกรอบกริ๊บอร่อยมากจนอยากเอากลับบ้าน (555) ส่วนขนมปังที่เอามาให้มี 3 แบบ เป็น Soft Bun, Baguette ชิ้นเล็ก และขนมปังผสมงาที่เราว่าเด็ดที่สุดเพราะได้ความหอมงากรุ่นๆเข้ากับเนื้อขนมปังมากๆ ส่วน Dip ก็มี 3 แบบ คือเนยผสม Truffle, Tomato Paste และ Anchovy จิ้มสลับๆกันไปเพลินลิ้นดีทีเดียว [Amuse Bouche of the Day] ของวันที่ไปเป็นปลาวากาซากิ (ตัวขนาดประมาณน้องๆปลาไข่) ทอดทั้งตัว ทานกับมะกอกดองและ Tomato Paste ได้อารมณ์แบบกับแกล้มชวนให้สั่งไวน์ยิ่งนักล่ะค่ะ [Starters] ● LA VIE Salad, Warm Confit Duck Leg, Frisee, 64 - Degree Egg, Lardons สลัดผัก Frisee lettuce เคล้าเนื้อเป็ดฉีกนุ่มๆกับเบคอนกรอบๆชิ้นเล็กชิ้นน้อย ท็อปด้วยไข่ออนเซ็นเยิ้มๆและ Parmesan Cheese อันที่จริงรสชาติก็เกือบเป๊ะแล้ว เพียงแต่พอไข่แดงแตกเคล้าไปกับสลัดก็ไปเจือจางให้รสของน้ำสลัดอ่อนลงเกินพอดีไปนิดน่ะค่ะ ● Smoked Duck Breast, Piemond Polenta, Corn Kernel Coulis, Grape Compote in Red Wine จานนี้ดีงามตั้งแต่อกเป็ดรมควันชิ้นหนาเนื้อนุ่มหอมได้ใจ รองด้านล่างด้วย Piemond Polenta แผ่นบาง ทานกับข้าวโพดหวานและซอสข้นที่เคี่ยวจากข้าวโพด เพิ่มสัมผัสกรุบกรอบด้วยแผ่น Lace Tuille แล้วตัดรสด้วยผลองุ่นหมักไวน์แดง เข้ากันดีทุกองค์ประกอบ ชอบเลยยย... ● Mushroom Cappuccino with Black Truffle ซุปเห็ดเนื้อเบาที่ด้านบนเป็นฟองโฟมคล้ายกาแฟ Cappuccino นอกจากเนื้อสัมผัสจะนุ่มนวลละมุนลิ้นแล้วยังได้กลิ่นรสเห็ดแบบมาเต็ม หยอดหน้าด้วย Truffle Oil หอมๆ ...อร่อยน้ำตาจิไหล ● Kagoshima Young Yellowtail Carpaccio, Salmon Roe, Pink Grapefruit, Lemon, Oba Leaf Gelee, Yuzu Citrus เชฟเป็นชาวญี่ปุ่นทั้งที เมนูปลาดิบแบบ Carpaccio ก็เลยเป็นอะไรที่ต้องลอง ปลาหางเหลืองจากเมือง Kagoshima แล่บางๆ เนื้อปลานุ่ม-แน่น-มัน ไม่มีคาวเลย ทานกับไข่ปลาแซลมอน เพิ่มความสดชื่นด้วยซอสที่ทำจาก Pink Grapefruit เลมอน เยลลี่ใบโอบะ และส้ม Yuzu แต่งแต้มไว้รอบจานสวยงามราวภาพวาด รสชาติอมเปรี้ยวตัดกับรสของเนื้อปลาได้ดี ชวนให้นึกถึงซอสพอนสึของญี่ปุ่นเลย เป็นอีกจานที่ชอบมากค่ะ [Mains] ● Slow-Cooked Catch of the Day with Black Quinoa, Royal Project’s Carrot Puree, Hollandaise Sauce and Lemon Oil สำหรับวันที่ไปนั้น Catch of the Day เป็น Sea bass ทานกับ Black Quinoa กรุบๆ หน่อไม้ฝรั่ง และแครอท ส่วนซอส Hollandaise, Carrot Puree และ Lemon Oil นั้นแต่งแต้มมารอบจานอย่างสวยงาม รสชาติโดยรวมจานนี้จะอ่อนๆเบาๆ เนื้อปลาปรุงสุกแบบแอบ overcooked นิดๆ แต่ก็ดูเข้ากับส่วนประกอบอื่นๆในจานได้เป็นอย่างดี จัดว่าใช้ได้อยู่ล่ะ ● Nagano Rainbow Trout Confit with Fondant Potatoes เป็นจานที่ Presentation ชนะเลิศ จัดวางชิ้นเนื้อปลาได้สวยงาม เนื้อปลา Rainbow Trout จากเมือง Nagano นี้จะมีรสมีชาติในตัวอยู่แล้ว ทานกับผักและเห็ดที่เคียงมาและ Fondant Potatoes คือลงตัว ชอบมากกว่าเมนูแรกนิดนึงนะ ● Snow Fish Mushroom Ragout, Baby Spinach, Noilly Prat Veloute ปลาหิมะชิ้นโต เนื้อหนา จี่มากรอบนอกนุ่มใน เสิร์ฟพร้อมเห็ดและผัดผักโขมอ่อน ราดซอส Veloute ผสมไวน์ Noilly Prat สัมผัสของซอสนุ่มเบาเป็นฟองโฟม ทำให้ทานสบายโดยไม่รู้สึกเลี่ยนเลย เนื้อปลาก็สดเนียนแน่น อร่อยดีทีเดียวค่ะ ● Pastis-Infuced Tiger Prawn Flambee Angel Hair, Pancetta, Garlic กุ้งลายเสือตัวอวบๆ 2 ตัว Flambe ด้วยเหล้า Pastis นำมาผัดกับเส้นพาสต้า Angel hair กระเทียม และเบคอน Pancetta ทอดกรอบ รสชาติโดยรวมจะอ่อนๆกลมกล่อม แต่ได้ความสด-หวาน-แน่น-เด้ง ของเนื้อกุ้งบวกกับรสเค็มของเบคอนคือลงตัวเลย ● Roasted Barbarie Duck Pistachio, Buttered May Queen Potato Puree, Sauteed Champignon, Apicius Sauce (เพิ่ม 150 บาท) เนื้อเป็ดชิ้นโตเอาเรื่อง 2 ชิ้น สั่งความสุกระดับ Medium Well ก็ได้เป๊ะตามที่สั่ง หนังเป็ดคลุก Pistachio ป่นให้สัมผัสกรุบกรอบตัดกับเนื้อเป็ดที่นุ่มละมุน ทานแกล้มมันฝรั่ง May Queen บด และเห็ด Champignon ผัด ราดซอส Apicius รสกลมกล่อมหอมกลิ่นไวน์เบาๆ ดีงามระดับสิบ [Desserts] ● Chef’s Signature “Mont Blanc Chestnut Mille-Feuille” (เพิ่ม 50 บาท) Mont Blanc เกาลัดเนื้อละเอียดเนียนนุ่มดี วางมาบน Mille-Feuille ที่เราอยากให้ชั้นแป้งพายบางกรอบกว่านี้อีกนิด ด้านบนประดับด้วย Meringue กรอบๆ ทานกับผลไม้สดๆรสอมเปรี้ยว เบรคความหวานของขนมได้ลงตัว โดยรวมแล้วชอบนะ ● Passion Fruit Crème Brulee, and Coconut Meringue เห็นหน้าเว็ปของโรงแรมชูเมนู Crème Brulee เป็นอีกหนึ่งจานเด่น เลยต้องสั่งมาลองหน่อย เนื้อ Crème Brulee เนียนนุ่มดี น้ำตาลที่ผิวหน้าก็กรอบใช้ได้ แต่เราว่ารสของซอสเสาวรสมันไม่ค่อยเข้ากับรสของไข่ในเนื้อคัสตาร์ดเท่าไหร่ ถ้าเปลี่ยนเป็นใช้ผลไม้สดอย่างอื่นเคียงมาต่างหากเป็นชิ้นๆน่าจะดีกว่าทำเป็นซอสราดค่ะ ● Lemon Meringue, Vanilla Mascapone Cheese Cream Duo ส่วนตัวชอบชิ้นนี้ที่สุด คือปลื้มตั้งแต่ presentation ที่ดูสวยประณีต ชอบความจี๊ดจ๊าดของครีมมะนาวที่สมดุลกับรสนุ่มๆของ Vanilla Mascapone Cheese Cream ตัดกับสัมผัสกรอบๆของ Meringue กับแป้งพายด้านล่าง ดีงามมากๆ ● Spiced Tart Tatin, Vanilla เป็นทาร์ตที่มี Apple ชิ้นโตๆเคี่ยวกับซอสคาราเมลวางด้านบน ทานกับไอศกรีมวานิลลา เนื้อทาร์ตไม่ค่อยกรอบเท่าไหร่ รสชาติประมาณปานกลาง ไม่โดดเด่นค่ะ [Coffee/Tea] สั่งเป็นกาแฟมาทั้งหมด มี Hot Americano, Hot Caffe Latte, Hot Cappuccino รสชาติกลางๆพอจิบได้เพลินๆหลังอาหาร ไม่ขม ไม่เปรี้ยว แต่ก็ไม่ได้หอมเข้มมากนะคะ ****-The Verdict-**** Lunch Set แบบนี้คิดว่าเมนูน่าจะมีการปรับเปลี่ยนอยู่เป็นระยะๆ สำหรับที่ได้ลองมานี้ทุกเมนูจะเห็นได้ถึงความประณีตพิถีพิถันทั้งในการปรุงและตกแต่งจาน เป็นอาหารฝรั่งเศสระดับ Fine Dining ที่อาจจะไม่ได้อร่อยที่สุดไปซะทั้งหมด แต่ก็จัดได้ว่ารสชาติดีใช้ได้ทุกอย่าง ที่สำคัญคือเมื่อคำนึงถึงทั้งปริมาณ คุณภาพวัตถุดิบ และดีเทลอาหารที่ซับซ้อนแล้ว ราคาเท่านี้ถือว่าคุ้มเว่อร์ ดีต่อใจสุดๆ บริการน่าประทับใจ มื้อนี้พา สว. ที่บ้านไปก็ปลื้มปริ่มกันมาก ทานเสร็จมีการหันมาสั่งด้วยว่าร้านนี้ต้องให้ 5 ดาวนะ (ผู้ใหญ่สั่งต้องเชื่อฟัง จัดไปจ้า 555) แม้ดีล BRW จะหมดแล้ว แต่สั่ง Lunch Set โดยตรงกับทางร้านก็ราคาพอๆกัน ใครพอมีเวลาว่างตอนกลางวันของวันธรรมดาก็น่าลองหาโอกาสจัดไปอย่าให้พลาดค่ะ... อ่านต่อ
52 Likes0 Comment
photo