4.0
126 เรตติ้ง (105 รีวิว)
ปิดอยู่จะเปิดในเวลา 10:00
เมนูของร้าน Karmakamet Diner
อาหารสุดฟิน ใส่ใจทุกรายละเอียดการเดินทางเข้ามาครั้งแรกอาจจะงงนิดนึงเพราะ สถานที่กับในแผนที่ไม่ตรงกัน ขับบนถนนสุขุมวิทวิ่งฝั่งเดียวกับเอ็มโพเรียม เลยทางเข้าเอ็มโพเรียมไปนิดนึงซ้ายมือ จะมีทางเข้าอีกทาง ตรงเข้าไปจะเจออาคารที่จอดรถของเอ็มโพเรียม สามารถไปจอดที่อาคารB จะใกล้ที่สุด หรือจะวัดดวง ขับเลยไปนิดหน่อย จะเห็นป้ายร้านบนเสาไฟฟ้าซ้ายมือ เลี้ยวเข้าไปวัดดวง (จอดได้ไม่กี่คัน แนะนำจอดอาคารB ดีกว่า) เดินเข้าร้านมาจะพบกับบรรยากาศที่นิ่มนวลอบอุ่น มีที่นั่งห้องแอร์ด้านใน และแนว garden ด้านนอก สามารถเลือกนั่งได้ทั่งมาทานกับคนรู้ใจและมาเม้าท์มอยกับเพื่อน บนโต๊ะจัดวางการตกแต่งได้น่าสนใจ กับทุกรายละเอียดจริงๆ ไม่ว่าจะเป็นที่รองแก้ว ฯลฯ ที่นี่มีการแบ่งช่วงเวลาให้บริการ ช่วงเที่ยงอาหารจะเป็นอีกเมนู ช่วงบ่ายจะเป็นช่วงของว่าง ช่วง18:00 เป็นต้นไปเป็นช่วงอาหารค่ำก็จะเป็นอีกเมนู วันนี้ได้มาทานช่วงอาหารค่ำ ตอนแรกจะรู้สึกเหมือนจะมืดไปนิดนึง พอซักพักจะรู้สึกจัดแสงได้ลงตัว บนโต๊ะมองเห็นได้ชัดเจน รวมถึงถ่ายรูปออกมาได้ไม่มืดเลย อาหารในเมนู มีความหลากหลายพอควร น่าสนใจทุกเมนู (อ่านดูแล้วอยากชิมไล่เมนู 55555) ราคาก็มีตั้งแต่ พอสมควรจนถึงหนักเอาเรื่อง ความคุ้มค่ากับราคาจากที่ทานถือว่าคุ้มค่า นอกจากวัตถุดิบที่ดีแล้ว รสชาติยังจัดสรรได้สมดุล เก็บรายละเอียดมาก จัดวางจานสวยงาม อาหาร เครื่องปรุง ที่นี่ทำเองทั้งหมด แนวโฮมเมด แนะนำว่าสั่งอาหารเสร็จ ให้พนักงานเสริฟเรียงตามหน้าที่อาหาร จะได้เสพ กับรสชาติได้เต็มที่ เหมือนเพลงที่ต้องมีอินโทรก่อน เข้าเนื้อหา เครื่องดื่มมีหลากหลายรูปแบบ ค๊อกเทลที่นี่เน้นsignature ของทางร้าน แต่ถ้าเป็นแนวคลาสสิค ก็สามารถทำได้ (อันนี้ไม่ได้ชิม) มาทานสองคน จัดไปสี่อย่างรวมของหวาน เวลาเลือกเมนูสามารถสอบถามพนักงานได้ว่า ต้องการจานที่แบ่งกันทาน หรือทานคนเดียว เพราะแต่ละจานจะมีปริมาณต่างกัน อย่างแรกมาถึง จะเป็นเนยและ ขนมปัง เนยมีพิมพ์ลาย 1971 ไว้อย่างสวยงาม ขนมปังโฮมเมด สองแบบ ขนมปังฝรั่งเศสแบบกลม ข้างนอกเหนียวข้างในนุ่ม (เหมาะกับซุปมาก แต่ไม่ได้สั่งซุป55555) ขนมปัง สไลด์ เป็นแผ่น มีถั่วและผลไม้ผสมกำลังดี กลิ่นน้ำผึ้งจางๆ ได้อรรถรสกำลังดี รอไม่นานจานแรกเป็น สลัดแซลมอนคองฟีและสแกลอปคองฟีสลัด เนื้อปลานุ่มมากแต่ไม่เละ หอยเชลเนื้อนุ่มแน่น มีองุ่นดำและมะม่วงสุก(เนื้อกำลังดีมากไม่เละ) กลิ่นและรสสัมผัสทำได้ดีมาก รสชาดผสมผสานกันอย่างลงตัว ทำให้รสชาดรู้สึกเบาๆ เหมาะกับการเรียกน้ำย่อย มีเบอรี่แดงนิดๆ ให้ความรู้สึกเปรี้ยวและสดชื่นขึ้นมา แค่จานแรกก็โดนใจมาก ในการสมดุลรสชาด ถัดมา เป็น อโวคาโด ฮามาจิ ทาร์ทาร์ เสริฟมาพร้อมฝาครอบใส มีกลิ่นอบอวลด้านใน เพิ่มอรรถรสทางสายตา และกลิ่น จัดวางจานได้สวยงาม มีแบ่งเลเยอร์ สองชั้น ชั้นล่างเป็นอโวคาโด ชั้นบนเป็นปลาฮามาจิ ด้านล่างรองด้วยใบโอบะ ด้านบนสุดโรยด้วยปลาป่น ช่วยเสริมรสชาติและ กลิ่นให้แน่นขึ้นเวลาทาน เคียงด้วยไข่ออนเซน มีรสชาติวาซาบิบางๆให้พอรู้สึกด้วย จานนี้ไล่รสชาติได้หนักเบาในจานเดียวที่ทาน ขึ้นอยู่กับจะทานอะไรบ้างในคำเดียว ถ้าทานทั้งหมดและผสมไข่ออนเซนเข้าไปด้วยจะครบรสและกลมกล่อมมากที่สุด ถ้าจะเบาๆก็ฮามาจิกับอโวคาโดพอ สองจานแรกใครไม่ทานปลาดิบ ก็อดครับ ^^ จานสุดท้ายแต่ไม่ท้ายสุด เป็นจานหลักของวันนี้ สโนฟิช เบอบลอง ปลาหิมะเนื้อสุกพอดี ทำได้พอดีมากๆ เนื้อนุ่มสุกทั่วชิ้น (ไม่มี over cook หรือไม่สุกเลย) รองมาด้วยมะเขือม่วง กับเห็ดหอมชิตาเกะ โรยด้วยร็อคเก็ตอ่อน กับไข่ปลาแซลมอน ซอสอยู่ด้านล่างทำได้กลมกล่อมอร่อยมาก เข้ากับเนื้อปลาหิมะเนื้อนุ่ม ได้เป็นอย่างดี ตบท้ายด้วยของหวาน ทรัฟเฟิลเครมบรูเล และช้อคโกแลตลาวา จัดวางได้อลังการสวยงาม บนลาวามีไอศครีมวางให้หนึ่งลูก และสตอเบอรี่กับบลูเบอรี่ประดับจาน (ไว้ทานตัดเลี่ยนก็ดี) ไส้ลาวาเป็นดาร์คช้อค เนื้อเค้กนุ่มแน่น บรูเล อร่อยมาก ไม่หวานเกินไป ทานสลับกัน ได้รสชาดที่ดีมาก สรุปเลยว่าอร่อยมาก คุ้มค่ากับสิ่งที่ได้รับ สมราคา กับความใส่ใจกับทุกประสาทสัมผัสที่ได้รับ นอกจากจะมีอาหาร เครื่องดื่มบริการ ยังมีสินค้าประเภทเครื่องหอมต่างๆ ที่เป็นแนวโฮมเมด ให้บริการอยู่ภายในร้าน แต่จัดเป็นสัดส่วนได้ดี... อ่านต่อ
4 Likes0 Comment
photo