4.0
1054 เรตติ้ง (502 รีวิว)
ปิดอยู่จะเปิดในวันพุธ เวลา 11:00
เมนูของร้าน Le Boeuf The Steak & Fries Bistro หลังสวน
[Wongnai User’s Choice] ซอสรสชาติเดียว อร่อยทุกจานร้านเนื้อร้านดังอีกร้านนึงบนถนนหลังสวนครับ สามารถเข้าไปจอดได้ที่โรงแรม Mayfair Marriott ที่ชั้นใต้ดินเลยครับ ถ้าใครขับมอเตอร์ไซค์สามารถขับลงไปจอดได้เช่นกัน แต่อาจจะมีมึนเพราะที่จอดอยู่ชั้นใต้ดินล่างสุดของโรงแรมเลยครับ วนประมาณเกือบ 10 รอบจนหน้าแทบมืดครับ ส่วนตัวร้านนี้จะอยู่หน้าโรงแรม เป็นเหมือนโดมกระจกเล็กๆ แต่ภายในใหญ่มาก มีทั้งแบบ Indoor และ Outdoor ส่วนห้องครัวร้านนี้จะมีบันไดเวียนเดินลงไปข้างล่างอีกทีหลังบาร์ครับ สำหรับวันนี้ผมก็ได้ซื้อดีลจาก BRW2018 มาอีกเช่นกันในราคา 999++ บาทและ 699++ บาทเช่นกัน ซึ่งเราต้องโทรมาจองก่อนครับ โดยในเซตนี้จะประกอบด้วย 1. Walnut Green Salad with Vinaigrette Dressing: เป็นสลัดวอลนัทที่มาพร้อมผักสลัดได้แก่ผักกาดแก้ว เรดโอ้ค และแรดดิชครับ น้ำสลัดจะคลุกมาให้แล้วรสชาติจะบางๆ เพื่อไม่ให้จืดเกินไป โรยด้วยวอลนัทครับ รสชาติดี เหมาะแก่การล้างปากก่อนเริ่ม Main dish ครับ 2. Homemade Confit-style Pork Spread Served with Crispy French Baguette: คือการนำหมูไปทำเป็น Spread คลุกกับน้ำสลัดและแช่เย็นไว้ครับ ทานคู่กับขนมปังแข็งๆ หรือ Baguette มีหอมดองและแตงกวาดอง รสชาติตัวสเปรดอร่อยครับ ไม่ค่อยเลี่ยนเท่าไร แต่ถ้าทานคู่กับขนมปังแล้ว ขนมปังคือจุดด้อยครับ เพราะแข็งมาก ถ้าใครใส่เหล็กดัดฟันอยู่อาจจะมีหลุดได้ครับ ส่วนหอมดองกับแตงกวาดองแก้เลี่ยนได้ดีครับ 3. Australian Striploin Black Angus Beef (300 g): เนื้อเป็นแบบ 120 Day Dry Aged เสิร์ฟมาพร้อมกับเฟรนช์ฟรายด์ที่เติมได้ไม่อั้น จานนี้จะเสิร์ฟมาเป็นกระทะร้อนที่มีไฟอุ่นตลอดเวลา เพราะมีราดซอส signature ของทางร้านทั่วจานเลยครับ ปาดได้เต็มที่ โดยตัวซอสจะมีรสชาติของกระเทียมและเนยเป็นหลัก แต่ยังมีรสชาติที่ซ่อนอยู่อีก น่าจะเป็น Herb สักตัวที่ทำให้มีรสหอมเฉพาะตัวครับ ใช้จิ้มกับเนื้อเพื่อให้มีความมันครับ ตัวเนื้อสั่งแบบ Medium Rare โดยบริเวณขอบๆเนื้อจะเหนียวเป็นพิเศษ คิดว่าถ้าสั่งแบบ Rare เนื้อจะนุ่มและหวานกว่าครับ แต่วิธีแก้คือให้เอาเนื้อไปจี้ไฟจนกลายเป็น Medium Well เนื้อก็จะนุ่มเลยครับ แถมซอสยังซึมเข้าไปด้านใน อร่อยแบบไม่ต้องปรุงเพิ่มครับ ส่วนเฟรนช์ฟรายด์กรอบอร่อย เติมได้เรื่อยๆจริงๆครับ แนะนำว่าจานนี้ควรมาทานอย่างน้อย 2 คนแบบไม่สั่งอย่างอื่นเพิ่ม เพราะเนื้อเยอะมากจริงๆครับ คุ้มครับ 4. Grilled Tasmanian Salmon Steak: เฟรนช์ฟรายด์แบบอัลลิมิตเช่นเดียวกัน เสิร์ฟมาบนกระทะร้อนพร้อมราดซอสของร้านโดยเฉพาะเช่นกัน ตัวแซลมอน Sear มาได้ดี เนื้อนุ่ม ฉ่ำ และเข้ากันกับซอสมาก รู้สึกว่าซอสตัวนี้จะเข้าได้กับเนื้อทุกชนิดได้จริงๆครับ 5. Profiteroles aux Chocolate: เป็นขนมชูร์วที่ผ่าตรงกลางแล้ววางด้วยไอศกรีมวานิลลาและราดด้วยซอสช็อกโกแลตครับ ตัวชูร์วเสียดายตรงที่ออกจะนิ่มหลังจากโดนวานิลลาละลายเข้าไป ส่วนไอศกรีมอร่อยและหอมวานิลลามาก ช็อกโกแลตเองก็เข้มข้นเช่นกัน 6. Sticky Toffee Pudding with Hot Toffee Sauce and Vanilla Ice Cream: ขนมหวานอีกรายการที่เป็นท๊อฟฟี่เค้ก ด้านบนตกแต่งด้วยไอศกรีมวานิลลา และด้านล่างเป็นท๊อฟฟี่ซอสเช่นเดียวกัน รสชาติค่อนข้างจะเทไปด้านหวานและเลี่ยนเป็นหลักครับ เลยทำให้ขนมหวานรายการก่อนหน้าอร่อยกว่าอย่างเห็นได้ชัดครับ ถ้าลดความหวานของท๊อฟฟี่เค้กลงได้อีกจะอร่อยกว่านี้ครับ 7. Orange Juice: ในเซตเราสามารถเลือกเครื่องดื่มได้เช่นกัน เนื่องจากไม่ได้ทานแอลกอฮอล์เลยเลือกเป็นน้ำส้มมาแทนครับ แต่คำแรกที่ทานคือขมมากเลยครับ จนต้องขอเปลี่ยน แต่อย่างน้อยก็ได้รู้ว่าร้านนี้เค้าคั้นสดจริงๆครับ 8. Melon Frappe: เลยเปลี่ยนมาเป็นเมลอนปั่นแทนครับ รสชาติออกหวานจากเมลอน แต่ก็ยังมีรสชาติจากน้ำตาลอยู่เยอะพอสมควรครับ ทานแล้วดีกว่าน้ำส้มเยอะครับ โดยรวมแล้วรสชาติอาหารถือว่าดีเยี่ยมเลยครับ อร่อยไม่แพ้ร้านเนื้อร้านอื่นๆเลยครับ ส่วนการบริการก็ถือว่าดีเยี่ยมครับ พนักงานเอาใจใส่ลูกค้าอย่างดี ร้านเองก็เงียบสงบ ลูกค้าไม่เยอะ นั่งชิวๆได้สบายๆถ้าไม่ต้องกลับไปทำงานต่อช่วงบ่าย ส่วนการทำอาหารยอมรับเลยว่าค่อนข้างช้ามากครับ ดังนั้นถ้ามาร้านนี้อาจจะต้องใช้เวลาสักหน่อยครับ... อ่านต่อ
4 Likes0 Comment
photo