4.0
1 เรตติ้ง (1 รีวิว)
เปิดอยู่จนถึง 20:00
The Chalet Restaurant
มื้อกลางวันในสนามกอล์ฟอัลไพน์สำหรับวันนี้ก็จะพาไปชิมอาหารที่ห้องอาหารในสนามกอล์ฟที่มีชื่อเสียงมายาวนานแถวๆ รังสิตนะคะ นั่นก็คือห้องอาหารเดอะชาเลต์ ที่สนามกอล์ฟอัลไพน์กอล์ฟคลับ แถวๆ คลองห้าน่ะแหละค่ะ (ทางเข้าเดียวกับพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์แห่งชาติค่ะ แต่เลยเข้าไปอีกนะคะ) ซึ่งการไปครั้งนี้ก็เนื่องด้วยคุณมิ้นท์ของทางสนามกอล์ฟ ส่งข้อความมาทางแฟนเพจชักชวนเราไปค่ะ ที่จริงชวนมาตั้งแต่ต้นปี แต่เพิ่งจะไปได้เมื่อเมษาที่ผ่านมานี่แหละค่ะ แหะๆ website ของทางสนามกอล์ฟนะคะ http://www.alpinegolfclub.com/ สำหรับการไปวันนั้นเราก็ขับรถไปเองอีกหละค่ะ วิ่งเส้นพหลโยธิน จากนั้นก็วนขึ้นสะพานไปทางที่ที่จะไปนครนายก แล้วก็สังเกตคลองไปเรื่อยๆ ค่ะ พอถึงคลองห้า หรือดูป้ายพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์ฯ แล้วก็เลี้ยววนเข้าไป แล้ววิ่งตรงยาวๆ เลยค่ะ จนเลยพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์เข้าไปอีก ก็จะเจอสนามกอล์ฟอยู่ทางขวามือ เข้าไปที่คลับเฮ้าส์ อันเป็นที่ตั้งของห้องอาหารเดอะชาเลต์ได้เลยนะคะ เปิดตัวรีวิวด้วยหนึ่งในเมนูอร่อยวันนั้นค่ะ หลังจากนำรถไปจอด (อันแทบจะหาที่จอดไม่ได้ค่ะ รถเยอะมาก แม้ว่าค่าสมาชิกที่นี่จะแพงพอควรก็ตาม และลูกค้าส่วนใหญ่ของที่นี่จะเป็นชาวญี่ปุ่นนะคะ) เราก็เดินขึ้นไปบนคลับเฮ้าส์ค่ะ เข้าประตูไปปุ๊บ จะเจอห้องอาหารเดอะชาเลต์อยู่ทางซ้ายมือตามภาพเลยนะคะ ภายในก็มีที่นั่งมากพอควรค่ะ รวมที่นั่งแล้วก็จะอยู่ที่ราวๆ 195 ที่นั่งและมีห้องส่วนตัวด้วยนะคะ (แต่ต้องเสียค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมค่ะ) โดยปกติลูกค้าของที่นี่จะอยู่ราวๆ 260-270 คนต่อวัน (ถ้าเป็นเสาร์อาทิตย์) แต่ถ้าเป็นวันธรรมดาก็อยู่ราวๆ 100-150 คนต่อวันค่ะ น้อยสุดก็อย่างช่วงสงกรานต์ที่ผ่านมาก็ราวๆ 50-80 คนต่อวันค่ะ ห้องอาหารที่นี่จะเปิดราวๆ 10.00-20.00 น.นะคะ ถ้าใครอยากลองไปกินอาหาร แต่ไม่อยากเจอคนเยอะๆ ก็เลี่ยงช่วงเวลา 12.00-14.00 น.ละกันค่ะ (อย่างตอนเราไปนี่เราก็นัดตอน 11.00 น.นะคะ) เพราะช่วงเวลาดังกล่าว นักกอล์ฟจะขึ้นมารับประทานอาหารกันเยอะเลยหละค่ะ ส่วนห้องส่วนตัวก็มีหลายขนาดด้วยกันนะคะ ซึ่งตรงนี้ถ้าจะใช้บริการต้องเสียค่าใช้จ่ายต่างหากค่ะ ราคาของห้องส่วนตัวแบบญี่ปุ่น ราคาห้องละ 1,000 บาท ห้อง Seizen (ห้องญี่ปุ่นใหญ่) จะเป็นราคา 2,000 บาท ที่จริงนอกจากห้องส่วนตัวที่อยู่ในห้องอาหารแล้ว ก็ยังมีห้องจัดเลี้ยงด้วยค่ะ แต่เดี๋ยวค่อยพาไปสำรวจหลังหม่ำแล้วกันนะคะ แฮ่.. ตอนนี้เรามาดูในเรื่องของเมนูกันดีกว่าเนาะว่าราคาประมาณไหน แล้วมีอาหารสัญชาติอะไรให้เลือกรับประทานกันบ้างค่ะ ที่จริงที่นี่จะมีครัวไทย ครัวจีน ครัวญี่ปุ่น และครัวยุโรปนะคะ เพราะฉะนั้นเมนูก็จะมีอาหารในทุกสัญชาติที่กล่าวมาเช่นกันค่ะ ราคาก็..ปกติของสนามกอล์ฟระดับนี้หละนะคะ Smiley สำหรับเซ็ตอัพบนโต๊ะก็ตามภาพเลยนะฮับ เอาหละค่ะ มาดูกันดีกว่าว่าวันนั้นข้าพเจ้าได้หม่ำอะไรไปบ้างนะฮับ ฮี่ๆ จานแรกค่ะ กับปอเปี๊ยะสดไส้ผักรวมปูอัดและกุ้ง ราคา 200 บาท สำหรับผลของการกินเมนูนี้นะคะ รสชาติดีมากเลยหละค่ะ อร่อย และต้องกินทั้งคำนะคะ จะมากะร่อยกะหริบค่อยๆ เล็มนี่ ร่วงสิครับท่าน ฮา รสชาติค่อนข้างกลมกล่อมค่ะ อร่อยแบบนวลๆ เป็นหนึ่งในเมนูขายดีเลยหละค่ะ (เราก็ว่าชาวญี่ปุ่นน่าจะชอบนะคะ รสนุ่มนวลดี) สำหรับจากครัวญี่ปุ่น เค้าให้เมนูนี้มาเมนูเดียวค่ะ แต่ก็ประทับใจนะคะ ต่อไปคิดว่าน่าจะเป็นจากครัวไทย (หรือจีน?) ค่ะ นั่นก็คือเมนูก๋วยเตี๋ยวราดหน้าฮ่องกงค่ะราคา 130 บาท (เรียกว่าไทยปนจีนจะดีมั้ยเนี่ย เพราะราดหน้าแบบนี้ ไม่เคยเห็นที่ฮ่องกงนะ แต่ที่เค้าเรียกว่าฮ่องกงเพราะใช้ซอสฮ่องกงค่ะ แฮ่...) สำหรับผลของการกินเมนูนี้นะคะ หมูชิ้นใหญ่มาก ซึ่งตัวซอสอย่างที่บอกว่าเป็นซอสฮ่องกงและคะน้าฮ่องกงนะคะ ตัวเส้นผัดมาหอมดี หมูเต็มปากเต็มคำ เนื้อแน่นหนึบแต่ไม่เหนียว อร่อยค่ะ เมนูนี้ชมกันทั้งสามคน ต่อไปค่ะ อันนี้จากครัวจีนแน่นอน กับเมนูบะหมี่ตันตัน ราคา 130 บาท สำหรับผลของการกินนะคะ ตัวนี้ซอสเป็นซอสเซี่ยงไฮ้ค่ะ จะมีรสชาติที่เข้มข้นกว่าราดหน้า มีความเผ็ดหน่อยๆ มาด้วย แต่รสอื่นไม่ได้เด่นนะคะ (ทว่าน้องคนหนึ่งที่ไปด้วยบอกว่าเค็มไปค่ะ แต่เราไม่ยักกะรู้สึกแฮะ) จานต่อไปนะคะกับหมูสันนอกย่างซอสเห็ด (350 บาท) สำหรับตัวเมนูนี้เค้าเสิร์ฟมาพร้อมขนมปังเนย และเฟรนช์ฟรายด์ด้วยนะคะ ตัวเนยอลาวรีก็มาตรฐานเค้าเลยค่ะ หอมอร่อย ส่วนขนมปังใช้ได้ค่ะ แม้ตัวเนื้อจะไม่โดน แต่รสชาติดีนะคะ เฟรนช์ฟรายด์โอเคค่ะ เนื้อไม่ฟ่ามๆ เหมือนฟาสต์ฟู้ดบางเจ้าค่ะ ตัวซอสที่มาด้วย เราว่าเค็มนำไปนิดหนึ่งค่ะ เนื้อหมูก็ค่อนข้างแข็งไปนิดหนึ่งค่ะ ซอสที่ราดๆ มาหวานดีค่ะ แล้วก็ย่างมาได้หอมดีค่ะ เมนูต่อไปค่ะกับ เนื้อสันนอกออสเตรเลียย่างจิ้มแจ่ว (360 บาท) เมนูนี้ ตอนแรกเราคิดว่าเหมือนจะสุกไปค่ะ แต่ปรากฏว่าพอได้กิน เฮ้ย มันกำลังโอเคเลยค่ะ เนื้อนิ่ม ฟินปากมาก โดยรวมเราว่าอร่อยกว่าหมูนะคะ เมนูต่อไปค่ะ เสต็กปลาแซลมอนแบบยุโรป (350 บาท) สำหรับการกินเมนูนี้ ขอบอกว่าเป็นแซลมอนเสต็กที่พอดิบพอดีที่สุดตั้งแต่เคยกินมาเลยค่ะ ทำมาพอดิบพอดี ย่างมากำลังดี เหมือนจะสุกเกินแต่กลับไม่เลยค่ะ ยังชุ่มฉ่ำและดึงทั้งกลิ่นและรสของแซลมอนออกมาได้ดีมากๆ เลยค่ะ แล้วเวลากินกับเครื่องเคียงจะช่วยชูรสมากยิ่งขึ้นนะคะ (พวกพริกหยวกและอื่นๆ ที่แนมมาด้วยน่ะค่ะ) ส่วนตัวหนังที่แนมมาด้วย ทำมาได้กรอบ เค็มนิดๆ แต่สำหรับเราเราว่ามันมันไปค่ะ แต่คนที่ไปด้วยบอกว่าอร่อยหละ สำหรับห้องอาหารที่นี่จะมีพ่อครัวด้วยกันราวๆ 14-15 ท่าน (รวมผู้ช่วยนะคะ) ซึ่งได้แก่ ครัวยุโรปและฝรั่ง 3 ท่าน ครัวจีน 4 ท่าน ครัวญี่ปุ่น 3 ท่าน (ได้ข้อมูลว่าเป็นครัวที่ขายดีที่สุดด้วยค่ะ) และครัวไทยอีก 3 ท่านค่ะ ปิดท้ายรีวิวนี้ก่อนไปที่หมวดการให้คะแนน ด้วยภาพของเชฟสุชาติ กันเดชนะคะ เชฟจะดูแลครัวยุโรปเป็นหลักค่ะ เชฟเป็นเชฟครัวยุโรปของที่นี่นะคะ เป็นคนชลบุรี ซึ่งเคยอยู่ที่ไทยคันทรีคลับเป็นที่แรกค่ะ แล้วก็เคยไปอยู่ที่อื่นอย่างเช่น สันติบุรีที่สมุย อมตะสปริง (เป็นรุ่นบุกเบิก) ฯลฯ ตัวเชฟเองก็ไม่ได้เรียนเรื่องการทำอาหารโดยตรงนะคะ แต่อาศัยเรียนรู้จากประสบการณ์เอาค่ะ แล้วก็เลื่อนตำแหน่งขึ้นมาเรื่อยๆ จนในที่สุดก็ได้เป็นเชฟนะคะ เราก็เลยคุยกับเชฟเรื่องคนที่เรียนมากับคนที่ไม่ได้เรียน เชฟบอกว่า คนที่เรียนมา จะต้องมาฝึกประสบการณ์ก่อนสัก 1-2 ปีแล้วจะไปได้ไวค่ะ แต่จะแก้ปัญหาไม่ค่อยได้ จะประยุกต์ใช้ไม่ค่อยเป็น ใช้แต่ของสำเร็จกันเป็นส่วนใหญ่ อย่าง mash potato ก็ทำเป็นแต่แบบมันผงมาผสมนมเนย แต่ขณะที่เชฟสมัยก่อนจะต้องใช้มันมาต้มมาทำเอง เป็นต้นค่ะ... อ่านต่อ
1 Like0 Comment
photo