4.5
7 เรตติ้ง (6 รีวิว)
ปิดอยู่จะเปิดในเวลา 08:00
PK Coffee Shop
หมู่เกาะงดงามอันดามัน กับคลื่นอันรุนแรงอุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธารา-หมู่เกาะพีพี เป็นอุทยานแห่งชาติแห่งหนึ่งที่ทุกคนจะรู้จักในนามของเกาะพีพีมากกว่า ประกอบด้วยส่วนที่อยู่ติดกับชายทะเลของจังหวัดกระบี่ ครอบคลุมไปจนถึงหมู่เกาะพีพีเลยครับ เนื่องจากว่าได้มีโอกาสมาพักที่พักในเกาะพีพีดอน ดังนั้นทริปการดำน้ำเราไม่ควรจะพลาดอย่างยิ่งครับ สำหรับช่วงที่ผมมาเป็นช่วงหน้าฝน ดังนั้นคลื่นลมจะค่อนข้างรุนแรงพอสมควร และวันที่ออกเดินทางก็มีคลื่นค่อนข้างแรงมากเช่นกัน โดยทางรีสอร์ตแจ้งว่าไม่สามารถนำเรือหางยาวพาไปชมอ่าวมาหยาที่เกาะพีพีเลได้ แต่โชคดีที่มีกรุ๊ปนึงที่ต้องการจะไปพอดีโดยนั่งสปีดโบ๊ทไป แชร์ค่าโดยสารแล้วเฉลี่ยคนละ 700 บาทเท่านั้นครับ โดยเหมายาวตั้งแต่ไปพีพีเล จนถึงไปพีพีดอนในส่วนของอ่าวต้นไทรเพื่อเดินขึ้นจุดชมวิวที่เป็น Unseen Thailand ครับ เริ่มต้นการเดินทางออกจากพีพีดอนในช่วงเช้า คลื่นค่อนข้างรุนแรงมาก บางช่วงคลื่นสูงถึง 2 เมตรด้วยกัน และสุดท้ายก็สามารถฝ่าทะเลมาถึงจุดแรกนั่นก็คือ อ่าวมาหยา ซึ่งเป็นอ่าวที่ดังจากเรื่อง The Beach แต่ด้วยความที่นักท่องเที่ยวแห่กันมาเยอะจนทำให้เกาะเสื่อมโทรม ทางอุทยานเลยทำการปิดอ่าวไปแบบถาวร ซึ่งจะมีทุ่นกันไม่ให้เข้าไปที่เกาะ และอีกอย่างในช่วงที่มาเป็นช่วงคลื่นแรงมาก ไม่สามารถเข้าไปถึงที่เกาะได้ ทำได้เพียงถ่ายรูปหาดขาวๆ ที่แสนเงียบสงบ จากนั้นเราก็เดินทางไปต่อกันที่อ่าวโล๊ะซะมะ ซึ่งเป็นอ่าวอีกแห่งที่สวยงามเช่นกัน แต่ถูกสั่งปิดจากกรมอุทยานเช่นเดียวกัน เนื่องจากอยู่ระหว่างฟื้นฟูสภาพแวดล้อมให้กลับมาเป็นเหมือนเดิม จึงได้ถ่ายรูปและจากไป ส่วนที่เราสามารถลงดำน้ำได้คืออ่าวปิเละ ซึ่งจะมีอยู่ 2 ส่วนคือส่วนของอ่าวเล็กๆ โดยส่วนนี้ไปจนถึงบริเวณทางเข้าสามารถดำน้ำได้ โดยคลื่นจะไม่แรงแต่ก็เหนื่อยเช่นเดียวกัน ภายใต้ทะลสภาพค่อนข้างอุดมสมบูรณ์ดี เพียงแต่เราจะไม่ได้เห็นปะการังสีๆ เนื่องจากน้ำค่อนข้างตื้นครับ ปลาเยอะแยะพอสมควร และหลังจากดำน้ำส่วนนี้แล้วก็ไปต่อกันที่ด้านใน ซึ่งจะเป็นลากูนที่คลื่นลมสงบ โดยเมื่อก่อนคนเรือจะใช้เป็นจุดในการหลบฝนและพายุครับ แต่ปัจจุบันเปลี่ยนเป็นที่ท่องเที่ยวแทน จุดลึกสุดจะอยู่ที่ประมาณ 40 เมตรถ้าจำไม่ผิดครับ และส่วนอื่นๆจะค่อยๆ ตื้นขึ้น เฉลี่ยประมาณ 5 เมตร โดยน้ำใสเป็นสีเขียวมรกต เห็นพื้นทรายที่อยู่ด้านล่าง โซนนี้จะไม่ค่อยมีปะการังครับ เป็นท้องทรายล้วนๆ ส่วนมากจะมาถ่ายรูปและเล่นน้ำกันมากกว่า หลังจากเล่นน้ำจนหนำใจ ก็เดินทางออกจากปิเละลากูน ระหว่างทางเราจะได้ผ่านถ้ำไวกิ้ง ซึ่งเป็นถ้ำรังนกที่ได้สัมปทานจากรัฐ โดยเมื่อก่อนก็ไม่ได้มีการแปะว่าใครเป็นเจ้าของ แต่ปัจจุบันมีป้ายของสก๊อตไปแปะอยู่ พื้นที่ดังกล่าวเป็นพื้นที่หวงห้าม เราจึงได้เพียงถ่ายรูปจากด้านนอก และเดินทางไปอีกนิดหน่อยจะเจออ่าวลิง ซึ่งมีลิงอาศัยอยู่และเดินไต่ผาทักทายนักท่องเที่ยวอยู่ บริเวณนี้ก็มีหาดอยู่เช่นกัน แต่เป็นหาดเล็กๆ ที่น้ำขึ้นก็จะหายไป ผ่านพีพีเลไปแล้ว เราก็ย้อนกลับมาที่เกาะพีพีดอนกันบ้าง โดยทางเรือได้ให้เราลงที่อ่าวต้นไทรและเดินไปจุดชมวิวกันเองครับ โดยเมื่อขึ้นมาที่เกาะและเริ่มเดินไปตามทาง จะพบว่าเกาะแห่งนี้เงียบเหงาและปิดร้านกันเกือบทั้งหมดครับ โดยที่เปิดอยู่จะมีแค่ 7-11 แต่ก็ไม่ได้เปิด 24 ชั่วโมงทุกสาขา (มี 3 สาขาในเกาะ) ร้านอาหารบางส่วนที่อยู่ริมหาด หรือรีสอร์ทที่เปิดรับนักท่องเที่ยว ก็จะมีอยู่เปิดบ้าง แต่เมื่อเดินเข้าไปลึกๆแล้ว แทบจะมีแต่ร้านชาวบ้านที่เปิดครับ หายากมากๆ ที่จะเจอร้านอาหารเปิด แถมราคาที่ขายก็เป็นราคามิตรภาพสุดๆ ขนาดน้ำหวานยังแก้วละ 20 บาทซึ่งปกติไม่มีทางที่จะได้ราคานี้ (ส่วน 7-11 ก็ยังขายราคา 2 เท่าของบนฝั่งเหมือนเดิม) จุดชมวิวนั้นจะมีด้วยกัน 3 จุด โดยจุดที่ 1 กับ 2 เดินต่อกันไปได้เลยครับ โดยทางขึ้นแนะนำว่าให้ขึ้นที่จุด 1 ครับ เพราะถ้าเดินไปขึ้นที่จุด 2 จะไกลและใช้เวลามากกว่ามาก แต่จุดที่ 1 จะแลกกับทางขึ้นที่ชันมากและเหนื่อยมากๆ จุดแรกจะต้องจ่ายค่าขึ้น 30 บาทต่อคนครับ โดยจุดนี้จะไม่ค่อยสวยเท่าไร แต่ชดเชยด้วยการจัดตกแต่งสวนและมีอะไรให้ถ่ายรูปเยอะพอสมควร จุดนี้มาในช่วงที่ฝนตกพอดี เลยหยุดพักสักครู่และเดินทางต่อไปที่จุดที่ 2 จุดที่ 2 จะห่างจากจุดแรกพอสมควร น่าจะประมาณ 1 กิโลเมตรได้ ทางขึ้นจะค่อนข้างชันและไม่มีอะไรกั้น เช่นราวบันไดก็ไม่ค่อยมี แต่เมื่อขึ้นมาถึงจุดนี้แล้ว เราจะเจอร้านกาแฟ ซึ่งปิดทำการ ถ้าขึ้นไปได้น่าจะได้ถ่ายวิวสวยๆครับ และส่วนนี้เป็นส่วนที่สวยที่สุดจริงๆครับ โดยเราจะเห็นอ่าวทั้ง 2 ด้านเป็นน้ำทะเล 2 สีด้วยกัน และเป็นมุมที่นั่งดูได้เพลินๆเลยครับ ถึงแม้จะถ่ายรูปยังไงก็ไม่สวยเท่ากับดูด้วยตาตัวเองครับ ระหว่างทางหรือแม้กระทั่งจุดชมวิวเอง ก็จะมีร้านขายน้ำอยู่ประปราย ไม่ต้องกลัวว่าจะเหนื่อยจนหมดแรง แต่ราคาเองก็ค่อนข้างแพงเช่นเดียวกันครับ จุดที่น่าสังเกตบนเกาะแห่งนี้มีอยู่อย่างนึงคือมีแมวเยอะมากครับ เนื่องจากว่าคนพื้นที่เป็นมุสลิมส่วนใหญ่จะเลี้ยงแมวไม่เลี้ยงสุนัขครับ จึงพบแมวได้หลากหลายสายพันธุ์ทั้งแมวไทยและเปอร์เซีย และที่นี่เองก็มีสุนัขเช่นกันแต่พบได้น้อยมาก ถ้าหากคนในพื้นที่เจอสุนัขจรจัดหลุดมาจากไหน จะรีบไล่ออกไปหรือให้เทศบาลมาจับครับ เข้าใจว่าเพราะกลัวว่าจะไปทำอันตรายสัตว์อื่นอย่างแมวมากกว่าครับ และหลังจากลงจากจุดชมวิว ก็ทานอาหารที่ร้านริมหาด และเดินทางกลับที่พักโดยสวัสดิภาพ ซึ่งขากลับอากาศสดใสคลื่นไม่แรงเท่ากับช่วงเช้าแล้วครับ ถือว่าเป็นการปิดทริปวันนี้ที่ดีเลยครับ หากใครมาหมู่เกาะพีพีแล้วละก็ แนะนำว่าควรมาพีพีเลเป็นอย่างยิ่งครับ และแนะนำว่าอย่ามาช่วงมรสุมเพราะจะเดินทางลำบากและคลื่นแรงมาก และควรเลือกเรือสปีดโบ๊ทอย่างน้อย 2 เครื่องยนต์ครับ เพราะเครื่องเดียวทำเกือบจะอ้วกแล้วครับ... อ่านต่อ
1 Like0 Comment
photo