4.3
229 เรตติ้ง (174 รีวิว)
เปิดอยู่จนถึง 20:00
Paris Mikki สุขุมวิท 19
ข้างในเป็นแบบนี้
'จิบชายามบ่าย สไตล์ชาวปารีเซียง'อยากมาร้านนี้มาตั้งนานแล้วเพราะได้ยินเสียงเลื่องลือถึงความอร่อยของขนมเค้กที่นี่ว่าอร่อยเหาะสุดๆ จนมาวันนี้พร้อมจะเสียเงินให้กับ Paris Mikki แล้ว😂😂 จัดไปให้เต็มเหนี่ยวเล้ย! สำหรับพิกัดนะคะ ร้าน Paris Mikki ตั้งอยูในซอยสุขุมวิท 19 ซอยเล็กๆที่อยู่ติดกันกับเทอมินอลเลยค่ะ ตรงเข้ามาเรื่อยๆ ประมาณกลางซอยซ้ายมือจะเห็นร้านกระจกเล็กๆ กันสาดสีน้ำเงิน ตรงข้ามโรงแรม Sacha's Uno แสดงว่ามาถึงแล้วค่า ตัวร้านข้างในเล็กมาก มีโต๊ะอยู่แค่ 2 โต๊ะ และบาร์เล็กๆนั่งได้ประมาณ 5 คนเองค่ะ แต่ข้างนอกมีโต๊ะตัวใหญ่ๆให้นั่งชิลๆ ใครไม่กลัวแดดหรือวันบรรยากาศดีๆก็น่านั่งอยู่ไม่น้อยเลยค่ะ แต่มีอีกทางเลือกนึง คุณพนักงานบอกว่าสามารถนำขนมไปนั่งทานที่ร้าน WWA Cafe ข้างๆได้เหมือนกัน แต่แหม มาถึงร้านทั้งทีก็อยากนั่งซึมซับบรรยากาศของร้านนั้นๆให้เต็มที่เนอะ😁😁 แต่ถึงแม้ขนาดของร้านจะเล็ก แต่บรรยากาศก็คือแฮปปี้มาก เพราะอบอวลไปด้วยกลิ่นขนมหวาน และเค้กในตู้เค้กซึ่งกินพื้นที่ครึ่งนึงของร้านก็มีแต่หน้าตาน่าทานทั้งนั้นเลย! คนข้างๆถึงกับบอกว่าเลือกไม่ถูกเลยว่าจะทานชิ้นไหนดี😂😂 เพราะทุกชิ้นมีสีสันจัดจ้าน หลากหลายชนิด แต่ละชิ้นมีป้ายชื่อน่ารักๆพร้อมส่วนประกอบไว้ให้ หรือสงสัยก็ถามพนักงานเพิ่มเติมได้ค่า ทุกคนตอบแบบฉะฉานมากจริงๆ แม้ว่าใจอยากจะกินเค้กทุกชิ้นที่อยู่ตรงหน้า ทางเราก็ต้องตัดใจเลือกมาแค่ 4 ชิ้นเท่านั้น ประเดิมด้วยชิ้นแรกเลยก็คือ Philip 70 (195 บาท) ชิ้นนี้สายช๊อกโกแลตไม่น่าพลาดอยู่แล้ว เพราะมันคือเค้กดาร์คช๊อก 70% และมีเฮเซลนัทตกแต่งอยู่ด้วย ด้านบนมีมินิมาการองรสช๊อกโกแลตประดับเพิ่่มความน่าทานเข้าไปอีก รสชาติตัวนี้ช๊อกโกแลตเจ้มจ้นนี้ มีความกรุบๆของเฮเซลนั ใช้ได้เลย ลงตัวตามมาตรฐาน แต่ที่เซอร์ไพรส์ก็คือมินิมาการองอร่อยมาก! ชิ้นเล็กนิดเดียวแต่รับรู้ได้ว่าเนื้อนุ่มมาก อร่อยฝดๆ ชิ้นต่อมาคือ Lady Pinske (190 บาท) หนึ่งในตัวท๊อปของร้านเค้าแหละ แหม่ มาขนาดนี้แล้วต้องขอลองหน่อยล่ะ ชิ้นนี้หน้าตาผู้ดีมาก มูสขาวนวลทรงโดม ตัดกับสีแดงจากใบกุหลาบด้านบน ด้านล่างตรงฐานเป็นครัมเบิ้ล ดูสง่างาม น้อยแต่มาก เรียบแต่โก้ที่แท้ทรู อ่านคำอธิบายเค้าบอกว่าเป็น Almond Lychee Raspberry ซึ่งรสชาติคือละมุนมากกกกค่ะ มูสแทบละลายในปากไปเล้ย ด้านในมีไส้ลิ้นจี่ด้วย ปกติเป็นคนชอบทานแค่ลิ้นจี่สด ไม่ชอบรสปรุงแต่งเลย ทานชิ้นนี้แล้วกุ๊กไก่ได้รสชาติลิ้นจี่สดจริงๆ มีชิ้นเนื้อด้วย กลายเป็นว่าอร่อยไปเลย ประทับใจมากกก ดีงามสุดๆ ทานแล้วไม่เบื่อเลยค่ะ ชิ้นต่อมาเลือก St.Lucia (185 บาท) เพราะหน้าตาและสีสันอันจัดจ้านเนี่ยแหละ555 ชอบความครีเอทที่ใช้สีเขียวกับสีเหลืองทำให้มันดูน่าทาน ดูเป็น tropical fruity สุดๆ ชิ้นนี้คือมะม่วงและเสาวรสค่ะ รสชาติเปรี้ยวนิดๆ มีลาวาข้างในเยิ้มๆด้วย ทานแล้วตัดเลี่ยนจากชิ้นอื่นๆได้ดีเลยแหละค่ะ ชิ้นสุดท้าย พระเอกของงาน แน่นอนว่าจะพลาด Millefeuille (215 บาท) ไปได้ยังไงล่ะ เพราะเจ้านี่แหละถึงกับต้องโทรมาจองเค้กไว้ก่อนเพราะกลัวหมดตั้งแต่เที่ยงเลย😂 หน้าตาก็ดูหรูหราแบบเรียบๆ ไหนชิมดูซิจะอร่อยแค่ไหนเชียว พอชิมคำแรกเท่านั้นแหละ อื้อหือออออ ตื่นเลย55555 เพราะอร่อยมาก!!!! เอาจริงๆว้าวตั้งแต่ตอนตัดแล้วเพราะว่าตัดออกมาคือแป้งพายไม่แตกเลย! มาเป็นชิ้นเต็มๆคำ เข้าใจถ่องแท้เลยว่ามิลล์เฟยละลายในปากรสชาติเป็นยังไง ตัวแป้งกรอบมาก ครีมก็เบา นุ่มลิ้นสุดๆ ประทับใจชิ้นนี้มากจนซื้อกลับบ้านเพิ่มอีกชิ้นเลยแหละค่ะ😁😁😁😁😁 มีขนมแล้วก็ขอจิบชาเพิ่มอีกสักนิดเนอะ ชาที่นี่ราคาไม่แรง กุ๊กไก่เลยสั่ง Peony White Tea (กาละ 140 บาท) ชาหอม รสชาติสดชื่นสมเหมาะกับความสดใสยามบ่าย ชอบๆ สรุปเลยแล้วกัน ร้านสาขาอโศกจะเล็กนิดนึง แต่บรรยากาศดี เค้กน่าทานทุกชิ้นเลย เลือกไม่ได้เลยว่าจะทานชิ้นไหนดี เท่าที่เลือกมาทุกชิ้นคือประทับใจทุกชิ้นค่ะ Philip 70, Lady Pinske, St.Lucia และ Millefeuille ทุกตัวคือดีมากกกก หน้าตาดี ถ่ายรูปสวย รสชาติละมุนสุดๆ รักมิลล์เฟยที่สุด ยกให้เป็น top ขนมหวานที่ทานมาเลย ราคาแพงนิดนึงแต่ก็สู้ไหว พนักงานบริการน่ารัก ถามอะไรตอบได้หมด ชอบมาก ขอยกร้านนี้ให้เป็น top list ร้านเค้กที่ควรมาเลยค่ะ! 💕💕💕... อ่านต่อ
6 Likes0 Comment
photo