3.8
27 เรตติ้ง (16 รีวิว)
อาหารไทย฿฿฿฿฿
ปิดอยู่จะเปิดในเวลา 11:30
ศาลาริมน้ำ Mandarin Oriental, Bangkok
ของทานเล่น
ดื่มด่ำกับบรรยากาศเรือนไทยริมน้ำ พร้อมอร่อยกับบุฟเฟต์อาหารไทยตำรับชาววังได้ที่นี่เลยศาลาริมน้ำ – เรือนทรงไทยที่สร้างและตกแต่งอย่างวิจิตรงดงามด้วยสถาปัตยกรรมของทางภาคเหนือนี้เป็นหนึ่งในห้องอาหารของโรงแรม Mandarin Oriental ค่ะ ได้ยินชื่อเสียงมานานว่าที่นี่เสิร์ฟอาหารไทยแท้ๆระดับคุณภาพ เมื่อมีโอกาสเลยต้องขอมาลองดูซักทีค่ะ **-การเดินทาง-** วิธีเดินทางที่ได้บรรยากาศที่สุดคือการนำรถไปจอดไว้ที่โรงแรมโอเรียนเต็ล แล้วนั่งเรือที่ทางโรงแรมมีบริการให้ ข้ามฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยาไปถึงเรือนศาลาริมน้ำค่ะ แม้จะเป็นระยะทางสั้นๆใช้เวลาแค่ไม่กี่นาทีก็ถึง แต่ก็ได้โอกาสชมวิวแม่น้ำเจ้าพระยาแป๊บนึงนะ เรือของที่นี่เทียบท่านิ่งมาก แม้แต่ผู้สูงอายุก็ก้าวลงเรือได้สบายไม่น่ากลัวเลยค่ะ **-เวลาทำการ-** Buffet Lunch : 12.00 – 14.30 น. (ปิดวันพฤหัส) Dinner (Set Menu) : 19.00 – 22.30 น. (ปิดวันพฤหัส) ถึงจะดูว่าระบุเวลาเปิด-ปิดแน่นอนแบบนี้ แต่เอาเข้าจริงถ้ามีจัดงาน หรือมีทัวร์ลง ก็อาจจะปิดเป็นการเฉพาะกิจเป็นกรณีไป หรือไม่งั้นก็อาจเต็มได้ ฉะนั้นสมควรโทร.จอง ล่วงหน้าเป็นอย่างยิ่งค่ะ จะโทร. เข้าเบอร์กลางของโรงแรมคือ 02-659-9000 แล้วให้เค้าต่อสายให้ก็สะดวกดีค่ะ **-บรรยากาศ-** ศาลาหลังนี้ตั้งอยู่ริมแม่น้ำเจ้าพระยาสมชื่อ แค่ก้าวขึ้นจากท่าน้ำก็ประทับใจกับภาพศาลาหลังใหญ่สวยงาม กับสวนสวยภายนอกที่ปกคลุมด้วยแมกไม้ดูร่มรื่น หน้าศาลามีที่นั่ง outdoor สำหรับคนที่อยากนั่งรับลมแม่น้ำ ซึ่งเป็นบริเวณสำหรับคนที่สั่งอาหารแบบ a la carte เท่านั้น ส่วนภายในศาลาซึ่งเป็นห้อง buffet นั้นกว้างขวาง ตกแต่งด้วยของประดับและลวดลายแช่มช้อยแบบไทยๆ ที่นั่งแบ่งเป็นโซนโต๊ะห้อยขาลงใต้พื้นแบบขันโตกซึ่งจะอยู่ด้านใน และโซนที่นั่งที่เป็นโต๊ะ-เก้าอี้แบบปกติ ซึ่งจะมีทั้งโต๊ะที่อยู่กลางๆห้องใกล้บูธตักอาหาร และโต๊ะริมหน้าต่างมองเห็นวิวแม่น้ำซึ่งในบุฟเฟต์มื้อกลางวันจะจัดเป็นโต๊ะใหญ่มีเพียง 3 โต๊ะ ถ้าใครอยากได้โต๊ะโซนวิวสวยนี้เป็นพิเศษอาจต้อง request ไปตอนจองค่ะ ของเราจองล่วงหน้า 2 อาทิตย์และขอที่ริมหน้าต่างไว้ พนักงานก็จัดให้ตามที่ขอ.. ถูกใจสุดๆไปเลย **-อาหาร-** สำหรับมื้อเย็นของที่นี่จะเป็น set menu ซึ่งจะเปลี่ยนตามฤดูกาล สามารถดูเมนูได้ที่หน้า website ของโรงแรมค่ะ อย่างราคาของ summer set นี่อยู่ที่ 1,999 บาท/คน (ผู้ใหญ่) และ 1,700 บาท/คน (เด็ก) ไม่มี ++ สำหรับมื้อเย็นจะมีโชว์นาฏศิลป์ไทยด้วยนะคะ สำหรับ Buffet มื้อกลางวันนี้จะแบ่งเป็น 2 แบบ 2 ราคาค่ะ คือ... ● วันธรรมดา (ราคา 850 บาท/คน) – เป็นบุฟเฟต์ที่มีอาหารให้ตักทั้ง appetizer กับข้าว น้ำพริก ขนม และปิดท้ายด้วยชากาแฟซึ่งต้องสั่งกับพนักงานให้เอามาเสิร์ฟให้ร้อนๆ ราคารวมในบุฟเฟต์ค่ะ ● วันเสาร์-อาทิตย์ (ราคา 1,040 บาท/คน) – นอกจากจะมีบุฟเฟต์เหมือนวันธรรมดาแล้ว วันเสาร์-อาทิตย์ จะมีเป็นเมนูอาหารทะเลพิเศษ catch of the day ซึ่งจะหมุนเวียนเปลี่ยนไปเรื่อยๆในแต่ละอาทิตย์ค่ะ สำหรับวันที่เราไปนั้นเป็นเมนูหอย ประกอบไปด้วยหอยแมลงภู่นึ่ง หอยหวาน เสิร์ฟมาพร้อมน้ำจิ้มซีฟู้ดแซ่บใช้ได้ หอยสด ไม่มีคาวเลย ส่วนอีกเมนูเป็นผัดเผ็ดหอยลาย รสชาติดีแต่หอยลายตัวเล็กไปนิดนะ เมนูที่เป็น catch of the day นี้ให้สั่งกับพนักงานแล้วเค้าจะยกมาเสิร์ฟที่โต๊ะให้ ไม่ได้ให้เดินไปตักเหมือนอาหารอื่นๆค่ะ เมนูที่เป็น signature dish ที่เคยได้รางวัลของที่นี่จะมี กุ้งผัดพริกแดง และขนมจีบ ซึ่งเค้าว่าไม่ควรพลาด สำหรับเมนูที่เราลองไป นอกจาก catch of the day แล้วก็มีตามนี้ค่ะ ● กระทงทอง – ตัวกระทงกรอบอร่อย ไส้เป็นข้าวโพดผัดมีรสหวานจากข้าวโพดปนกลิ่นเครื่องเทศนิดๆอร่อยค่ะ ● ไก่สะเต๊ะ – เนื้อนุ่ม น้ำสะเต๊ะรสดีกลมกล่อม ชอบค่ะ ● ทอดมันกุ้ง – มาเป็นแบบก้อนเล็กๆพอดีคำ แม้จะหอมกลิ่นกุ้งแต่ไม่ได้ความรู้สึกแบบเนื้อกุ้งแน่นๆซักเท่าไร พอทานได้แบบเพลินๆค่ะ ● ข้าวเกรียบปากหม้อ ก๋วยเตี๋ยวลุยสวน – รสชาติกลางๆทั่วๆไป ● ไลน์น้ำพริก – จัดเรียงน้ำพริกสารพัดชนิดใส่ครกจิ๋วๆน่ารักสุดๆ มีถ้วยให้ตักแบ่งเรียบร้อยเพื่อไม่ให้ไปเลอะเทอะในจาน ส่วนผักแนมน้ำพริกมีทั้งผักสด ผักนึ่ง และชะอม+มะเขือชุบไข่ทอดค่ะ น้ำพริกที่นี่หลากหลายอลังการจริงๆ เท่าที่เห็นก็มี พริกขิงกรอบ น้ำพริกกะปิกุ้งแห้ง น้ำพริกไข่ปู กะปิคั่ว น้ำพริกมะขาม น้ำพริกอ่อง น้ำพริกหนำเลี้ยบ แต่ละอย่างรสชาติเข้มข้นแบบไทยแท้ๆ ถือว่าสอบผ่านฉลุยเลยค่ะ ● แกงเผ็ดเป็ดย่าง – แกงมาได้ในแบบที่ถูกใจสุดๆ คือแตกมันแยกชั้นสวยชัดเจน รสชาติกลมกล่อม เป็ดชิ้นหนานุ่ม และไม่ใส่สัปปะรด เห็นฝีมือแบบนี้แล้วแม้ว่าจะไม่ได้ตักแกงเขียวหวานไก่หรือมัสมั่นเนื้อที่อยู่ข้างๆกันมาลอง ก็เชื่อว่าน่าจะทำออกมาได้ดีเหมือนกันค่ะ ● กุ้งผัดพริกแดง (ที่ถาดเขียนกุ้งผัดพริกเกลือ น่าจะตัวเดียวกันค่ะ) – กุ้งตัวโตๆเนื้อแน่นสดอร่อย แม้จะผัดมาแห้งไปนิดเพราะอุ่นอยู่ในถาดร้อน แต่ก็ยังอร่อยถูกใจสุดๆสมกับเป็น signature dish ค่ะ เป็นเมนูที่ใครๆก็ตักกันทุกคนจนหมดถาดพนักงานต้องเอามาเติมทีเดียว ● ต้มยำกุ้ง – ชามนี้รสอ่อนไปนิดสำหรับเรา ท่าทางจะมีเอาใจฝรั่งบ้างเหมือนกันค่ะ ● ยำดอกแค ยำส้มโอ – อร่อยทั้งคู่ แต่ชอบยำดอกแคมากกว่านิดนึง เพราะรู้สึกว่ายำส้มโอน่าจะจี๊ดจ๊าดเปรี้ยวหวานได้มากกว่านี้น่ะค่ะ แต่ใส่กุ้งใส่หมูจัดเต็ม เรื่องวัตถุดิบนี่ไม่ให้เสียชื่อโอเรียนเต็ลจริงๆ ● ขนมเบื้อง / ขนมครก / มันทอด / กล้วยทอด – ขนมพวกนี้พนักงานจะทำสดๆร้อนๆเดี๋ยวนั้นอยู่ที่บูธ ขนมเบื้องมีทั้งแบบเค็มและหวานทำเป็นชิ้นเล็กพอดีคำ กรอบอร่อยจนต้องไปหยิบซ้ำรอบสอง ขนมครกก็อร่อยฟินสุดๆ ด้านนอกกรอบ ด้านในเนื้อเนียนเหลวแบบทานแล้วได้รสกะทิเข้มข้นไม่แป้งๆ สามารถเลือกได้ว่าจะโรยงา หรือโรยต้นหอม ทานกับกาแฟที่เสิร์ฟมาร้อนๆท้ายมื้ออาหารนี่เข้ากันดีจริงๆค่ะ ● ข้าวเหนียวมะม่วง – มะม่วงน้ำดอกไม้หั่นใส่ฝาครอบพลาสติกไว้ มีข้าวเหนียวปั้นเป็นก้อนเล็กๆอยู่ข้างๆกัน สำหรับเมนูนี้รู้สึกว่าข้าวเหนียวมูนออกเค็มนำไปนิด และ อ่อนรสหวานไปหน่อย อยากได้ข้าวเหนียวมูนที่นุ่มและหวานมันกว่านี้ค่ะ ● ข้าวเหนียวสังขยา – ข้าวเหนียวมูนของตัวนี้เป็นข้าวเหนียวดำ ใส่ถ้วยเล็กๆโปะสังขยาเล็กน้อย รสชาติปานกลางค่ะ ● ซ่าหริ่ม / ข้าวต้มน้ำวุ้น / ลูกตาลเชื่อม – จัดใส่จอกน้อยๆน่าเอ็นดูไว้ให้หยิบได้เลย รสชาติอร่อยสอบผ่านเลยล่ะ ● ชา / กาแฟ – สามารถสั่งจากพนักงานได้เลยค่ะ สั่งไปเป็น hot Americano และ hot cappuccino เสิร์ฟมาร้อนจี๋แบบต้มมาใหม่ๆทีเดียว แถมมีวุ้นกรอบและข้าวตอกชิ้นจิ๋วๆสีสันสดใสเสิร์ฟแกล้มมากับกาแฟด้วย ได้จิบกาแฟหลังมื้ออาหารพร้อมชมวิวริมหน้าต่างไปด้วยนี่ชีวิตดี๊ดีจริงๆ **-การบริการ-** ต้องยอมรับว่าการบริการที่นี่เค้าสุภาพและมืออาชีพจริงๆ ตั้งแต่การรับโทรศัพท์มาจนถึงบริการในห้องอาหารเลยล่ะค่ะ ดูพนักงานจะรู้จังหวะในการเข้ามาบริการลูกค้า กิริยามารยาทดีกันทุกคน การเติมอาหารที่หมดก็ว่องไว ประทับใจค่ะ โดยรวมแล้วอาหารที่นี่ใช้วัตถุดิบคุณภาพดี อาหารที่มีให้เลือกก็หลากหลายมาก (ยังเหลืออีกหลายอย่างที่ยังไม่ได้ลองเพราะอิ่มจนไม่ไหวแล้ววว...) รสชาติก็ดีใช้ได้เมื่อเทียบกับบุฟเฟต์ทั่วไป ถ้ารวมกับการบริการและสถานที่สวยๆกับวิวแม่น้ำแล้วก็เป็นประสบการณ์ที่น่ารื่นรมย์ครั้งหนึ่งเลยทีเดียว ถ้ามีโอกาสก็แนะนำว่าน่ามาลองซักครั้งค่ะ... อ่านต่อ
47 Likes0 Comment
photo