4.0
253 เรตติ้ง (167 รีวิว)
เปิดอยู่จนถึง 19:00
sala rattanakosin eatery and bar
วิวฝั่งพระนครจาก Roof top bar ยามค่ำคืน
รื่นรมย์กับมื้อรับอรุณ..พร้อมชิลล์กับบรรยากาศสดชื่นริมแม่น้ำเจ้าพระยายามเช้า..Life is good!โรงแรมศาลารัตนโกสินทร์ – boutique hotel เล็กๆในตรอกท่าเตียนบนถนนมหาราชนี้นอกจากจะออกแบบได้เก๋ไก๋มีดีไซน์แล้ว ยังขึ้นชื่อเรื่องวิวแม่น้ำเจ้าพระยาที่มองไปอีกฟากเห็นพระปรางค์วัดอรุณแบบเต็มๆเน้นๆงดงามที่สุดอีกด้วยค่ะ โดยทางโรงแรมจะแบ่งห้องอาหารเป็น 2 ส่วนคือ ● The Roof – เป็น open-air rooftop bar ที่อยู่ชั้นบนสุดของโรงแรม ขายเฉพาะเครื่องดื่มและของว่างเบาๆเหมาะกับจะมานั่งชิลล์จิบ cocktail ชมวิวแม่น้ำมากกว่าจะมาทานอาหารจริงจังค่ะ ● Eatery and Bar – ส่วนของห้องอาหารนี้มี 2 ชั้น คือชั้นล่างสุด (ชั้นเดียวกับ lobby) และชั้น 2 โดยแบ่งเวลาให้บริการเป็น 3 ช่วง (3 มื้อ) ตามนี้เลยค่ะ มื้อเช้า : 7.00-10.30 น. มื้อกลางวัน : 11.00-16.30 น. มื้อเย็น : 17.30- รับออร์เดอร์สุดท้าย 22.00 น. ทั้งนี้ทั้งนั้นถ้ามาตอนมื้อเย็นก็จะได้นั่งที่ชั้น 2 ซึ่งผนังด้านหนึ่งเป็นกระจกทั้งหมด ทำให้มองออกไปเห็นวิววัดอรุณอาบแสงสียามราตรีแบบเต็มๆตา โรแมนติกสุดๆ แต่สำหรับมื้อเช้านั้นจะเสิร์ฟที่ชั้น 1 ซึ่งมีพื้นที่ทั้งส่วนด้านในอาคารสำหรับคนกลัวร้อน และส่วนด้านนอกกลางแจ้งรับลมแม่น้ำสำหรับคนที่อยากจะ breakfast with a view ..ชมวิวแจ่มๆรับอรุณกัน ซึ่งครั้งนี้เราขอมาลองเป็นอาหารเช้าดูก่อนค่ะ **-อาหาร-** อาหารเช้าของที่นี่ไม่ใช่บุฟเฟต์เหมือนตามโรงแรมใหญ่ๆนะคะ แต่จะมีเป็นเมนูให้เลือกสั่งเป็นชุดเซ็ทซึ่งมีถึง 10 เซ็ทด้วยกัน ไล่มาตั้งแต่เซ็ท Spanish Omelette, Full English ที่เหมือนอาหารเช้าโรงแรมทั่วไป, Belgian Waffles สำหรับคนที่อยากทานหวานๆกันแต่เช้า , Egg Benedicts, Croissant and Cinnamon Pudding สำหรับคนรักเบเกอรี่…. ไปจนถึงเซ็ทอาหารไทยๆแบบข้าวมันไก่ ไข่เจียวปูราดข้าว และข้าวต้ม (The Chao Phraya Breakfast) โดยทุกเซ็ทจะมีขนมปังมาให้ทานก่อน 1 ตะกร้า พร้อมเนย-แยม และมีน้ำผลไม้กับกาแฟหรือชามาให้พร้อมสรรพ ทำกันสดๆเสิร์ฟถึงโต๊ะร้อนๆไม่ต้องเดินไปตักที่ไหน สนนราคาชุดละตั้งแต่ 190++ ไปจนถึง 340++ บาท (แต่ละชุดราคาไม่เท่ากันค่ะ) ซึ่งถ้าใครเป็นแขกของโรงแรมก็จะรวมไปในค่าห้องแล้วล่ะ ถ้าใครไม่อิ่มก็มีเป็น side menu ให้สั่งต่างหากได้อีกนะคะ สำหรับครั้งนี้เราได้ลองไป 2 เซ็ทตามนี้ค่ะ ● Khow Mun Gai – ก็ข้าวมันไก่เรานี่เอง แต่ทำแบบประณีต ใช้เนื้อของ free range chicken (คือไก่ที่ถูกเลี้ยงมาแบบให้ออกไปอยู่กลางแจ้งได้อย่างน้อยวันละครั้ง) เพื่อสุขภาพ มีผักเคียงพร้อมน้ำซุป – น้ำจิ้มครบครัน ลองชิมดูแล้ว ทำออกมารสชาติดีเลยทีเดียวค่ะ ข้าวมันนุ่ม หอม น้ำจิ้มก็จัดจ้านใช้ได้ ไม่ได้จืดชืดอย่างที่กลัว จัดว่าอร่อยสอบผ่านเลยล่ะ ● The Chao Phraya Breakfast (ราคา 240 บาท) – เมนูข้าวต้มที่สามารถเลือกได้ว่าจะเอาเป็นข้าวต้มหมู ไก่ หรือกุ้ง ซึ่งเราก็เลือกไปเป็นข้าวต้มกุ้งค่ะ ที่นี่ใช้ข้าวหอมมะลินำมาต้มเคี่ยวจนเข้าน้ำเข้าเนื้อกลมกลืนกับน้ำซุป เลยทำให้รสสัมผัสนุ่มนวลถูกใจ ข้าวไม่แยกเป็นเม็ดๆ และไม่กระด้าง รสชาติของน้ำซุปที่นี่จะเป็นรสอ่อนๆ เพราะต้องการให้ออกมาเป็นข้าวต้มแบบ 2-in-1 คือพอทานแบบข้าวต้มเครื่องจนเบื่อหรือจนกุ้งหมดแล้ว ก็สามารถนำข้าวต้มที่เหลือมาทานแบบข้าวต้มกุ๊ยเคียงกับยำกุนเชียง+ไข่เค็ม และผัดผักบุ้งที่ให้มาในเซ็ทได้ด้วย ต้องขอบอกเลยว่าเซ็ทนี้ถูกใจเราชนิดปลื้มปริ่มสุดๆ ยำของเค้ารสชาติจัดจ้านกำลังดี ผัดผักบุ้งทั้งสดทั้งกรอบเสริมรสด้วยพริกสดพอซู่ซ่าแถมโรยกระเทียมเจียวหอมได้ใจ เป็นมื้อเช้าที่ถูกจริตลิ้นคนไทยอย่างเรามากๆ..ชอบค่ะ สำหรับขนมปังที่ให้มานั้นเป็นแบบขนมปังแผ่น toast มาอุ่นๆ กับครัวซองท์ รสชาติโอเคตามมาตรฐาน น้ำผลไม้ของวันที่ไปจะเป็นน้ำส้มคั้น ส่วนกาแฟร้อนที่นี่ใช้ของ Segafredo ..หอมใช้ได้ตามมาตรฐานแบรนด์เค้า ถ้าใครเลือกเป็นชาร้อนแทนกาแฟ ของที่นี่จะใช้ยี่ห้อ Dilmah ค่ะ ครั้งนี้ความที่ลองไปแต่เซ็ทที่เป็นอาหารไทย ก็เลยไม่ได้ลองรสมือของครัวตะวันตกเค้าว่าเป็นยังไงบ้าง แต่เซ็ทที่ได้ลองไปนั้นถือว่าประทับใจทั้งในแง่รายละเอียด คือการเลือกใช้วัตถุดิบคุณภาพดี มีความพิถีพิถันในขั้นตอนการปรุง และในแง่ของรสชาติที่รักษาแบบฉบับไทยๆไว้ได้ดี ไม่ปรับรสเอาใจต่างชาติจนหมดอร่อยไปน่ะค่ะ การบริการของพนักงานก็ดูสุภาพน่ารักกันทุกคน แม้ว่าราคาจะดูสูงอยู่ซักหน่อยแต่ถ้าเทียบกับการได้มานั่งชิลล์ละเลียดอาหารเช้าอร่อยๆพร้อมดื่มด่ำกับบรรยากาศดีๆ วิวสวยๆ แถมได้นั่งทานสบายๆไม่ต้องเดินตักแบบบุฟเฟ่ต์ ..ก็ถือว่าคุ้มอยู่นะ ถ้ามีโอกาสก็น่าไปลองดูค่ะ... อ่านต่อ
70 Likes0 Comment
photo