4.1
138 เรตติ้ง (111 รีวิว)
ปิดอยู่จะเปิดในวันเสาร์ เวลา 09:00
เมนูของร้าน Vanida Bangkok ถนนจันทน์
อาหารไทย-เทศร่วมสมัย กินบรรยากาศสไตร์ข้ามกระจกทวิภพมาในยุควนิดา จะจูงมือครอบครัว เพื่อนหรือแฟนมาก็อินกับบรรยากาศละมุนใจครั้งนี้ได้รับเชิญจากวงในให้มาร่วมเปิดประสบการณ์ร้านใหม่ แต่บอกเลยว่าใหม่แต่ร้านเท่านั้น แต่ตัวบ้านที่นำมาทำเป็นร้านอาหารนี้มีอายุมากกว่า100ปี ซึ่งในสมัยรัชกาลที่ 6 เคยใช้เป็นศูนย์บัญชาการ สมัยสงครามโลก ทำให้ที่นี่ยังคงมีหลุมหลบภัยข้างล่าง ฮื้อออ แค่ฟังก็ตื่นเต้นได้อารมณ์ เข้าบรรยากาศร้านมากๆค่ะ ซึ่งร้านได้มีการรีโนเวทใหม่ทำให้รูปแบบออกหวานๆสไตร์ผู้หญิงๆที่มีความไทยคลาสสิค แต่บ้านยังเป็นโครงเก่า นำมาปรับสี พื้น ให้ดูเหมาะกับปัจจุบัน พอเข้ามาก้าวแรกก็ฟินกับบรรยากาศร้านเลยค่ะ มีมุมให้สาวๆถ่ายรูปได้เยอะเลย ส่วนชื่อร้านเป็นชื่อคุณแม่เจ้าของร้านที่ชื่นชอบในการทำอาหารให้ลูกๆทาน ซึ่งถ่ายทอดออกมาในอาหารเมนูต่างๆด้วย ที่ถูกปรุงและคิดค้นขึ้นมาแฝงความอบอุ่นใส่ใจ ขนาดผักผลไม้ต่างๆยังเป็นออแกนิกส์เลย ซึ่งเจ้าของร้านเนี่ยก็ไม่ใช่ใครที่ไหน เป็นเจ้าของเดียวกับร้าน April Bakery เจ้าเก่าชื่อดังนี่เองค่ะ วันนี้เราก็ได้ซื้อพายกลับบ้านด้วย อิอิ ••พิกัติ&บรรยากาศ•• พิกัติของร้านตั้งอยู่ที่ถนนจันทน์51 ซึ่งการเดินทางที่ง่ายสุดก็น่าจะขับรถมาค่ะ ที่ร้านมีที่จอดรถอยู่ได้ประมาณ 10 คัน ส่วนถ้าใครเดินทางสาธารณะ สถานีที่ใกล้ที่สุด คือ bts สะพานตากสินค่ะ แล้วจะเดินหรือต่อแท๊กซี่ก็ตามสะดวกแต่เดินจะไกลนิดนึง บรรยากาศร้านเรียกว่ากินขาดไม่ต้องเติมแต่งอะไรมากมาน ก็สวยหวานคลาสสิค แบบที่เรียกว่าใครได้มาเห็นก็ต้องหยิบกล้องมาถ่ายรูปกันอย่างแน่นอนค่ะ ••เมนูที่ทานวันนี้•• มาเริ่มกันที่ออเดิร์ฟเรียกน้ำย่อยเรียกน้ำลายเรียกน้ำย่อยกันก่อน อิอิ 1. ของว่างรวม (390 บาท) จานนี้ประกอบไปด้วยของทอดทานเล่นๆ 3 อย่าง ทอดดีไม่อมน้ำมันเลยค่ะ ได้แก่ - ปอเปี้ยะทอด ไส้กุ้งหมูใส่รวมกันมาในคำเดียวกัน ไส้แน่ผัดมีกลิ่นหอมอ่อนๆ - เผือกทอด ทอดแห้งๆกรอบทานกับน้ำจิ้มบ๊วยหวานๆหรือแบบโรยถั่วหอมๆก็เข้ากันดี - จ้อปู ที่สุดของความปูเป็นปูค่ะ ขาวๆแน่นๆเลย 2. truffle cheese toastie (320บาท) สำหรับใครสายอินเตอร์มาหน่อยลองเมนูนี้ค่ะ ทานง่ายๆดีเป็นขนมปังจี่กับกระทะจนหอมใส่ไส้เบคอนและชีสตรงกลาง มีซอสสูตรทางร้านทามาตรงกลางทำให้มีรสชาติอ่อนๆ 3. Quail Egg and truffle (290 บาท) อาหารเช้าของคุณหนูๆที่ทานง่ายๆ รสชาติเบาๆอ่อนๆ เหมาะสำหรับการเป็นอาหารเช้าได้เป็นอย่างดี ทามายองเนสท๊อปกับไข่นกกระทามาเป็นกิมมิกซ์เบาๆ แนะนำให้ทานตอนร้อนๆจะดีมากค่ะ Part ต่อมา คือ Mexican breakfastค่ะ สำหรับใครชอบทานรสชาติจัดขึ้นมาหน่อยเชิญมุงมาทางนี้เลยค่าาา เราชอบทุกเมนูเลยยย เริ่มจากจานแรก 4. Berritos ร้านใช้แป้งตอติญาห่อไก่ อโวคาโด ไข่ เบคอน เข้ากับผักสดๆ จานนี้ดีงามมากกกกก มีรสเผ็ดๆๆจากฮาลาปิโน่ที่ป้ายมาข้างๆเป็นซอสด้วย ทานแล้วน้ำลายพุ่งพล่าน ตื่นเลยค่ะ! ชอบสุดในมื้อคือจานนี้เลยค่ะ สดชื่นมากๆ 5. Quesadilla หรือก็คือที่เรารู้จักว่าเป็นพิซซ่าแม็กซิกันนั่นเอง ร้านนำเอาแป้งตอติญ่าอุ่นใส่กระทะ ใส่ไส้ที่ผัดคลุกเคล้ารสชาติหอมอร่อยชุ่มฉ่ำเครื่องปรุงแทรกรสชีสหอมเข้มข้น จานนี้ถูกใจมากเลยค่ะ เวลาทานก็ตักทานกับซัลซ่าช่วยดึงรสชาติและตัดเลี่ยนได้ดีเลย 6. Vanida’s benedicts 4.0 (320บาท) แน่นอนว่าสาวกเมนูคนตื่นสาย brunch เยิ้มๆที่ถูกใจหลายๆคน ไม่มีเมนูนี้บนโต๊ะคบไม่ได้55 ซึ่งก็ถือว่าร้านทำได้ดีตามมาตรฐานค่ะ ไข่เยิ้มๆทานกับขนมปังทานรสชาติเบาๆดี 7. Tuna mango salsa (290 บาท) พอไปฟากแมกซิกันแล้ว ใครสายเอเชียพาดไปทางญี่ปุ่นหน่อยๆแล้วลองเมนูนี้ค่ะ เป็นทูน่าซาชิมิเบิร์นไฟอ่อนๆคลุกเคล้างาดำ งาขาว สีสวยน่าทานท๊อปมากับมัม่วงน้ำดอกไม้หั่นเต๋าและซัลซ่า ทานแล้วสดชื่นๆดีแต่รสอาจจะอ่อนๆไปหน่อยสำหรับเรา 8. Aglio & olio crab มาต่อที่จานหนักขึ้นกันค่ะ จานนี้เป็นอีกจานที่เราประทับใจเลย เส้นแองเจลแฮร์สุกกำลังพอดีๆมีความหนุบหนึบๆใส่ปูแบบก้อนนนนนนจริงจัง เนื้อปูแน่นๆเลย ปรุงรสชาติผัดหอม รสเข้มๆมีแทรกรสเผ็ดและหอมจากพริกแห้ง ดีงามค่ะ 9. White prawn จานขวัญใจของใครหลายคนรวมทั้งเราด้วยยย มีความครีมมี่ ที่ทานแล้วก็ไม่เลี่ยน อร่อยหอมมันถูกใจ มีเทคเจอร์ของกุ้งเต็มๆตักทานกับขนมปังด้านล่าง ทานอยู่ท้องค่ะ 10. Cavocado (420 บาท) จานนี้เป็นการนำอโวคาโดบดหยาบๆเข้ากับเนื้อปูที่เห็นแล้วต้องบอกเลยว่าสมราคามากกกๆวัตถุดิบแน่นเต็มปากเต็มคำ ตักทุกคำปูทุกคำเลย หอมมันปูและอโวคาโดที่ซู๊ดดดดด เข้ากันดีมากๆเลยค่ะ สำหรับร้านไทยๆแบบนี้ก็ต้องมาแนะนำอาหารไทยกันสักหน่อยค่ะ เริ่มจาก 11. น้ำพริกวนิดา เมนูเสริฟมาแบบน่ารักในกระชอมเล็กๆตักทานคลุกข้าว รสชาติไม่เผ็ดมาก ถ้านำผักมาทานด้วยน่าจะดีมากค่ะ แต่ที่ทานวันนี้ไม่เห็นเสริฟผักนะ 12. แกงปูใบชะพลู (490บาท) จานนี้ปูเป็นปู แกงหอมเตะจมูกมาก ตอนถือตักถ่ายรูปแทบอยากตักเข้าปากเลย555555555 แล้วในที่สุดเราก็พลาด อดทาน5555เพราะ รู้ตัวอีกทีก็หมดลงอย่างไวเลยค่ะ แหะๆ 13. เนื้อวากิวย่างจิ้มแจ่ว (1,290 บาท) จานนี้เป็นจานพรีเมียมสำหรับสายเนื้อค่ะ เนื้อย่างได้แห้งแต่ดูหนานุ่มดีทานกับแจ่วสไตร์ไทยๆเคียงกับผักสด แต่เราไม่ทานเนื้อเลยไม่ได้ชิม 14. Vanida’s evening healthy plate with kurobuta pork (490บาท) จานนี้เสริฟมาจัดเต็ม จานใหญ่ ผักหลากหลายมวากกกกก สีสวย แบบน่าทานสุดๆๆค่ะ หน้าตาคือ แหนมเนืองเลย555 แต่ผักสไตร์ไทยๆหน่อย มีทั้งดอกขจร แอปเปิ้ลเขียว แอปเปิ้ลแดง อโวคาโด หมูยอ เส้นหมี่ กะหล่ำม่วง มะเขือเทศ เวลาทานห่อใส่แป้งแบบแหนมเนืองที่มีให้ทาน2 สีทั้งแบบสีขาว และสีม่วงที่ทำมาจากไรซ์เบอรี่ ใส่หมูย่างคุโรบูตะราดน้ำจิ้มซีฟู๊ต ทานไปห่อไป อิ่มเลยนะคะจานนี้55555 ทานแล้วสดชื่น รู้สึกสะอาด ไม่รู้สึกผิด (หลังจากที่ทานมา 10 กว่าจาน5555555) (จานนี้สำหรับคนทานเนื้อสามารถเปลี่ยนเป็นเนื้อออสเตรเลียได้ค่ะ ราคาจะเป็น 790 บาท) จบท้ายมื้อแล้ววว ต้องมีเมนูขนมทั้ง 2 สไตร์ให้เลือกทานกัน 15. Red velvet cake มีความครีมชีสเปรี้ยวอมหวาน กลิ่นหอมละมุน แป้งเค้กเบาและนุ่มใช้ได้ค่ะ 16. Banoffee ใครชอบหวานละมุนใจด้วยคาราเมลกล้วยแล้ว ลองดูได้ค่ะ รสชาติดีตามมาตรฐาน แต่เราชอบฐานที่กรอบๆสักหน่อย ส่วนที่นี่จะทำคุกกี้แบบแน่นๆไม่ค่อยกรอบ 17. ข้าวเหนียวดำเปียก (90บาท) เมนูโปรดเค้าาาเลยย ข้าวเหนียวนุ่ม หอมข้าวเหนียวดำ มีเทคเจอร์กรึบๆเข้ากับน้ำกะทิหอมมันๆดีงามค่ะ 18. เผือกบวช (90 บาท) เมนูนี้ทานง่ายๆค่ะ เผือกต้มนุ่มๆไม่เละในน้ำกะทิ หวานๆไม่มันมาก น้ำกะทิจะใสๆหน่อย ถ้าเพิ่มรสชาติกว่านี้น่าจะดี แบบใส่เกลือให้เข้มขึ้นหน่อยอะไรแบบนี้ 19. ข้าวเหนียวทุเรียน (150 บาท) ใครกลัวกลิ่นหลบไปเลยย5555 เดี๋ยวดิฉันทานให้🤣😆😅 ข้าวเหนียวนุ่มใช้ได้เลยค่ะ ทุเรียนก็ไม่เละเกินไป หอมหวานใช้ได้ตามมาตรฐาน แต่เทียบกับราคาถือว่าสูงนิดหน่อย สำหรับเครื่องดื่มที่ร้านมีบริการมีความหลากหลายมากค่ะ ทั้ง afternoon tea, น้ำผลไม้, สมูทตี้,คอกเทล,ชานม ที่เราทานวันนี้ คือ 20. Mixed berry smoothie (160 บาท) เปรี้ยวหวาน หอมเบอรี่แน่นๆเลยค่ะ สวยด้วยอร่อยด้วย ใส่เนื้อเบอรี่ท๊อปมาแบบไม่หวงของเลย จริงๆก่อนเริ่ม tasting เรามาถึงร้านก่อน เลยแอบสั่ง 21. vanida thai milktea cream brulee ทานกับพายของทางร้านก่อน555555 คือ มาแล้วหิว🤣🤣🤣 ซึ่งชาไทยที่นี่หอมมันอร่อยสุดๆ หอมชากำลังพอดี ตัวไข่มุกเหนียวนุ่มมมากๆ ดีงามพลีกายอ้วนเลยค่ะ อิอิ ร้านวนิดาเป็นร้านที่เหมาะกับหลากหลายโอกาส และในร้านเดียวมาทานแตกต่างกันในแต่ละเวลาก็ได้สุนทรียภาพคนละอารมณ์เลย ถ้ามาทานช่วง 08:00-15:00 เป็นอาหารเช้าสไตร์ brunch สวยๆ ส่วนหลังจากนั้นจนเที่ยงคืน เป็นอาหารไทยโบราณและสเต๊กต่างๆกว่า 100 เมนู ส่วนเวลาทำการของที่ร้าน ในวัน อาทิตย์-พฤ ร้านจะ ปิด4ทุ่ม ส่วนวันศุกร์-อาทิตย์ และวันหยุด เปิดบริการถึงเที่ยงคืนเลยค่ะ ร้านมีที่นั่งค่อนข้างเยอะ แต่แนะนำให้โทรสำรองที่นั่งก่อนเข้ามาทานค่ะ เพราะ ร้านน่าจะเป็นร้านที่นั่งกันยาวๆ เคลิบเคลิ้ดเพลินบรรยากาศชิวๆ โดยเฉพาะช่วงค่ำ จะมีดนตรีสดคลาสสิคไวโอลิน เปียโนมาเต็ม สำรองที่นั่งไว้ก่อนจะได้ไม่รอนานค่ะ อิอิ ส่วนตัวรู้สึกประทับใจกับทั้งอาหารตา อาหารปากเลยค่ะ การบริการก็เป็นกันเองน่ารัก เมนูมีความประยุกต์ทั้งไทยและเทศลงตัว แปลกใหม่ สไตร์ร้าน 5 ดาว ในราคารับได้ คุณภาพวัตถุดิบจัดเต็ม มี่สำคัญส่วนตัวเราชอบทานผักๆผลไม้ๆอยู่แล้วที่นี่มีหลายเมนูให้เลือกทาน แถมสะอาด ออแกนิกส์ ทานสบายใจ ด้วยรสชาติที่ไม่ใช่แบบจืดๆคลีนๆ ชอบมากค่ะ... อ่านต่อ
4 Likes0 Comment
photo