- หน้าแรก
/
- รูป ห้องอาหารพูนเลิศ เหลาะงาทิ้น ห้าแยกพลับพลาไชย
บรรยากาศ
ตำนานข้าวหน้าไก่สืบต่อร่วมศตวรรษ ร้านต้นตำรับต้องที่นี่ห้าแยกพลับพลาไชย บรรยากาศออกขลังๆ เมนูอาหารจานเดียวก็มี (4.5)ร้านนี้เท่าที่ผมมีความทรงจำในวัยเด็กเหมือนที่บ้านจะเคยพามาทานอยู่ครับ หลังจากนั้นก็ไม่ได้มาทานที่ร้านอีกเลยแต่ก็มีซื้อใส่ห่อกลับมาทานที่บ้านบ้าง หลังจากผมย้ายออกไปอยู่นอกเมืองเลยไม่มีโอกาสได้แวะทานที่ร้านอีกเลย เพราะด้วยที่ตัวร้านเค้าเองเปิดถึงแค่ช่วงบ่ายๆก็หมดปิดร้านแล้ว ไม่ได้ขายช่วงเย็นๆ
พอดีมีวันหนึ่งผมได้มาติดต่องานคุยธุระกับบริษัทตัวแทนอะไหล่รถยนต์ย่านยศเสพอดี เสร็จประมาณเที่ยง เลยไม่ลังเลเดินมาทานที่ร้านเลยครับ พอดีมีที่จอดรถแถวๆบริษัทที่ผมไปติดต่องานพอดีเลยสะดวกเข้าไปอีก เพราะแถวๆร้านตรงห้าแยกหาที่จอดยากมากครับ เพราะย่านนี้เป็นร้านค้าเก่าแก่ของคนจีน ช่วงวันธรรมดาเค้าก็เปิดร้านหรือบริษัทกันตามปกติ พอจะหาที่จอดได้หน่อยต้องเป็นช่วงเย็นๆหรือดึก ซึ่งร้านนี้ปิดไปแล้วครับ
[ประวัติเกี่ยวกับร้าน:]
คงสงสัยครับ ชื่อร้าน “เหลาะงาทิ้น” คือใคร จริงๆคือเจ้าของสูตรข้าวหน้าไก่คนแรก เป็นสูตรจากเมืองจีน ที่เริ่มเดินหาบขายโดยการเป่านกหวีดเรียกลูกค้าละแวกพลับพลาไชยตั้งแต่ช่วงก่อนสงครามโลกครั้งที่ 2 พอขายดิบขายดีมากลูกค้าชอบเลยขยายมาเปิดเป็นเพิงก่อน เรียกญาติจากเมืองจีนมาช่วยขาย ซึ่งญาติที่ว่าก็คืออากงของเจ้าของร้านปัจจุบัน รุ่นที่ 3 แล้วครับ ขยับขยายเปิดเป็นร้าน 3 คูหาในที่ปัจจุบัน แล้วจดเป็น หจก. (อาจเป็นไปด้วยเพราะรายได้และยอดขายที่เยอะขึ้นมาก) ปัจจุบันเจ้าของรุ่นที่ 2 ผมเห็นเค้าช่วยเหลือที่ร้านอยู่เลยคอยจัดออเดอร์ต่างๆคุมลูกน้อง ตอนที่ผมไปครับ
เห็นที่ข้อความจากเจ้าของร้านเขียนว่า ร้านข้าวหน้าไก่ห้าแยกที่เป็นต้นตำรับจริงๆมีแค่ 2 สาขา คือ ตรงห้าแยกนี้ กับ ในศูนย์อาหารของโรงพยาบาลกรุงเทพ ซอยศูนย์วิจัย ผมไปค้นให้แล้วตรงใน รพ.กรุงเทพ เป็นของพี่ชายเจ้าของร้านรุ่นที่ 3 ปัจจุบันตรงห้าแยกครับ พอดีเค้าแยกเข้าไปทำงานในสายการบินบางกอกแอร์เวย์ ซึ่งมีเครือข่ายร้านอาหารภายในบริเวณโรงพยาบาลนี้นั่นเองครับ ส่วนร้านอื่นๆที่ใช้ชื่อว่าข้าวหน้าไก่ห้าแยกพลับพลาไชย ประมาณว่าเป็นลูกน้องที่เคยทำงานที่ร้านแล้วลาออกไปเปิดร้านเอง ซึ่งทางร้านเค้าก็ไม่ได้ปิดสูตรอะไรครับ แต่ถ้าอยากทานและได้บรรยากาศแบบดั้งเดิมต้องที่ห้าแยกนี้เท่านั้น
[พิกัดร้าน:]
อธิบายสั้นๆครับว่าอยู่ริมถนนแถวห้าแยกพลับพลาไชยเลย ติดกับปราสาททองครับ ฝั่งที่จะวิ่งไปเจอสี่แยกโรงพยาบาลกลาง
[บรรยากาศร้าน:]
ดูตามรูปด้านล่างรีวิวนี้เลยครับ บรรยากาศประมาณห้องอาหารหรือภัตตาคารจีนโบราณเปิดมานานหลายสิบปี เห็นได้ตามย่านเยาวราชหรือในเกาะเมืองพระนคร สำหรับที่ร้านนี้ผมว่าดูน่านั่งดีนะครับ สะอาด เป็นระเบียบดี มีพนักงานใส่ชุดฟอร์มของร้านด้วยสีแดงๆ (ตอนที่ผมไป) ทำงานเป็นระบบดี ทั้งส่วนในครัวและส่วนให้บริการ กำแพงร้านมีแขวนพวกรูปภาพที่เป็นความเป็นมาของร้านและบทความจากสื่อต่างๆที่เป็นหนังสือพิมพ์เก่าๆ ดูขลังมากๆ โดยเฉพาะรูปวาดที่เป็นคนหาบข้าวหน้าไก่ขายซึ่งก็คือ เหลาะงาทิ้น เจ้าของสูตรคนแรกในไทย
[เมนูอาหารและที่สั่ง:]
Signature ร้านคงไม่พ้น #ข้าวหน้าไก่ หรือจะสั่งเป็น บะหมี่หน้าไก่ (น้ำราดเดียวกัน) หรือจะเป็นอาหารจานเดียวจานด่วนเช่น โกยซี่หมี่ ข้าวหมูแดง ข้าวผัด ข้าวกะเพรา หรือจะเป็นเมนูตุ๋นใส่ถ้วยกระเบื้องแบบจีนๆ ราคาเริ่มต้น 50 บาท ผมว่าไม่แพงเลยครับสำหรับอาหารและบรรยากาศ ครั้งนี้ที่ผมมานั่งทานที่ร้านเลยสั่งมา 2 อย่าง ให้หายอยากเลยมี
• บะหมี่หน้าไก่ พิเศษ (60 บาท) ขอพูดถึงส่วนประกอบหลักและเป็นตัวที่ทางร้านทำได้ดีมากอร่อยจริงๆ คือ น้ำราดครับ รสชาติกลมกล่อมดี ไม่เค็มและไม่หวานเกินไป ผมเหยาะแค่ซอสเปรี้ยวหรือจิ๊กโฉ่วลงไปแค่นั้นอร่อยแล้วครับ ตัวน้ำราดเค้าทำได้ดีมากเลยคือเคี่ยวหรือคนจนแบบไม่มีแป้งมันเกาะเป็นก้อนเหนียวๆใสๆให้เห็นเลย และตัวน้ำราดก็ดูเข้มและเหนียวข้นกำลังดี สีไม่เข้มมาก (สีเข้มมาจากพวกซีอิ๋วหรือน้ำมันหอย) ส่วนตัวเนื้อไก่เค้าน่าจะใช้ส่วนสะโพกหั่นเป็นลูกเต๋า พอดีคำเล็กๆ ชิ้นไม่ใหญ่มาก ราดมาบนเส้นบะหมี่ไข่เล็กๆเลยดูน่าทานมากครับ
• มะระซี่โครงหมูตุ๋น (50 บาท) ตัวมะระตุ๋นมาได้กำลังดีเลยครับ ไม่นิ่มเละไป ไม่แข็งไป ส่วนกระดูกหมูผมว่าอาจยังไม่ค่อยร่อนเท่าไหร่และออกจืดๆ ส่วนน้ำแกงตุ๋นไม่มีติดความขมจากตัวมะระเท่าไหร่ ซดได้สบายๆเลยครับ ปริมาณดูตอนแรกเหมือนน้อย ตักลงไปซี่โครงหมูเยอะเลยหลายชิ้นครับ
น้ำแข็งเปล่าร้านนี้ถ้าไม่บอกเอาน้ำเปล่าเป็นขวด จะมาเสิร์ฟเป็นชาจีนใส่น้ำแข็ง หอมๆดูสะอาดดี เหมือนตามร้านอาหารจีนเก่าๆ
สรุป 4.5 ดาวครับ เป็นร้านในตำนานอีกร้านที่ไม่ควรพลาดครับ สำหรับผมที่เน้นมาทานถึงที่ร้านเพื่อให้ได้บรรยากาศร้านจริงๆ ชอบเลยครับ ไม่ได้มานานมากจนจำไม่ได้แล้ว รสชาติอาหารถูกปากดีสำหรับ 2 อย่างที่สั่งมา ถึงแม้ว่าด้านนอกป้ายร้านจะเขียนว่าห้องอาหาร อาจทำให้เราคิดว่าน่าจะแพง แต่จริงๆไม่แพงเลยครับ เริ่มต้น 50 บาทเท่านั้น ว่าทำไมลูกค้าเยอะมากครับทั้งขาประจำที่เป็นเหมือนเฮียเจ้าของร้านต่างๆละแวกนั้นหรือขาจรอย่างผม เสียอย่างเดียวคือหาที่จอดยากไปหน่อยแนะนำใช้บริการพวก Food Delivery ก็ดีครับ การบริการก็เป็นระบบรวดเร็วดี รสชาติอาหารสมกับเป็น “ข้าวหน้าไก่เจ้าแรกของเมืองไทย”
42 Likes0 Comment
