4.4
289 เรตติ้ง (167 รีวิว)LMWN Users' Choice 2023
ปิดอยู่จะเปิดในเวลา 18:00
UMENOHANA นิฮอนมูระมอลล์
scone ฝีมือคุณอ้อเป็นของหวานปิดงาน ไม่คิดว่าจะกินหมดเพราะอิ่มมากๆๆ ขอบคุณคร้าบบบ
เทศกาลปูขนสุดอลังการ ณ Umenohana Nihonmuraอย่างแรกต้องขอขอบคุณทางวงใน และร้าน Umenohana มากๆ สำหรับประสบการณ์ดีดีในครั้งนี้ค่ะ สำหรับร้าน Umenohana ตั้งอยู่ในทองหล่อซอย 13 ในโครงการ Nihonmura ชั้น 2 โดยเมื่อเข้าไปภายในร้านจะมีพนักงานคอยต้อนรับ ให้เราถอดรองเท้า แล้วเดินไปตามเสื่อทาทามิ น้องพนักงานบริการดีมากๆ ก่อนเข้าไปในห้องจะขออนุญาตทุกครั้ง สำหรับห้องที่ไปกินวันนี้เป็นแบบนั่งหย่อนขา เบาะรองนั่งสบายสุดๆ สารภาพเลยว่าไม่เคยกินอาหารญี่ปุ่นแนวนี้มาก่อน การเสิร์ฟอาหารของที่นี่จะเป็นแบบจานต่อจาน หรือที่เรียกว่า Kaiseki สำหรับพระเอกของวันนี้จะเป็น Kegani หรือปูขน ซึ่งเป็นปูที่หากินได้ช่วงฤดูหนาวตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน – มกราคม แต่ทางร้าน Umenohana ต้องการให้ลูกค้าได้กินปูขนก่อนใคร ถึงช่วงนี้ปูขนจะหาจับยาก แต่ทางร้านก็ยืนยันว่ารสชาติของปูก็อร่อยเหมือนปกติค่ะ สำหรับคอร์สที่กินวันนี้จะเป็น IRODORI ซึ่งประกอบด้วย 1. Mineoka tofu topped with fresh Uni เมนูนี้จะเป็น appetizer ถึงชื่อจะเป็นเต้าหู้ (tofu) เพราะรูปร่างหน้าเหมือนเต้าหู แต่จริงๆ แล้วทำมาจากนมและครีมสด โดยทางร้านมีสูตรพิเศษใส่ไข่หอยเม่น หรือ Uni ไว้ด้านบน กินคู่กับวาซาบิและซอสที่ใส่มา สำหรับเมนูนี้ ทางร้านจะเพิ่มไข่หอยเม่นมาเพื่อเพิ่มความพิเศษให้กับคอร์สนี้ เพราะปกติจะเป็น Mineoka tofu ที่ทำจากนมและครีมสดเช่นกัน แล้วราดด้วยซอสส้ม สำหรับ Mineoka tofu topped with fresh Uni อร่อยมากๆ เลยค่ะ ตัว tofu รสชาติจะหอมหวาน เข้มข้น เนื้อจะเหมือนเยลลี่ คือสามารถใช้ตะเกียบตัดและคีบกินได้ไม่เละ ส่วนไข่หอยเม่นก็ไม่มีความคาวเลยสักนิด คือเป็นแนวๆ ของหวานที่กินคู่กับของคาวได้ลงตัวมากๆ เข้ากันมากกับตัว tofu ไข่หอยเม่น วาซาบิ แล้วก็ซอสที่ราดมา ส่วนเมนู Mineoka tofu ที่ราดมาด้วยซอสส้มทางร้านก็เอาให้ชิมค่ะ อร่อยลงตัวมากๆ เหมือนกัน แต่จะอร่อยกันคนละแบบกับอันแรก สำหรับ 2 เมนูนี้ให้ 5 คะแนนเต็ม 2. Steamed abalone with Kimo miso เมนูนี้จะเป็นหอยเป๋าฮื้อนึ่ง ราดด้วยซอสสีเขียวๆ ซึ่งเป็นซอสสูตรของทางร้าน แปะมาด้วยใบ kinome ด้านล่างจะรองมาด้วยสาหร่ายไว้กินคู่กัน เมนูนี้เด็ดตรงที่หอยเป๋าฮื้อตัวโต กัดเข้าไปเหนียวนิดๆ เนื้อจะกรึบๆ เข้ากับซอสสูตรของทางร้านมากๆ เมนูนี้ให้ 5 คะแนนค่ะ 3. Steamed egg custard Kani sauce เมนูไข่ตุ๋นที่มีแปะก๊วย กุ้ง โมจิ แล้วเพิ่มความพิเศษให้กับเมนูนี้ด้วย Kani sauce ซึ่งจะเป็นน้ำราดลักษณะใสๆ หนืดๆ ที่มีส่วนผสมของเนื้อปู ไข่ตุ๋นและ Kani sauce รสชาติออกไปทางหวานๆ หน่อย กินคู่กับกุ้ง แปะก๊วย แล้วก็โมจิ แต่แปะก๊วยขมนิดนึงที่ปลายลิ้น ส่วนไข่ตุ๋นกวาดเกลี้ยงเลย กลัวเค้าจะล้างลำบาก เมนูนี้ให้ 4.5 คะแนนค่ะ 4. Sashimi เมนูนี้เสิร์ฟมาสวยงาม อลังการ แต่ขอไม่ออกความคิดเห็นนะคะ พอดีส่วนตัวไม่ชอบกิน sashimi แต่คุณฝ้าย กับคุณท๊อปบอกว่าเนื้อปลาสดมากๆ คร่า 5. Kegani มาถึงพระเอกของวันนี้เป็น Kegani หรือปูขน ซึ่งจะมีให้เลือกกิน 3 แบบ - Kegani Seiro Mushi จะเป็นแบบนึ่ง ซึ่งจะมาทั้งหม้อนึ่งเลย นึ่งประมาณ 2 – 3 นาที (จำเวลาที่แน่นอนไม่ได้แต่ไม่เกิน 5 นาที) ก็จะมีน้องพนักงานเอามาเสิร์ฟให้ค่ะ - Kegani Sumibi Yaki จะเป็นแบบย่างบนเตาถ่าน ซึ่งแบบนี้จะเป็นแบบที่ทางร้านแนะนำ เพราะจะได้กลิ่นหอมๆ ของปู กลิ่นไหม้ๆ ของขนปู เค้าบอกว่าเวลากินจะฟินเป็นพิเศษ ซึ่งปูขนก่อนที่จะเอาไปลงบนเตาถ่านจริงๆ เค้าจะทำให้สุกมาแล้ว ซึ่งก็สามารถกินได้เลยค่ะ แต่ถ้าจะนำไปย่างก็ย่างไม่นาน แนะนำให้รีบเอาลงมาพักไว้บนจานเลย ย่างไว้บนเตาถ่านนานๆ เนื้อปูจะแห้งไปค่ะ - Kegani Su จะเป็นแบบเย็น อันนี้เค้าบอกว่าจะเสิร์ฟมาบนน้ำแข็งเลย แต่ไม่ได้ชิม เมนูปูขนนี้เป็นอะไรที่เด็ดมาก เค้าจะแกะมาให้เราครึ่งนึง ส่วนอีกครึ่งก็ไปแงะ แคะกันเอาเอง แต่ไม่ยากค่ะ เนื้อปูเยอะดี แต่รสชาติจะไม่หวานเท่าปูบ้านเรา (ปูม้า, ปูแม่น้ำ) ทั้งแบบนึ่งแล้วก็ย่าง ส่วนมันปูนี่เด็ดมาก หวาน มัน นั่งแคะกระดองกันเลยทีเดียว อร่อยมากๆ ให้ 4.5 คะแนนค่ะ สำหรับทั้งแบบนึ่งและแบบย่าง 6. Kuroge Wagyu Yogan Yaki เมนูนี้จะเป็นเมนูในคอร์ส คือจะเป็นเนื้อย่างบนเตาหินร้อนๆ แต่ส่วนตัวไม่กินเนื้อ ทางร้านเลยเปลี่ยนให้เป็น Kaisen Yogan Yaki (ถ้าชื่อผิดต้องขออภัยด้วยค่ะ) จะประกอบไปด้วยกุ้ง ก้ามปูซูวาอิ (zuwai) หอยเซลล์ มันฝรั่ง ถั่วหวาน แล้วก็พริกหวาน โดยเริ่มจากเอา garlic butter ละเลงบนเตาหิน แล้วก็นำทั้งหมดไปย่าง เมื่อน้องพนักงานมาเสิร์ฟก็ให้ย่างเลยก่อนที่หินจะหายร้อนค่ะ เนื้อกุ้งรสชาติปกติค่ะ ส่วนหอยเซลล์ก็นุ่มมาก (ไม่รู้ว่าสุกรึเปล่า แต่ก็ฟินมาก) ส่วนก้ามปูซูวาอิ นุ่มแล้วก็หวานอร่อยมากๆ สำหรับเมนูนี้ให้ 4 คะแนนค่ะ 7. Kani Chirashi sushi เมนูนี้จะเป็นข้าวหน้าปู ผสมมากับไข่ปลาแซลมอน ไข่หวาน เห็ดหอม รากบัว ซึ่งตัวข้าวของร้านอร่อยมาก กินคู่กันทั้งหมดแบบว่าเข้ากันดีเลยทีเดียว โดยปกติส่วนตัวจะไม่กินไข่ปลาแซลมอนเลยเพราะคาวมาก แต่ไข่ปลาแซลมอนนี่ไม่คาวเลยสักนิด อร่อยมากๆ เลยค่ะ เมนูนี้ให้ 5 คะแนนเลย 8. Kegani Miso soup เมนูนี้เสิร์ฟมาพร้อมกับ Kani Chirashi จะเป็นซุปปูขน น้ำซุปรสชาติเข้มข้นออกไปทางเค็ม ไม่เหมือนซุปมิโซะที่เคยกินมา เมนูนี้ให้ 4 คะแนนค่ะ 9. Dessert จะมีให้เลือก 2 แบบค่ะ คือ Mineoka Fruits กับ Tofu Pudding - Tofu Pudding สำหรับถ้วยนี้แนะนำเลยว่าห้ามพลาด เป็นเนื้อ Tofu ที่ทำจากครีมสดและนมเหมือนเดิม แต่นี่จะราดด้วยอะไรสักอย่างคล้ายๆ คาราเมล และโรยมาด้วยผงถั่วบดๆ แบบถ้วยนี้อร่อยมากๆ เลยค่ะ ให้ 5 คะแนนเต็มเลยอ่ะ ห้ามพลาด - Mineoka Fruits ถ้วยนี้จะเป็น Tofu เหมือนเดิมที่ทำจากครีมสดและนม แต่จะมาพร้อมกับผลไม้ คล้ายๆ เต้าฮวยฟรุ๊ตสลัด อันนี้รสชาติจะเบาๆ เบามาก ถ้าเทียบกับ Tofu pudding อันนี้ให้ 4 คะแนนค่ะ ในร้านส่วนใหญ่จะเป็นห้องส่วนตัวค่ะ ถ้าจะไปกินแนะนำให้โทรไปจองก่อน สำหรับวันนี้ประทับใจมากๆ เลยค่ะ อาหารอร่อยมากๆ การบริการดีเลิศ บรรยายกาศพิเศษสุดๆ... อ่านต่อ
36 Likes0 Comment
photo