3.7
123 เรตติ้ง (104 รีวิว)
ปิดอยู่จะเปิดในเวลา 17:00
EST.33 By Singha คริสตัลดีไซน์เซ็นเตอร์
วันนั้นเมนูที่ทำโดยซอสต๊อดฝีมือเชฟคนนี้คืออร่อยหมดวันนี้จะพาไปกินอีกหนึ่งร้านที่เคยไปกินเองและรีวิวแล้วที่สาขาอื่นนะคะ คราวนี้ได้ไปลองกินที่สาขาคริสตัลดีไซน์เซนเตอร์ หรือที่เรียกกันสั้นๆ ว่า CDC เลียบด่วนรามอินทรากันบ้างค่ะ กับร้าน EST.33 นั่นเองงงงง สำหรับพิกัดของร้านก็อยู่ในซีดีซีเลยนะคะ เลี้ยวเข้าไปแล้วชิดทางซ้ายมือ ร้านจะอยู่โซนฝั่งซ้ายติดถนนหลักของโครงการเลยค่ะ เราไปกันตั้งแต่ราวๆ 18.30 น.ค่ะ ร้านนี้แต่เดิมจะมีสองโซนคือโซนไวน์กับโซนเบียร์นะคะ โดยถ้าหันหน้าเข้าทางร้าน โซนไวน์อยู่ทางซ้ายมือค่ะ แต่โซนเบียร์จะอยู่ด้านในนะคะ โดยตรงกลางจะมีจุดสำหรับวงดนตรีเล่นสด และมีน้ำพุสร้างบรรยากาศชิลล์ๆ สบายๆ ด้วยนะคะ ส่วนเวลากลางคืน ก็จะเป็นอีกบรรยากาศเลยหละค่ะ ซึ่งในส่วนของโซนเบียร์นี่ เค้ามีการกลั่นเบียร์เองด้วยนะคะ กลั่นทุกวันเลย แต่จะกลั่นในช่วงเช้าค่ะ (ถ้ามาตอนกลางวัน น่าจะไม่ได้มานั่งโซนเบียร์เลยนะคะ เพราะพนักงานแจ้งว่ามันจะร้อนมากๆ เลยหละค่ะ) เมนูเครื่องดื่มค่ะ จะแยกออกเป็นหมวดเบียร์และอื่นๆ อันหนึ่ง และหมวดไวน์อีกอันหนึ่งนะคะ ส่วนเมนูอาหารก็ตามนี้เลยค่ะ ซึ่งเมนูซิกเนเจอร์ของเขาก็คือ ซี่โครงหมูนั่นเอง ซึ่งมีทั้งแบบคลาสสิค และสไปซี่นะคะ แต่ที่มาวันนี้ เราตั้งใจจะมากินเมนูตามนี้กันค่ะ Spicy Accent of Tod Sauce Taste ซึ่งมีด้วยกันหกเมนูได้แก่ 1. Tartar "Zabb" Seafood 2. Pasta Padthai 3. Samosa Hola 4. Salmon "Sam Ros" 5. Dumplings "Tom Yam Moo Sub" 6. Short Rib "Kra Prao" แต่ก่อนจะเริ่มก็มีเบียร์มาบริการกันก่อนเลยค่ะ ซึ่งแพ็คเกจนี้เป็นความเก๋มาก คือ เป็นเบียร์หกแก้วหกแบบ (แต่วันนั้นมีแบบหนึ่งหมดค่ะ เลยใส่แบบเดียวกันมาสองแก้วหละ) โดยที่ถาดที่เป็นหลุมกลมให้แก้วอยู่ได้นั้นจะมีหมายเลขกำกับบอกด้วยค่ะว่าแก้วไหนเป็นเบียร์อะไร ซึ่งเบียร์ทั้งหกตัวก็มีดังนี้นะคะ 1. HOF BEER เป็นเบียร์ที่ไม่มีแอลกอฮอล์ค่ะ เหมาะสำหรับคนอยากดื่มแต่ไม่อยากเมา อยากอยู่ในวงเหล้าแต่ไม่อยากผิดศีล 55555 2. The "Legend" Lager Beer เป็นเบียร์สีทองค่ะ เห็นว่ามีการนำข้าวหอมมะลิมาใช้ด้วยนะคะ และนิยมในหมู่นักดื่มไทยค่ะ 3. The "Aromatic" Snowy Beer เห็นว่าเป็นเบียร์ที่จะมีความฟรุตตี้ด้วยค่ะ แต่วันนั้นหมดค่ะ เลยไม่ได้พิสูจน์นะคะ 4. The "One&Only" Copper Beer ตัวนี้มีส่วนผสมของข้าวกล้องงอกด้วยค่ะ 5. The "Triple" 33 Pale Ale สีจะออกน้ำตาลแดงและมีความเป็นคาราเมลหน่อยๆ ค่ะ 6. The "Mysterious" Dark Beer เป็นเบียร์ที่มีส่วนผสมของข้าวเหนียวดำค่ะ เอาหละมาดูกันดีกว่าค่าว่าเมนูที่นำซอสต๊อดมาใช้ในการปรุงและประกอบอาหารนั้นนนน เป็นอย่างไรกันบ้างนะคะ เริ่มด้วยเมนูแรกกันเลย 1. Tartar “Zabb” Seafood (ราคา 260 บาท) ประกอบไปด้วย แซลมอล ทูน่าทาร์ท่าร์ รสแซ่บ ไส้ข้าวซูชิ + มะเขือเทศซัลซ่า ปรุงรสด้วยน้ำยำซีฟู้ดโดยชั้นตรงกลางเป็นข้าวซูชิปรุงรสที่ทานรวมกันแล้วเหมือนทานข้าวหน้าปลาดิบแต่มีรสน้ำยำสุดแซ่บมาแทรกค่ะ ตัวนี้รสจัดดีนะคะ แต่ไม่ได้จัดขนาดกลบรสชาติของแซลมอนและทูน่าค่ะ เห็นหนุ่มร่วมโต๊ะคนหนึ่งชมเมนูนี้มากๆ เลยแหละ สำหรับเราเราก็ว่าอร่อยนะคะ รสจัดดี ปลาไม่คาวเลย ตัวซัลซ่าพอกินด้วยกันก็ผสานรสดีมาก และรสชาติก็บาลานซ์กันดีด้วยค่ะ 2. Samosa Hola (ราคา 230 บาท) เป็นแป้งตอตีญ่าทอดไส้หมูบาร์บีคิว + ชีส นะคะ ปกติซาโมซ่าจะเป็นอาหารทานเล่นของอินเดีย โดยทั่วไปจะมีลักษณะเป็นรูปสามเหลี่ยมมีไส้ผัก มันฝรั่ง และผักต่างๆทอดจนเหลืองกรอบแต่ซาโมซ่าของที่นี่จะห่อด้วยแป้งตอติญ่าโดยใช้ไส้ Pulled Pork ที่ผ่านการอบแบบ Slow cooked นานกว่า 6 ชั่วโมงในซอสบาร์บีคิวที่ได้รับรางวัล ITQI จากประเทศเบลเยี่ยมและนำไปทอดจนเหลือง จานนี้อร่อยมากๆ ค่ะ ทอดมาดี แป้งกรอบแม้ว่าจะทิ้งไว้สักระยะหนึ่ง (ก็ต้องถ่ายรูปกันก่อนอะนะ) ตัวข้างในเป็นหมูที่อบมาได้นุ่มมากๆ มีรสชาติของซอสบาร์บีคิวแทรกมาทำให้ไม่เลี่ยน และกินแกล้มกับซอส Hot&Spicy Tomato Ketchup Sauce ก็จะทำให้เพิ่มรสเปรี้ยวแกมเผ็ดเพิ่มขึ้นด้วยนะคะ 3. Dumplings ”Tom Yam Moo Sub” (ราคา 230 บาท) เมนูนี้เป็นเกี๊ยวไส้กุ้งและเห็ดราดหมูสับต้มยำมะนาว โดยเป็นส่วนของสันคอหมูคุโรบุตะที่มีมันกำลังพอดีบดละเอียดและนวดให้เนื้อเนียนนุ่ม และปรุงรสด้วยซอสพริกอเนกประสงค์ Made by Todd บีบมะนาวเล็กน้อยเพื่อความเปรี้ยว แล้วนำมาราดบนเกี๊ยวกุ้งลวกสุกค่ะ ตอนแรกเห็นหน้าตาก็คิดว่ารสชาติน่าจะค่อนไปทางจีนๆ แต่พอกิน เฮ้ยยย ไม่ฟร่ะ มีความจัดจ้าน เปรี้ยวแกมเผ็ดนิดๆ อร่อยมากๆ ค่ะ เป็นอีกเมนูที่คนชอบเยอะนะคะ 4. Pasta “Pad Thai” (ราคา 330 บาท) เป็นพาสต้าผัดไทยกุ้งลายเสือ นำเส้นพาสต้าสปาเก็ตที่ลวกแบบ อัล เดนเต้ ผัดกับซอสผัดไทย Made By Todd กับกุ้งลายเสือสดๆ เส้นลวกมาดีจริงค่ะ สำหรับเมนูนี้จะค่อนข้างออกหวาน แนะนำให้บีบมะนาวที่เขาแนมมาเพิ่มค่ะ รสจะกลมกล่อมกำลังกินมากกว่านะคะ มีรสเผ็ดกำลังดีแซมมาด้วย กุ้งก็สดเด้งไม่เสียชื่อจริงๆ ค่ะ 5. Salmon “Sam Ros”(ราคา 360 บาท) เป็นปลาแซลมอลหนังกรอบราดซอสสามรสของคุณต๊อดเช่นเคยนะคะ แซลมอนชิ้นใหญ่มาก และย่างในกระทะได้กำลังดีค่ะ ไม่แห้งจนเสียความฉ่ำของเนื้อปลาแซลมอน รสชาติซอสที่ราดมาก็คือซอสปลาสามรสจริงๆ นะคะ (ซึ่งเป็นรสที่เราชอบ หวาน เปรี้ยว เผ็ด อร่อยยยยย) ใครที่ชอบรสชาติประมาณนี้และชอบแซลมอน ก็เป็นอีกเมนูหนึ่งที่แนะนำให้สั่งค่ะ 6. Short Rib ”Kra Prao”(ราคา 630 บาท) เมนูนี้เป็นซี่โครงวัวอบราดซอสกระเพราค่ะ โดยเชฟจะเอาซี่โครงไปซูวีให้เนื้อนุ่มก่อนแล้วถึงจะนำไปย่างบนเตาหินภูเขาไฟจนหอมแล้วราดด้วยซอสกระเพรารสจัดนะคะ ตัวนี้ซี่โครงนุ่มไม่เสียชื่อร้านจริงๆ ค่ะ แบบเปื่อยนุ่มมากๆ ซอสกระเพราก็รสชาติดีนะคะ มีทั้งรสและกลิ่นชัดพอควรเลยค่ะ นั่นก็คือเมนูพิเศษที่จัดขึ้นมาใครอยากมาลองก็รีบๆ ไปก่อนหมดเขตจ้า มีให้ได้ลองมากินกันถึงสิ้นเดือนมิถุนายนนี้เท่านั้นนะคะ และนี่ก็คือโฉมหน้าของบรรดาซอสต๊อดแบบต่างๆ ที่นำมาใช้ในหกเมนูพิเศษนี่เอง ส่วนเหล่านี้นั้นนนนน ก็คือบรรดาเครื่องดื่มต่างๆ ที่สั่งกันมาค่ะ มีทั้งแบบมีแอลกอฮอล์และไม่มีแอลกอฮอล์นะคะ ซิกเนเจอร์หลายตัวเขาดีเลยนะคะ อีกหนึ่งเมนูที่มาร้านนี้แล้วไม่สั่งคือ ผิดผี 555 กับเมนูซี่โครงอันโด่งดังนั่นเอง ซึ่งมีทั้งแบบรสคลาสสิค และรสสไปซี่นะคะ โดยส่วนตัวเราชอบสไปซี่มากกว่าอะนะ (ตามประสาคนกินเผ็ด แหะๆ) ซี่โครงที่นี่ทำนุ่มเปื่อยจนสามารถตัดระหว่างชิ้นได้ด้วยตะเกียบเลยแหละค่ะ ดีงาม (ใครชอบ ตอนนี้เค้ามีบริการดีลิเวอร์รี่ด้วยนะคะ สามารถสั่งกับทางร้านได้เลย จะแช่ฟรีซมา เราก็เอามาอุ่นในไมโครเวฟหรือเตาอบได้เลยค่ะ) อีกหนึ่งเมนูที่ลองสั่งมากิน เพราะรู้สึกว่าตัวเองขาดผักอย่างไรชอบกลนะฮะ กับ Trio Seafood Wasabi เป็นยำซีฟู้ดกับซอสวาซาบิ 290 บาทค่ะ รสชาติโดนใจมากกกกกก เผ็ด และมีความแอบซี้ดจากวาซาบิ ดีงามค่ะ ใครอยากกินผักแต่ติดรสจัดๆ (เหมือนเรา กร๊ากกกก) ก็ลองสั่งได้เลยนะคะ จบคาวแล้วก็มีหวานด้วยนะคะ สั่งกันมาทั้งหมด 4 ตัว (เท่าที่มีวันนั้น) ก็ได้แก่ 1. Tropical Sweet เป็นพันนาคอตต้าข้าวเหนียวมะม่วง 160 บาท โดยเป็นไอศกรีมมะม่วงนะคะ รสจะออกแนวนวลๆ หน่อย 2. Pink Berry เป็นเชอร์เบทไชนีสเบอร์รี่กับเยลลี่บ๊วย 130 บาท **ส่วนตัวชอบอันนี้สุดค่ะ รสเปรี้ยวๆ อมหวานหน่อยๆ รสชาติเข้ากันดี สดชื่น** 3. Khing Khing เป็นเชอร์เบทขิงและส้มยูสุ 130 บาท ตัวนี้ขิงชัดมากๆๆ ค่ะ 4. "Khao-Larm" Lava ช็อกโกแลตลาวากับไอศกรีมข้าวหลาม 160 บาท ความเก๋อยู่ที่ไอศกรีมข้าวหลามนี่แหละค่ะ อร่อยแบบเหมือนกินข้าวหลามจริงๆ นะคะ 555 สรุปสำหรับมื้อนั้นนะคะ ตัวเมนูที่นำมามิกซ์กับซอสต๊อดแบบต่างๆ นี่ประทับใจทุกตัวเลยค่ะ อร่อยแบบไม่เสียชื่อร้าน EST.33 นะคะ ส่วนอีกสองเมนูที่สั่งมาก็ชอบทั้งคู่เช่นกัน ส่วนของหวาน เราว่าไม่เด่นมากนักค่ะ คือ เก๋ที่ความครีเอท แต่รสชาติเราว่ายังไม่เป๊ะปังเท่าไหร่ มีชอบมากและอร่อยก็คือตัวพิงค์เบอร์รี่นั่นแหละ ถ้าใครสนใจก็รีบไปกันนะคะ สำหรับเมนูที่ใช้ซอสต๊อด อย่างที่บอกว่าถึงสิ้นเดือนมิถุนายนเท่านั้นค่ะ... อ่านต่อ
1 Like0 Comment
photo