- หน้าแรก
/
- เกี๊ยวกุ้งทอดราดซอสวาซาบิ ร้าน Tim Ho Wan เทอมินอล 21
บุฟเฟ่ติ่มซำหัวละ 800 By Hungry Hubร้านติ่มซำจากฮ่องกง ที่มาเปิดสาขาในเมืองไทยและได้รับการตอบรับค่อนข้างดี สำหรับวันนี้เป็นครั้งแรกที่ได้มาลองหลังจากปักหมุดไว้มาหลายเดือนแล้ว และด้วยความที่ได้ยินว่ามี Application น้องใหม่ที่ชื่อ Hungry Hub ทำ Promotion ร่วมกับทางร้านแบบ Buffet ในราคา 800 บาทถ้วนไม่บวกอะไรเพิ่ม และเมนูที่สามารถเลือกทานได้นั้นมีด้วยกัน 25 เมนูพร้อมเครื่องดื่มอีก 6 รายการด้วยกันครับ ซึ่งในวันนี้ผมได้มาลองที่สาขา Terminal 21 โดยลูกค้าส่วนใหญ่จะเป็นชาวจีนมากกว่าครับ ถามว่าเมื่อเทียบกับสั่งเป็นจานๆแล้ว แบบไหนคุ้มกว่า ผมจะมองว่า ถ้าเราทานได้เกิน 800 บาทก็ถือว่าคุ้มแล้วครับ สำหรับเมนูอาหารแต่ละอย่างจะมีรสชาติอย่างไร มาดูกันเลยครับ
1. ชาจีนร้อน: เริ่มด้วยเครื่องดื่มชาร้อนๆ ให้เข้ากับบรรยากาศร้านที่หนาวมาก ชาร้อนที่ใช้เป็นชาแดงครับ รสชาติจะไม่เข้มข้นเท่าไร แต่มีอัตลักษณ์ที่พิเศษตรงที่รสชาติจะหอมและอร่อยกว่าชาอู่หลงครับ ตัวนี้ห้ามแช่น้ำไว้เพราะจะขมมาก (ที่บ้านชอบสั่งมาชงให้ทานบ่อยๆ) ถือว่าร้านนี้ใช้ชาที่ค่อนข้างราคาแพงเลยทีเดียวครับ
2. ซาลาเปาไส้หมูแดง: Signature ที่มาร้านนี้แล้วต้องสั่ง ด้วซาลาเปาที่ด้านนอกจะไปทอดจนกรอบออกสีน้ำตาลส้มสวยงาม และไส้หมูแดงด้านในที่จัดหนักจัดเต็มไม่กั๊ก รสชาติออกหวานเค็มแต่กลมกล่อม เนื้อหมูที่ใส่ให้เยอะมากๆด้วย แต่อาจจะมีบางชิ้นที่เหนียวไปสักหน่อย ข้อเสียอย่างเดียวคือทำให้อิ่มเร็วครับ
3. ขนมผักกาด: เมนูขนมหาทานยากในเมืองไทย เพราะมีร้านอาหารจีนอยู่ไม่กี่ร้านที่ทำครับ ร้านนี้จะไม่เหมือนร้านอื่นตรงที่เอามานึงแล้วเสิร์ฟเลยครับ ตัวแป้งค่อนข้างจะร่วนเกินไปเพราะว่าตัวไช้เท้าขูดแล้วผสมกับแป้งเลย ไม่มีการนวดให้เข้ากัน เข้าใจว่าน่าจะผสมแป้งแล้วใส่ไช้เท้าแล้วเอาไปนึงเลย ทานกับน้ำจิ้มของทางร้านก็ไม่เข้ากันสักอย่างครับ
4. มาไล่โก๊ว: ขนมเค้กที่ทานเหมือนของคาว สีจะออกส้มๆน้ำตาลๆหน่อยๆ ตัวแป้งมีความนุ่มมีความฉ่ำจากไอน้ำหน่อยๆ แต่พอทานแล้วจะออกแห้งๆ คล้ายๆขนมสาลี แต่ตัวแป้งทำได้อร่อยกว่ากันเยอะเลยครับ
5. ฟองเต้าหู้ห่อกุ้งทอด: ของทอดอีกรายการ โดยใช้ฟองเต้าหู้ห่อไส้เนื้อกุ้งสับไว้ครับ ทานแล้วเข้ากันดีมาก เพราะข้างนอกจะกรอบ ข้างในออกนุ่มๆ พอดีกัน ตัวกุ้งเองก็ใส่มาเยอะมาก และเนื้อกุ้งเองก็กรอบไม่แพ้กัน
6. ข้าวเหนียวห่อใบบัว: เป็นเมนูที่ให้เยอะมาก ส่วนประกอบจะมีเนื้อหมู กุนเชียง เห็ดหอม และไก่ ปิดท้ายด้วยข้าวเหนียวพูนๆ รสชาติจะออกแปร่งๆเหมือนไส้อั่วและไม่ค่อยอร่อย ด้วยความที่เป็นข้าวเหนียวและทำให้ค่อนข้างอิ่มเร็ว รสชาติที่ออกจะแปลกและดูไม่ค่อยมีความตั้งใจในการทำสักเท่าไร ผมจึงไม่แนะนำให้ทาน ถ้าอยากทานข้าวยังมีข้าวหน้าเนื้อและโจ๊กที่น่าสนใจกว่าครับ
7. ฮะเก๋า: ตัวแป้งทำได้ใส บาง เห็นไส้ด้านในชัดเจน ตัวแป้งถึงจะบางแต่ไม่ติดเข่งเลยครับ ไส้ด้านในเองก็กรอบและเด้งมาก จิ้มกับ Lea & Perrins Sauce ที่รสชาติคล้ายจิ๊กโฉ่วแต่อ่อนกว่า เข้ากันได้ดีเลยครับ
8. เกี๊ยวกุ้งทอดราดซอสวาซาบิ: เป็นเมนูที่ผมต้องยกนิ้วให้จริงๆ เพราะว่าแป้งเกี๊ยวด้านนอกทอดกรอบมาก และไส้ด้านในเองก็ใส่กุ้งมาเต็มๆ เนื้อแน่นมาก ถ้าเป็นไปได้อยากให้แยกซอสวาซาบิมาจะดีกว่า เพราะรสวาซาบิค่อนข้างรุนแรงเลยครับ
9. ก๋วยเตี๋ยวหลอดกุ้ง: ตัวแป้งก๋วยเตี๋ยวหลอดค่อนข้างหนาไปสักหน่อยครับ แต่ตัวกุ้งใส่มาเป็นตัวๆเลยครับ ค่อนข้างคุ้มค่าเลยทีเดียว เสียดายที่ปริมาณที่ให้ต่อจานค่อนข้างเยอะไปหน่อยครับ ส่วนน้ำซอสจะออกเค็มๆกำลังดีครับ ทานด้วยกันแล้วเข้ากันดีครับ
10. ขาไก่ตุ๋นซอสเป๋าฮื้อ: มาร้านนี้แล้วไม่ทานเมนูนี้ไม่ได้ครับ ด้วยการจัดหนักตีนไก่ถึง 7 ชิ้นต่อจานด้วยกัน ซอสที่ใช้จะเป็นซอสสีออกแดงๆ ทำให้ตีนไก่มีสีส้มที่น่าทาน รสชาติจะออกหวานๆ และยังมีฟองเต้าหู้ให้มาทานเป็นกับแกล้มครับ ตัวตีนไก่จะเป็นคอลลาเจนล้วนๆ เป็นไขมันซะส่วนใหญ่ครับ ทานเพลินๆก็หมดเกลี้ยงแล้วครับ
11. ขนมจีบหมูและกุ้ง: ตัวไส้แน่นทั้งหมูและกุ้งที่ผสมอยู่ด้วยกัน ตัวแป้งทำได้ดีเช่นกัน ไม่เละติดเข่ง ส่วนเรื่องรสชาติค่อนข้างจะมีเอกลักษณ์เลยครับ และมีการตกแต่งด้วยการแปะเก๋ากี๊ไว้ที่บนขนมจีบด้วยครับ
12. กะเพาปลานึ่งซอสกุ้ง: ตัวกะเพาะปลาออกจะแห้งไปสักหน่อย ทานแล้วรู้สึกเหมือนทานหนังหมูแห้งเลยครับ ไม่ค่อยประทับใจสักเท่าไร แต่รสชาติพอทานได้ครับ
13. สาคู มะม่วง ส้มโอ: ของหวานอย่างเดียวที่ได้ทานเนื่องจาก 11 เมนูก่อนหน้าค่อนข้างหนักท้องมาก ขนมหวานตัวนี้ช่วยให้เจริญอาหารมากขึ้นเพราะว่ามีรสเปรี้ยวของมะม่วงที่ทำได้ดีมาก สาคูและส้มโอมาประกอบรสสัมผัสให้ครบชุดครับ โดยรวมแล้วประทับใจขนมหวานจานนี้มากครับ
สรุปโดยรวมแล้วถ้าทานเกิน 11 เมนูก็จะคุ้มกับบุฟเฟ่หัวละ 800 บาทแล้วครับ อันที่จริงยังมีเมนูที่น่าสนใจอีกหลายรายการอย่างเช่น วุ้นไกวฟ้า ข้าวหน้าเนื้อไข่ดาวที่สั่งกันแทบทุกโต๊ะ หรือจะเป็นปอเปี๊ยะเองก็น่าสนใจไม่แพ้กันครับ ส่วนในเรื่องการบริการค่อนข้างได้ตามมาตรฐานครับ แต่โดยรวมแล้วพนักงานค่อนข้างน้อยครับ ถ้าไม่ได้นั่งแถวที่พนักงานอยู่อาจจะไม่ได้รับการบริการที่ดีครับ และยังปิดโซนริมกระจกไว้ครับ ซึ่งผมมองว่าถ้านั่งโซนนั้นจะถ่ายรูปออกมาได้สวยกว่าครับ และเก้าอี้เองที่เป็นแบบพิงผสมแบบไม่มีที่พิง ซึ่งผมเองนั่งแบบไม่มีที่พิงแล้วแอบปวดหลังเลยครับ (หนักท้อง T_T) นอกจากนี้ช่วงเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมาเป็นช่วงตรุษจีน ทางร้านจะมีให้จับฉลากที่หน้าร้าน ซึ่งผมได้ส่วนลด 15% มาแต่หมดอายุสิ้นเดือน ผมก็คิดว่าคงจะไม่ได้มากินอีกสักพัก เพราะเอียนอาหารจีนมากครับ
21 Likes0 Comment