3.9
8 เรตติ้ง (7 รีวิว)
ภูเขา, อุทยานและธรรมชาติค่าเข้าชม: ฿ 20/คน
ปิดอยู่จะเปิดในวันเสาร์ เวลา 08:00
บรรยากาศ อุทยานแห่งชาติดอยขุนตาล
บรรยากาศ
นั่งรถไฟไปขุนตาลป่าหน้าตาเหมือนกัน เป็นทริปในฝันที่เคยตั้งใจไว้ว่าจะมาเที่ยวสักครั้งในชีวิต เพราะมีคำโปรยเชิญชวนหลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็นอุทยานแห่งชาติแห่งเดียว ที่สามารถเดินทางได้ด้วยรถไฟ หรือมาที่เดียวได้เที่ยว ๒ จังหวัด กับภาพเส้นแบ่งเขตจังหวัดบนถนน ผมเลยชวนสมาชิกให้มาร่วมตะลุยกันในทริปนี้ ด้วยการนั่งรถไฟมาแล้วกางเต็นท์กัน แม้จะมีบางคนไม่เห็นด้วยอยากนั่งรถยนต์ และต้องการนอนบ้านพัก เพื่อความสะวด แต่ผมคิดว่า มันไม่ได้ฟิลลิ่ง หลังจากนัดรวบรวมสมาชิกกันได้ ๕ คน พร้อมกำหนดนัดวันแล้ว มันก็มาลงตัวกันวันที่ ๑-๓ ธันวาคม ๒๕๖๑ แต่ก่อนถึงวันเดินทาง พี่สาวคนหนึ่งที่อาสาหาเสบียง กลับต้องไปรักษาตัวเลยขอถอนตัวไป ก็เหลือกันเพียง ๔ คน ถึงจะน้อยแต่ก็มากด้วยคุณภาพ ขออธิบายภูมิหลังของอุทยานแห่งชาติดอยขุนตาล ก่อนนะครับ (ผมเอามาจากแผ่นพับ) อุทยานแห่งชาติดอยขุนตาล เป็นอุทยานแห่งชาติลำดับที่ ๑๐ ได้รับการจัดตั้งเมื่อวันที่ ๕ มีนาคม ๒๕๑๘ อยู่ในเขตท้องที่บ้านทาปลาดุก อำเภอแม่ทา จังหวัดลำปาง และตำบลบ้านเอื้อม อำเภอเมืองลำปาง จังหวัดลำปาง มีที่ดินเนื้อที่ ๒๒๕.๑๙ ตารางกิโลเมตร การเดินทางสามารถเดินทางด้วยรถยนต์และรถไฟครับ สถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจ -อุโมงค์ขุนตาล -ยอดดอยขุนตาล ซึ่งรายละเอียดจะอยู่ตามภาพนะครับ และแล้วก็มาถึงกำหนดนัดเดินทาง วันที่ ๑ ธันวาคม ๒๕๖๑ เรานัดหมายกันตอน ๗ โมงเช้า ที่สถานีรถไฟพิษณุโลก โดยโดยสารไปกับ ขบวนรถท้องถิ่น ๔๐๗ นครสวรรค์-เชียงใหม่ สนนราคาค่าเดินทางคนละ ๕๕ บาท รถออกจากพิษณุโลก ๗ โมง ๒๙ นาที ถึงสถานีรถไฟขุนตาน บ่ายโมง ๓๐ นาที ใช้เวลาเดินทางกัน ๖ ชั่วโมง แต่ไม่น่าเบื่อหรอกครับ เพราะในระหว่างการเดินทางทิวทัศน์ข้างทางน่าสนใจมาก จะเจอเมือง ทุ่งนา ขึ้นเขา เข้าอุโมงค์ เจอผู้คน และที่สำคัญจะมีของอร่อย ราคาไม่แพง มาให้เลือกตลอดการเดินทาง จำง่ายๆ ครับ ออกจากพิษณุโลก เจอข้าวผัดกระเพราไข่ดาว ขนมจีบซาลาเปา ถึงอุตรดิตถ์ จะมีลูกชิ้นทอด และน้ำเฉาก๊วย ถึงเด่นชัย ข้าวเหนียวไก่ย่าง ไข่ต้ม ถึงบ้านปิน บะหมี่แห้ง ถึงปางป๋วย จะมีชา กาแฟเย็น ถึงลำปางมีโรตีสายไหม ราคาเพียง ๒๐ บาท บ่ายโมงสี่สิบก็ถึงสถานีขุนตานแล้ว รถเสียเวลาไป ๑๐ นาที ไปถึงก็ถ่ายรูปกับป้ายสถานีและอุโมงค์ จากนั้นเราจึงเดินเท้าขึ้นเข้าไปที่ อุทยานแห่งชาติดอยขุนตาล ที่อยู่ห่างไปประมาณ ๑,๓๐๐ เมตร สังเกตุง่ายๆ ตรงข้ามสถานีจะมีป้ายบอก ว่าเป็นทางเข้า พร้อมกับพนักงานต้อนรับยืนพนมมือ สอบถามชื่อแล้ว คือ คุณลำพูน ลำไย คุณลำปาง รถม้า เราเดินขึ้นเข้ากันไปเรื่อย ๆ โชคดีว่า วันนี้อากาศไม่ร้อนมาก เดินไปเรื่อย มีพักฟังเสียงบ่นกันบ้าง ใช้เวลาเดินกันเกือบ ๔๐ นาที ก็มาถึงทางเข้าอุทยานกัน เจ้าหน้าที่เข้ามาทักทายเลย แล้วชำระค่าธรรมเนียมคนละ ๒๐ บาท จากนั้นก็ไปติดต่อบ้านพัก บริเวณจุดบริการนักท่องเที่ยว ที่อยู่ซ้ายมือครับ อัตราค่าที่พักคืนละ ๕๐๐ บาท ผมนอน 2 คืน ที่นี่นักท่องเที่ยวมีไม่มาก ให้เราเลือกบ้านได้ หากต้องการวิวสวย จะอยู่ไกลไปสักหน่อย แต่ขอเลือกเอาที่ใกล้ ๆ ที่กินข้าว เดินไม่ไกล เลยได้บ้านทองกวาว ซึ่งอยู่ในโซน ๒ ห่างจากที่ทำการเดินไปตามถนนประมาณ ๕๐๐ เมตร จากนั้นเราก็เติมพลังที่ร้านค้าสวัสดิการ เปิดตั้งแต่ ๗.๐๐ ถึง ๑๖.๓๐ น. เป็นร้านอาหารตามสั่ง ราคาไม่แพง รสชาติใช้ได้ เมนูแนะนำคือ ข้าวผัดกระเพรา แล้วข้าวต้มหมู อิ่มแล้วซื้อน้ำขนม แล้วแบกเดินขึ้นเขา ซึ่งทางก็ลัดเลาะไป ครึ่งชั่วโมงก็ถึงบ้านแล้ว บ้านพักอยู่หลังแรกเลย มีเตียง พัดลม ผ้าห่ม น้ำอุ่น จากนั้นก็เดินไปเที่ยวผากลีบบัว ที่อยู่ห่างประมาณ ๕๐ เมตร รายละเอียด ใต้คอมเม้นต์ครับ แล้วนั่งดูพระอาทิตย์ตก ถ่ายรูปดาว แล้วต้มมาม่ากินกัน (แบกเตาแก๊ส กับหม้อไปด้วย) แล้วก็นอน วันที่ ๒ ธันวาคม ๒๕๖๑ ตื่นกันตอนตีห้า เพื่อจะเดินไป ย.4 กัน ย.ย่อมาจากจุดยุทธศาสตร์ มีไฟฉาย น้ำพร้อม โดยมีผม กะ เดอะมิ้นต์ ไปกัน ๒ คน เดินไปตามถนนซึ่งไม่รู้เลยว่า เป็นการเดินขึ้นเขาอีกแล้ว เดินๆ ไปสองกิโลครึ่ง ก็ถึงทางเข้าครับ ใช้เวลาเดินครึ่งชั่วโมง แล้วก็เดินขึ้นบันไดไปประมาณ ๑๐๐ เมตร ก็ถึง ย.๑ สูงจากระดับน้ำทะเล ๙๐๐ เมตร เป็นบ้านพักที่ใช้เป็นที่ประทับแรมของ กรมพระกำแพงเพชรอัครโยธิน เมื่อครั้งเสด็จ มาเป็นแม่งานในการก่อสร้างอุโมงค์ขุนตาล ปัจจุบันเป็นที่พักของการรถไฟแห่งประเทศไทยเป็นผู้ดูแล แล้วเดินต่อไปตามทางซึ่งเป็นบันได สลับกับทางเดินแคบๆ อีก ๑,๐๐๐ เมตร ก็ถึง ย.๒ ย.๒ เดิมเป็นที่พักของบริษัทรับทำไม้ ที่ต่อมา ม.ร.ว.คึกฤทธิ์ ปราโมทย์ ได้ซื้อพื้นที่ไว้ทำสวน ซึ่งในหลวงรัชกาลที่ ๙ เคยเสด็จประพาส เมื่อปี พ.ศ. ๒๕๑๒ และ ๒๕๑๖ หากเลี้ยวซ้ายเดินขึ้นไปอีก ๕๐ เมตร จะมีลานสน สำหรับกางเต็นท์ มีห้องน้ำ แต่ไม่มีไฟฟ้า แล้วเราก็เดินเท้าต่อไปอีก ๓,๓๐๐ เมตร ก็ถึง ย.๓ สูงจากระดับน้ำทะเล ๑,๒๒๕ เมตร หลังจากสร้างทางรถไฟเสร็จ คณะมิชชั่นารีได้มาสร้างบ้านพักในบริเวณนี้ แล้วจะมาพักผ่อนทุกเดือนเมษายนของทุกปี ปัจจุบันบ้านพักอยู่ในความดูแลของมหาวิทยาลัยพายัพ แล้วก็เดินต่อไปอีก ๑,๐๐๐ เมตร เพื่อไปย.๔ บอกเลยว่า เป็นระยะที่สาหัสที่สุด เพราะเป็นการเดินขึ้นเขาล้วนๆ ยิ่ง ๕๐๐ เมตรสุดท้าย ที่เรียกว่า เนินวัดใจ เดินห้าก้าว แล้วพักทีนึง แต่ก็ไต่มาถึงกันได้ ย.๔ สูงจากระดับน้ำทะเล ๑,๓๗๓ เมตร เป็นจุดยุทศาสตร์สูงสุดของดอยขุนตาล ในสมัยสงครามโลกครั้งที่ ๒ ใช้เป็นบริเวณส่องกล้องจังหวัดลำพูนและจังหวัดลำปาง ถ่ายรูปกันสักพัก ดื่มน้ำ แล้วเดินลงกัน เสียดาย ที่เรามาถึงสายไปสักหน่อย ไม่ได้เห็นพระอาทิตย์ขึ้นเลย ขากลับจาก ย.๓ ไป ย.๒ มีทางไปน้ำตกดาดเหมย แต่เจ้าหน้าที่ว่า น้ำแห้ง จึงเลือกกลับทางเดิม เพื่อถ่ายรูปช่วงที่เราเดินผ่านตอนเช้ามืด เราเดินๆ ลงมา เจอนักท่องเที่ยว แวะทักทายกันตามประสา สรุปการเดินไปกลับวันนี้ เกือบ 17 กิโลเมตร ใช้เวลาเดิน ๔ ชั่วโมง สี่สิบนาที พอถึงบ้านพักก็ลงไปกินข้าว ที่ร้านสวัสดิการ ถ่ายรูปที่ลานชมดาว แล้วขอให้พี่ที่ร้าน ทำหมูหมัก กับขอซื้อลูกชิ้น เพื่อจะทำหมูจุ่มกินกัน แล้วก็กลับไปนอนเอาแรง ตกเย็นก็กินมาม่าหมูจุ่ม ส่วนเดอะมิ้น ขอแยกไปถ่ายทางช้างเผือก วันที่ ๓ ธันวาคม ๒๕๖๑ เก็บกระเป๋าเดินลงมากินข้าว ถ่ายรูปที่เส้นแบ่งจังหวัด หน้าศูนย์บริการ (วันแรกแดดแรงถ่ายไม่สวย) แล้วไปนั่งจิบกาแฟดูวิว ผมติดต่อเจ้าหน้าที่เพื่อขอรับใบประกาศ ที่เดินไปถึง ย.๔ โดยมีหลักฐานคือภาพถ่ายและค่าใช้จ่าย ๕๐ บาท แล้วก็มาถ่ายรูปที่ทางเข้า เดินไปสถานีรถไฟขุนตาน แวะถ่ายภาพบนปากอุโมงค์ ถ่ายรูปรถไฟ ใช้เวลาไม่นานเพราะเดินลงเขา แล้วรอขึ้นรถขบวน ๔๐๘ ออกจากขุนตาน ๑๑.๐๕ น. ถึงพิษณุโลก ๑๗.๒๒ น. สรุปค่าใช้จ่ายในการเดินทาง ประมาณคนละ ๙๐๐ บาท ไม่เกินนี้ รวมค่าที่พัก ค่าเดินทาง ค่ากินทุกอย่างแล้ว อันที่จริงพักแค่คืนเดียวก็ได้ แต่รถไฟขากลับมีก่อนเที่ยง กลัวเดินกลับลงเขาไม่ทัน อากาศที่ไปยังแค่เย็นๆ ไม่หนาวมาก พกเสื้อไป แต่ไม่ได้ใช้ เค้าบอกว่า ผีดุ แต่ผมไม่เจอ สุดท้ายขอขอบคุณ อุทยานแห่งชาติดอยขุนตาล - Doi Khun Tan National Park สำหรับข้อมูล และการต้อนรับ โอกาสหน้าจะไปเยือนกันอีก... อ่านต่อ
1 Like0 Comment
photo