4.2
99 เรตติ้ง (87 รีวิว)
ปิดอยู่จะเปิดในวันศุกร์ เวลา 08:00
OOObkk
บรรยากาศตรง Slow Bar
[ทาวน์อินทาวน์] คาเฟ่ลับสไตล์มินิมอล กาแฟ-อาหาร-ขนม ครบจบที่เดียว มาดื่มกาแฟแบบจริงจังได้ หลายแนวหลายโปรไฟล์#SpecialtyCoffee #คาเฟ่มินิมอล #ย่านทาวน์อินทาวน์ OOOBkk ผมเข้าใจว่ามีที่มาจาก One Ounce for Onion (OOO) คาเฟ่ดังจากย่านเอกมัย ที่มาเปิดสาขานี้แบบโฉมใหม่ย่านทาวน์อินทาวน์ จริงๆถ้าพูดถึงชื่อ OOO ก็จะนึกถึงโรงคั่วที่อยู่เบื้องหลังซึ่งผมชอบกาแฟที่เค้าคั่วขายอยู่เป็นทุนเดิมอยู่แล้ว คือหุ้นส่วนหลักเค้าคนนึงเปิดเป็นโรงคั่วกาแฟเองในชื่อ Brave Roasters นั่นเอง ซึ่งเดินสายแข่งทั้งในไทยและนานาชาติอยู่แล้ว สำหรับสาขานี้เค้าได้จับมือกับ Espressoman โรงคั่วและขายอุปกรณ์ทำกาแฟชื่อดัง จะเห็นว่าคาเฟ่นี้อยู่ในบริเวณเดียวกันติดกับโชว์รูมของเค้าเลย สรุปง่ายๆคือ คาเฟ่นี้คือ One Ounce for Onion อีกสาขา ที่เลือกใช้เมล็ดกาแฟคั่วจาก Espressoman (Blend สำหรับ Espresso-based) และ Brave Roasters (Single Origin สำหรับ Filter) ## สรุป Concept ร้านนี้ ## • เป็นคาเฟ่แนว Minimal ตกแต่งสไตล์ลอฟท์ให้ความคล้ายคาเฟ่เกาหลี >> ขายกลุ่ม Café Hopper มาถ่ายรูปเก๋ๆกินบรรยากาศ • มีขายทั้ง เครื่องดื่ม (Coffee และ Non-coffee) ขนม (Pastry Cake) และ อาหารแบบจานเดียวต่อคน (หลายสัญชาติ ข้าว พาสต้า แซนวิช แนวฟิวชั่น) >> มาได้ทั้งมื้อหนักและมื้อของว่างระหว่างมื้อ • เข้าเรื่องกาแฟแบบเน้นๆ ร้านนี้ออกแนวกาแฟหลายสไตล์เหมาะสำหรับทั้งคนดื่มกาแฟเริ่มต้น หรือ กาแฟชั้นสูง ไม่ได้จำกัดแบบเมนูกาแฟที่เข้าใจได้ยากเหมือนสาขาแรกที่เอกมัย ประมาณว่ามี Iced Espresso ด้วย ในร้านแยกสัดส่วนที่เป็น Slow Bar ออกมาอยู่ตรงห้องด้านในชัดเจน เพื่อความเป็นส่วนตัวสำหรับคนที่เน้นมา cupping หรือสายจริงจังครับ มาดูกาแฟทีละฝั่ง # Espresso-based หรือกาแฟใช้เครื่องชง ที่ร้านมี Blend ให้เลือกหลายแบบ ตามระดับการคั่ว คือ คั่วอ่อน (ติดเปรี้ยวโทน Fruity เหมาะทำกาแฟ Black) หรือ คั่วแก่ (เข้มโทนช็อคโกแลตหรือถั่ว เหมาะทำกาแฟเติมนมหรือ White) # Filter ใช้เมล็ดกาแฟ Single Origin ทั้งของ Espressoman กับ Brave Roasters รวมๆกันให้เลือกหลายตัวหลายโปรไฟล์ และยังมีเมล็ดนำเข้าแบบ micro-lot มาให้ลองสั่งคัปปิ้งดูด้วย ตอนที่ผมไปเป็นช่วงบ่ายๆวันธรรมดา ไม่ทานมื้อหนัก สั่งมาแต่กาแฟ 2 ตัว 2 แบบ คือ • Filter แบบ Pour over (กาแฟดริป) เลือกเป็นเมล็ด S/O จาก Ethiopia ของ Morgan โรงคั่วเมืองนอก [ราคาประมาณ 150 บาทต่อ serve] Tasting note ก็จะออกคล้ายๆกาแฟจากทาง Ethiopia ทั่วไป คือช่วงร้อนมีกลิ่น Floral ติดชัด มีความเป็น Fruity ตัวนี้ที่ลองจะแปลกหน่อยคือกลิ่นคล้ายพวกแตงหรือแคนตาลูป Acidity เปรี้ยวปลายช่วงกาแฟเย็น Body กลางๆไม่หนามากมีติด Aftertaste หวานสั้นๆ • Espresso shot [100 บาท] เลือกเป็น Blend คั่วกลางถึงอ่อน ดูจากลักษณะภายนอกก่อนถือว่า under-extracted ไปหน่อย creama ลอยคลุมหมดแต่เป็นชั้นบางๆ Body ถือว่าค่อนข้างโอเค Round ไม่บาง และค่อยๆคลายกลิ่นรสออกมาหลังจิบไม่ลอยฟุ้งออกมาหมดทีเดียว Mouthfeel สบายปาก ตัวนี้มีความเป็นช็อคโกแลตและกลิ่นส้มปลายๆ สรุปส่วนตัวผมค่อนข้างประทับใจมารอบนี้ น้องบาริสต้าทั้งฝั่ง Slow Bar และ Espresso แนะนำกาแฟให้ได้ดีตามที่ขอไป ราคาก็จะออกสูงขึ้นมาหน่อยกว่าร้านกาแฟที่เป็นคาเฟ่อย่างเดียว คือร้านนี้กาแฟออกแนว Specialty ขายคนดื่มกาแฟแบบจริงจัง บวกบรรยากาศที่ขายสายคาเฟ่ด้วย > 4 ดาวไป [พิกัด:] เข้ามาได้หลายทางคือจากฝั่งลาดพร้าว 94 หรือฝั่งเลียบด่วน ร้านอยู่แถวๆสามแยกไฟแดงที่ตัดกับต้นถนนศรีวราฝั่งโลตัส จอดริมฟุตบาทไม่ได้นะครับ ถ้าขับรถมาแนะนำที่จอดรถก็ในโลตัสตรงแยก (เอาไปแสตมป์จอดฟรีตามจำนวนยอดที่ซื้อในบริเวณ) หรือ The Scene ซึ่งต้องเสียเงินเป็นชั่วโมง... อ่านต่อ
24 Likes0 Comment
photo