3.4
55 เรตติ้ง (39 รีวิว)
ปิดอยู่จะเปิดในเวลา 12:00
บรรยากาศ Mango Tree Yodpimarn River Walk
บรรยากาศLa vie en rose...
มาจัดมื้อชิลล์ๆรับลมแม่น้ำที่ Mango Tree On The River บรรยากาศดี วัตถุดิบเลิศ รสชาติพอใช้ได้นะMango Tree – ร้านอาหารในเครือโคคาที่ขยายสาขามากมายทั่วโลก มีความโดดเด่นที่การนำอาหารไทยๆของเรามายกระดับขึ้นด้วยวัตถุดิบระดับพรีเมี่ยม ขั้นตอนการปรุงที่พิถีพิถัน และการนำเสนอที่ดูดีมีรสนิยม โดยนอกจากจะมีอาหารไทยแบบดั้งเดิมแล้ว อีกหลายเมนูยังมีการนำมาสร้างสรรค์ดัดแปลงแบบฟิวชั่นได้อย่างน่าสนใจค่ะ และสำหรับร้านที่สาขายอดพิมานริเวอร์วอล์ค หรือ Mango Tree On The River นี้ยังมีจุดเด่นที่สำคัญอีกอย่างคือบรรยากาศร่มรื่นรับลมริมน้ำกับวิวแม่น้ำเจ้าพระยาที่มองเห็นวัดอรุณเยื้องๆอยู่ฝั่งตรงข้าม เหมาะกับจะพาแขกเหรื่อมาเลี้ยง หรือจะจัดมื้อโรแมนติกในโอกาสพิเศษก็ดูดีค่ะ ***-ทำเลที่ตั้ง / การเดินทาง-*** ร้านอยู่ที่โครงการยอดพิมานริเวอร์วอล์ค ปากคลองตลาดค่ะ ถ้าไปทางรถยนต์ก็สามารถจอดรถในที่จอดของโครงการได้เลย แต่ถ้าใครจะไปทานมื้อค่ำและไม่อยากฝ่าการจราจรช่วงกำลังคับคั่งไป หรืออยากไปถึงร้านทางเรือเก๋ๆให้สมกับที่ร้านอยู่ริมแม่น้ำล่ะก็ ตั้งแต่ 5 โมงเย็นเป็นต้นไปจนถึงดึกจะมีเรือ Speed Boat ของทางร้านรับส่งฟรีจากท่าเรือสาทรด้วย เรือออกทุก 1 ชั่วโมงค่ะ ถ้าใครจะใช้บริการเวลาโทร.จองแจ้งทางร้านไว้ด้วยก็ดี คนขับจะได้คอยเช็คจำนวนคนให้ไม่คลาดกัน แต่ต้องเตือนนิดนึงว่าการเดินทางวิธีนี้ไม่ค่อยเหมาะกับผู้สูงอายุนะคะ ***-บรรยากาศ-*** ร้านจะอยู่ริมสุดของตัวโครงการ ทางด้านที่ใกล้โรงเรียนราชินี โดยจะแบ่งเป็น 4 ชั้นค่ะ ชั้น 1 – เป็นครัวค่ะ ชั้น 2 – เป็นบริเวณที่รับประทานอาหาร มีทั้งที่นั่งแบบ outdoor และ indoor โดยแม้จะนั่งด้านในก็มีหน้าต่างเปิดโล่งให้มองเห็นวิวแม่น้ำเจ้าพระยาได้โดยรอบ สวยจริงๆค่ะ ชั้น 3 – เป็นบาร์เครื่องดื่มค่ะ ชั้นดาดฟ้า – ส่วนนี้เป็นส่วนที่รับจัดปาร์ตี้ส่วนตัวด้วย ไม่แน่ใจว่าปกติแล้วจะเปิดให้ลูกค้าทั่วไปขึ้นไปได้หรือเปล่านะคะ เรื่องบรรยากาศและการตกแต่งนี่เรียกได้ว่าพาใครมาก็ไม่อายค่ะ ลำพังแค่วิวก็ชนะเลิศแล้ว การตกแต่งก็ดี ไม่มากไม่น้อย ชอบเลย.. ***-เมนูที่ลอง-*** เป็น Mekhong Elite Table Dinner Set ที่แลกดีลจาก Wongnai ในราคา 799 บาทค่ะ ซึ่งทางร้านบอกว่าเป็นเซ็ทเมนูที่แม้จะหมดดีลแล้วก็ยังมีให้สั่งได้ แต่ราคาอาจจะเป็นราคาเต็มน่ะค่ะ ในเซ็ทจะมี.. ● Mekhong on the River – เป็น cocktail ที่มีส่วนผสมหลักคือกาแฟ espresso ผสมเหล้าแม่โขง เนื่องจากเราไม่สันทัดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เลยขอให้ทางร้านเปลี่ยนเป็น mocktail ให้แทน ทางร้านก็จัดให้ค่ะ ได้มาเป็น mocktail เย็นๆที่หอมกาแฟเข้มข้น รสชาติหวานค่อนข้างมาก ได้กลิ่นเชอร์รี่อ่อนๆและมีความซ่าติดปลายลิ้นนิดๆ ดื่มเพลินดีเหมือนกันค่ะ ● พล่าฟัวกราส์ – เมนูฟิวชั่นสุดครีเอทของทางร้านนี้ใช้ฟัวกราส์ชิ้นโตเท่ากำปั้น (วัตถุดิบนี่อลังการสุดๆ) ปรุงด้วยเครื่องพล่ารสอมเปรี้ยวอมหวานสดชื่น มีใส่พริกสดให้เผ็ดเล็กน้อยพอเสริมรส แนมด้วยมะม่วงสุกหั่นชิ้นจิ๋ว และท็อปด้วยฟองโฟมหนานุ่ม อร่อยและรสชาติเข้ากันดีมากๆค่ะ กับเมนูนี้ฟัวกราส์จะทำแบบพอให้กึ่งสุก ด้านในเหลวละลายในปาก และผิวนอกยังนุ่มทั่วกันทั้งชิ้น ไม่ได้จี่ให้กรอบนอกนุ่มในนะคะ ซึ่งก็ดูว่าเหมาะกับการปรุงแบบพล่าดี แต่ถ้าใครชอบให้ผิวนอกกรอบๆอาจต้องลองรีเควสดูน่ะค่ะ ● ลาบซี่โครงหมูย่าง (ถ้าสั่งเดี่ยวๆจะราคา 420 บาท ค่ะ) – เป็นเมนูแนะนำของทางร้านที่ออกสื่อมาแล้วหลายสำนัก ทราบมาว่าใช้ซี่โครงหมูอนามัยเอสเพียว นำมาแช่น้ำสับปะรดให้นุ่ม จากนั้นหมักกับรากผักชีพริกไทย ก่อนจะนำไป Sous vide ให้สุกแล้วโรยด้วยเครื่องลาบ ...ฟังดูแล้วเกิดความคาดหวังสูงลิบว่าจะได้ทานเนื้อซี่โครงหมูแบบนุ่มฟินเวอร์แทบละลายในปากอะไรทำนองนั้น พอได้ทานจริงๆก็เลยแอบผิดหวังเบาๆว่ามันไม่ได้นุ่มปานนั้นน่ะค่ะ เมนูนี้เสิร์ฟมาเป็นซี่โครงหมูชิ้นโตๆ 6 ซี่ มีรอยบากเอาไว้ให้หั่นง่าย เนื้อหมูแม้จะไม่นุ่มมาก (ติดไปทางค่อนข้างแข็งเลยล่ะ) แต่ก็ปรุงรสมาดี ได้รสลาบแบบกำลังกลมกล่อม มีติดรสหวานบ้างแต่ก็มีน้ำจิ้มแจ่วเสิร์ฟมาพร้อมกันด้วย สำหรับคนไม่ชอบหวานก็พอใช้แก้รสกันได้นะ ข้อเสียคือพอเนื้อหมูไม่นุ่ม และใช้วิธีโรยเครื่องปรุงรสลาบแทนการคลุกเคล้าแบบลาบต้นตำรับ ก็เลยรู้สึกว่ารสชาติมันไม่ค่อยเข้าน้ำเข้าเนื้อซึมซาบเข้าในเนื้อหมูเท่าไหร่ ฟินไม่สุดอยู่นิดนึงค่ะ ..สำหรับข้าวเปล่าที่นี่จะเสิร์ฟให้ฟรี เติมได้ตลอดนะคะ เป็นข้าวกล้องหอมมะลิอย่างดีหุงมาได้นุ่มนวลทีเดียว เรื่องวัตถุดิบนี่ยอมรับว่าที่นี่ใช้แต่ของดีจริงๆค่ะ ***-Buffet-*** ครั้งนี้แม้จะมาทาน Dinner Set แต่เราโทร. ขอมาใช้บริการช่วงมื้อกลางวันทางร้านก็ไม่ว่าอะไรค่ะ เพราะมาตอนกลางวันนี่เองเลยได้ทราบว่าตั้งแต่เวลา 11.00-15.00 น. ของทุกวัน ทางร้านมีบริการบุฟเฟต์น้ำพริก ส้มตำ สลัด และผลไม้ให้ตักกันได้ไม่อั้นสำหรับคนที่สั่งเมนู a la carte ค่ะ (แต่ของเราเป็น set menu เลยไม่ได้สิทธิ์นี้นะคะ) เงื่อนไขคือสั่งเมนู a la carte 1 อย่าง / 1 คน ก็จะได้ทานบุฟเฟต์ 1 ท่าน ถ้าไปกันหลายคนจะไม่ให้น่าเกลียดก็สั่งอาหารให้ครบจำนวนคน โดยจะสั่งเป็นอาหารจานเดียวหรือสั่งกับข้าวมาแชร์กันทานก็ได้ แต่กรณีที่พาเด็กไปทางร้านก็อะลุ่มอล่วยให้เด็กร่วมทานบุฟเฟต์ฟรีด้วยได้นะคะ ฟังดูดีงามน่าสนใจทีเดียว เดินสำรวจไลน์บุฟเฟต์เค้าแล้วผักดูสดกรอบน่าทานมากเลยล่ะ จัดเป็นอีกร้านหนึ่งที่บรรยากาศดีน่ามานั่งชิลล์จัดมื้อใหญ่แบบ slow life กันซักมื้อ ในแง่รสมือแม้จะไม่ถึงกับติดใจ แต่ก็ต้องยอมรับว่าอาหารแต่ละจานนั้นดูจัดเตรียมมาอย่างพิถีพิถันจริงๆ วัตถุดิบก็ชั้นเลิศ โดยรวมแล้วก็จัดเป็นมื้อที่รื่นรมย์มื้อหนึ่งเลยล่ะ ถ้ามีโอกาสก็แวะมาลองกันได้นะคะ... อ่านต่อ
61 Likes0 Comment
photo