4.3
6 เรตติ้ง (6 รีวิว)
เปิดอยู่จนถึง 22:00
บรรยากาศ Tempozan Giant Ferris Wheel
บรรยากาศ
นั่งชิงช้าสวรรค์กระเช้าใสๆ เหมือนได้นั่งบนเมฆชมวิวทะเลจากอ่าวโอซาก้าเลยคนญี่ปุ่นนี่ดูจะชื่นชอบชิงช้าสวรรค์หรือ Ferris Wheel กันมากจริงๆ เพราะเห็นมีตั้งอยู่แทบทุกเมืองเลย สำหรับที่ Osaka นี้ก็มีที่ได้รับความนิยมอยู่ 2 แห่ง คือชิงช้าสวรรค์บนห้าง HEP FIVE ที่เห็นวิวเมืองได้โดยรอบ และเจ้า Tempozan Giant Ferris Wheel ที่มีจุดเด่นที่ทิวทัศน์ริมทะเลของอ่าวโอซาก้าแห่งนี้นี่เองค่ะ ด้วยขนาดใหญ่ยักษ์ที่ความสูง 112.5 เมตร และเส้นผ่านศูนย์กลาง 100 เมตร ทำให้ชิงช้าสวรรค์ Tempozan นี้เคยติดอันดับเป็น The World’s Biggest Ferris Wheel ตอนแรกสร้างเมื่อปี 1997 เลยทีเดียว ในปัจจุบันแม้จะมีที่อื่นๆสร้างแซงให้ใหญ่กว่าเดิมจนไม่ติดอันดับโลกแล้ว แต่ที่นี่ก็ยังนับเป็น Attraction ที่น่าแวะของโอซาก้าอยู่ดีนะ ****-ทำเลที่ตั้ง-**** Tempozan Giant Ferris Wheel นี้ตั้งอยู่ติดกับ Tempozan Market Place ใน Tempozan Harbor Village โดยสถานีที่ใกล้ที่สุดคือสถานี Osakako ซึ่งมีรถ Metro สาย Chuo Line แล่นผ่าน ****-ราคา-**** บุคคลทั่วไป (อายุตั้งแต่ 3 ปีขึ้นไป) – 800 เยน คนที่ซื้อบัตร Osaka Amazing Pass ขึ้นฟรีจ้า กระเช้าที่นี่จะมีทั้งหมด 60 กระเช้า มีทั้งแบบเป็นสีๆเหมือนชิงช้าสวรรค์ทั่วไป และกระเช้าแบบใสๆ (Transparent Cabin) ที่เป็นไฮไลท์ของที่นี่ เพราะเป็นกระจกใสไปหมดทั้งผนัง-พื้น-เพดาน เห็นวิวได้รอบทิศ ให้ความรู้สึกเหมือนลอยอยู่บนอากาศเลย ราคาค่าบัตรจะเท่ากันทั้ง 2 แบบ แต่เวลาต่อคิวแถวจะแบ่งเป็น 2 เลน แยกตามชนิดของกระเช้าที่อยากนั่ง ซึ่งความที่กระเช้าแบบใสนั้นมีแค่ 6 กระเช้าเท่านั้น คิวก็จะยาวกว่าเลนของกระเช้าแบบธรรมดา แต่ถ้าไม่เร่งรีบอะไรก็คู่ควรที่จะรอค่ะ ****-เวลาทำการ-**** ทุกวัน 10.00 – 22.00 น. (รอบสุดท้ายปิดรับตอน 21.30 น.) สำหรับเวลาทำการนี้บางช่วงก็ขยายเป็น 9.30-22.00 น. ส่วนบางวันที่สภาพอากาศไม่ดี เช่นมีพายุหรือลมพัดแรง ก็จะปิดให้บริการเพื่อความปลอดภัย ระยะเวลาที่อยู่บนกระเช้ารอบนึงจะประมาณ 15 นาทีนะคะ ****- ทิวทัศน์-**** ด้วยความสูงใหญ่ของ Ferris Wheel นี้ ในวันที่อากาศดีๆก็จะเห็นทั้งวิวเมืองและวิวทะเลกว้างไกลรอบทิศ โดยด้านตะวันออกสามารถเห็นทิวเขา Ikoma, ด้านตะวันตกสามารถเห็นสะพาน Akashi Kaikyo, ด้านใต้สามารถเห็นสนามบินนานาชาติคันไซ และด้านเหนือสามารถเห็นทิวเขา Rokko ค่ะ ****- Best time to go -**** ถ้าใครที่อยากเห็นท้องทะเลเป็นสีฟ้าสะท้อนแดดอยู่ ก็ควรไปช่วงกลางวันค่ะ แต่ช่วงเวลายอดนิยมจะเป็นช่วงเย็นเพื่อจะดูพระอาทิตย์ตกดิน และตอนกลางคืนที่นอกจากจะได้ชมแสงสีที่ประดับตามสะพานและในเมืองแล้ว ตัวชิงช้าสวรรค์เองก็มีไฮไลท์คือไฟ LED ที่ติดประดับ โดยสีของไฟจะตั้งตามพยากรณ์อากาศของวันรุ่งขึ้น คือไฟสีเขียวบ่งบอกถึงสภาพอากาศที่มีเมฆหมอก ไฟสีน้ำเงินคือจะมีฝนตก และสีส้มแดงคืออากาศแจ่มใส ส่วนถ้าเป็นวันที่มีทั้งแดด ทั้งฝน ทั้งหมอก ก็จะเห็นไฟขึ้นทั้งสามสีเลย เก๋ไก๋มากมาย แต่ไม่ว่าจะไปช่วงกลางวันหรือกลางคืนก็ควรเลี่ยงวันที่มีฝน เพราะผนังกระเช้าจะมีหยดน้ำเกาะ ถ่ายรูปไม่สนุกนะ ****- My Trip-**** สำหรับเราเลือกไปตอนกลางวัน แน่นอนว่าต้องขึ้นกระเช้าใส ซึ่งต้องบอกเลยว่าใสจริง วิวก็สวยจริง ...แต่มันเสียวไส้ใช้ได้เลยนะ อันนี้ตอนแรกก่อนขึ้นก็ไม่ได้คิดอะไร แต่พอขึ้นไปแล้วกระเช้ามันแกว่งตามลมไงคะ นั่งไปแกว่งไป พื้นก็ใสๆ ถ้าใครกลัวความสูงอาจต้องพิจารณาเลือกกระเช้าแบบสีๆธรรมดาแทนกระเช้าใส แต่เรื่องถ่ายรูปนี่ถือว่ากระเช้าใสเหมาะมากๆ ฟ้าเป็นฟ้า ทะเลเป็นทะเล ถูกใจเลยค่ะ ถ้าใครจัดทริปมาโซนนี้ก็ลองแวะมาเล่นดูได้เลย... อ่านต่อ
53 Likes0 Comment
photo