บอร์ดเกมคาเฟ่ อีกหนึ่งธุรกิจน่าสนใจที่กลายเป็นแหล่งพบปะเพื่อนฝูงของวัยรุ่นในสมัยนี้ เราอาจคุ้นเคยกันดีกับเจ้าบอร์ดเกมสุดฮิตอย่าง เกมเศรษฐี แต่จริงๆ แล้วยังมีบอร์ดเกมอีกหลายประเภท ซึ่งเพิ่งจะเริ่มแพร่หลายในประเทศไทยในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา จนเกิดเป็นธุรกิจรูปแบบใหม่ ตอบโจทย์คนรักการเล่นเกมและต้องการใช้เวลากับเพื่อนฝูงเป็นหลัก ถือเป็นสถานที่ที่ทำให้ผู้คนได้มาใช้เวลาร่วมกัน
แม้คำว่าบอร์ดเกมคาเฟ่จะเริ่มเป็นที่คุ้นหูใครหลายคน แต่ก็ยังอยู่ในช่วงที่ธุรกิจประเภทนี้กำลังเติบโตและเริ่มเจาะกลุ่มลูกค้าใหม่ๆ มากขึ้น ไม่ใช่เพียงแค่คนที่เล่นบอร์ดเกมเป็นอยู่แล้ว แต่รวมไปถึงกลุ่มคนที่ไม่เคยเล่นมาก่อน ธุรกิจบอร์ดเกมคาเฟ่มีความแตกต่างและรายละเอียดที่มากกว่าคาเฟ่ทั่วไป เพราะไม่ได้เน้นขายแค่เครื่องดื่มและอาหาร แต่กลับเป็นการขายประสบการณ์และเป็นพื้นที่ของการพบปะของผู้คน บรรยากาศโดยรวมของบอร์ดเกมคาเฟ่จึงเต็มไปด้วยความสนุกสนาน ผิดกับคาเฟ่ทั่วไปที่ผู้คนมักจะมานั่งใช้เวลาเงียบๆ ซะมากกว่า
1. พนักงานในร้านมีความรู้เกี่ยวกับการเล่นเกม
หนึ่งปัจจัยสำคัญของธุรกิจบอร์ดเกมคาเฟ่คือ พนักงานผู้เชี่ยวชาญ หรือเหล่า Game Master (GM) ที่จะคอยให้คำแนะนำในการเล่นเกมต่างๆ ตั้งแต่การสอนและอธิบายกติกา รวมไปถึงสอบถามผู้เล่นว่าสนใจเกมประเภทไหน หรือชอบเล่นเกมแนวไหน เพราะคุณจะต้องเจอลูกค้าที่ไม่เคยเล่นเกมบางประเภทมาก่อนอย่างแน่นอน
พนักงานในบอร์ดเกมคาเฟ่จึงเป็นเหมือนคนที่คอยสื่อสารกับลูกค้าเป็นหลัก คุณสมบัติที่ดีของ Game Master คือ เป็นคนอัธยาศัยดี เข้าหาลูกค้าและสามารถพูดคุยกับลูกค้าได้ ที่สำคัญคือสามารถอธิบายให้ลูกค้าเข้าใจวิธีการเล่นเกมแต่ละเกมได้เป็นอย่างดี
2. มีเกมหลากหลายประเภทให้เลือกเล่น
ขึ้นชื่อว่าเป็นบอร์ดเกมคาเฟ่แล้ว ก็ต้องมีเกมหลากหลายแบบให้เล่น บอร์ดเกมคาเฟ่ชื่อดังส่วนใหญ่มีเกมให้เล่นไม่ต่ำกว่า 100 เกม แต่ละเกมไม่ได้มีเพียงแค่กล่องเดียวเท่านั้น ทำให้งบประมาณในส่วนของการซื้อเกมค่อนข้างสูงและเกมส่วนใหญ่ต้องนำเข้าจากต่างประเทศ แต่ตอนนี้เมืองไทยเราก็มีบอร์ดเกมที่คิดค้นโดยคนไทยแล้วเช่นกัน อย่าง The Xvolution
สำหรับบอร์ดเกมคาเฟ่ที่เพิ่งเปิดใหม่อาจเริ่มจากการมีเกมประมาณ 50 เกม โดยคละประเภทของเกมให้หลากหลาย มีทั้งเกมที่เด็กเล่นได้ สร้างเสริมประสบการณ์และความสนุกสนาน ไปจนถึงเกมที่มีความซับซ้อนต้องใช้การวิเคราะห์และความเข้าใจมากขึ้น เหมาะสำหรับผู้เล่นที่โตแล้ว อย่างกลุ่มนักเรียน นักศึกษา หรือวัยทำงาน
3. การเลือกทำเลให้ตรงกลุ่มเป้าหมาย
บอร์ดเกมคาเฟ่เป็นธุรกิจที่มีกลุ่มเป้าหมายค่อนข้างเฉพาะกลุ่ม แม้จะอยากตีตลาด เข้าถึงลูกค้ากลุ่มใหม่ๆ แต่ก็ควรเริ่มจากบริเวณที่มั่นใจว่ามีคนอยากเล่นแน่นอน ย่านมหาวิทยาลัยหรือโรงเรียนจึงเป็นทำเลแรกที่ตอบโจทย์ธุรกิจประเภทนี้ เพราะมีวัยรุ่นอย่างนักเรียนและนักศึกษาเป็นกลุ่มเป้าหมายหลัก รองลงมาคือย่านออฟฟิศ ที่อาจมีพนักงานมาเล่นเกมเพื่อผ่อนคลายความเครียดหลังเลิกงาน นอกเหนือจากนั้นคือกลุ่มครอบครัวที่พาลูกหลานมาใช้เวลาในวันหยุด
4. จำนวนพนักงานเพียงพอต่อปริมาณโต๊ะภายในร้าน
ลักษณะของการเล่นบอร์ดเกมออกแบบมาให้ใช้เวลาเล่นนานค่อนข้างนาน ทำให้คาเฟ่ประเภทนี้ต้องมีจำนวนโต๊ะที่สามารถรองรับลูกค้าซึ่งมักจะมานั่งเล่นกันเป็นกลุ่มใหญ่ๆ เป็นเวลานาน รวมถึงการจัดการหมุนเวียน Game Master ที่คอยให้คำแนะนำแก่ลูกค้าได้อย่างทั่วถึง เพียงพอต่อปริมาณโต๊ะภายในร้าน หากในร้านบอร์ดเกมมีให้บริการ 10 โต๊ะก็ควรมี Game Master สอนเกมได้ไม่ต่ำกว่า 3 คน
การคิดค่าบริการในการนั่งเล่นเกมของบอร์ดเกมคาเฟ่จะคิดเป็นรายชั่วโมง โดยมีอัตราการเก็บเงินแตกต่างกันไป อาจขึ้นอยู่กับทำเลเป็นหลักด้วยเช่นกัน เช่น หากอยู่ในย่านที่ไม่ได้เป็นย่านธุรกิจหลักของเมือง จะมีอัตราค่าบริการประมาณ 40-60 บาท/ชั่วโมง เป็นต้น นอกจากนี้ทางร้านสามารถคิดรูปแบบค่าบริการได้หลากหลาย เช่น ราคาเท่ากันทุกชั่วโมง หรือชั่วโมงต่อๆ ไปถูกลง จนไปถึงราคาแบบเหมาวันเลยก็ได้ รายได้ของบอร์ดเกมคาเฟ่จึงขึ้นอยู่กับค่าบริการในการนั่งเล่นเป็นหลัก โดยมีค่าเครื่องดื่มและอาหารรองลงมา
ธุรกิจบอร์ดเกมคาเฟ่มักริเริ่มมาจากความชื่นชอบในการเล่นบอร์ดเกม แต่จะดำเนินธุรกิจให้ไปได้ตลอดรอดฝั่งก็ต้องศึกษาแนวทางให้แน่นเสียก่อน เพราะถือเป็นธุรกิจที่มีค่าใช้จ่ายในการลงทุนมากกว่าธุรกิจคาเฟ่ทั่วๆ ไป บอร์ดเกมคาเฟ่จะเป็นกระแสมาแรงในอนาคตหรือไม่ ก็ต้องรอติดตามกันครับ แต่ก็นับว่าเป็นอีกหนึ่งเส้นทางธุรกิจที่น่าสนใจไม่น้อยเลย
ที่มาจาก Thai SMEs Center
สำหรับผู้ประกอบการร้านอาหารท่านใดสนใจ ระบบจัดการร้านอาหาร Wongnai POS สามารถลงทะเบียนและรับคำปรึกษาด้านการตลาดออนไลน์กับ Wongnai ฟรี! คลิกที่นี่ได้เลย