3 แนวทาง ปรับตัวธุรกิจร้านอาหารสู่ยุคดิจิทัล
  1. 3 แนวทาง ปรับตัวธุรกิจร้านอาหารสู่ยุคดิจิทัล

3 แนวทาง ปรับตัวธุรกิจร้านอาหารสู่ยุคดิจิทัล

ปรับตัวธุรกิจร้านอาหารสู่ยุคดิจิทัล กับ 3 แนวทางง่ายๆ ที่เรียกได้ว่าแฮปปี้ทั้งเจ้าของธุรกิจทั้งคุณลูกค้า!
writerProfile
20 พ.ค. 2020 · โดย

เมื่อขึ้นชื่อว่าเป็น “ร้านอาหาร” แน่นอนว่าความอร่อยคงเป็นปัจจัยพื้นฐานที่ทุกคนมองหาอยู่เสมอ ในฐานะเจ้าของธุรกิจร้านอาหาร เราต้องคงมาตรฐานความอร่อยเพื่อไม่ให้ลูกค้าหนีหายไปไหนซะก่อน แต่ในยุคปัจจุบันที่มีการแข่งขันสูง ยังมีร้านอาหารอีกมากมายที่กำลังจะเติบโต หากเราจะอาศัยเพียงความอร่อยอย่างเดียวเพื่อความอยู่รอดในสนามแข่งขันนี้คงเป็นเรื่องยาก วันนี้เราจึงขอแนะนำ 3 แนวทางในการปรับตัวสู่การเป็นร้านอาหารในยุคดิจิทัล

1. พาร้านอาหารเข้าสู่สังเวียนออนไลน์

ปัจจุบันไลฟ์สไตล์ของคนยุคใหม่ขึ้นอยู่กับโลกอินเทอร์เน็ตเป็นส่วนใหญ่ อยากรู้อะไร แค่คลิกเดียวเข้า Google และเสิร์ชหา เราก็จะได้คำตอบมากมายขึ้นมาให้อ่านไม่หวาดไม่หวั่น การรีวิวบนเว็บไซต์กลายเป็นสิ่งที่มีอิทธิพลต่อคนหมู่มาก ไม่ว่าจะเป็นเรื่องอาหารการกิน สถานที่ท่องเที่ยว หรือแม้แต่สื่อบันเทิงอย่างภาพยนตร์และซีรีส์ สำหรับผู้บริโภคแล้ว ทุกอย่างล้วนได้รับการคัดกรองล่วงหน้าด่านนึงก่อนที่พวกเขาจะตัดสินใจใช้บริการจริงๆ

ข้อมูลเกี่ยวกับร้านอาหารที่ถูกต้องครบถ้วนบนเว็บไซต์หรือเพจหลักของทางร้านอาหารจึงเป็นสิ่งที่ไม่ควรละเลย ทั้งข้อมูลเรื่องตำแหน่งร้าน เวลาเปิด-ปิดร้าน และช่องทางการติดต่อต่างๆ

นอกจากนี้ การสื่อสารกับลูกค้าผ่านช่องทางออนไลน์ยังเป็นอีกหนึ่งช่องทางที่เข้าถึงผู้บริโภคได้ง่ายและรวดเร็ว จะอัปเดตโปรโมชันช่วงเทศกาลหรือแนะนำเมนูใหม่ประจำร้านก็ทำได้ทันที แถมยังช่วยประหยัดงบมากกว่าการโฆษณาผ่านช่องทางออฟไลน์ อย่างเช่น โฆษณาในนิตยสาร หรือ โฆษณาผ่านทางโบรชัวร์ เป็นต้น

ธุรกิจอาหารเดลิเวอรี

2. ระบบเดลิเวอรี สะดวกรวดเร็ว แฮปปี้กันทุกฝ่าย

บางครั้งตำแหน่งที่ตั้งของร้านอาจเป็นอุปสรรคสกัดดาวรุ่งของร้านอาหารเสียเอง ลูกค้าบางคนอาจจะถอดใจไปก่อนจะได้มาลิ้มรสอาหารของร้านเราเพียงเพราะเส้นทางไปร้านที่เข้าใจได้ยากหรือชวนสับสน สำหรับบางคนอาจจะเหนื่อยจากงานที่ทำมาตลอดทั้งวัน อยากจะทานอาหารดีๆ แต่ก็เหนื่อยเกินกว่าจะฝ่ารถติดหลังเลิกงานไปที่ร้าน การเชื่อมต่อร้านอาหารกับระบบเดลิเวอรีเป็นอีกทางที่ตอบโจทย์ทั้งฝั่งเจ้าของธุรกิจร้านอาหารและฝั่งลูกค้าให้ได้แฮปปี้ทั้งสองฝ่าย

ในตอนนี้มีหลากหลายบริษัทที่จัดทำแอปพลิเคชันเพื่อรองรับการสั่งอาหารออนไลน์ ซึ่งทางร้านอาหารสามารถนำร้านเข้าสู่ระบบและใช้บริการส่วนนี้ได้โดยไม่ต้องลงแรงไปกับการจัดทำระบบเดลิเวอรีเอง นอกจากจะช่วยให้ลูกค้าสะดวกสบายแล้ว เจ้าของร้านอาหารอย่างเราเองก็ได้ประโยชน์ไม่แพ้กัน เพราะถือว่าเป็นการเปิดโอกาสในการขายมากขึ้นและสามารถเพิ่มจำนวนลูกค้าได้โดยไม่ต้องกังวลเรื่องการขยับขยายพื้นที่ร้านให้ยุ่งยาก

ธุรกิจอาหารเดลิเวอรี

3. สังคมไร้เงินสด ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์คนยุคใหม่

Cashless Society หรือสังคมไร้เงินสดคงเป็นคำที่เราเริ่มจะได้ยินบ่อยขึ้นทุกวันนี้ ตั้งแต่รัฐบาลมีนโยบายพร้อมเพย์ออกมาตอบสนองการใช้จ่ายของประชาชนซึ่งเริ่มหันมาพึ่งการใช้แอปฯ Online Banking ของธนาคารต่างๆ มากขึ้น รวมถึงการประกาศฟรีค่าธรรมเนียมระหว่างธนาคารด้วยเช่นกัน การเปิดให้ชำระเงินผ่านระบบ e-Payment ถือเป็นการเพิ่มทางเลือกให้กับลูกค้า และยังดีต่อร้านอาหารเองเมื่อต้องการติดตามรายรับและรายจ่ายต่างๆ ในบัญชี

นอกจากนี้ ยังมีเทคโนโลยีใหม่ซึ่งกำลังฮอตฮิตสุดๆ ในช่วงนี้อย่าง QR code Payment ที่เราจะเห็นร้านอาหารออกบูธตามงานต่างๆ เริ่มหันมาใช้กัน เพียงแค่ลูกค้ามีแอปพลิเคชันของธนาคารที่ใช้อยู่ก็สามารถ Scan QR code เพื่อจ่ายเงินได้อย่างสะดวกรวดเร็ว หมดห่วงเรื่องกดเงินสดมาไม่พอหรือได้รับเงินทอนกลับไปไม่ครบได้เลย

ธุรกิจอาหารเดลิเวอรี

แนวทางที่เรานำมาแนะนำในครั้งนี้ถือเป็นการปรับตัวเข้าสู่โลกดิจิทัลและนำเทคโนโลยีใหม่ๆ มาใช้เพื่อตอบสนองพฤติกรรมของผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไป ที่สำคัญยังเป็นการเปิดโอกาสในการขายให้กับเจ้าของธุรกิจร้านอาหารด้วยเช่นกัน  

สำหรับผู้ประกอบการร้านอาหารท่านใดสนใจ ระบบจัดการร้านอาหาร Wongnai POS สามารถลงทะเบียนและรับคำปรึกษาด้านการตลาดออนไลน์กับ Wongnai ฟรี! คลิกที่นี่ได้เลย

ติดตามบทความเกี่ยวกับธุรกิจร้านอาหารเพิ่มเติม