ในปัจจุบันร้านอาหารจะประสบความสำเร็จได้ อาศัยเพียงรสชาติความอร่อยอาจไม่เพียงพอ เมื่อธุรกิจร้านอาหารหรือแม้แต่คาเฟ่ ร้านกาแฟต่างๆ มีคู่แข่งเพิ่มมากขึ้นทุกวัน การทำการตลาดจึงเป็นอีกหนึ่งกลยุทธ์ที่จะช่วยให้ร้านของคุณโดดเด่นและเข้าไปอยู่ในใจของลูกค้าได้ แต่การทำการตลาดครั้งหนึ่งมีค่าใช้จ่ายเยอะกว่าที่คุณคาดคิด ร้านอาหารส่วนใหญ่จ่ายเงินให้กับค่าการตลาดประมาณ 3-6% จากรายได้ แล้วเราจะลงทุนไปกับการทำการตลาดอย่างไรให้ได้ประสิทธิภาพสูงสุด วันนี้เรามี 10 ข้อผิดพลาดในการทำการตลาด ที่เจ้าของธุรกิจร้านอาหารและคาเฟ่ควรระวังให้ดี !!
1. ละเลยเรื่องการสร้างแบรนด์
เจ้าของธุรกิจร้านอาหารและคาเฟ่หลายๆ คนอาจมองข้ามความสำคัญของการสร้างแบรนด์ ร้านอาหารของคุณมีความโดดเด่นและเฉพาะตัวอย่างไร กลุ่มเป้าหมายเป็นใคร รวมถึงเรื่องราวความเป็นมาของร้าน ข้อมูลเหล่านี้คือการสร้างแบรนด์ในชื่อร้านของคุณให้แข็งแกร่งและเป็นที่น่าจดจำ
การทำการตลาดและประชาสัมพันธ์ที่ดีคือการบอกเล่าเรื่องราวของแบรนด์ ตัวตนของแบรนด์จะทำให้แบรนด์ของคุณแตกต่างจากคนอื่น ซึ่งองค์ประกอบเหล่านี้จะถูกหยิบมาใช้กับการทำแคมเปญสำหรับการตลาดและการประชาสัมพันธ์ หากมีแบรนด์ที่แข็งแกร่งและชัดเจน สิ่งที่จะสื่อออกไปผ่านแคมเปญและโฆษณาต่างๆ ก็จะชัดเจนตรงกับเป้าหมายของแบรนด์จนลูกค้าสามารถจดจำได้และรู้สึกคุ้นเคยกับแบรนด์ของคุณ
2. ไม่ได้วางแผนงานและงบประมาณ
การทำการตลาดควรมีการวางแผนงานและงบประมาณที่จะใช้ก่อนลงมือทำจริง กำหนดเป้าหมายของงานให้ชัดเจนและตั้งงบประมาณสำหรับงานนั้นๆ เป้าหมายของงานแต่ละครั้งควรตั้งอยู่บนพื้นฐานความเป็นจริงและวัดผลได้ด้วยมาตรฐานที่ชัดเจน เช่น หากคุณมีเป้าหมายว่าอยากสร้าง Brand Awareness อาจฟังดูกว้างเกินไป ลองกำหนดด้วยตัวเลข อย่างเช่น มีผู้ติดตาม Facebook page เพิ่มขึ้น 1,000 คนภายในสิ้นเดือนนี้ เป็นต้น
ที่สำคัญอย่าลืมกำหนดวันเดดไลน์สำหรับการทำงานในแต่ละครั้ง เพื่อจะได้ติดตามผลว่าสิ่งที่คุณทำลงไปนั้นเกิดประสิทธิภาพมากน้อยแค่ไหนหรือช่วยเพิ่มยอดขายให้คุณได้หรือไม่ โดยอย่าลืมเก็บข้อมูลเรื่องการตลาดของธุรกิจในแวดวงเดียวกัน เพื่อที่คุณจะได้สร้างความแตกต่างจากพวกเขา ให้การทำการตลาดของคุณไม่สูญเปล่าและกลมกลืนไปกับคนอื่น
3. ไม่ได้ใช้สื่อโซเชียล
หนึ่งในบรรดาข้อผิดพลาดที่เจ้าของธุรกิจร้านอาหารพบคือไม่กล้าลงทุนไปกับการตลาดบนสื่อออนไลน์อย่างสื่อโซเชียล ด้วยความคิดที่ว่ามันใหม่เกินไปและเรียนรู้ได้ยาก ทุกวันนี้โลกของเราเหมือนถูกขับเคลื่อนควบคู่ไปกับโลกออนไลน์ การทำการตลาดบนสื่อดิจิทัลและสื่อโซเชียลกลายเป็นเรื่องสำคัญและสร้างความสำเร็จให้หลายแบรนด์มานักต่อนัก เพราะสามารถเข้าถึงกลุ่มลูกค้าได้ตรงกลุ่มมากขึ้น รวมถึงยังเปิดโอกาสให้ลูกค้าใหม่ๆ ได้รู้จักร้านอาหารของคุณด้วยเช่นกัน
สำหรับการทำการตลาดร้านอาหารส่วนใหญ่ 40% ของงบประมาณการตลาดทั้งหมดถูกใช้ไปกับการตลาดออนไลน์และสื่อโซเชียลซึ่งช่วยสร้างเครือข่ายให้ผู้คนรู้จักร้านอาหารของคุณได้มากขึ้น ร้านอาหารที่ไม่ได้สนใจการตลาดบนสื่อออนไลน์อาจพลาดโอกาสดีๆ ที่จะช่วยเพิ่มยอดขายและขยายฐานลูกค้าได้
4. ไม่สนใจธุรกิจเพื่อนบ้านในละแวกเดียวกัน
ในการทำธุรกิจอย่างใดอย่างหนึ่ง การสร้างเครือข่ายและทำความรู้จักกับธุรกิจอื่นๆ ในละแวกเดียวกัน หรือแม้แต่ร้านอาหารที่อยู่ในโซนเดียวกัน ถือเป็นโอกาสที่ดีมากกว่าจะมองพวกเขาเป็นคู่แข่งเพียงอย่างเดียว เพราะเราสามารถทำกิจกรรมทางการตลาดหรือแลกเปลี่ยนผลประโยชน์ร่วมกันได้
ตัวอย่างเช่น หากในบริเวณใกล้เคียงมีร้านหนังสือและจัดกิจกรรมเล็กๆ ภายในร้าน ทางร้านอาหารหรือคาเฟ่ของคุณอาจนำเสนอชุดของว่างและเครื่องดื่มในราคาพิเศษ เพราะนอกจากจะได้สร้างเครือข่ายมิตรภาพแล้วยังได้พื้นที่ในการทำให้คนรู้จักร้านของคุณมากขึ้นผ่านงานอีเว้นท์เหล่านี้ นับว่าเป็นแนวทางในการลดค่าใช้จ่ายเรื่องการโฆษณาร้านได้และยังเข้าถึงกลุ่มลูกค้าขนาดใหญ่ที่คุณอาจไม่เคยคิดถึงมาก่อน
5. ไม่ได้วางแผนสำหรับการแก้ปัญหาวิกฤตต่างๆ
สำหรับธุรกิจด้านการบริการอย่างร้านอาหารและคาเฟ่ ผลตอบรับจากลูกค้าเป็นเรื่องสำคัญและหลายครั้งเราอาจพบปัญหาร้องเรียนเข้ามาอยู่ตลอด นอกจากนี้ยังมีปัญหาจากปัจจัยภายนอกต่างๆ ที่ไม่สามารถควบคุมได้ ร้านอาหารและคาเฟ่หลายแห่งไม่ได้เตรียมตัวรับมือกับวิกฤตเหล่านี้ ซึ่งอาจเป็นสิ่งที่ทำลายชื่อเสียงและธุรกิจของคุณได้ง่ายๆ เช่น ลูกค้าหลายคนมาทานอาหารที่ร้านและกลับไปมีอาการท้องเสียอย่างหนัก หรือแม้แต่เรื่องที่ไม่ได้เกิดจากทางร้านเอง อย่างการทะเลาะวิวาทของลูกค้า และเหตุภัยพิบัติต่างๆ ที่ส่งผลกระทบต่อร้านอาหารโดยตรง เป็นต้น
ในยามวิกฤตเช่นนี้ ควรมีแผนการสื่อสารเพื่อแก้ปัญหาที่เกิดขึ้น มากกว่าที่จะนิ่งเฉยและไม่มีคำตอบใดๆ เพราะจะยิ่งทำให้เหตุการณ์เลวร้ายลงได้กว่าเดิม นอกจากการจัดการวางแผนเบื้องต้นด้วยตัวเองแล้ว ปัจจุบันยังมีบริษัทหลายแห่งที่ดูแลและให้คำปรึกษาเรื่องภาพลักษณ์แบรนด์ ซึ่งมักจะช่วยเหลือและเสนอแนวทางแก้ไขที่เหมาะสมและเป็นไปได้มากที่สุดให้ แน่นอนว่าวิกฤตเหล่านี้ไม่ได้เป็นสิ่งที่ทุกคนอยากให้เกิดขึ้น และบางเหตุการณ์อย่างภัยพิบัติต่างๆ ก็อยู่เหนือการควบคุมของเรา แต่การเตรียมตัวให้พร้อมเสมอเพื่อรองรับเหตุการณ์เหล่านี้ก็เปรียบเสมือนการลดแรงกระแทกเพื่อไม่ให้ธุรกิจของคุณเจ็บตัวไปมากกว่านี้นั่นเอง
6. เว็บไซต์ไม่มีประสิทธิภาพ
หากพูดถึงการตลาดบนสื่อออนไลน์ ร้านอาหารและคาเฟ่หลายแห่งมักจะทุ่มไปกับการทำการตลาดบนสื่อโซเชียลเป็นหลัก โดยหลงลืมความสำคัญของเว็บไซต์ไป เว็บไซต์หลักเป็นอีกช่องทางหนึ่งที่เปรียบเสมือนหน้าร้านอีกแห่งของคุณ 33% ของผู้ใช้งานออนไลน์มักจะเข้าเว็บไซต์ร้านอาหารก่อนการตัดสินใจไปทานอาหารที่ร้านนั้นๆ เป็นครั้งแรก
ออกแบบเว็บไซต์ของคุณให้สวยงามและใช้งานได้สะดวกที่สุด โดยคำนึงถึงการเข้าเว็บไซต์ผ่านโทรศัพท์มือถือซึ่งเป็นหนึ่งในอุปกรณ์หลักของคนในยุคปัจจุบัน เนื่องจากการใช้งานบนคอมพิวเตอร์แตกต่างจากบนโทรศัพท์มือถืออยู่พอสมควร ส่วนใหญ่แล้วเวลาที่ผู้คนใช้คอมพิวเตอร์มักจะเป็นการค้นหาข้อมูลอย่างละเอียด ขณะที่การเสิร์ชหาข้อมูลบนโทรศัพท์มือถือกลับเป็นการค้นหาสถานที่อย่างร้านอาหารที่กำลังจะไปในเร็วๆ นี้ ผู้ใช้งานผ่านโทรศัพท์มือถือจึงต้องการเข้าถึงข้อมูลเรื่องเมนูและการเดินทางไปร้านอาหารเป็นหลัก ดังนั้นอย่าลืมออกแบบเว็บไซต์ของคุณให้ตอบโจทย์การใช้งานผ่านโทรศัพท์มือถือด้วย
7. ไม่ได้สนใจกลยุทธ์การบอกต่อ (Word of mouth)
หลายคนอาจคิดว่ากลยุทธ์การบอกต่อหรือ Word of mouth นั้นขึ้นอยู่กับลูกค้าเป็นหลัก ไม่สามารถควบคุมหรือสร้างให้เกิดขึ้นได้ง่ายๆ แต่แท้จริงแล้วเบื้องหลังกลยุทธ์ยอดนิยมนี้ทำงานควบคู่ไปกับการประชาสัมพันธ์ที่เน้นให้เกิดการบอกต่อ ปัจจุบันมีอุปกรณ์มากมายให้เราได้หยิบจับมาใช้ทำการตลาดแบบบอกต่อ โดยเฉพาะสื่อโซเชียลอย่าง Facebook, Twitter และ Instagram เป็นต้น
สำหรับธุรกิจร้านอาหารและคาเฟ่ การบอกต่อหรือรีวิวต่างๆ เป็นเหมือนสิ่งการันตีคุณภาพของร้านอาหารในเบื้องต้น ข้อมูลที่ค้นหาในอินเตอร์เน็ตอาจไม่เพียงพอเมื่อเทียบกับสิ่งที่ได้ยินมาจากคนใกล้ตัวหรือคนรู้จัก ซึ่งดูน่าเชื่อถือกว่ากันเป็นไหนๆ ทำให้ผู้บริโภคเชื่อและตัดสินใจได้ง่ายขึ้น
8. ไม่ได้เก็บข้อมูลลูกค้า
การทำการตลาดและประชาสัมพันธ์จะต้องมีกลุ่มเป้าหมายของงานอย่างชัดเจนเสมอ ทั้งในด้านประชากรศาสตร์หรือความสนใจต่างๆ แต่ก็ยังคงเป็นเรื่องยากที่จะเจาะเข้าถึงกลุ่มลูกค้าที่ไม่เคยรู้จักกันมาก่อน การเก็บข้อมูลของลูกค้าเพื่อสร้างเป็นฐานข้อมูลของร้านจะช่วยให้การทำการตลาดของคุณง่ายขึ้น เพราะสามารถเข้าถึงกลุ่มลูกค้าได้อย่างแม่นยำ โดยแนวทางที่ดีที่สุดในการสร้างฐานข้อมูลลูกค้าคือการเข้าถึงลูกค้าโดยการพูดคุยหรือเก็บแบบสอบถาม
สร้างแบบสอบถามเล็กๆ ไว้บนโต๊ะอาหาร หรือจะเป็นการสอบถามแบบปากเปล่า ซึ่งหากเป็นแนวทางนี้คุณต้องเรียนรู้วิธีการพูดที่ไม่สร้างความกดดันหรือรู้สึกอึดอัดจนเกินไป นอกจากนี้ยังสามารถเก็บข้อมูลลูกค้าผ่านการทำ Loyalty program อย่างบัตรสะสมคะแนน ซึ่งเป็นแนวทางที่ลูกค้าส่วนใหญ่มักจะยินยอมให้ข้อมูลเพราะพวกเขาจะได้รับสิ่งตอบแทนจากการมีบัตรสะสมคะแนนอย่างแน่นอน ทั้งยังเป็นการกระตุ้นให้ลูกค้ากลับมาทานอาหารที่ร้านของคุณอีกครั้งด้วยเช่นกัน หากในอนาคตต้องการส่งข่าวสารโปรโมชั่นต่างๆ อย่าลืมสอบถามลูกค้าถึงช่องทางที่พวกเขาสะดวกรับสารเหล่านี้ โดยเฉพาะข้อมูลเรื่อง e-mail ซึ่งสามารถนำมาใช้ประโยชน์ในการส่งข่าวสารเกี่ยวกับร้านอาหารได้ รวมถึงนำมาใช้ในการทำโฆษณาผ่านสื่อออนไลน์ต่างๆ ที่จะทำให้คุณเข้าถึงลูกค้าในกลุ่มเดียวกันได้ง่ายยิ่งขึ้น
9. มีส่วนลดบ่อยเกินไป
ร้านอาหารและคาเฟ่หลายแห่งมองว่าการมอบส่วนลดเป็นหนทางที่ดีในการช่วยเพิ่มยอดขายและดึงดูดลูกค้ากลุ่มใหม่ๆ แต่แท้จริงแล้วความคิดนี้ไม่ถูกเสียทีเดียว ในบางครั้งการมอบส่วนลดอาจทำให้มุมมองที่ลูกค้ามีต่อร้านของคุณเปลี่ยนไป เพราะเป็นเหมือนการลดค่าของแบรนด์และทำให้ลูกค้ารู้สึกว่าอาหารอาจไม่ได้สมกับราคาปกติที่ตั้งไว้ สุดท้ายเลยต้องนำมาลดราคา
ร้านอาหารและคาเฟ่จึงควรเป็นสถานที่ที่เสิร์ฟอาหารรสเลิศและการบริการชั้นเยี่ยม ไม่ใช่เป็นแหล่งรวมธุรกิจที่แลกสินค้ามาด้วยส่วนลดที่คุ้มที่สุด
10. มองข้ามผู้บริโภคเฉพาะกลุ่ม
โดยปกติแล้วในการวางกลุ่มเป้าหมายของการตลาดหรือโฆษณาต่างๆ เรามักจะพุ่งตรงไปที่ช่วงวัย เพศ หรืออาชีพเป็นหลัก จนอาจมองข้ามผู้บริโภคเฉพาะกลุ่มซึ่งดูเหมือนจะเป็นกลุ่มที่ไม่ได้ขนาดใหญ่มากนัก อย่างกลุ่มคนที่มีความสนใจเฉพาะเรื่อง หรือคนที่เข้าถึงบริการต่างได้ยากๆ ลองทำการตลาดที่เจาะกลุ่มผู้บริโภคที่คุณไม่เคยสนใจมาก่อน
ตัวอย่างเช่น วางชามใส่น้ำสำหรับสัตว์เลี้ยงไว้ที่ด้านนอกร้านอาหารและถ่ายภาพเวลามีสุนัขหรือแมวแวะเวียนมาที่หน้าร้านของคุณ เพื่อดึงดูดกลุ่มคนรักสัตว์ หรือจะมี Free WiFi ให้ภายในร้านเพื่อเจาะกลุ่มนักศึกษาหรือคนที่ต้องทำงานข้างนอกอยู่บ่อยๆ
แคมเปญการตลาดต่างๆ จะได้ผลดีมากยิ่งขึ้นเมื่อเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายที่ชัดเจนได้ มากกว่าจะปล่อยออกไปเหมือนกับการหว่านแหแล้วหวังว่ามันจะเข้าถึงคนได้มากๆ โดยไม่รู้ว่าแท้จริงแล้วคุณต้องการสื่อสารแคมเปญนี้ไปถึงใคร สุดท้ายแคมเปญของคุณอาจผ่านตาพวกเขาไป แต่ไม่ได้มีใครที่สนใจพอจะหยุดดู
การกำหนดกลุ่มเป้าหมายให้ชัดเจน ศึกษาลักษณะเฉพาะและพฤติกรรมของพวกเขาจึงช่วยให้การทำงานของคุณมีจุดโฟกัสมากยิ่งขึ้น โดยอาจเริ่มจากการศึกษาผู้บริโภคในลักษณะต่างๆ และตัดสินใจในภายหลังว่ากลุ่มไหนที่ดูจะเหมาะกับร้านอาหารหรือคาเฟ่ของคุณมากที่สุดและควรสื่อสารกับพวกเขาผ่านสื่อในช่องทางไหน
ที่มา : https://aaronallen.com/blog/common-restaurant-marketing-mistakes
หากผู้ประกอบการร้านอาหารท่านใด สนใจอยากจะมีตัวช่วยดี ๆ อย่างระบบจัดการร้าน Wongnai POS เทคโนโลยีที่ช่วยให้ร้านของคุณทำงานได้สะดวก สามารถใช้งานได้ในร้านหลากหลายรูปแบบ ให้คุณลงทุนไม่ต้องเยอะ ก็สามารถมีระบบการจัดการร้านที่ครอบคลุมในทุกๆ ด้าน รวมถึงมีระบบ CRM ให้คุณสามารถสร้างบัตรสะสมแต้มออนไลน์อย่าง Wongnai Reward Card ได้เอง! สนใจสมัครและศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับ Wongnai POS คลิกที่นี่ได้เลย!