ใครๆ ก็อยากกินข้าวนอกบ้าน จัดการร้านอาหารอย่างมือโปรรับยอดขายสิ้นปี
  1. ใครๆ ก็อยากกินข้าวนอกบ้าน จัดการร้านอาหารอย่างมือโปรรับยอดขายสิ้นปี

ใครๆ ก็อยากกินข้าวนอกบ้าน จัดการร้านอาหารอย่างมือโปรรับยอดขายสิ้นปี

5 เทคนิคจัดการร้านอาหารช่วงสิ้นปี ให้ลูกค้าสบายใจ แฮปปี้ เจ้าของร้านยอดขายปังรับสิ้นปี
writerProfile
20 ธ.ค. 2021 · โดย

ธันวาคม ถือเป็นช่วงเวลาแห่งการเฉลิมฉลอง ไม่ว่าจะเป็นคริสมาสต์และช่วงสิ้นปี เต็มไปด้วยความอบอุ่น ครึกครื้น ทำให้ผู้คนออกมาจับจ่ายใช้สอย ทานอาหารนอกบ้านกันเยอะขึ้น

ในมุมของร้านอาหารเอง ก็ถือว่าเป็นช่วงเวลากอบโกยยอดขายงวดสุดท้ายของปี แน่นอนว่าถ้ามีการเตรียมตัวดี ๆ ทั้งในมุมของความปลอดภัยและการจัดการร้านที่ดี จะทำให้มีลูกค้าเข้ามาแน่นหนาปังปั๊วะ สมใจแน่นอน

วันนี้ Wongnai for Business จะมาแชร์ 5 เทคนิคจัดการร้านอาหารอย่างมือโปร เพื่อเตรียมตัวรับยอดขายสุดปังสิ้นปี มาดูกันเลย!

1. สร้างมาตรฐานความปลอดภัยที่ดีและชัดเจน 

ใครๆ ก็อยากกินข้าวนอกบ้าน จัดการร้านอาหารอย่างมือโปรเตรียมตัวรับยอดขายปังรับสิ้นปี

ถึงแม้ว่าสถานการณ์จะคลี่คลาย เริ่มมีผู้คนออกมาทานในร้านกันเหมือนเดิมแล้ว โดยเฉพาะช่วงสิ้นปีนี้ ดังนั้นเจ้าของร้านอาหารเองก็ห้ามการ์ดตก และต้องคอยสร้างมาตรฐานความปลอดภัยสำหรับร้านอย่างชัดเจนเสมอ เพราะทุกวันนี้ สุขอนามัยและความปลอดภัยจากเชื้อโรค เป็นหลักจำเป็นสำหรับการบริโภคในยุค New Normal ไปแล้ว

สำหรับมาตรฐานความปลอดภัยที่ร้านอาหารส่วนใหญ่มักใช้ได้แก่ 2 มาตรฐานนี้

COVID-Free Setting

มาตรการความปลอดภัยสำหรับองค์กรและสถานที่ต่าง ๆ ที่กำลังกลับมาเปิดกิจการอีกครั้ง ซึ่งรวมถึงร้านอาหารต่าง ๆ ด้วย ซึ่งสำหรับการเปิดประเทศครั้งนี้รัฐบาลได้ใช้มาตรการนี้เป็นกฏหมายบังคับ และมุ่งเน้นที่การป้องการโควิดทั้ง 3 ด้าน

  1. COVID-Free Environment: สภาพแวดล้อมปลอดภัย เว้นระยะห่าง มีการระบายอากาศ และสุขอนามัยที่เหมาะสม
  2. COVID-Free Personnel: ผู้ประกอบการ พนักงาน ผู้ให้บริการ ฉีดวัคซีนครบตามเกณฑ์ และตรวจ ATK ทุกอาทิตย์
  3. COVID-Free Customer: ผู้ใช้บริการต้องมี "บัตรสีเขียว” หมายถึงฉีดวัคซีนครบตามเกณฑ์ หรือ "บัตรสีเหลือง" หมายถึงเคยติดเชื้อโควิด หรือมีผลตรวจ ATK เป็นลบใน 3 วันที่ผ่านมา

Amazing Thailand Safety & Health Administration (SHA)

โครงการมาตรฐานความปลอดภัยด้านสุขอนามัยจากหน่วยงานต่าง ๆ เพื่อให้สถานประกอบการเตรียมความพร้อมสำหรับการให้บริการนักท่องเที่ยวโดยควบคู่กับมาตรการด้านสุขอนามัย

โดยจะเป็นเหมือนตราสัญลักษณ์ที่ให้กับร้านอาหารที่ปฏิบัติตามมาตรฐาน SHA ซึ่งตัวสัญลักษณ์จะช่วยสร้างความมั่นใจให้กับลูกค้าที่มาใช้บริการมากขึ้น โดยมี 8 ข้อให้ปฏิบัติตามนี้

  1. มีจุดวัดอุณหภูมิบริเวณทางเข้า-ออก
  2. ให้บริการเฉพาะผู้สวมหน้ากากอนามัยเท่านั้น
  3. มีระบบไทยชนะหรือลงทะเบียนเข้าสถานประกอบการ
  4. มีการเว้นระยะห่าง 1-2 เมตร
  5. ทำความสะอาดด้วน้ำยาฆ่าเชื้อสม่ำเสมอ
  6. มีระบบระบายอากาศที่เพียงพอ
  7. มีจุดบริการล้างมือด้วยสบู่หรือเจลแอลกอฮอลล์
  8. มีถังขยะที่มีฝาปิดมิดชิด และคัดแยกประเภทขยะ

2. รับออเดอร์อย่างแม่นยำ ไม่แซงคิวลูกค้า

ใครๆ ก็อยากกินข้าวนอกบ้าน จัดการร้านอาหารอย่างมือโปรเตรียมตัวรับยอดขายปังรับสิ้นปี

นอกจากรสชาติอาหารที่ดี สิ่งที่จะทำให้ร้านอาหารดูเป็นร้านอาหารมืออาชีพ คือ ‘การจัดการออเดอร์’ ซึ่งร้านอาหารมืออาชีพมักจะเสิร์ฟอาหารตรงเวลา แม่นยำ ไม่แซงคิวลูกค้า แถมยิ่งในช่วงเทศกาลที่ออเดอร์จะล้นมือจากทั้งเดลิเวอรีและหน้าร้าน

ดังนั้น เจ้าของร้านควรจัดการออเดอร์ที่เข้ามาจากทุกช่องทางการขายให้เป็นระบบระเบียบ ไม่ทิ้งออเดอร์ที่มาก่อนไว้ค้างเติ่ง และคอยส่งรายการออเดอร์เข้าครัวตามเวลาออเดอร์ที่สั่งเสมอ แม่ครัวจะได้ทำอาหารถูก ไม่ตกหล่น

3.จัดการสต๊อกวัตถุดิบให้พอดี ไม่ขาด-เกินให้เหลือทิ้ง

ใครๆ ก็อยากกินข้าวนอกบ้าน จัดการร้านอาหารอย่างมือโปรเตรียมตัวรับยอดขายปังรับสิ้นปี

ยิ่งช่วงเทศกาล จำนวนออเดอร์ต่อวันย่อมไม่แน่นอน ดังนั้นการซื้อวัตถุดิบในปริมาณเท่าเดิมทุก ๆ วันไม่ต่างจากช่วงเวลาปกติ อาจจะทำให้วัตถุดิบขาด-เกิน ซึ่งเป็นสาเหตุที่มาของต้นทุนจม แถมยังสร้าง Food Waste ให้แก่ตัวร้านและสิ่งแวดล้อมอีกด้วย! ดังนั้นการคำนวณปริมาณวัตถุดิบที่ต้องใช้ในแต่ละวันเป็นเรื่องสำคัญมาก เจ้าของร้านสามารถวิเคราะห์ได้จากเมนูที่ลูกค้ามักจะสั่ง เมนูโปรโมชัน เมนูประจำเทศกาล ว่ามีการจัดสรรวัตถุดิบอย่างไรให้พอดี

4. ติดตามพฤติกรรมลูกค้า อัพเดตโปรโมชันใหม่ ๆ เอาใจทั้งขาประจำและขาจร

ใครๆ ก็อยากกินข้าวนอกบ้าน จัดการร้านอาหารอย่างมือโปรเตรียมตัวรับยอดขายปังรับสิ้นปี

แน่นอนว่า โปรโมชัน เป็นสิ่งที่ล่อตาล่อใจลูกค้าและช่วยให้ลูกค้าตัดสินใจเลือกร้านเราได้ง่ายที่สุด แถมยิ่งในช่วงสิ้นปี ก็มีหลากหลายแนวทางในการสร้างสรรค์โปรโมชั่นไปหมด ไม่ว่าจะเป็นโปรโมชั่นเซตปาร์ตี้ เซตคู่รัก ลดราคา หรือโปรโมชั่นเมนูประจำเทศกาลต่าง ๆ ก็มักจะได้ผลดีเช่นกัน

ซึ่งการสร้างโปรโมชันที่ดี ควรใช้ข้อมูลและพฤติกรรมลูกค้ามาใช้วิเคราะห์ด้วย ลูกค้าจะชอบและรู้สึกคุ้มค่ากับสิ่งที่เรามอบให้ที่สุด โดยพฤติกรรมลูกค้าสามารถสังเกตุได้จากหลากหลายช่องทาง ไม่ว่าจะจากใบเสร็จลูกค้า หรือจากช่วงเวลาที่ลูกค้าเข้าร้านเยอะ-น้อย ก็ช่วยได้เช่นกัน 

5. ใช้เทคโนโลยีเป็นตัวช่วยหลักให้ดูแลร้านง่ายขึ้นกว่าเก่า

ใครๆ ก็อยากกินข้าวนอกบ้าน จัดการร้านอาหารอย่างมือโปรเตรียมตัวรับยอดขายปังรับสิ้นปี

พี่ ๆ เจ้าของร้านอาหารที่อ่านทั้ง 4 ข้อบนจบแล้ว อาจจะตั้งคำถามว่า กว่าจะเป็นมือโปรทำไมมันยุ่งยากจัง แต่ที่จริงแล้ว ร้านอาหารมือโปรส่วนใหญ่ ไม่ได้ทำเองไปเสียทุกอย่าง แต่กลับกันร้านเหล่านั้นมักจะใช้ “เทคโนโลยี” มาเป็นตัวช่วย โดยตัวช่วยจากวงในอย่าง Wongnai POS เครื่องคิดเงินร้านอาหารอัจฉริยะ จะสามารถช่วยพี่ ๆ เจ้าของร้านอาหารทุกคนจัดการร้านได้ง่ายขึ้น รับยอดขายทันสิ้นปีได้ง่าย ๆ แน่นอน ไม่ว่าจะเป็น

  • จัดการให้ทุกออเดอร์จากทั้งหน้าร้านและเดลิเวอรีอย่างแม่นยำ เรียงคิวถูกต้องไม่ตกหล่น ไม่ต้องจดมือและกดรับออเดอร์ทางโทรศัพท์อีกต่อไป
  • คีย์ออเดอร์บนหน้าจอปุ๊บ กดสั่งปริ้นท์ได้ปั๊บ ทั้งใบเสร็จและใบออเดอร์ แถมกระจายออเดอร์ไปตามจุดในครัวต่าง ๆ ได้อีกด้วย
  • จัดการสต๊อกวัตถุดิบอย่างง่ายได้ จดจำทุกปริมาณวัตถุดิบและสูตรอาหาร ตัดปริมาณตามการใช้งานจริง เช็คสต๊อกได้ตลอด แถมคอยแจ้งเตือนเมื่อวัตถุดิบใกล้หมดด้วย
  • มีสรุปยอดขายรายวันและรายเดือน ดูได้ตั้งแต่เมนูที่ขายดี-ไม่ดี ยันช่วงเวลาที่ลูกค้าเข้าร้านเยอะ นำไปต่อยอดการตลาดได้ง่ายมาก
Wongnai POS

พี่ ๆ เจ้าของร้านท่านใดสนใจพูดคุยกับพนักงานเพื่อสอบถามและสั่งซื้อ >>คลิ๊กที่นี่เลย<<  

ติดตามบทความเกี่ยวกับธุรกิจร้านอาหารเพิ่มเติม