รวบตึง 30 สูตรชงชา กาแฟสด เก็บครบทุกเมนูคาเฟ่ ทำง่ายขายรวย!

รวบตึง 30 สูตรชงชา กาแฟสด เก็บครบทุกเมนูคาเฟ่ ทำง่ายขายรวย!

เมนูกาแฟสดร้อน

1เอสเปรสโซ

เมนูกาแฟเริ่มต้นสำหรับคนที่เพิ่งเริ่มหัดทำกาแฟสด เอสเปรสโซจะเป็นส่วนประกอบหลักของเมนูกาแฟเกือบทุกเมนูเลยค่ะ ไม่ว่าจะเป็น อเมริกาโน่ ลาเต้ หรือว่ามอคค่า ก็จะใช้กาแฟเอสเปรสโซ่มาทำ

วัตถุดิบเอสเปรสโซ

1. เมล็ดกาแฟคั่วบด
2. น้ำร้อน

วิธีทำเอสเปรสโซ

• ตักกาแฟบดใส่ filter สำหรับเครื่องชงกาแฟ ใช้ที่กดแตมป์ให้หน้ากาแฟเรียบ แล้วใส่ในเครื่องชง กดให้น้ำร้อนไหลผ่านตัว filter ที่เราใส่ไว้ลงในแก้วประมาณ 30 มิลลิลิตร เท่านี้ก็พร้อมเสิร์ฟค่ะ

2อเมริกาโน

เมนูกาแฟดำง่าย ๆ ที่แค่เติมน้ำร้อนลงในกาแฟเอสเปรสโซก็พร้อมเสิร์ฟ เป็นเมนูยอดนิยมของคนวัยทำงาน เพราะนอกจากจะทำให้รู้สึกกระปรี้กระเปร่าแล้วยังแคลอรี่ต่ำอีกด้วย โดยปกติแล้วจะไม่ใส่น้ำเชื่อมนะคะ แต่ถ้าเพื่อน ๆ อยากลดทอนความขมลงก็สามารถเติมน้ำเชื่อมลงไปตัดรสได้ค่ะ

วัตถุดิบอเมริกาโน

1. เอสเปรสโซ 30 มิลลิลิตร
2. น้ำร้อน 120 มิลลิลิตร
3. น้ำเชื่อม (ตามชอบ)

วิธีทำอเมริกาโน

• เติมน้ำร้อนเปล่าๆ ลงแก้วกาแฟ 4 ออนซ์
• ตามด้วยช็อตเอสเปรสโซ 1 ช็อต ครีมม่า ที่เป็นฟองคล้ายฟองนมจะลอยอยู่ด้านบน 

3ลาเต้

ลาเต้เป็นเมนูกาแฟนมรสชาติละมุนละไม สำหรับคนที่ไม่ชอบความเข้ม ความขมของกาแฟ โดยที่จุดเด่นของลาเต้จะเป็นการใช้นมเป็นส่วนประกอบหลัก และมีฟองนมเพียงเล็กน้อยที่ด้านบนค่ะ

วัตถุดิบลาเต้

1. ช็อตเอสเปรสโซ 30 มิลลิลิตร
2. นมสด 180 มิลลิลิตร
3. โฟมนมหนา 1 เซนติเมตร

วิธีทำลาเต้

• เติมช็อตเอสเปรสโซลงไปในแก้วกาแฟ 1 ช็อต ทำนมสดให้ร้อนโดยทำการสตีม รินนมร้อนลงในแก้วจนนมห่างจากปากแก้ว 1 เซนติเมตร ตักโฟมนมลงในแก้วให้เสมอกับขอบแก้ว แล้วตกแต่งลวดลายตามใจชอบ

4คาปูชิโน่

คาปูชิโน่ก็เป็นอีกหนึ่งเมนูกาแฟนมยอดนิยม แต่จะต่างกับลาเต้ตรงที่คาปูชิโน้จะมีส่วนผระกอบของนมสดน้อยกว่า และมีฟองนมที่หนากว่าค่ะ สัดส่วนทั่ว ๆ ไปจะเป็น กาแฟ 1 ส่วน ต่อนม 1 ส่วน และฟองนม 1 ส่วน

วัตถุดิบคาปูชิโน่

1. ช็อตเอสเปรสโซ 30 มิลลิลิตร
2. นมสด 120 มิลลิลิตร
3. โฟมนมหนา 1 เซนติเมตร

วิธีทำคาปูชิโน่

• เติมช็อตเอสเปรสโซลงไปในแก้วกาแฟ 1 ช็อต ทำนมสดให้ร้อนโดยทำการสตีม ตักโฟมนมหยอดลงตรงกลางถ้วยและเติมนมร้อนตามลงไปที่หลัง ให้ทิ่งระยะห่างของโฟมนมและขอบแก้ว 1/2 เซนติเมตร

5คาราเมลแมคคิอาโต้

คาราเมลแมคคิอาโต้เป็นเมนูกาแฟที่มีความคล้ายคลึงกับลาเต้ แต่จะมีการเพิ่มความหอมหวานของคาราเมลด้วยน้พเชื่อมคาราเมลและซอสคาราเมลที่ใช้ตกแต่ง กลิ่นน้ำตาลไหม้ของคาราเมลเข้ากับรสชาติของกาแฟมาก ๆ เลยละค่ะ คอกาแฟนมห้ามพลาดเลย

วัตถุดิบคาราเมลแมคคิอาโต้

1. ช็อตเอสเปรสโซ 30 มิลลิลิตร
2. นมสด 180 มิลลิลิตร
3. โฟมนมหนา 1 เซนติเมตร
4. น้ำเชื่อมคาราเมล 1 ปั๊ม
5. ซอสคาราเมลสำหรับตกแต่ง

วิธีทำคาราเมลแมคคิอาโต้

• เติมช็อตเอสเปรสโซลงไปในแก้วกาแฟ 1 ช็อต ปั๊มน้ำเชื่อมคาราเมลลงในน้ำกาแฟแล้วคนให้เข้ากัน สตรีมนมสดให้ร้อนแล้วรินนมลงในแก้วจนนมห่างจากปากแก้ว 1 เซนติเมตร ตักโฟมนมลงบนกาแฟให้โฟมพอดีกับแก้ว แต่งหน้าด้วยซอสคาราเมล

6มอคค่า

เมนูกาแฟนมยอดฮิตอีกหนึ่งเมนู สำหรับคนชอบโกโก้ เพราะว่าส่วนประกอบพิเศษของมอคค่าก็คือช็อกโกแลตนั่นเองค่ะ เป็นอันรู้กันดีว่าช็อกโกแลตและกาแฟเป็นคู่หูดูโอ้ที่ไม่ว่าจะอยู่ในเมนูไหนก็ชูรสชาติของกันและกันได้เป็นอย่างดี 

วัตถุดิบมอคค่า

1. ช็อตเอสเปรสโซ 30 มิลลิลิตร
2. ช็อกโกแลตซอส 10 มิลลิลิตร
3. นมสด 180 มิลลิลิตร

วิธีทำมอคค่า

• เติมช็อตเอสเปรสโซลงไปในแก้วกาแฟ 1 ช็อต ตามด้วยซอสช็อกโกแลตลงในน้ำกาแฟแล้วคนให้เข้ากัน สตีมนมสดให้ร้อนแล้วรินนมลงในแก้วจนนมห่างจากปากแก้ว 1 เซนติเมตร ตักโฟมนมลงบนกาแฟให้โฟมพอดีกับแก้ว แต่งหน้าด้วยซอสช็อกโกแลต

เมนูกาแฟสดเย็น

7อเมริกาโน่เย็น

หลาย ๆ คนอาจจะคุ้นหน้าคุ้นตากาแฟดำเย็นในชื่อของโอเลี้ยง แต่จะต่างกันตรงนี้ที่อเมริกาโน่เย็นมักจะไม่ใส่น้ำเชื่อมหรือร้ำตาลค่ะ เป็นเมนูกาแฟแคลต่ำที่เหมาะสำหรับตอนบ่าย ๆ ที่อากาศร้อน เพิ่มความสดชื่นให้วันทำงานได้เป็นอย่างดีเลยละค่ะ

วัตถุดิบอเมริกาโน่เย็น

1. เอสเปรสโซ 60 มิลลิลิตร
2. น้ำเย็น 120 มิลลิลิตร
3. น้ำแข็ง
4. น้ำเชื่อม (ตามชอบ)

วิธีทำอเมริกาโน

• เติมน้ำเย็นลงแก้วกาแฟ ตามด้วยน้ำแข็ง
• ปิดท้ายด้วยช็อตเอสเปรสโซ 1 ช็อต โดยปกติแล้วจะไม่ใส่น้ำเชื่อม แต่สามารถเติมได้ตามชอบค่ะ 

8ลาเต้เย็น

มีเมนูกาแฟดำเย็นแล้ว ก็ต้องมีเมนูกาแฟนมเย็น ๆ ด้วย อย่างลาเต้เย็น กาแฟนมหอมมันชื่นใจ สูตรนี้จะเป็นลาเต้นมสดที่ไม่มีการเติมนมข้นจืด แต่ถ้าเพื่อน ๆ ต้องการความเข้มข้นหรือความมันเพิ่มก็สามารถใส่นมข้นจืดเพิ่มได้ตามชอบเลยค่ะ

วัตถุดิบลาเต้เย็น

1. เอสเปรสโซ 60 มิลลิลิตร
2. นมสด 120 มิลลิลิตร
3. น้ำแข็ง
4. น้ำเชื่อม (ตามชอบ)

วิธีทำลาเต้เย็น

• เตรียมกาแฟเอสเปรสโซ 2 ช็อต 
• ใส่นมสดและน้ำเชื่อมลงในแก้ว คนให้เข้ากัน เติมน้ำแข็งบดให้เต็มแก้วแล้วเทน้ำกาแฟตามลงไปให้เครื่องดื่มแยกชั้น

9กาแฟยูซุ

หนึ่งในเมนูกาแฟที่มาแรงมาก ๆ ในช่วงนี้ ที่เติมน้ำส้มยูซุเปรี้ยว ๆ หวาน ๆ แถมติดขมฝาดที่ปลายลิ้น มาแมตช์กับกาแฟจนกลายเป็นเมนูกาแฟเย็นแสนสดชื่นที่มีกลิ่นหอม ๆ ของน้ำส้ม

วัตถุดิบกาแฟยูซุ

1. เอสเปรสโซ 60 มิลลิลิตร
2. น้ำส้มยูซุ 100 มิลลิลิตร
3. น้ำแข็ง
4. ส้มฝาน ใบสะระแหน่ สำหรับตกแต่ง

วิธีทำกาแฟยูซุ

• เตรียมกาแฟเอสเปรสโซ 2 ช็อต
• ใส่น้ำส้มยูซุลงในแก้ว คนให้เข้ากัน เติมน้ำแข็งบดให้เต็มแก้วแล้วเทน้ำกาแฟตามลงไปให้เครื่องดื่มแยกชั้น ตกแต่งด้วยส้มฝานและใบสะระแหน่

10กาแฟโทนิค

พบกับมิติใหม่ของการกินกาแฟ กับสูตรกาแฟโทนิค จับคู่โทนิคซ่า ๆ ที่ปกติจะใช้ผสมในเหล้ายิน มาดื่มกับกาแฟ จนได้เป็นกาแฟซ่า ๆ สดชื่น เหมาะกับวันร้อน ๆ ง่วง ๆ ที่สุดเลยค่ะ

วัตถุดิบกาแฟโทนิค

1. เอสเปรสโซ 60 มิลลิลิตร
2. โทนิค 120 มิลลิลิตร
3. น้ำแข็ง
4. น้ำเชื่อม (ตามชอบ)
5. ส้มฝาน สำหรับตกแต่ง
   

วิธีทำกาแฟโทนิค

• เตรียมกาแฟเอสเปรสโซ 2 ช็อต
• ใส่โทนิคลงในแก้ว เติมน้ำแข็งบดให้เต็มแก้วแล้วเทน้ำกาแฟตามลงไปให้เครื่องดื่มแยกชั้น ตกแต่งด้วยส้มฝาน

11คาราเมลแมคคิอาโต้เย็น

สำหรับคอเมนูกาแฟนมหอมหวานชื่นใจ ก็ขอแนะนำคาราเมลแมคคิอาโต้ ที่เพิ่มความหวานให้วันเหงา ๆ ด้วยน้ำเชื่อมคาราเมล วันที่ร้อน ๆ ได้แมคคิอาโต้สักแก้วคือฟินวุด ๆ เลยค่าา

วัตถุดิบคาราเมลแมคคิอาโต้เย็น

1. เอสเปรสโซ 60 มิลลิลิตร
2. น้ำเชื่อมคาราเมล 2 ปั๊ม
3. นมสด 120 มิลลิลิตร
4. น้ำแข็ง
5. ซอสคาราเมล ตามชอบ

วิธีทำคาราเมลแมคคิอาโต้เย็น

• ใส่น้ำเชื่อมลงในแก้ว ตามด้วยนมสด คนให้เข้ากัน แล้วใส่น้ำแข็งไปจนเต็ม
• ค่อย ๆ รินกาแฟเอสเพรสโซ่ลงไป เครื่องดื่มที่ได้จะมีลักษณะแบ่งเป็นชั้น
• ปิดท้ายด้านบนด้วยน้ำเชื่อมคาราเมล

12มอคค่าเย็น

เมนูมอคค่าสำหรับวันร้อน ๆ ได้กลิ่นช็อกโกแลตเข้มข้นผสมมากับกาแฟหอม ๆ ถ้าเพื่อน ๆ ชอบก็สามารถเติมฟองนม วิปครีม หรือแม้แต่ไอศกรีมวานิลลาสุกลูก ทำเป็นโฟลตมอคค่าก็ไม่เลวเลยนะคะ

วัตถุดิบมอคค่าเย็น

1. ช็อตเอสเปรสโซ 60 มิลลิลิตร
2. ช็อกโกแลตซอส 30 มิลลิลิตร
3. นมสด 120 มิลลิลิตร
4. น้ำแข็ง
5. โฟมนม ตามชอบ

วิธีทำมอคค่าเย็น

• เตรียมกาแฟเอสเปรสโซ 2 ช็อต เติมช็อคโกแลตซอส คนให้เข้วกันแล้วเทลงในแก้วเสิร์ฟ เติมน้ำแข็งให้เหลือจากปากแก้ว 2 เซนติเมตร เทนมสดลงไปแล้วตักโฟมนมราดด้านบนตามชอบ

13กาแฟดัลโกน่า

เมนูกาแฟดัลโกน่ายอดฮิตจากเกาหลี ที่ได้แรงบันดาลใจมาจากขนมหวานโบราณอย่างดัลโกน่า เสิร์ฟกาแฟวิปฟูฟ่องหวาน ๆ มากับนมสดเย็น ๆ พอผสมให้เข้ากันแล้วก็จะได้กาแฟนมนุ่ม ๆ ฟินสุด ๆ ไปเลย!

วัตถุดิบกาแฟดัลโกน่า

1. กาแฟสำเร็จรูป 4 ช้อนโต๊ะ 
2. น้ำตาลทราย 4 ช้อนโต๊ะ
3. น้ำอุ่น 4 ช้อนโต๊ะ
4. นมสด 250 มิลลิลิตร 
5. โรสแมรี สำหรับตกแต่ง 

วิธีทำกาแฟดัลโกน่า

• ผสมกาแฟสำเร็จรูป น้ำตาลทราย และตามด้วยน้ำอุ่น คนให้ทุกอย่างละลายเข้ากัน จากนั้นนำตะกร้อมือมาตีให้เกิดฟองอากาศ เป็นจำนวน 400 ครั้ง ให้กาแฟที่เราผสมมีลักษณะครีมข้น ถ้าใครมีเครื่องตีผสมอาหาร (Hand Mixer) ก็สามารถใช้ได้เหมือนกันนะคะ 
•  เทนมสดใส่แก้วที่มีน้ำแข็งไว้ จากนั้นนำครีมกาแฟที่เราตีไว้มาใส่ไว้ด้านบน ตกแต่งด้วยกิ่งโรสแมรีให้สวยงาม

14กาแฟเจลลี่นม

เมนูกาแฟดำที่เพิ่มลุกเล่นหวาน ๆ หนึบ ๆ ด้วยเจลลี่รสนมหวานละมุน ดูดน้ำกาแฟพร้อมเคี่ยวเจลลี่หนุบหนับ เหมาะเป็นเมนูเครื่องดื่มในวันสบาย ๆ แถมสูตรเจลลี่นมสูตรนี้ยังสามารถนำไปใช้กับเมนูเครื่องดื่มอื่น ๆ ได้อีกด้วยนะคะ ไม่ว่าจะเป็นโกโก้ ชาเขียว หรือชาไทยก็เข้ากัน

วัตถุดิบกาแฟเจลลี่นม

1. นมผง 5 สกู๊ป  
2. กาแฟ 2 ช้อนชา  
3. น้ำสะอาด 200 มิลลิลิตร  
4. ผงวุ้น 2 ช้อนชา

วิธีทำกาแฟเจลลี่นม

• นำผงวุ้นมาละลายกับน้ำสะอาดจากนั้น นำขึ้นตั้งไฟให้ผงวุ้นละลาย รอให้เย็นตัวลง เติมนมผงแล้วคนให้ละลายอีกครั้ง จากนั้นเทใส่ถาดแล้วรอให้เซ็ตตัว 
• ต้มน้ำร้อนใส่กาแฟดำแล้วคนให้ละลาย แล้วนำไปแช่เย็นเพื่อความเย็นสดชื่น
• ตัดเจลลี่นมเป็นชิ้นเล็ก ๆ นำเจลลี่นมที่หั่นเรียบร้อยแล้วมาใส่ลงในแก้วจากนั้นตามด้วยน้ำแข็ง และปิดท้ายด้วยกาแฟดำก็พร้อมเสิร์ฟแล้ว

15กาแฟดริปมะนาว

คอกาแฟดริปต้องลอง กาแฟดริปมะนาวเปรี้ยว ๆ เย็นชื่นใจ ได้กลิ่นมะนาวหอม ๆ เพิ่มความสดชื่นได้ดีมาก ๆ เลยละค่ะ นอกจากนี้เพื่อน ๆ ยังสามารถลองเปลี่ยนน้ำตาลทรายแดงเป็นน้ำผึ้งได้อีกด้วย ก็จะเพิ่มกลิ่นที่หอมหวานไปอีกแบบค่ะ

วัตถุดิบกาแฟดริปมะนาว

• เมล็ดกาแฟคั่ว 10 กรัม 
• มะนาว 6-7 ลูก  
• น้ำตาลทรายแดง 2 ช้อนโต๊ะ 
• น้ำสะอาด 150 มิลลิลิตร

วิธีทำกาแฟดริปมะนาว

• นำเมล็ดกาแฟคั่วมาบดผ่านเครื่องบดกาแฟ
• หั่นมะนาว บีบเอาแต่น้ำ และเติมน้ำตาลทรายแดง คนให้เข้ากันแล้วพักไว้ 
• เตรียมน้ำร้อนที่อุณหภูมิประมาณ 92-94 องศาเซลเซียส ทำให้กระดาษกรองติดกับดริปเปอร์โดยเทน้ำใส่กระดาษกรองให้ชุ่มโดยรอบ จากนั้นเทน้ำทิ้ง นำเมล็ดกาแฟคั่วที่บดไว้มาใส่ในกระดาษกรอง เทน้ำร้อนลงบนกาแฟ ปริมาณ 60 มิลลิลิตร รอ 30 วินาที เทน้ำร้อนอีกครั้งจนครบ 150 มิลลิลิตร รอให้น้ำหยดจนหมด 
• ตกแต่งแก้วด้วยเปลือกมะนาว และใส่น้ำแข็งจนเต็มแก้ว เติมน้ำมะนาวที่ชงไว้ โดยเหลือปากแก้วไว้ประมาณ 1-2 นิ้ว จากนั้นเติมกาแฟดริปให้เต็มแก้ว

16เจลลี่กาแฟ

ได้สูตรเจลลี่นมกันไปแล้ว เรามาดูเจลลี่กาแฟกันบ้าง! เจลลี่กาแฟเนื้อหนุบหนับกินกับนมสดและน้ำเชื่อมคาราเมล ได้อารมณ์เหมือนกินคาราเมแมคคิอาโต๊แต่มีเท็กซ์เจอร์ของเจลลี่เลยค่ะ นอกจากนมสดแล้ว เจลลี่กาแฟก็ยังเข้ากับไอศกรีมวานิลา เป็นเมนูของหวานก็เริ่ดนะคะ

วัตถุดิบเจลลี่กาแฟ

1. เมล็ดกาแฟ 1 ถุง
2. เจลาติน 2 ช้อนชา
3. นมสด 50 กรัม
4. น้ำแข็ง ตามชอบ
5. ฟองนม ตามชอบ
6. น้ำเชื่อมคาราเมล ตามชอบ

วิธีทำเจลลี่กาแฟ

• นำ เมล็ดกาแฟมาบดละเอียด ชงให้ได้กาแฟเอสเปรสโซขนาด 1/2 ถ้วยตวง จากนั้นเทเจลาตินลงไปคนให้เข้ากัน นำเข้าไมโครเวฟเป็นเวลา 5 นาที คนให้เข้ากันอีกรอบ และเท กาแฟลงในแก้วที่ต้องการจัดเสิร์ฟให้ได้ประมาณ 2/3 ของแก้ว และนำเข้าไปแช่ตู้เย็นให้เซตตัว
• นำเจลลี่กาแฟที่เซตตัวแล้ว เทนมสดลงไปให้เหลือพื้นที่ในการเติมฟองนม ใส่น้ำแข็งตามต้องการ และตักฟองนมปิดท้าย เสิร์ฟคู่กับน้ำเชื่อมคาราเมล

17ดัลโกนามอคค่า

เมนูกาแฟดัลโกน่าอีกสูตร ที่เพิ่มความเข้มข้นหอมมันด้วยผงดกโก้ กับดัลโกน่ามอคค่า ได้เป็นวิปกาแฟมอคค่านุ่ม ๆ หอมช็อกโกแลต ดีต่อใจสุด ๆ !

วัตถุดิบดัลโกนามอคค่า

1. กาแฟฟรีซดราย 2 ช้อนโต๊ะ
2. น้ำตาลทรายขาว 2 ช้อนโต๊ะ
3. น้ำร้อน 2 ช้อนโต๊ะ
4. ผงโกโก้ 1/2 ช้อนโต๊ะ
5. น้ำแข็ง ตามชอบ
6. นมสด ตามชอบ

วิธีทำดัลโกนามอคค่า

• ใส่กาแฟฟรีซดราย น้ำตาล ผงโกโก้และน้ำร้อน ตีให้ขึ้นฟูเป็นครีม
• ใส่น้ำแข็งและนมสดลงในแก้ว ตามด้วยครีมกาแฟ เท่านี้ก็พร้อมเสิร์ฟค่ะ

เมนูโกโก้

18โกโก้ร้อน

เครื่องดื่มเมนูโปรดของใครหลาย ๆ คน ดื่มกันตั้งแต่เด็กยังโตค่ะ กับเมนูโกโก้ร้อน ที่ทั้งหอม ทั้งหวานมัน และถ้าใครชอบแบบเข้มข้นสุด ๆ ก็สามารถละลายดาร์กช็อกโกแลต หรือช็อกโกแลตนมผสมเพิ่มลงไป ก็จะได้ช็อกโกแลตร้อนรสชาติเข้มข้นค่ะ

วัตถุดิบโกโก้ร้อน

1. ผงโกโก้ 1 ช้อนโต๊ะ
2. น้ำร้อนจัด 30 มิลลิลิตร
3. นมสดร้อน 100 มิลลิลิตร
4. นมข้นจืด 50 มิลลิลิตร
5. นมข้นหวาน 1 ช็อต

วิธีทำโกโก้ร้อน

• ละลายผงโกโก้ในน้ำร้อนจัด จากนั้นใส่นมสดร้อน ตามด้วยนมข้นจืดและนมข้นหวาน คนให้เข้ากัน เสิร์ฟร้อน ๆ 

19ดัลโกน่าโกโก้

โกโก้ดัลโกน่านุ่มฟู หอมมันด้วยครีมโกดก้ที่มีส่วนผสมของวิปครีม ทำให้นุ่มละมุนลิ้นเป็นพิเศษ กินกับนมจดเย็น ๆ ชื่นใจมาก ๆ เลยค่ะ ใครเป็นสายโกโกเบอกเลยว่าห้ามพลาด!

วัตถุดิบดัลโกน่าโกโก้

1. ผงโกโก้ 4 ช้อนโต๊ะ 
2. น้ำตาลทราย 4 ช้อนโต๊ะ 
3. น้ำร้อน 4 ช้อนโต๊ะ 
4. วิปปิงครีม 300 มิลลิลิตร
5. นมสด 300 มิลลิลิตร

วิธีทำดัลโกน่าโกโก้

• ตักผงโกโก้ น้ำตาลทราย และตามด้วยน้ำร้อนลงในถ้วย คนให้ทุกอย่างละลายเข้ากัน พักไว้ให้เย็น
• นำวิปปิงครีมใส่ในชามผสม ตามด้วยน้ำโกโก้ที่เราพักไว้ลงไป นำตะกร้อมือมาตีให้เกิดฟองอากาศจนครีมโกโก้ตั้งยอดอ่อน
• เทนมสดใส่แก้วที่มีน้ำแข็ง จากนั้นนำครีมโกโก้ที่เราตีเสร็จแล้วมาใส่ไว้ด้านบน เพียงเท่านี้ก็เรียบร้อย!

20โกโก้มัทฉะ

เมนูนมเหนียวโกโก้สำหรับคนรักชาเขียว กับโกโก้มัทฉะ ที่มีชาเขียวหอม ๆ รสชาติเข้มข้น กับซอสโกโก้ที่ราดอยู่ด้านบน เวลาดื่มก็จะได้ทั้งรสชาติของชาเขียวและรสชาติของโกโก้ กลมกล่อมลงตัว

วัตถุดิบโกโก้มัทฉะ

• ผงเบสชาเขียว 20 กรัม
• นม สำหรับชงชาเขียว 2 ถ้วยตวง 
• น้ำตาล สำหรับชงชาเขียว ¼ ถ้วยตวง
• ผงโกโก้ 30 กรัม 
• นม สำหรับชงโกโก้ 1 ถ้วยตวง 
• น้ำตาล สำหรับชงโกโก้ 3 ช้อนโต๊ะ
• น้ำแข็ง ตามชอบ 

วิธีทำโกโก้มัทฉะ

• ใส่นมลงในหม้อ นำขึ้นตั้งไฟรอจนกระทั่งนมเริ่มเดือด แล้วยกออกจากเตา ใส่ผงเบสชาเขียวและน้ำตาลใส่ชามผสม เทนมลงไป คนให้ผงชาเขียวและน้ำตาลละลายเข้ากันดี พักไว้ 
• ใส่นมลงในหม้อ นำขึ้นตั้งไฟรอจนกระทั่งนมเริ่มเดือด ยกออกจากเตา ตักผงโกโก้และน้ำตาลใส่ชามผสม
• จากนั้นเทนมลงไป คนให้ผงโกโก้และน้ำตาลละลายเข้ากันดี พักไว้ 
• ตักน้ำแข็งใส่แก้ว แล้วเทชาเขียวตามด้วยโกโก้ พร้อมจัดเสิร์ฟ 

21นมเหนียวโกโก้

เมนูโกโก้สุดหนึบ กับโกโก้นมเหนียว ที่มีนมสดเย็น ๆ กับซอสโกโก้เข้มข้นราดมาด้านบน ตามสูตรทั่ว ๆ ไปจะใช้เป็นนมข้นหวาน แต่สำหรับสูตรนี้เรายกระดับความเข้มข้นกันด้วยการใช้ซอสช็อกดกแลตแทน ทำให้ได้รสชาติเข้มข้นโดนใจสุด ๆ !

วัตถุดิบนมเหนียวโกโก้

• ซอสช็อกโกแลต 100 กรัม
• ผงโกโก้ 20 กรัม
• นมจืด 150 มิลลิลิตร
• นมข้นจืด 30 มิลลิลิตร
• น้ำแข็ง ตามชอบ

วิธีทำนมเหนียวโกโก้

• ผสมซอสช็อกโกแลตกับผงโกโก้จนข้นเหนียว
• ผสมนมจืดและนมข้นจืดให้เข้ากัน 
• ใส่น้ำแข็งลงในแก้ว ใส่นมที่ผสมไว้ จากนั้นราดด้วยช็อคโกแลตทอปปิ้งก็เป็นอันเรียบร้อย

22โกโก้เย็นมาร์ชแมลโลว์ลาวา

แมตช์โกโก้กับมาร์ชแมลโลว์สุดหนึบ ในเมนูโกโก้เย็นมาร์ชแมลโลว์ลาวา เมนูโกดก้หอมหวานชื่นใจ ท็อปด้วยมาร์ชแมลโลว์ฟูนุ่ม หนึบ ๆ อยู่ด้านบน เป็นเมนูที่เด้ก ๆ น่าจะเลิฟสุด ๆ ไปเลยค่า

วัตถุดิบโกโก้เย็นมาร์ชแมลโลว์ลาวา

1. ผงโกโก้ 3 ช้อนโต๊ะ 
2. นมข้นหวาน 2 ช้อนโต๊ะ 
3. นมข้นจืด 3 ช้อนโต๊ะ 
4. นมสด 3 ช้อนโต๊ะ 
5. น้ำร้อน 150 มิลลิลิตร 
6. น้ำแข็ง ตามชอบ 
7. มาร์ชเมลโล ตามชอบ

วิธีทำโกโก้เย็นมาร์ชแมลโลว์ลาวา

•  เทผงโกโก้ลงในถ้วยผสม ตามด้วยน้ำร้อน แล้วคนให้เข้ากัน ใส่นมข้นหวาน นมข้นจืด และนมสด คนให้เข้ากันอีกที 
• นำมาร์ชเมลโลวใส่ชาม แล้วนำเข้าไมโครเวฟ ใช้ไฟ 400 วัตต์ นาน 3 นาที แล้วนำออกมาคนให้เป็นเนื้อเดียวกัน 
• นำแก้วใส่น้ำแข็งมาเทโกโก้ที่ชงไว้ลงไป ตามด้วยเทมาร์ชเมลโลวละลายด้านบน แล้วโรยผงโกโก้ตกแต่ง

เมนูชาเย็น

23ชาไทยเย็น

สำหรับเมนูเครื่องดื่มเย็น ๆ ในบ้านเรา เมนูที่คลาสสิกที่สุดก็น่าจะเป็นเมนูชาไทยเย็น ๆ ที่ร้านไหน ๆ ก็ต้องมี เหมือนเป็นเมนูบังคับสำหรับคนทำคาเฟ่! ชาไทยเป็นชาที่สามารถชงทิ้งไว้ได้เลย ยิ่งค้างคืนก็จะยิ่งรสชาติเข้มข้นขึ้นอีกค่ะ แนะนำว่าให้ทำแบบไม่ใส่น้ำตาลเอาไว้ จะได้ปรับปริมาณน้ำตาลและนมข้นหวานได้ตามชอบเวลาชงเสิร์ฟค่า

วัตถุดิบชาไทยเย็น

1. ผงชาไทย 1 ช้อนโต๊ะ
2. น้ำร้อน 200 มิลลิลิตร
3. นมข้นจืด 0.5 ออนซ์
4. นมข้นหวาน 1.5 ออนซ์

วิธีทำชาไทยเย็น

• ตักชาไทยใส่ถุงชงชา ใช้น้ำเดือดเทใส่ถุงชงชา แช่ทิ้งไว้สัก 30 นาทีก็ดี ยิ่งชักชาให้เกิดความหอมมากขึ้น ชงไว้แช่ตู้เย็นข้ามคืนยิ่งหอมนะคะ
• นมข้นหวานผสมกับนมข้นจืด คนให้เข้ากัน
• เตรียมน้ำแข็งใส่แก้ว เทชาไทยลงไป ปิดท้ายด้วยนมข้นที่ผสมไว้ก็เป็นอันเรียบร้อย

24โอวัลตินไวต์มอลต์ชาไทย

อัปเกรดเมนูชาไทยให้ว้าว ด้วยการมาจับคู่กับไวต์มอลต์หอม ๆ จนกลายเป็น โอวัลตินไวต์มอลต์ชาไทย ที่โรยผงไวต์มอลต์มาแบบจุใจเป็นภูเขาไฟอยู่ด้านบน 

วัตถุดิบโอวัลตินไวต์มอลต์ชาไทย

1.  โอวัลตินไวท์มอลต์ 3 ช้อนชา
2. น้ำร้อน 30 มิลลิลิตร 
3. นมข้นหวาน 30 มิลลิลิตร
4. นมข้นจืด 120 มิลลิลิตร 
5. น้ำแข็ง 1 แก้ว 
6. ชาไทยเข้มข้น 50 มิลลิลิตร 
7. โอวัลตินไวท์มอลต์ (สำหรับโรยด้านบน) 4 ช้อนชา

วิธีทำโอวัลตินไวต์มอลต์ชาไทย

• ตัก โอวัลตินไวท์มอลต์ ใส่แก้ว เทน้ำร้อนลงไป และคนให้ละลาย เทนมข้นหวาน และนมข้นจืดลงไป คนให้เข้ากัน
• นำน้ำแข็งใส่แก้ว เท โอวัลตินไวท์มอลต์ ที่ชงเตรียมไว้ลงไป ตามด้วยชาไทยเข้มข้น 
• ตกแต่งด้านบนแก้วด้วย โอวัลตินไวท์มอลต์ (สำหรับโรยด้านบน) ให้สูงพูนเป็นทรงภูเขาไฟ เท่านี้ก็พร้อมเสิร์ฟความฟินแล้วจ้า

25ชามะนาวเย็น

อีกหนึ่งเมนูชาสุดคลาสสิก ที่ให้ความสดชื่นมาทุกยุคทุกสมัย กับเมนูชามะนาว ที่หอมชาไทยและมะนาวสุด ๆ ในสูตรนี้จะเป็นแบบใช้น้ำตาลทรายขาว แต่ถ้าเพื่อน ๆ อยากลองเปลี่ยนไปใช้น้ำผึ้ง ก็จะได้กลิ่นที่หอมหวานไปอีกแบบค่ะ 

วัตถุดิบชามะนาวเย็น

• ผงชาไทย 3 ช้อนโต๊ะ
• น้ำเปล่า 45 มิลลิลิตร
• น้ำตาลทรายขาว 3 ช้อนโต๊ะ
• น้ำมะนาว 25 มิลลิลิตร

วิธีทำชามะนาวเย็น

• ตักผงชาไทยใส่ด้ามชง หมักชา 20 วินาที คือการกดฟลัชปล่อยน้ำไหลและกดหยุดหมัก 20 วินาที
• สกัดชาให้ได้ 100 มิลลิลิตร ใส่น้ำตาล 3 ข้อนโต๊ะ หรือเปลี่ยนเป็นน้ำผึ้งก็ได้ตามชอบ
• ใส่น้ำมะนาว เติมน้ำเปล่าจนถึง 200 มิลลิลิตร คนให้เข้ากัน
• ตักน้ำแข็งใส่แก้ว เทชามะนาว พร้อมเสิร์ฟ

26ชาเขียวเย็น

อีกหนึ่งเมนูชายอดฮิต ชาเขียวเย็นลาเต้ ที่มีชาเขียวมัทฉะหอม ๆ ชงกับนมสดจนมีรสชาติละมุน ๆ ดื่มง่าย จะเด็กหรือผู้ใหญ่ก็เลิฟ กินคู่กับเมนูขนมแบบญี่ปุ่หรือเมนูถั่วแดงกวนยิ่งฟิน

วัตถุดิบชาเขียวเย็น

1. ผงชาเขียว 1 ช้อนโต๊ะ
2. น้ำร้อน 50 มิลลิลิตร
   
3. นมข้นหวาน 1 ช็อต
4. นมข้นจืด 1 ช็อต
5. นมสด 2 ช็อต

วิธีทำชาเขียวเย็น

• นำผงชาเขียวต้มในน้ำร้อน นำน้ำชาเขียวมาผสมกับนมข้น ผสมให้เข้ากันจนนมข้นหวานละลาย ใส่นมข้นจืดและนมสดตามลงไป เทใส่แก้วน้ำแข็งพร้อมเสิร์ฟ 

27ชาเขียวปั่น

เมนูชาเขียวปั่นแบบร้านกาแฟดัง ที่ทำกินเองได้ง่าย ๆ ที่บ้าน แค่ใส่ส่วนผสมทั้งหมดลงไปปั่นกับน้ำแข็ง ก็ได้เป็นชาเขียวปั่นเย็นชื่นใจ ส่วนวิปครีมด้านบนก็สามารถซื้อเป็นวิปครีมกระป๋องมาใช้ได้เลยค่ะ สะดวกสบายสุด ๆ !

วัตถุดิบชาเขียวปั่น

1. ชาเขียวญี่ปุ่นชนิดผง 2 ช้อนโต๊ะ
2. นมสด 1 ถ้วยตวง
3. น้ำตาลทรายแดงชนิดผง 3 ช้อนโต๊ะ (หรือตามความชอบ)
4. กลิ่นวานิลลา 1-2 หยด
5. น้ำแข็ง 2 ถ้วยตวง
6. วิปครีมตามชอบ

วิธีทำชาเขียวปั่น

• ผสมผงชาเขียวกับนมสด ตามด้วยน้ำตาลทรายแดงและกลิ่นวานิลลา 
• ใส่น้ำชาเขียวลงในเครื่องปั่น จากนั้นเติมน้ำแข็ง แล้วปั่นให้ละเอียด 
• เทชาเขียวปั่นใส่แก้ว ตกแต่งด้วยวิปครีมและผงชาเขียวตามชอบ 

28ชานมไข่มุก

เมนูชานมสุดฮิตจากไต้หวัน เคี้ยวไข่มุกนุ่มหนึบหนับพร้อมดูดชาหอม ๆ ขอบอกว่าฟินสุด ! ในสูตรนี้เราจะใช้นมผงในการชงชาเพื่อความสะดวก แค่ถ้าเพื่อน ๆ อยากลองเปลี่ยนไปใช้นมสดก็สามารถใช้นมแทนน้ำเปล่าในการต้มชาได้เลยค่ะ ก็จะได้รสชาติหอมมันไปอีกแบบ

วัตถุดิบชานมไข่มุก

1. ชาดำ 3 ซอง
2. น้ำเปล่า 3 ถ้วยตวง
3. นมผง 50 กรัม
4. น้ำเชื่อม (น้ำตาลทรายแดง) 200 กรัม
5. นมข้นจืด 70 กรัม
6. น้ำแข็งเกล็ด สำหรับจัดเสิร์ฟ
7. ไข่มุกสำเร็จรูป 1 ถ้วยตวง
8. น้ำเปล่า สำหรับต้มไข่มุก
9. น้ำเชื่อม (น้ำตาลทรายขาว) สำหรับแช่ไข่มุก

วิธีทำชานมไข่มุก

• ต้มน้ำให้เดือดจัด ใส่ไข่มุกลงไปในน้ำเดือด ต้มเม็ดไข่มุกประมาณ 25 นาที คนไม่ให้ไข่มุกติดก้นหม้อด้วย  ต้มจนไข่มุกสุกนิ่ม ปิดไฟ ยกหม้อลงจากเตา ทิ้งไข่มุกไว้ในหม้อต้มอีก 25 นาที โดยปิดฝาหม้อไว้  เมื่อครบเวลา ให้ล้างเม็ดไข่มุกในน้ำธรรมดา คือเป็นล้างเมือกไข่มุกออก 2-3 น้ำ แล้วสะเด็ดน้ำ นำไข่มุกไปแช่ในน้ำเชื่อม
• ต้มน้ำในหม้อให้เดือด ใส่ถุงชาดำลงไป ชงจนชามีความเข้มข้น  นำถุงชาออก แล้วใส่นมผง ตามด้วยน้ำเชื่อม (น้ำตาลทรายแดง) คนให้เข้ากันและพักไว้ให้เย็น 
• นำน้ำแข็งใส่แก้วให้เต็ม ใส่ชานม ตามด้วยไข่มุกที่แช่ไว้ เสิร์ฟทันที

29ชาไทยชีส

อัปเกรดเมนูชาไทยเย็น ด้วยวิปชีสสุดฮิต ขอบอกว่าการทำวิปชีสไม่ยากอย่างที่คิดเลยค่ะ แถมเติมรสชาติหอมมันให้กับเครื่องดื่มของเราอีกด้วย บางคนชิมแล้วบอกว่าได้อารมณ์เหมือนเป็นชีสเค้กแบบดื่มได้เลยละค่ะ ถ้าอยากรู้ก็ต้องลองแล้ว!

วัตถุดิบชาไทยชีส

1. นมสด 200 มิลลิลิตร
2. ครีมชีส 120 กรัม 
3. น้ำตาลทราย 1/4 ถ้วย
4. เกลือป่น 1/4 ช้อนชา 
5. วิปปิ้งครีม 250 มิลลิลิตร 
6. ถุงชาไทย 10 ถุง 
7. น้ำเปล่า 2 ลิตร 
8. นมข้นจืด 1/2 ถ้วยตวง 
9. น้ำตาลทราย 1 ถ้วยตวง 
10. น้ำแข็ง 1 แก้ว (สำหรับจัดเสิร์ฟ)
    

วิธีทำชาไทยชีส

• นำนมสดและครีมชีสใส่ลงในชามผสม ใช้แฮนมิกเซอร์ตีให้เข้ากัน จากนั้นใส่น้ำตาลทราย เกลือป่น และวิปปิ้งครีม ใช้แฮนมิกเซอร์ตีให้เนื้อฟูและเนียนเข้ากันดี แล้วใช้แร็ปคลุมชามผสม ยกเข้าตู้เย็นเก็บไว้เตรียมจัดเสิร์ฟ 
• นำน้ำใส่หม้อแล้วยกขึ้นตั้งไฟ เมื่อน้ำเริ่มร้อนให้ปิดไฟค่ะ จากนั้นใส่ถุงชาลงไป แช่ทิ้งไว้ 3 นาที แล้วคนให้ชาเข้ากับน้ำ ก่อนตักถุงชาที่ทำเสร็จออกจากหม้อ
• ใส่นมข้นจืดและนมข้นหวานลงไปในชา คนให้เข้ากัน
• เทชาไทยลงในแก้วที่มีน้ำแข็ง ตามด้วยการตักชีสที่ทำไว้ใส่ลงไปในแก้ว เท่านี้ก็พร้อมเสิร์ฟแล้วจ้า

30ชาชีสผลไม้ 

นอกจากเมนูชาไทยแล้ว วิปชีสก็เหมากับเมนูชาผลไม้อีกด้วยนะคะ ความหวานมันอมเปรี้ยวของวิปชีส ช่วยทำให้ชารสหวานสมดุลได้อย่างลงตัวเลยค่ะ 

วัตถุดิบชาชีสผลไม้

1. ผงชาอัสสัมสำเร็จรูป 4 ถุง 
2. แยมรสชาติตามต้องการ 3 ช้อนโต๊ะ 
3. น้ำ 1 ลิตร 
4. นมสด 200 มิลลิลิตร
5. ครีมชีส 120 กรัม
6. น้ำตาลทราย 1/3 ถ้วยตวง
7. เกลือป่น 1/4 ช้อนชา
8. วิปปิงครีม 250 มิลลิลิตร
9. น้ำแข็ง 1 ถ้วย
10. ผลไม้สด สำหรับตกแต่ง
11. สะระแหน่ สำหรับตกแต่ง

วิธีทำชาชีสผลไม้

• นำนมสดและครีมชีสใส่ลงในชามผสม ใช้แฮนด์มิกเซอร์ตีให้เข้ากัน ใส่น้ำตาลทราย เกลือป่น และวิปปิงครีม จากนั้นใช้แฮนมิกเซอร์ตีให้เนื้อฟูและเนียนเข้ากันดี ใช้แร็ป (ฟิล์มถนอมอาหาร) คลุมชามผสม ยกเข้าตู้เย็นเก็บไว้เตรียมจัดเสิร์ฟ
• ต้มน้ำ พอเดือดใส่ถุงชาลงไป รอให้ชาละลายประมาณ 3 - 5 นาที ก่อนช้อนถุงชาออก
• ใส่แยมลงในแก้วก่อนเทน้ำชาลงไป ผสมให้เข้ากัน ตามด้วยน้ำแข็งและผลไม้สด
• เทโฟมชีสที่เตรียมไว้ด้านบน และตกแต่งด้วยใบสะระแหน่ เพียงเท่านี้ก็พร้อมจัดเสิร์ฟแล้ว