รวมมิตร 20 สูตรเมนูอาหารว่างและของกินเล่น ทำกินก็ดี ทำขายก็ปัง!
  1. รวมมิตร 20 สูตรเมนูอาหารว่างและของกินเล่น ทำกินก็ดี ทำขายก็ปัง!

รวมมิตร 20 สูตรเมนูอาหารว่างและของกินเล่น ทำกินก็ดี ทำขายก็ปัง!

แจกสูตรอาหารว่างสุดฟิน ทำกินก็ง่าย ทำขายก็เลิศ ไม่ว่าจะเป็นของว่างเพื่อสุขภาพ หรือของว่างตามใจปาก เราก็รวมไว้ให้ที่นี่แล้ว ถ้าพร้อมแล้วก็ตามมาดูกันเลย!
writerProfile
27 เม.ย. 2022 · โดย
เวลาเตรียม
10 นาที
เวลาปรุง
10 นาที
แคลอรี่
500 Kcal/เสิร์ฟ
สำหรับ
2 เสิร์ฟ

สาย ๆ บ่าย ๆ มาแก้เหงาปากกันด้วยอาหารว่างง่าย ๆ ทำได้เองที่บ้าน ไม่ว่าจะเป็นของทอดกรอบสะใจ หรือจะเป็นเมนูของว่างเพื่อสุขภาพเราก็รวมมาให้แล้ว ถึง 20 เมนูด้วยกัน ทั้งคาวทั้งหวาน ทำกินเองก็ง่าย หรือจะทำขายก็รับรองว่าลูกค้าจะต้องติดใจแน่นอน ถ้าพร้อมกันแล้วก็มาดูสูตรของว่างกินเล่นสุดฟินกันเลย!

รวมมิตร 20 สูตรเมนูอาหารว่างและของกินเล่น ทำกินก็ดี ทำขายก็ปัง!

1.ข้าวโพดทอดไส้นม

มาดูเมนูแรกกันเลย กับ ข้าวโพดทอดไส้นม เมนูของว่างย้อนวัย ที่เราอัปเลเวลความฟินด้วยไส้นมเยิ้ม ๆ สุดฟิน เรียกว่าลืมไม่ลงกันเลยทีเดียว ทำยังไงไปดูกันเลยจ้าา

ข้าวโพดทอดไส้นม

วัตถุดิบข้าวโพดทอดไส้นม

  1. ข้าวโพดดิบ 1 ฝัก 
  2. แป้งเทมปุระ 2 ช้อนโต๊ะ 
  3. แป้งข้าวโพด 1½ ช้อนโต๊ะ 
  4. นม 1½ ถ้วยตวง 
  5. ไข่ไก่ 1 ฟอง 
  6. เนยชนิดจืด 20 กรัม 
  7. เกลือ 1 ช้อนชา 
  8. ผงปรุงรส 1 ช้อนชา 
  9. นมข้นหวาน 4 ช้อนโต๊ะ 
  10. น้ำตาลทราย 1 ช้อนโต๊ะ 
  11. น้ำเย็นจัด 

วิธีทำข้าวโพดทอดไส้นม

  • แกะข้าวโพดออกจากซัง แล้วใช้มีดเฉือนเมล็ดข้าวโพดออกจากฝัก นำไปคลุกกับแป้งเทมปุระและผงปรุงรส พรมน้ำเย็นจัดลงไปเล็กน้อย นำเข้าตู้เย็นพักไว้
  • ผสม นม น้ำตาลทราย นมข้นหวาน และแป้งข้าวโพด คนจนทุกอย่างเข้ากันดี ตั้งไฟอ่อน คอยคนเรื่อย ๆ จนมีลักษณะข้นขึ้นแล้วจึงใส่เนยลงไป คนจนเนยละลายหมด พักไว้จนเย็นแล้วนำไปแช่ช่องแข็งจนแข็งดี แล้วนำมาตัดแบ่งเป็นก้อน 
  • นำไส้นมที่ตัดแบ่งมาคลุกกับแป้งเทมปุระ ชุบไข่ แล้วนำเมล็ดข้าวโพดมาปั้นห่อเอาไว้ นำลงทอดไฟปานกลางจนขึ้นสี พร้อมเสิร์ฟ 

2.ลูกชิ้นกุ้งไร้แป้ง

ต่อกันที่เมนู ลูกชิ้นกุ้งไร้แป้ง ที่มีเนื้อกุ้งเน้น ๆ เด้งสู้ฟัน จิ้มกินกับน้ำจิ้มไก่แล้วเลิศสุด จะทำมากินเล่น หรือจะประยุกต์ไปใช้กับเมนูอื่น ๆ ก็เข้า ไม่ว่าจะเป็นก๋วยเตี๋ยวหรือผัดผัก ใครคิดว่าลูกชิ้นจะทำยาก ขอบอกเลยค่ะว่าง่ายกว่าที่คิด!

ลูกชิ้นกุ้งไร้แป้ง

วัตถุดิบลูกชิ้นกุ้งไร้แป้ง

  1. กุ้งบด 1 กิโลกรัม 
  2. หมูสับ 300 กรัม 
  3. กุ้งหั่นชิ้น 300 กรัม 
  4. ไข่ไก่ 2 ฟอง
  5. รากผักชี 3 ราก 
  6. พริกไทยเม็ด ½ ช้อนโต๊ะ 
  7. กระเทียม 2 หัว 
  8. เกลือ 1 ช้อนชา 
  9. ซอสปรุงรส ¼ ถ้วย 
  10. น้ำตาลทราย 2 ช้อนโต๊ะ
  11. น้ำมันพืช 500 มิลลิลิตร

วิธีทำลูกชิ้นกุ้งไร้แป้ง

  • โขลกกระเทียม พริกไทยเม็ด และรากผักชี ให้ละเอียด
  • ใส่กุ้งบดลงในชามผสม ตามด้วยหมูสับ ไข่ไก่ ปรุงรสด้วยสามเกลอ เกลือ น้ำตาลทราย และซอสปรุงรส คนให้เข้ากัน จากนั้นใส่กุ้งหั่นชิ้นลงไป และคนให้เข้ากันอีกครั้ง 
  • ปั้นเป็นลูกกลม ๆ ขนาดตามชอบ แล้วนำลูกชิ้นกุ้งลงไปทอดด้วยไฟกลางจนสุกเหลืองกรอบ แค่นี้ก็พร้อมเสิร์ฟ

3.หมูแดดเดียว

หมูแดดเดียว อีกหนึ่งเมนูโปรดตลอดกาล วิธีทำง่ายสุด ๆ รสชาติก็เยี่ยม ยิ่งกินกับข้าวเหนียวร้อน ๆ คือตัวลอย สูตรนี้ไม่ต้องง้อแดด แถมเราเอาเคล็ดลับหมักเนื้อหมูยังไงให้นุ่มมาฝากกันอีกต่างหาก ถ้าพร้อมแล้วไปดูกันเลยย

หมูแดดเดียว

วัตถุดิบหมูแดดเดียว

  1. เนื้อหมูสันคอ 1 กิโลกรัม
  2. กระเทียม 8 กลีบ 
  3. รากผักชี 6 ราก 
  4. ซอสหอยนางรม 2 ช้อนโต๊ะ 
  5. น้ำปลาแท้ ตราทิพรส 2 ช้อนโต๊ะ 
  6. น้ำตาล 2 ช้อนชา 
  7. พริกไทย 2 ช้อนชา
  8. งาขาว 2 ช้อนโต๊ะ 

วิธีทำหมูแดดเดียว

  • นำเนื้อหมูสันคอมาหั่นให้เป็นเส้น ตำกระเทียม และรากผักชีให้ละเอียด จากนั้นนำเนื้อหมูที่หั่นแล้วใส่ในชามผสม ตามด้วยกระเทียม งาขาว และรากผักชีที่ตำไว้ ปรุงรสด้วย ซอสหอยนางรม พริกไทย น้ำปลา และน้ำตาล คลุกเคล้าให้เข้ากัน หมักทิ้งไว้ในตู้เย็น 2 ชั่วโมง
  • นำหมูที่หมักไว้มาวางเรียงบนตะแกรงแล้วนำเข้าอบไฟอ่อน 50 องศาเซลเซียส เป็นเวลา 3 ชั่วโมง
  • เมื่ออบครบ 3 ชั่วโมงแล้ว นำออกมาทอดจนสุกดี เท่านี้ก็ได้หมูแดดเดียวรสเด็ด ไว้กินกับข้าวเหนียวแล้ว! 

4.ทอดมันเห็ด

ทอดมันเห็ด เมนูของว่างกินเล่นง่าย ๆ ที่คนกินมังสวิรัติก็กินได้ สบายใจหายห่วง รสชาติยังจัดจ้านกินเพลินเหมือนทอดมันที่เรากินกันทั่วไปแน่นอน จิ้มอาจาดฉ่ำ ๆ  หอมฟินกินเพลินสุด ๆ ขอบอกว่าห้ามพลาดทีเดียวค่ะ

ทอดมันเห็ด

วัตถุดิบทอดมันเห็ด

  1. เห็ดนางฟ้า 200 กรัม
  2. น้ำพริกแกงเผ็ด 2 ช้อนโต๊ะ
  3. น้ำปลา 2 ช้อนชา
  4. น้ำตาลทราย 1 ช้อนโต๊ะ
  5. ใบมะกรูดซอย 2 ช้อนโต๊ะ
  6. แป้งทอดกรอบสำเร็จรูป 120 กรัม
  7. ไข่ไก่ 2 ฟอง
  8. น้ำมันพืชสำหรับทอด 

วิธีทำทอดมันเห็ด

  • นำเห็ดนางฟ้ามาล้างน้ำให้สะอาด แล้วนำมาหั่นเต๋า แล้วพักให้สะเด็ด 
  • ผสมน้ำพริกแกงเผ็ด และไข่ไก่ คนให้เข้ากัน หลังจากนั้นใส่เห็ดนางฟ้า ปรุงรสด้วยน้ำปลา และน้ำตาลทราย ใส่แป้งทอดกรอบ ใบมะกรูด คนให้เข้ากันอีกครั้งให้ส่วนผสมมีลักษณะข้น
  • ตั้งกระทะใส่น้ำมันพืชพอร้อน ตักส่วนผสมทอดมันมาหยอดลงในกระทะให้เป็นชิ้นเท่า ๆ กัน ทอดจนสุกเหลือง ตักขึ้นพักไว้ให้สะเด็ดน้ำมัน แล้วเสิร์ฟร้อน ๆ พร้อมอาจาด

5.ทุเรียนทอด

พูดถึงของกินเล่นจะขาดเมนู ทุเรียนทอด ไปได้ยังไง! เมนูของกินเล่นที่มาแรงแซงทางโค้งสุด ๆ เพราะกรอบ เค็ม มัน เคี้ยวเพลินจนหยุดไม่ได้ แถมวัตถุดิบยังมีแค่ 3 อย่าง ถ้าใครชอบกินรสชีส หรือบาร์บีคิว ก็สามารถซื้อผงปรุงรสมาเขย่าได้เหมือนซื้อกินที่ร้านไม่มีผิด

ทุเรียนทอด

วัตถุดิบเมนูทุเรียนทอด

  1. ทุเรียนดิบ 1 ผล
  2. เกลือ ½ ช้อนโต๊ะ 
  3. น้ำมันปาล์ม สำหรับทอด 

วิธีทำทุเรียนทอด

  • นำทุเรียนดิบมาปอกเอาเปลือกแล้วแกะเอาเมล็ดออก แล้วฝานเป็นแผ่นบาง ๆ 
  • ตั้งกระทะ รอจนน้ำมันร้อน แล้วใส่ทุเรียนที่หั่นเตรียมไว้ลงไป จนสุกกรอบ แล้วตักขึ้นสะเด็ดน้ำมัน
  • ใส่เกลือหรือผงปรุงรสที่ชอบลงไปคลุกกับทุเรียนที่ทอดพักไว้ แล้วคลุกผสมให้เข้ากัน 

6.แซนด์วิชผลไม้ครีมสด

มาดูเมนูอาหารว่างหวานเย็นสดชื่นกันบ้าง กับ แซนด์วิชผลไม้ครีมสด เย็น ๆ ทำเก็บไว้ล่วงหน้าก็ได้ สะดวกอย่าบอกใคร หรือถ้าใครไม่อยากตีวิปครีมเอง จะใช้แบบกระป๋องก็ได้เหมือนกันนะคะ ความหวานของวิปครีมคือเข้ากันผลไม้สดสุด ๆ ไปเลยย

แซนด์วิชผลไม้ครีมสด

วัตถุดิบแซนด์วิชผลไม้ครีมสด

  1. ขนมปังแซนด์วิชตัดขอบ 6 แผ่น
  2. สตรอว์เบอร์รี 10 ผล
  3. องุ่น ตามชอบ
  4. เมลอน ตามชอบ
  5. วิปปิงครีม 1 ถ้วยตวง  

วิธีทำแซนด์วิชผลไม้ครีมสด

  • นำวิปปิ้งครีมมาตีให้ขึ้นฟูแล้วแช่เย็นเอาไว้ให้เซ็ตตัว
  • ทาวิปครีมให้ทั่วขนมปังแผ่น วางผลไม้สดตามชอบ จากนั้นทาวิปครีมทับลงไปแล้วประกบด้วยขนมปังอีก 1 แผ่น ห่อด้วยพลาสติกแร็ปแล้วนำไปแช่เย็นนาน 30-40 นาที
  • หั่นครึ่งแซนด์วิชผลไม้ครีมสดให้เป็นสามเหลี่ยม 2 ชิ้น จัดเสิร์ฟเย็น ๆ 

7.ขนมโตเกียว

มาต่อกันด้วยเมนูของว่างย้อนวัย อย่าง ขนมโตเกียว แป้งหอมนุ่มสุกฟิน เหลือใส่ไส้ได้หลากหลายตามชอบ แถมยังใส่ได้แบบจุใจอีกต่างหาก ไม่ทำไม่ได้แล้ว ถ้าพร้อมแล้วก็ไปดูวิธีทำกันเลยจ้าา

ขนมโตเกียว

วัตถุดิบขนมโตเกียว

  1. ไข่ไก่ 2 ฟอง 
  2. น้ำตาลป่น 80 กรัม 
  3. นมสด 100 กรัม 
  4. น้ำปูนใสหรือน้ำสะอาด 80 กรัม
  5. กลิ่นวานิลลา 1 ช้อนชา 
  6. แป้งเอนกประสงค์ 140 กรัม
  7. แป้งข้าวเจ้าหรือแป้งมันสำปะหลัง 30 กรัม 
  8. ผงฟู 1 ช้อนชา
  9. เกลือ 1/2 ช้อนชา
  10. น้ำมัน หรือ เนยละลาย 15 กรัม
  11. ไข่นกกระทา ตามชอบ
  12. ไส้กรอก ตามชอบ
  13. หมูสับลวก ตามชอบ
  14. ต้นหอมซอย ตามชอบ 
  15. ซอสปรุงรสฝาเหลือง ตามชอบ
  16. ซอสมะเขือเทศ ตามชอบ 
  17. ซอสพริก ตามชอบ
  18. ปูอัด ตามชอบ 
  19. ซอสพิซซ่า ตามชอบ
  20. ชีสขูด ตามชอบ
  21. เนยละลายสำหรับย่างแผ่นแป้ง 

วิธีทำขนมโตเกียว

  • นำไข่ตีกับน้ำตาลให้ละลายเข้ากันดี จากนั้นร่อนแป้ง ผงฟู เกลือ ลงไปแล้วผสมให้เข้ากันจนเหนียวข้น ขั้นตอนนี้สำคัญเพราะจะทำให้แป้งเหนียวนุ่ม จากนั้นจึงใส่น้ำปูนใสหรือน้ำเปล่าลงไปผสมต่อจนเข้ากัน ใส่นมแล้วคนให้เข้ากัน หรือกรองด้วยกระชอนเพื่อความเนียนละเอียดของแป้ง 
  • ทาเนยบางๆ ที่กระทะ ให้ร้อนจนพอดีแล้วจึงใส่แป้งลงไป เกลี่ยให้หนาหรือบางก็ได้ตามที่เราชอบ พอแป้งใกล้สุก ใส่ไส้ตามชอบเช่น ไส้พิซซ่าที่ใส่ซอสมะเขือเทศเข้มข้น ปูอัด และ ชีส ค่อย ๆ ม้วนเป็นรูปทรงกระบอก แล้วจัดเสิร์ฟได้เลยจ้าา

8.ครองแครงกรอบ

ครองแครงกรอบ เมนูของกินเล่นแบบไทย ๆ หวานมัน กรอบเค็ม หอมกลิ่นกระเทียมพริกไทย ใครเอาอะไรมาแลกก็ไม่ยอม ก็แหม มันทั้งกรอบ ทั้งหอมมัน แถมยังหวานธรรมชาติจากน้ำตาลมะพร้าวอีกด้วย ห้ามใจไม่อยู่จริง ๆ ค่าา

ครองแครงกรอบ

วัตถุดิบครองแครงกรอบ

  1. แป้งอเนกประสงค์ 250 กรัม
  2. น้ำปูนใส 3 ช้อนโต๊ะ
  3. ไข่ไก่ 1 ฟอง 
  4. เกลือป่น (สำหรับครองแครง) ½ ช้อนชา 
  5. เกลือป่น (สำหรับน้ำตลาเคลือบ) ½ ช้อนชา 
  6. กะทิ 100 มิลลิลิตร 
  7. น้ำตาลปี๊บ 1 ถ้วย 
  8. พริกไทยป่น 2 ช้อนโต๊ะ 
  9. ต้นหอมซอย ¼ ถ้วย 
  10. น้ำมันสำหรับทอด 1 ลิตร
  11. น้ำปลา 3 ช้อนโต๊ะ
  12. น้ำเปล่า ¼ ถ้วย
  13. รากผักชี 3 ราก
  14. กระเทียม 1 หัว

วิธีทำครองแครงกรอบ

  • นำแป้งอเนกประสงค์ใส่ชามผสม ตามด้วยเกลือป่น น้ำปูนใส และกะทิ นวดให้เข้ากัน จนแป้งเนียน และไม่ติดมือ จากนั้นแบ่งแป้งเป็นก้อนเล็ก ๆ ประมาณหัวนิ้วก้อย แล้วนำไปกดลงพิมพ์ครองแครง กดรูดไปด้านหน้า จะทำให้เกิดลายขึ้น
  • ตั้งกระทะบนไฟปานกลาง เทน้ำมันสำหรับทอดลงไป และรอจนร้อน นำครองแครงลงไปทอดจนเหลืองกรอบ และตักออกพักไว้ เพื่อสะเด้ดน้ำมัน 
  • โขลกสามเกลอ ได้แก่ กระเทียม พริกไทย และรากผักชี เข้าด้วยกันจนละเอียด นำกระทะขึ้นตั้งไฟปานกลาง แบ่งน้ำมันสำหรับทอดมา 1 ช้อนโต๊ะ และเทลงไป นำสามเกลอลงไปผัดจนเหลืองหอม ใส่น้ำตาลปี๊บลงไป ตามด้วยเกลือ น้ำปลา และน้ำเปล่า จากนั้นเคี่ยวจนหนืด 
  • ใส่ครองแครงที่ทอดเตรียมไว้ ลงไปคลุกกับน้ำตาลเคลือบ โรยต้นหอม คลุกเค้าให้เข้ากัน พร้อมเสิร์ฟจ้า 

9.กล้วยแขก

มาต่อกันที่อีกเมนูทอดแบบไทย ๆ ถ้าใครชอบกินกล้วยคือต้องเลิฟ กับเมนู กล้วยแขก แป้งกรอบ กินเพลิน เนื้อกล้วยข้างในก็หวานฉ่ำ เข้ากั๊นนเข้ากัน ถ้าได้เริ่มกินสักคำคือหยุดมือไม่ลง!

กล้วยแขก

วัตถุดิบกล้วยแขก

  1. แป้งข้าวเจ้า 250 กรัม
  2. แป้งข้าวโพด 25 กรัม
  3. น้ำตาล 100 กรัม
  4. เกลือป่น 1 ช้อนโต๊ะ
  5. ผงฟู 1 1/2 ช้อนโต๊ะ
  6. มะพร้าวขูดขาว 200 กรัม
  7. งาขาว (ไม่ต้องคั่ว) 50 กรัม
  8. นมข้นจืด 250 กรัม
  9. น้ำปูนใส 70 มิลลิลิตร
  10. กล้วยน้ำว้าสุกห่าม 1 หวี
  11. ใบเตย 1 ถ้วย
  12. น้ำมันปาล์ม (สำหรับทอด)

วิธีทำกล้วยแขก

  • ในชามผสม ผสมแป้งข้าวเจ้า แป้งข้าวโพด น้ำตาล เกลือป่น และผงฟูเข้าด้วยกัน จากนั้นใส่น้ำปูนใส ตามด้วยนมข้นจืด แล้วใช้ตะกร้อมือคนให้เข้ากัน แล้วจึงใส่มะพร้าวขูดขาว งาขาว และใบเตยตามลงไป คนให้เข้ากันเป็นเนื้อเดียว
  • สไลซ์กล้วยน้ำว้าเป็นแผ่น ๆ จากนั้นนำลงไปคลุกในแป้งที่เตรียมไว้
  • ตั้งกระทะบนไฟปานกลาง จากนั้นใส่น้ำมันลงไปตั้งจนร้อน แล้วนำกล้วยลงไปทอดจนเหลืองกรอบ ตักขึ้นสะเด็ดน้ำมัน แค่นี้ก็พร้อมเสิร์ฟ!

10.เยลลี่ผลไม้

กลับมาที่เมนูหวานเย็นชื่นใจได้สุขภาพกันบ้าง กับ เยลลี่ผลไม้ เมนูของว่างจากผลไม้ ทำง่าย ๆ แค่มีไมโครเวฟ แช่เย็นไว้กินเพลิน ๆ หรือแช่ช่องฟรีซเซอร์ก็ฟินไปอีกแบบ หวานเย็นจี๊ดขึ้นสมองเลย! ใครไม่เชื่อต้องลองดู ถ้าใครไม่ชอบรสหวานมาก ลองปรับจำนวนน้ำตาลดูได้นะคะ

เยลลี่ผลไม้

วัตถุดิบเยลลี่ผลไม้

  1. ผงเจลาติน 30 กรัม
  2. น้ำผลไม้เข้มข้น 2 ช้อนโต๊ะ (รสตามชอบ)
  3. น้ำตาลทราย 150 กรัม
  4. น้ำเปล่า 210 มิลลิลิตร 
  5. ผลไม้สด ตามชอบ

วิธีทำเยลลี่ผลไม้

  • เทน้ำ50มิลลิลิตรลงในถ้วยผสม ใส่ผงเจลาตินลงไป คนให้เข้ากัน พักไว้ให้เจลาตินพองตัว
  • เทน้ำอีก 160 มิลลิลิตร ลงในอีกชาม ใส่น้ำตาลทรายคนให้เข้ากัน นำเข้าไมโครเวฟ 5 นาที แล้วนำออกมา เทเจลาตินที่ผสมไว้ในขั้นตอนที่1ลงไป คนให้เข้ากัน
  • แบ่งน้ำผลไม้เข้มข้นลงในถ้วย ถ้วยละ 2 ช้อนโต๊ะ เทน้ำเชื่อมผสมเจลาตินลงไป แล้วคนให้เข้ากันนำส่วนผสมเทลงแม่พิมพ์ ใส่ผลไม้สดตามชอบ แล้วนำไปแช่เย็นเป็นเวลา20นาที เมื่อครบ20นาที เยลลี่เซ็ตตัว นำออกจากตู้เย็น แกะออกจากพิมพ์ เสิร์ฟเย็น ๆ 

11.นักเก็ตไก่

นักเก็ตไก่ เมนูของกินเล่นเน้นโปรตีนที่ทำเองได้ง่าย ๆ ที่บ้าน ไม่ต้องซื้อแพง ๆ หรือซื้อแบบโฟรเซ่น เพราะเราสามารถเลือกเองได้ว่าจะใช้ไก่ส่วนไหนมาทำ! สำหรับใครที่รักษาสุขภาพแต่ก็อยากกินนักเก็ตก็สามารถเลือกใช้อกไก่และทอดในหม้อทอดไร้น้ำมันแทน ก็จะดีต่อสุขภาพมากขึ้นค่ะ

นักเก็ตไก่

วัตถุดิบนักเก็ตไก่

  1. ไก่บด 500 กรัม
  2. พริกไทยป่น 2 ช้อนโต๊ะ 
  3. ซีอิ๊วขาว 2 ช้อนโต๊ะ
  4. ซอสหอยนางรม 2 ช้อนโต๊ะ
  5. เกลือ 2 ช้อนชา
  6. แป้งข้าวโพด 4 ช้อนโต๊ะ 
  7. แป้งสาลีอเนกประสงค์ 200 กรัม
  8. ไข่ไก่ 2 ฟอง 
  9. เกล็ดขนมปัง 200 กรัม
  10. น้ำมันสำหรับทอด  

วิธีทำนักเก็ตไก่

  • ผสมไก่บดกับพริกไทยป่น ปรุงรสด้วยซีอิ๊วขาว ซอสหอยนางรม เกลือ และแป้งข้าวโพด นวดจนส่วนผสมเข้ากันเป็นเนื้อเดียว 
  • ปั้นเนื้อไก่แล้วจัดให้เป็นรูปทรงสี่เหลียม จากนั้นก็นำไปคลุกกับแป้งสาลีอเนกประสงค์ ไข่ไก่ และเกล็ดขนมปัง เตรียมไว้
  • ตั้งกระทะใส่น้ำให้ท่วม รอให้ร้อนแล้วนำไก่ที่ชุบแป้งไว้แล้ว ลงไปทอดให้สุกเหลือง เสร็จแล้วก็ตักขึ้นมา พักให้สะเด็ดน้ำมัน จัดเสิร์ฟพร้อมซอสพริกหรือซอสมะเขือเทศ

12.ปูอัดฝอยทอดกรอบ

ปูอัดฝอยทอดกรอบ เมนูของกินเล่นสุดเพลิน ปูอัดยีเป็นเส้น คลุกแป้งทอดจนเหลืองกรอบ จิ้มซอสมาโยวาซาบิ มัน ๆ จี๊ด ๆ ขึ้นจมูก คิดถึงสมัยเรียนกันเลยทีเดียว กินกับเครื่องดื่มเย็น ๆ ยิ่งอิน แถมวิธีทำยังง่ายสุด ๆ 

ปูอัดฝอยทอดกรอบ

วัตถุดิบปูอัดฝอยทอดกรอบ

  1. ปูอัด 400 กรัม 
  2. แป้งทอดกรอบ 1 ถ้วยตวง 
  3. น้ำมันปาล์ม สำหรับทอด 
  4. มายองเนส ½ ถ้วยตวง 
  5. วาซาบิ 1 ช้อนชา 

วิธีทำปูอัดฝอยทอดกรอบ

  • นำปูอัดมากด ๆ ยี ๆ ให้แตกออกเป็นเส้น แล้วดึงแยกออกจากกัน หลังจากปูอัดแยกเป็นเส้นดีแล้ว นำปูอัดมาคลุกแป้งทอดกรอบให้เข้ากัน ใช้ตะแกรงร่อนแป้งส่วนเกินออกแล้วนำลงทอดในน้ำมันร้อน จนเหลืองกรอบ ตักขึ้นพักสะเด็ดน้ำมัน
  • ผสมมายองเนส และวาซาบิ คนให้เข้ากัน จัดเสิร์ฟคู่กับปูอัดที่ทอดไว้

13.มะยงชิดลอยแก้ว

เมนูอาหารว่างหวานอมเปรี้ยว เย็นฉ่ำ ชื่นใจแบบไทย ๆ กับ มะยงชิดลอยแก้ว เหมาะสำหรับยามบ่าย ๆ ที่อากาศร้อนได้ที่ ได้อาหารว่างรสชาติหวานเย็นแบบนี้เข้าท่าสุด ๆ เลยละค่ะ ถูกใจทั้งเด็กทั้งผู้ใหญ่ ทำก็ง่าย กินก็ง่าย ต้องลองทำดูแล้วล่ะ!

มะยงชิดลอยแก้ว

วัตถุดิบมะยงชิดลอยแก้ว

  1. มะยงชิด 8-10 ลูก 
  2. น้ำสะอาด 1 ลิตร  
  3. น้ำตาล 250 กรัม  
  4. เกลือ 1 ช้อนชา  
  5. ใบเตย 2-3 ใบ 

วิธีทำมะยงชิดลอยแก้ว

  • ปอกเปลือกมะยงชิด และคว้านเมล็ดออก จากนั้นนำไปล้างน้ำเกลือเพื่อล้างยางออก 
  • ตั้งน้ำสะอาด และเติมน้ำตาล จากนั้นต้มให้น้ำตาลละลาย จากนั้นนำมะยงชิดมาแช่ในน้ำเชื่อมเป็นเวลาอย่างน้อย 6-8 ชั่วโมงหรือข้ามคืน 

14.ขนมปังหน้ากุ้งทอดงา

ขนมปังหน้ากุ้งทอดงา อีกหนึ่งเมนูอาหารว่างสุดฟินกินเพลิน รสเด็ดเหมือนร้านดัง ขนมปังทอดกรอบหน้ากุ้งเด้ง ๆ ฉาบด้วยงาขาวหอม ๆ ข้างหน้าเพิ่มความกรอบเข้าไปอีก จิ้มกินกับบ๊วยเจี่ยหวาน ๆ เหมือนได้กลับไปเป็นเด็กอีกครั้งเลยล่ะ

ขนมปังหน้ากุ้งทอดงา

วัตถุดิบขนมปังหน้ากุ้งทอดงา

  1. กุ้งสับ 150 กรัม 
  2. หมูสับ 50 กรัม 
  3. แป้งมัน 20 กรัม 
  4. รากผักชี 3 ราก
  5. กระเทียม 5 กลีบ 
  6. เกลือสมุทร 1 ช้อนชา 
  7. พริกไทยเม็ด 1 ช้อนชา
  8. ซอสปรุงรส 1 ช้อนโต๊ะ 
  9. ไข่ไก่ 1 ฟอง 
  10. งาขาว 100 กรัม 
  11. พริกแดงซอย ตามชอบ 
  12. ผักชี ตามชอบ 
  13. ผักกาดหอม 
  14. น้ำมันพืช 500 มิลลิลิตร 
  15. ขนมปัง 5 แผ่น 
  16. น้ำจิ้มบ๊วย ตามชอบ

วิธีทำขนมปังหน้ากุ้งทอดงา

  • โขลกกระเทียม พริกไทยเม็ด เกลือ และรากผักชี ให้ละเอียดใส่ลงในชามผสม ตามด้วยกุ้งสับ หมูสับ ซอสปรุงรส แป้งมัน และไข่ไก่ คนให้ส่วนผสมเข้ากัน
  • ตัดขนมปังเป็นสามเหลี่ยม ทาหน้ากุ้งลงไป เกลี่ยให้เท่ากัน และโรยงาขาวให้ทั่ว
  • นำกระทะขึ้นตั้งไฟปานกลาง เทน้ำมันพืชลงไป และรอจนร้อน ทอดขนมปังหน้ากุ้งจนเหลืองกรอบ แล้วใช้กระชอนตักขึ้นมาพักไว้ ให้สะเด็ดน้ำมัน
  • จัดใส่จาน โรยพริกซอย และผักชี จัดเสิร์ฟพร้อมกับผักกาดหอม และน้ำจิ้มบ๊วย

15.เฟรนช์ฟรายส์ชิลลีชีส

มาต่อกันที่ของกินเล่นยอดฮิตอย่าง เฟรนช์ฟรายส์ ที่เราเพิ่มความพิเศษด้วยผงปรุงรสชิลลีชีส ให้เผ็ดจี๊ด นัวรสชีสแบบถึงใจ ยกระดับเฟรนช์ฟรายส์กรอบนอกนุ่ในให้อร่อยเหาะ!

เฟรนช์ฟรายส์ชิลลีชีส

วัตถุดิบเฟรนช์ฟรายส์ชิลลีชีส

  1. เฟรนช์ฟรายส์สำเร็จรูป 500 กรัม 
  2. เนยสด 2 ช้อนโต๊ะ 
  3. แป้งอเนกประสงค์ 2 ช้อนโต๊ะ 
  4. นมสด 1 ถ้วยตวง 
  5. ผงปรุงรส Chilly Cheese 5 ช้อนโต๊ะ 
  6. โคนวาฟเฟิล 3 โคน 
  7. น้ำมันปาล์ม สำหรับทอด 
  8. พาร์สลีย์สับ สำหรับโรยหน้า 

วิธีทำเฟรนช์ฟรายส์ชิลลีชีส

  • ละลายเนยสดแล้วใส่แป้งอเนกประสงค์ลงไปผัดให้เปลี่ยนเป็นสีเหลืองอ่อน ๆ เติมนมสดลงไปแล้วใช้ตะกร้อมือคนให้เข้ากัน เมื่อนมสดเริ่มข้น ใส่ผงปรุงรส Chilly Cheese ลงไป 2 ช้อนโต๊ะ คนให้เข้ากัน จากนั้นยกลงจากเตาพักไว้ให้เย็น
  • ทอดเฟรนช์ฟรายส์ด้วยไฟกลางให้เหลืองกรอบ แล้วตักขึ้นจากกระทะพักให้สะเด็ดน้ำมัน จากนั้นใส่ลงในชามผสม แล้วใส่ผงปรุงรส Chilly Cheese ลงไป 3 ช้อนโต๊ะ คลุกเคล้าให้เข้ากัน พักไว้เตรียมจัดเสิร์ฟ
  • นำเฟรนช์ฟรายส์ใส่ลงในโคนวาฟเฟิล แล้วราดด้วยซอสชีส ตามด้วยการโรยพาร์สลีย์สับ เท่านี้ก็ได้เมนูเก๋ ๆ แล้วล่ะ

16.ขนมจีบหมูเด้ง

มาดูของว่างสไตล์จีนกันบ้าง กับ ขนมจีบหมูเด้ง สูตรอาม่า ทำง่าย ๆ นึ่งแปป ๆ ก็ได้กินแล้ว หมูเด้งกินเพลินสู้ฟัน โรยกระเทียมเจียวหอม ๆ จิ้มกับจิ๊กโฉ่วเข้ากันอย่าบอกใคร แถมยังรสชาติกลมกล่อมกินง่ายอีกด้วย

ขนมจีบหมูเด้ง

วัตถุดิบขนมจีบหมูเด้ง

  1. กุ้งสับหยาบ 100 กรัม 
  2. หมูบด 200 กรัม
  3. รากผักชี 2 ราก 
  4. กระเทียม 3 กลีบ 
  5. พริกไทยดำ 1 ช้อนชา 
  6. แครอทหั่นเต๋า 50 กรัม 
  7. แผ่นเกี๊ยว 20 แผ่น 
  8. ซอสปรุงรส 1 ช้อนโต๊ะ 
  9. น้ำมันหอย 1 ช้อนโต๊ะ 
  10. น้ำตาลทราย ½ ช้อนโต๊ะ 
  11. น้ำมันงา 1 ช้อนชา 
  12. แป้งข้าวโพด 1 ช้อนโต๊ะ 

วิธีทำขนมจีบหมูเด้ง

  • โขลกรากผักชี กระเทียมและพริกไทย เข้าด้วยกัน จากนั้นนำมาผสมกับกุ้งสับ หมูสับ แครอทหั่นเต๋า ปรุงรสด้วยซอสปรุงรส น้ำมันหอย น้ำตาล น้ำมันงา และแป้งข้าวโพด คลุกเคล้าให้ส่วนผสมเข้ากันเป็นเนื้อเดียว
  • ห่อขนมจีบ โดยการวางแผ่นเกี๊ยวบนระหว่างนิ้วโป้งและนิ้วชี้ แล้วตักไส้ประมาณ 1 ช้อนโต๊ะใส่ลงไป ใช้นิ้วโป้งกับนิ้วชี้รูดแผ่นเกี๊ยวให้เป็นทรง แล้วใช้สันช้อนช่วยกดแผ่นเกี๊ยวให้เป็นจีบ
  • เมื่อห่อเสร็จแล้ว พรมน้ำก่อนเพื่อให้แป้งนิ่ม ไม่แข็ง แล้วค่อยนึ่งเป็นเวลา 15-20 นาที หรือจนไส้สุก จากนั้นจัดเสิร์ฟ โรยกระเทียมเจียว กินกับจิ๊กโฉ่ว

17.โรตี

มาทำ โรตี อาหารว่างรสหวานฉ่ำ กับแป้งโรตีกรอบ ๆ ที่ทอดจนได้ที่ ใส่เนยแบบจุก ๆ หวานมันจุใจไม่ง้ออาบังเลยค่ะ แล้วจะรู้ว่าความจริงโรตีไม่ได้ยากอย่างที่คิด แค่ขอแรงนวดนิด ๆ หน่อย ๆ เท่านั้นเองค่ะ

โรตี

วัตถุดิบโรตี

  1. แป้งสาลีอเนกประสงค์ 550 กรัม
  2. เนยละลาย 15 กรัม
  3. ไข่ไก่ 1 ฟอง
  4. น้ำ 270 กรัม
  5. นมข้นหวาน 80 กรัม
  6. เกลือ 1 ช้อนชา
  7. น้ำมันพืช (สำหรับปั้น และทอด)
  8. เนย (สำหรับทอด)
  9. นมข้นหวาน (สำหรับราดหน้า) 

วิธีทำโรตี

  • ผสมแป้งโรตี โดยผสมน้ำ เนยละลาย ไข่ไก่ เกลือ และ นมข้นหวาน เข้าด้วยกัน ในชามอีกใบ ใส่แป้งแล้วทำหลุมไว้ตรงกลาง จากนั้นเทส่วนผสมของเหลวลงไปตรงกลางหลุมแป้ง แล้วคนให้เข้ากันดี แตะน้ำมันที่มือให้ทั่ว จากนั้นปั้นแป้งโรตีให้เนียนเข้ากัน แป้งเป็นก้อน ๆ เท่า ๆ กันโดยทาน้ำมันลงบนมือเพื่อไม่ให้แป้งติดกับมือ คลุมแป้งด้วยพลาสติกแร็ป ก่อนนำไปพักไว้ในตู้เย็นประมาณ 30 นาที
  • ทาน้ำมันลงบนเขียงไม้ หรือพื้นโต๊ะ จากนั้นวางแป้งลงไป ค่อย ๆ ใช้มือเกลี่ยแป้งเป็นวงกลมจนบาง คลึงแป้งให้เป็นสี่เหลี่ยม โดยดึงมุมทั้งสีด้านออก
  • ตั้งกระทะบนไฟปานกลาง และตักน้ำมันลงไป นำแผ่นโรตีลงไปทอดในกระทะ จากนั้นใส่เนยลงไปตรงกลาง ก่อนพลิกทอดอีกด้านหนึ่งจนกรอบ
  • เสิร์ฟโรตีกรอบโดยวางเรียงกัน แล้วราดด้วย นมข้นหวาน เพียงเท่านี้ก็เสร็จเรียบร้อย 

18.ตะโก้ข้าวโพด

มาดูขนมกินเล่นแบบไทย ๆ กันอีกสักเมนู กับ ตะโก้ข้าวโพด ที่มีทั้งกะทิหวานมันเค็ม และข้าวโพดหวาน ๆ กินเพลินไม่หยุดมือ ก็มันฟินซะขนาดนี้เลยนี่นา!

ตะโก้ข้าวโพด

วัตถุดิบตะโก้ข้าวโพด

  1. ข้าวโพดต้มสุก 1 ถ้วย 
  2. น้ำเปล่า 500 มิลลิลิตร 
  3. น้ำตาลทราย 150 กรัม (สำหรับชั้นแป้ง) 
  4. แป้งมัน 70 กรัม (สำหรับชั้นแป้ง) 
  5. ใบเตย 1 ใบ
  6. เกลือ ½ ช้อนชา (สำหรับชั้นแป้ง) 
  7. กะทิ 500 มิลลิลิตร 
  8. เกลือ ½ ช้อนชา (สำหรับชั้นกะทิ)
  9. น้ำตาลทราย 50 กรัม (สำหรับชั้นกะทิ) 
  10. แป้งมัน 70 กรัม (สำหรับชั้นกะทิ)

วิธีทำตะโก้ข้าวโพด

  • นำหม้อขึ้นตั้งไฟปานกลาง เทน้ำเปล่าลงไป ตามด้วยข้าวโพดต้มสุก น้ำตาลทราย เกลือ และแป้งมัน คนไปเรื่อย ๆ จนแป้งสุก และหนืด ตักใส่กระทงใบตอง ⅔ ของกระทง และพักไว้อุณหภูมิห้องให้เซตตัว
  • นำหม้อขึ้นตั้งไฟปานกลาง เทกะทิลงไป ตามด้วยน้ำตาลทราย เกลือ แป้งมัน และใบเตย คนให้เข้ากัน และคนจนแป้งสุกและหนืดขึ้น ตักชั้นกะทิใส่ลงบนชั้นแป้งที่เตรียมไว้จนเต็ม ทำจนครบทุกชิ้น และพักไว้อุณหภูมิห้องให้เซตตัวดี โรยข้าวโพดด้านบนเล็กน้อย แค่นี้ก็พร้อมเสิร์ฟแล้วจ้าา

19.คอร์นด็อกชีส

คอร์นด็อกชีส ของว่างสไตล์เกาหลีที่มีชีสยืดเยิ้มโดนใจ ไม่ต้องอิจฉาหนุ่ม ๆ สาว ๆ ในซีรีส์กันอีกต่อไปแล้ว เพราะเราจะทำกินเอง! คอร์นด็อกกรอบนอกนุ่มใน ใส่ชีสฟิน ๆ ไปอีก ต้องลอง!

คอร์นด็อกชีส

วัตถุดิบคอร์นด็อกชีส

  1. ไส้กรอก 6 อัน 
  2. แป้งแพนเค้กสำเร็จรูป 300 กรัม
  3. ชีสมอสซาเรลลาหั่นเต๋า 200 กรัม
  4. พริกไทย 1 ช้อนชา 
  5. เกลือ 1 ช้อนชา 
  6. นมสด 100 มิลลิลิตร 
  7. ไข่ไก่ 1 ฟอง
  8. เกล็ดขนมปัง 200 กรัม

วิธีทำคอร์นด็อกชีส

  • นำไส้กรอกมาบั้งฝั่งหนึ่งเป็นสี่ส่วน แล้วเสียบด้วยไม้แหลม นำฝั่งที่ไม่ได้บั้งอยู่ปลายไม้ จากนั้นนำชีสมาเสียบไว้บนสุดของไม้
  • ผสมแป้งแพนเค้กสำเร็จรูป นมสด ไข่ไก่ แล้วคนให้เข้ากัน ปรุงรสด้วยเกลือ และพริกไทย นำไส้กรอกเสียบไม้มาชุบแล้วคลุกกับเกล็ดขนมปัง
  • นำไส้กรอกที่ชุบไว้มาทอดในน้ำมันที่ร้อนจัด จนได้สีเหลือง จัดเสิร์ฟพร้อมซอสมะเขือเทศ จิ้มกินฟิน ๆ ไปค่าา

20.โตเกียวสังขยา

ก่อนจากกันวันนี้ขอปิดท้ายด้วย โตเกียวสังขยา เมนูขนมกินเล่นย้อนวัย แถมยังทำไม่ยากอีกด้วย แป้งโตเกียวนุ่ม ๆ ไส้สังขยาหวานมันรสชาติเข้ากั๊นเข้ากัน เป็นขนมที่คิดถึงจริง ๆ ค่ะ 

โตเกียวสังขยา

วัตถุดิบโตเกียวสังขยา

ส่วนผสมทำตัวแป้ง

  1. ไข่ไก่ 4 ฟอง 
  2. แป้งสาลีเอนกประสงค์ 195 กรัม
  3. น้ำตาลทราย 185 กรัม 
  4. น้ำ 3/4 ถ้วยตวง 
  5. เบคกิ้งโซดา 1 ช้อนชา

 ส่วนผสมไส้ขนมโตเกียว

  1. ไข่ไก่ 4 ฟอง 
  2. น้ำตาล 120 กรัม 
  3. เนย 1 1/2 ช้อนโต๊ะ 
  4. นม 3/4 ถ้วยตวง 
  5. แป้งข้าวโพด 3 ช้อนโต๊ะ 
  6. เกลือป่น 1/2 ช้อนชา 
  7. กลิ่นวานิลา 1 ช้อนโต๊ะ 

วิธีทำโตเกียวสังขยา

  • นำเบคกิ้งโซดาเทใส่ในแป้งเอนกประสงค์ตามด้วยน้ำ คนให้ละลาย ตอกไข่และตามด้วยน้ำตาลทราย คนจนแป้งละลายดีและส่วนผสมเข้ากัน เสร็จแล้วพักไว้
  • ตีไข่และน้ำตาลให้น้ำตาลละลายเทนมอุ่นคนจนส่วนผสมเข้ากัน ยกขึ้นตังไฟคนให้ส่วนผสมหนืดและจับเป็นก้อนขึ้น ใส่เนยลงไป คนจนส่วนผสมเข้ากันดีจึงปิดไฟ และทิ้งไว้ให้เย็น
  • ตักส่วนผสมตัวแป้งและละเลงบนกระทะแบน พอแป้งสุกจึงตักไส้ขนมใส่บนตัวแป้ง ม้วนปิดไส้ แซะออกจากกระทะ จัดใส่จานเสริฟได้ทันที 

เป็นยังไงกันบ้างคะ กับ 20 สูตรเมนูขนมกินเล่นทั้งคาวหวานที่เราได้รวบรวมมาให้ในวันนี้ ชอบเมนูไหน อยากกินเมนูไหน ลองทำกันดูนะคะ ส่วนใครจะลองทำขายดูก็ได้เช่นกัน ทำง่ายขายคล่องทุกเมนูแน่นอนจ้า แต่ถ้าใครกำลังมองหาเมนูง่าย ๆ เพิ่มกันอยู่ก็สามารถเข้าไปดู 20 สูตรเมนูหลากสไตล์ทำได้ง่าย ๆ ใน 3 ขั้นตอน กันได้เลยน้าา

ใครยังไม่จุใจก็มาดูสูตรอาหารที่น่าสนใจเพิ่มได้ตรงนี้เลย!