สาย ๆ บ่าย ๆ มาแก้เหงาปากกันด้วยอาหารว่างง่าย ๆ ทำได้เองที่บ้าน ไม่ว่าจะเป็นของทอดกรอบสะใจ หรือจะเป็นเมนูของว่างเพื่อสุขภาพเราก็รวมมาให้แล้ว ถึง 20 เมนูด้วยกัน ทั้งคาวทั้งหวาน ทำกินเองก็ง่าย หรือจะทำขายก็รับรองว่าลูกค้าจะต้องติดใจแน่นอน ถ้าพร้อมกันแล้วก็มาดูสูตรของว่างกินเล่นสุดฟินกันเลย!
รวมมิตร 20 สูตรเมนูอาหารว่างและของกินเล่น ทำกินก็ดี ทำขายก็ปัง!
1.ข้าวโพดทอดไส้นม
มาดูเมนูแรกกันเลย กับ ข้าวโพดทอดไส้นม เมนูของว่างย้อนวัย ที่เราอัปเลเวลความฟินด้วยไส้นมเยิ้ม ๆ สุดฟิน เรียกว่าลืมไม่ลงกันเลยทีเดียว ทำยังไงไปดูกันเลยจ้าา

วัตถุดิบข้าวโพดทอดไส้นม
- ข้าวโพดดิบ 1 ฝัก
- แป้งเทมปุระ 2 ช้อนโต๊ะ
- แป้งข้าวโพด 1½ ช้อนโต๊ะ
- นม 1½ ถ้วยตวง
- ไข่ไก่ 1 ฟอง
- เนยชนิดจืด 20 กรัม
- เกลือ 1 ช้อนชา
- ผงปรุงรส 1 ช้อนชา
- นมข้นหวาน 4 ช้อนโต๊ะ
- น้ำตาลทราย 1 ช้อนโต๊ะ
- น้ำเย็นจัด
วิธีทำข้าวโพดทอดไส้นม
- แกะข้าวโพดออกจากซัง แล้วใช้มีดเฉือนเมล็ดข้าวโพดออกจากฝัก นำไปคลุกกับแป้งเทมปุระและผงปรุงรส พรมน้ำเย็นจัดลงไปเล็กน้อย นำเข้าตู้เย็นพักไว้
- ผสม นม น้ำตาลทราย นมข้นหวาน และแป้งข้าวโพด คนจนทุกอย่างเข้ากันดี ตั้งไฟอ่อน คอยคนเรื่อย ๆ จนมีลักษณะข้นขึ้นแล้วจึงใส่เนยลงไป คนจนเนยละลายหมด พักไว้จนเย็นแล้วนำไปแช่ช่องแข็งจนแข็งดี แล้วนำมาตัดแบ่งเป็นก้อน
- นำไส้นมที่ตัดแบ่งมาคลุกกับแป้งเทมปุระ ชุบไข่ แล้วนำเมล็ดข้าวโพดมาปั้นห่อเอาไว้ นำลงทอดไฟปานกลางจนขึ้นสี พร้อมเสิร์ฟ
2.ลูกชิ้นกุ้งไร้แป้ง
ต่อกันที่เมนู ลูกชิ้นกุ้งไร้แป้ง ที่มีเนื้อกุ้งเน้น ๆ เด้งสู้ฟัน จิ้มกินกับน้ำจิ้มไก่แล้วเลิศสุด จะทำมากินเล่น หรือจะประยุกต์ไปใช้กับเมนูอื่น ๆ ก็เข้า ไม่ว่าจะเป็นก๋วยเตี๋ยวหรือผัดผัก ใครคิดว่าลูกชิ้นจะทำยาก ขอบอกเลยค่ะว่าง่ายกว่าที่คิด!

วัตถุดิบลูกชิ้นกุ้งไร้แป้ง
- กุ้งบด 1 กิโลกรัม
- หมูสับ 300 กรัม
- กุ้งหั่นชิ้น 300 กรัม
- ไข่ไก่ 2 ฟอง
- รากผักชี 3 ราก
- พริกไทยเม็ด ½ ช้อนโต๊ะ
- กระเทียม 2 หัว
- เกลือ 1 ช้อนชา
- ซอสปรุงรส ¼ ถ้วย
- น้ำตาลทราย 2 ช้อนโต๊ะ
- น้ำมันพืช 500 มิลลิลิตร
วิธีทำลูกชิ้นกุ้งไร้แป้ง
- โขลกกระเทียม พริกไทยเม็ด และรากผักชี ให้ละเอียด
- ใส่กุ้งบดลงในชามผสม ตามด้วยหมูสับ ไข่ไก่ ปรุงรสด้วยสามเกลอ เกลือ น้ำตาลทราย และซอสปรุงรส คนให้เข้ากัน จากนั้นใส่กุ้งหั่นชิ้นลงไป และคนให้เข้ากันอีกครั้ง
- ปั้นเป็นลูกกลม ๆ ขนาดตามชอบ แล้วนำลูกชิ้นกุ้งลงไปทอดด้วยไฟกลางจนสุกเหลืองกรอบ แค่นี้ก็พร้อมเสิร์ฟ
3.หมูแดดเดียว
หมูแดดเดียว อีกหนึ่งเมนูโปรดตลอดกาล วิธีทำง่ายสุด ๆ รสชาติก็เยี่ยม ยิ่งกินกับข้าวเหนียวร้อน ๆ คือตัวลอย สูตรนี้ไม่ต้องง้อแดด แถมเราเอาเคล็ดลับหมักเนื้อหมูยังไงให้นุ่มมาฝากกันอีกต่างหาก ถ้าพร้อมแล้วไปดูกันเลยย

วัตถุดิบหมูแดดเดียว
- เนื้อหมูสันคอ 1 กิโลกรัม
- กระเทียม 8 กลีบ
- รากผักชี 6 ราก
- ซอสหอยนางรม 2 ช้อนโต๊ะ
- น้ำปลาแท้ ตราทิพรส 2 ช้อนโต๊ะ
- น้ำตาล 2 ช้อนชา
- พริกไทย 2 ช้อนชา
- งาขาว 2 ช้อนโต๊ะ
วิธีทำหมูแดดเดียว
- นำเนื้อหมูสันคอมาหั่นให้เป็นเส้น ตำกระเทียม และรากผักชีให้ละเอียด จากนั้นนำเนื้อหมูที่หั่นแล้วใส่ในชามผสม ตามด้วยกระเทียม งาขาว และรากผักชีที่ตำไว้ ปรุงรสด้วย ซอสหอยนางรม พริกไทย น้ำปลา และน้ำตาล คลุกเคล้าให้เข้ากัน หมักทิ้งไว้ในตู้เย็น 2 ชั่วโมง
- นำหมูที่หมักไว้มาวางเรียงบนตะแกรงแล้วนำเข้าอบไฟอ่อน 50 องศาเซลเซียส เป็นเวลา 3 ชั่วโมง
- เมื่ออบครบ 3 ชั่วโมงแล้ว นำออกมาทอดจนสุกดี เท่านี้ก็ได้หมูแดดเดียวรสเด็ด ไว้กินกับข้าวเหนียวแล้ว!
4.ทอดมันเห็ด
ทอดมันเห็ด เมนูของว่างกินเล่นง่าย ๆ ที่คนกินมังสวิรัติก็กินได้ สบายใจหายห่วง รสชาติยังจัดจ้านกินเพลินเหมือนทอดมันที่เรากินกันทั่วไปแน่นอน จิ้มอาจาดฉ่ำ ๆ หอมฟินกินเพลินสุด ๆ ขอบอกว่าห้ามพลาดทีเดียวค่ะ

วัตถุดิบทอดมันเห็ด
- เห็ดนางฟ้า 200 กรัม
- น้ำพริกแกงเผ็ด 2 ช้อนโต๊ะ
- น้ำปลา 2 ช้อนชา
- น้ำตาลทราย 1 ช้อนโต๊ะ
- ใบมะกรูดซอย 2 ช้อนโต๊ะ
- แป้งทอดกรอบสำเร็จรูป 120 กรัม
- ไข่ไก่ 2 ฟอง
- น้ำมันพืชสำหรับทอด
วิธีทำทอดมันเห็ด
- นำเห็ดนางฟ้ามาล้างน้ำให้สะอาด แล้วนำมาหั่นเต๋า แล้วพักให้สะเด็ด
- ผสมน้ำพริกแกงเผ็ด และไข่ไก่ คนให้เข้ากัน หลังจากนั้นใส่เห็ดนางฟ้า ปรุงรสด้วยน้ำปลา และน้ำตาลทราย ใส่แป้งทอดกรอบ ใบมะกรูด คนให้เข้ากันอีกครั้งให้ส่วนผสมมีลักษณะข้น
- ตั้งกระทะใส่น้ำมันพืชพอร้อน ตักส่วนผสมทอดมันมาหยอดลงในกระทะให้เป็นชิ้นเท่า ๆ กัน ทอดจนสุกเหลือง ตักขึ้นพักไว้ให้สะเด็ดน้ำมัน แล้วเสิร์ฟร้อน ๆ พร้อมอาจาด
5.ทุเรียนทอด
พูดถึงของกินเล่นจะขาดเมนู ทุเรียนทอด ไปได้ยังไง! เมนูของกินเล่นที่มาแรงแซงทางโค้งสุด ๆ เพราะกรอบ เค็ม มัน เคี้ยวเพลินจนหยุดไม่ได้ แถมวัตถุดิบยังมีแค่ 3 อย่าง ถ้าใครชอบกินรสชีส หรือบาร์บีคิว ก็สามารถซื้อผงปรุงรสมาเขย่าได้เหมือนซื้อกินที่ร้านไม่มีผิด

วัตถุดิบเมนูทุเรียนทอด
- ทุเรียนดิบ 1 ผล
- เกลือ ½ ช้อนโต๊ะ
- น้ำมันปาล์ม สำหรับทอด
วิธีทำทุเรียนทอด
- นำทุเรียนดิบมาปอกเอาเปลือกแล้วแกะเอาเมล็ดออก แล้วฝานเป็นแผ่นบาง ๆ
- ตั้งกระทะ รอจนน้ำมันร้อน แล้วใส่ทุเรียนที่หั่นเตรียมไว้ลงไป จนสุกกรอบ แล้วตักขึ้นสะเด็ดน้ำมัน
- ใส่เกลือหรือผงปรุงรสที่ชอบลงไปคลุกกับทุเรียนที่ทอดพักไว้ แล้วคลุกผสมให้เข้ากัน
6.แซนด์วิชผลไม้ครีมสด
มาดูเมนูอาหารว่างหวานเย็นสดชื่นกันบ้าง กับ แซนด์วิชผลไม้ครีมสด เย็น ๆ ทำเก็บไว้ล่วงหน้าก็ได้ สะดวกอย่าบอกใคร หรือถ้าใครไม่อยากตีวิปครีมเอง จะใช้แบบกระป๋องก็ได้เหมือนกันนะคะ ความหวานของวิปครีมคือเข้ากันผลไม้สดสุด ๆ ไปเลยย

วัตถุดิบแซนด์วิชผลไม้ครีมสด
- ขนมปังแซนด์วิชตัดขอบ 6 แผ่น
- สตรอว์เบอร์รี 10 ผล
- องุ่น ตามชอบ
- เมลอน ตามชอบ
- วิปปิงครีม 1 ถ้วยตวง
วิธีทำแซนด์วิชผลไม้ครีมสด
- นำวิปปิ้งครีมมาตีให้ขึ้นฟูแล้วแช่เย็นเอาไว้ให้เซ็ตตัว
- ทาวิปครีมให้ทั่วขนมปังแผ่น วางผลไม้สดตามชอบ จากนั้นทาวิปครีมทับลงไปแล้วประกบด้วยขนมปังอีก 1 แผ่น ห่อด้วยพลาสติกแร็ปแล้วนำไปแช่เย็นนาน 30-40 นาที
- หั่นครึ่งแซนด์วิชผลไม้ครีมสดให้เป็นสามเหลี่ยม 2 ชิ้น จัดเสิร์ฟเย็น ๆ
7.ขนมโตเกียว
มาต่อกันด้วยเมนูของว่างย้อนวัย อย่าง ขนมโตเกียว แป้งหอมนุ่มสุกฟิน เหลือใส่ไส้ได้หลากหลายตามชอบ แถมยังใส่ได้แบบจุใจอีกต่างหาก ไม่ทำไม่ได้แล้ว ถ้าพร้อมแล้วก็ไปดูวิธีทำกันเลยจ้าา

วัตถุดิบขนมโตเกียว
- ไข่ไก่ 2 ฟอง
- น้ำตาลป่น 80 กรัม
- นมสด 100 กรัม
- น้ำปูนใสหรือน้ำสะอาด 80 กรัม
- กลิ่นวานิลลา 1 ช้อนชา
- แป้งเอนกประสงค์ 140 กรัม
- แป้งข้าวเจ้าหรือแป้งมันสำปะหลัง 30 กรัม
- ผงฟู 1 ช้อนชา
- เกลือ 1/2 ช้อนชา
- น้ำมัน หรือ เนยละลาย 15 กรัม
- ไข่นกกระทา ตามชอบ
- ไส้กรอก ตามชอบ
- หมูสับลวก ตามชอบ
- ต้นหอมซอย ตามชอบ
- ซอสปรุงรสฝาเหลือง ตามชอบ
- ซอสมะเขือเทศ ตามชอบ
- ซอสพริก ตามชอบ
- ปูอัด ตามชอบ
- ซอสพิซซ่า ตามชอบ
- ชีสขูด ตามชอบ
- เนยละลายสำหรับย่างแผ่นแป้ง
วิธีทำขนมโตเกียว
- นำไข่ตีกับน้ำตาลให้ละลายเข้ากันดี จากนั้นร่อนแป้ง ผงฟู เกลือ ลงไปแล้วผสมให้เข้ากันจนเหนียวข้น ขั้นตอนนี้สำคัญเพราะจะทำให้แป้งเหนียวนุ่ม จากนั้นจึงใส่น้ำปูนใสหรือน้ำเปล่าลงไปผสมต่อจนเข้ากัน ใส่นมแล้วคนให้เข้ากัน หรือกรองด้วยกระชอนเพื่อความเนียนละเอียดของแป้ง
- ทาเนยบางๆ ที่กระทะ ให้ร้อนจนพอดีแล้วจึงใส่แป้งลงไป เกลี่ยให้หนาหรือบางก็ได้ตามที่เราชอบ พอแป้งใกล้สุก ใส่ไส้ตามชอบเช่น ไส้พิซซ่าที่ใส่ซอสมะเขือเทศเข้มข้น ปูอัด และ ชีส ค่อย ๆ ม้วนเป็นรูปทรงกระบอก แล้วจัดเสิร์ฟได้เลยจ้าา
8.ครองแครงกรอบ
ครองแครงกรอบ เมนูของกินเล่นแบบไทย ๆ หวานมัน กรอบเค็ม หอมกลิ่นกระเทียมพริกไทย ใครเอาอะไรมาแลกก็ไม่ยอม ก็แหม มันทั้งกรอบ ทั้งหอมมัน แถมยังหวานธรรมชาติจากน้ำตาลมะพร้าวอีกด้วย ห้ามใจไม่อยู่จริง ๆ ค่าา

วัตถุดิบครองแครงกรอบ
- แป้งอเนกประสงค์ 250 กรัม
- น้ำปูนใส 3 ช้อนโต๊ะ
- ไข่ไก่ 1 ฟอง
- เกลือป่น (สำหรับครองแครง) ½ ช้อนชา
- เกลือป่น (สำหรับน้ำตลาเคลือบ) ½ ช้อนชา
- กะทิ 100 มิลลิลิตร
- น้ำตาลปี๊บ 1 ถ้วย
- พริกไทยป่น 2 ช้อนโต๊ะ
- ต้นหอมซอย ¼ ถ้วย
- น้ำมันสำหรับทอด 1 ลิตร
- น้ำปลา 3 ช้อนโต๊ะ
- น้ำเปล่า ¼ ถ้วย
- รากผักชี 3 ราก
- กระเทียม 1 หัว
วิธีทำครองแครงกรอบ
- นำแป้งอเนกประสงค์ใส่ชามผสม ตามด้วยเกลือป่น น้ำปูนใส และกะทิ นวดให้เข้ากัน จนแป้งเนียน และไม่ติดมือ จากนั้นแบ่งแป้งเป็นก้อนเล็ก ๆ ประมาณหัวนิ้วก้อย แล้วนำไปกดลงพิมพ์ครองแครง กดรูดไปด้านหน้า จะทำให้เกิดลายขึ้น
- ตั้งกระทะบนไฟปานกลาง เทน้ำมันสำหรับทอดลงไป และรอจนร้อน นำครองแครงลงไปทอดจนเหลืองกรอบ และตักออกพักไว้ เพื่อสะเด้ดน้ำมัน
- โขลกสามเกลอ ได้แก่ กระเทียม พริกไทย และรากผักชี เข้าด้วยกันจนละเอียด นำกระทะขึ้นตั้งไฟปานกลาง แบ่งน้ำมันสำหรับทอดมา 1 ช้อนโต๊ะ และเทลงไป นำสามเกลอลงไปผัดจนเหลืองหอม ใส่น้ำตาลปี๊บลงไป ตามด้วยเกลือ น้ำปลา และน้ำเปล่า จากนั้นเคี่ยวจนหนืด
- ใส่ครองแครงที่ทอดเตรียมไว้ ลงไปคลุกกับน้ำตาลเคลือบ โรยต้นหอม คลุกเค้าให้เข้ากัน พร้อมเสิร์ฟจ้า
9.กล้วยแขก
มาต่อกันที่อีกเมนูทอดแบบไทย ๆ ถ้าใครชอบกินกล้วยคือต้องเลิฟ กับเมนู กล้วยแขก แป้งกรอบ กินเพลิน เนื้อกล้วยข้างในก็หวานฉ่ำ เข้ากั๊นนเข้ากัน ถ้าได้เริ่มกินสักคำคือหยุดมือไม่ลง!

วัตถุดิบกล้วยแขก
- แป้งข้าวเจ้า 250 กรัม
- แป้งข้าวโพด 25 กรัม
- น้ำตาล 100 กรัม
- เกลือป่น 1 ช้อนโต๊ะ
- ผงฟู 1 1/2 ช้อนโต๊ะ
- มะพร้าวขูดขาว 200 กรัม
- งาขาว (ไม่ต้องคั่ว) 50 กรัม
- นมข้นจืด 250 กรัม
- น้ำปูนใส 70 มิลลิลิตร
- กล้วยน้ำว้าสุกห่าม 1 หวี
- ใบเตย 1 ถ้วย
- น้ำมันปาล์ม (สำหรับทอด)
วิธีทำกล้วยแขก
- ในชามผสม ผสมแป้งข้าวเจ้า แป้งข้าวโพด น้ำตาล เกลือป่น และผงฟูเข้าด้วยกัน จากนั้นใส่น้ำปูนใส ตามด้วยนมข้นจืด แล้วใช้ตะกร้อมือคนให้เข้ากัน แล้วจึงใส่มะพร้าวขูดขาว งาขาว และใบเตยตามลงไป คนให้เข้ากันเป็นเนื้อเดียว
- สไลซ์กล้วยน้ำว้าเป็นแผ่น ๆ จากนั้นนำลงไปคลุกในแป้งที่เตรียมไว้
- ตั้งกระทะบนไฟปานกลาง จากนั้นใส่น้ำมันลงไปตั้งจนร้อน แล้วนำกล้วยลงไปทอดจนเหลืองกรอบ ตักขึ้นสะเด็ดน้ำมัน แค่นี้ก็พร้อมเสิร์ฟ!
10.เยลลี่ผลไม้
กลับมาที่เมนูหวานเย็นชื่นใจได้สุขภาพกันบ้าง กับ เยลลี่ผลไม้ เมนูของว่างจากผลไม้ ทำง่าย ๆ แค่มีไมโครเวฟ แช่เย็นไว้กินเพลิน ๆ หรือแช่ช่องฟรีซเซอร์ก็ฟินไปอีกแบบ หวานเย็นจี๊ดขึ้นสมองเลย! ใครไม่เชื่อต้องลองดู ถ้าใครไม่ชอบรสหวานมาก ลองปรับจำนวนน้ำตาลดูได้นะคะ

วัตถุดิบเยลลี่ผลไม้
- ผงเจลาติน 30 กรัม
- น้ำผลไม้เข้มข้น 2 ช้อนโต๊ะ (รสตามชอบ)
- น้ำตาลทราย 150 กรัม
- น้ำเปล่า 210 มิลลิลิตร
- ผลไม้สด ตามชอบ
วิธีทำเยลลี่ผลไม้
- เทน้ำ50มิลลิลิตรลงในถ้วยผสม ใส่ผงเจลาตินลงไป คนให้เข้ากัน พักไว้ให้เจลาตินพองตัว
- เทน้ำอีก 160 มิลลิลิตร ลงในอีกชาม ใส่น้ำตาลทรายคนให้เข้ากัน นำเข้าไมโครเวฟ 5 นาที แล้วนำออกมา เทเจลาตินที่ผสมไว้ในขั้นตอนที่1ลงไป คนให้เข้ากัน
- แบ่งน้ำผลไม้เข้มข้นลงในถ้วย ถ้วยละ 2 ช้อนโต๊ะ เทน้ำเชื่อมผสมเจลาตินลงไป แล้วคนให้เข้ากันนำส่วนผสมเทลงแม่พิมพ์ ใส่ผลไม้สดตามชอบ แล้วนำไปแช่เย็นเป็นเวลา20นาที เมื่อครบ20นาที เยลลี่เซ็ตตัว นำออกจากตู้เย็น แกะออกจากพิมพ์ เสิร์ฟเย็น ๆ
11.นักเก็ตไก่
นักเก็ตไก่ เมนูของกินเล่นเน้นโปรตีนที่ทำเองได้ง่าย ๆ ที่บ้าน ไม่ต้องซื้อแพง ๆ หรือซื้อแบบโฟรเซ่น เพราะเราสามารถเลือกเองได้ว่าจะใช้ไก่ส่วนไหนมาทำ! สำหรับใครที่รักษาสุขภาพแต่ก็อยากกินนักเก็ตก็สามารถเลือกใช้อกไก่และทอดในหม้อทอดไร้น้ำมันแทน ก็จะดีต่อสุขภาพมากขึ้นค่ะ

วัตถุดิบนักเก็ตไก่
- ไก่บด 500 กรัม
- พริกไทยป่น 2 ช้อนโต๊ะ
- ซีอิ๊วขาว 2 ช้อนโต๊ะ
- ซอสหอยนางรม 2 ช้อนโต๊ะ
- เกลือ 2 ช้อนชา
- แป้งข้าวโพด 4 ช้อนโต๊ะ
- แป้งสาลีอเนกประสงค์ 200 กรัม
- ไข่ไก่ 2 ฟอง
- เกล็ดขนมปัง 200 กรัม
- น้ำมันสำหรับทอด
วิธีทำนักเก็ตไก่
- ผสมไก่บดกับพริกไทยป่น ปรุงรสด้วยซีอิ๊วขาว ซอสหอยนางรม เกลือ และแป้งข้าวโพด นวดจนส่วนผสมเข้ากันเป็นเนื้อเดียว
- ปั้นเนื้อไก่แล้วจัดให้เป็นรูปทรงสี่เหลียม จากนั้นก็นำไปคลุกกับแป้งสาลีอเนกประสงค์ ไข่ไก่ และเกล็ดขนมปัง เตรียมไว้
- ตั้งกระทะใส่น้ำให้ท่วม รอให้ร้อนแล้วนำไก่ที่ชุบแป้งไว้แล้ว ลงไปทอดให้สุกเหลือง เสร็จแล้วก็ตักขึ้นมา พักให้สะเด็ดน้ำมัน จัดเสิร์ฟพร้อมซอสพริกหรือซอสมะเขือเทศ
12.ปูอัดฝอยทอดกรอบ
ปูอัดฝอยทอดกรอบ เมนูของกินเล่นสุดเพลิน ปูอัดยีเป็นเส้น คลุกแป้งทอดจนเหลืองกรอบ จิ้มซอสมาโยวาซาบิ มัน ๆ จี๊ด ๆ ขึ้นจมูก คิดถึงสมัยเรียนกันเลยทีเดียว กินกับเครื่องดื่มเย็น ๆ ยิ่งอิน แถมวิธีทำยังง่ายสุด ๆ

วัตถุดิบปูอัดฝอยทอดกรอบ
- ปูอัด 400 กรัม
- แป้งทอดกรอบ 1 ถ้วยตวง
- น้ำมันปาล์ม สำหรับทอด
- มายองเนส ½ ถ้วยตวง
- วาซาบิ 1 ช้อนชา
วิธีทำปูอัดฝอยทอดกรอบ
- นำปูอัดมากด ๆ ยี ๆ ให้แตกออกเป็นเส้น แล้วดึงแยกออกจากกัน หลังจากปูอัดแยกเป็นเส้นดีแล้ว นำปูอัดมาคลุกแป้งทอดกรอบให้เข้ากัน ใช้ตะแกรงร่อนแป้งส่วนเกินออกแล้วนำลงทอดในน้ำมันร้อน จนเหลืองกรอบ ตักขึ้นพักสะเด็ดน้ำมัน
- ผสมมายองเนส และวาซาบิ คนให้เข้ากัน จัดเสิร์ฟคู่กับปูอัดที่ทอดไว้
13.มะยงชิดลอยแก้ว
เมนูอาหารว่างหวานอมเปรี้ยว เย็นฉ่ำ ชื่นใจแบบไทย ๆ กับ มะยงชิดลอยแก้ว เหมาะสำหรับยามบ่าย ๆ ที่อากาศร้อนได้ที่ ได้อาหารว่างรสชาติหวานเย็นแบบนี้เข้าท่าสุด ๆ เลยละค่ะ ถูกใจทั้งเด็กทั้งผู้ใหญ่ ทำก็ง่าย กินก็ง่าย ต้องลองทำดูแล้วล่ะ!

วัตถุดิบมะยงชิดลอยแก้ว
- มะยงชิด 8-10 ลูก
- น้ำสะอาด 1 ลิตร
- น้ำตาล 250 กรัม
- เกลือ 1 ช้อนชา
- ใบเตย 2-3 ใบ
วิธีทำมะยงชิดลอยแก้ว
- ปอกเปลือกมะยงชิด และคว้านเมล็ดออก จากนั้นนำไปล้างน้ำเกลือเพื่อล้างยางออก
- ตั้งน้ำสะอาด และเติมน้ำตาล จากนั้นต้มให้น้ำตาลละลาย จากนั้นนำมะยงชิดมาแช่ในน้ำเชื่อมเป็นเวลาอย่างน้อย 6-8 ชั่วโมงหรือข้ามคืน
14.ขนมปังหน้ากุ้งทอดงา
ขนมปังหน้ากุ้งทอดงา อีกหนึ่งเมนูอาหารว่างสุดฟินกินเพลิน รสเด็ดเหมือนร้านดัง ขนมปังทอดกรอบหน้ากุ้งเด้ง ๆ ฉาบด้วยงาขาวหอม ๆ ข้างหน้าเพิ่มความกรอบเข้าไปอีก จิ้มกินกับบ๊วยเจี่ยหวาน ๆ เหมือนได้กลับไปเป็นเด็กอีกครั้งเลยล่ะ

วัตถุดิบขนมปังหน้ากุ้งทอดงา
- กุ้งสับ 150 กรัม
- หมูสับ 50 กรัม
- แป้งมัน 20 กรัม
- รากผักชี 3 ราก
- กระเทียม 5 กลีบ
- เกลือสมุทร 1 ช้อนชา
- พริกไทยเม็ด 1 ช้อนชา
- ซอสปรุงรส 1 ช้อนโต๊ะ
- ไข่ไก่ 1 ฟอง
- งาขาว 100 กรัม
- พริกแดงซอย ตามชอบ
- ผักชี ตามชอบ
- ผักกาดหอม
- น้ำมันพืช 500 มิลลิลิตร
- ขนมปัง 5 แผ่น
- น้ำจิ้มบ๊วย ตามชอบ
วิธีทำขนมปังหน้ากุ้งทอดงา
- โขลกกระเทียม พริกไทยเม็ด เกลือ และรากผักชี ให้ละเอียดใส่ลงในชามผสม ตามด้วยกุ้งสับ หมูสับ ซอสปรุงรส แป้งมัน และไข่ไก่ คนให้ส่วนผสมเข้ากัน
- ตัดขนมปังเป็นสามเหลี่ยม ทาหน้ากุ้งลงไป เกลี่ยให้เท่ากัน และโรยงาขาวให้ทั่ว
- นำกระทะขึ้นตั้งไฟปานกลาง เทน้ำมันพืชลงไป และรอจนร้อน ทอดขนมปังหน้ากุ้งจนเหลืองกรอบ แล้วใช้กระชอนตักขึ้นมาพักไว้ ให้สะเด็ดน้ำมัน
- จัดใส่จาน โรยพริกซอย และผักชี จัดเสิร์ฟพร้อมกับผักกาดหอม และน้ำจิ้มบ๊วย
15.เฟรนช์ฟรายส์ชิลลีชีส
มาต่อกันที่ของกินเล่นยอดฮิตอย่าง เฟรนช์ฟรายส์ ที่เราเพิ่มความพิเศษด้วยผงปรุงรสชิลลีชีส ให้เผ็ดจี๊ด นัวรสชีสแบบถึงใจ ยกระดับเฟรนช์ฟรายส์กรอบนอกนุ่ในให้อร่อยเหาะ!

วัตถุดิบเฟรนช์ฟรายส์ชิลลีชีส
- เฟรนช์ฟรายส์สำเร็จรูป 500 กรัม
- เนยสด 2 ช้อนโต๊ะ
- แป้งอเนกประสงค์ 2 ช้อนโต๊ะ
- นมสด 1 ถ้วยตวง
- ผงปรุงรส Chilly Cheese 5 ช้อนโต๊ะ
- โคนวาฟเฟิล 3 โคน
- น้ำมันปาล์ม สำหรับทอด
- พาร์สลีย์สับ สำหรับโรยหน้า
วิธีทำเฟรนช์ฟรายส์ชิลลีชีส
- ละลายเนยสดแล้วใส่แป้งอเนกประสงค์ลงไปผัดให้เปลี่ยนเป็นสีเหลืองอ่อน ๆ เติมนมสดลงไปแล้วใช้ตะกร้อมือคนให้เข้ากัน เมื่อนมสดเริ่มข้น ใส่ผงปรุงรส Chilly Cheese ลงไป 2 ช้อนโต๊ะ คนให้เข้ากัน จากนั้นยกลงจากเตาพักไว้ให้เย็น
- ทอดเฟรนช์ฟรายส์ด้วยไฟกลางให้เหลืองกรอบ แล้วตักขึ้นจากกระทะพักให้สะเด็ดน้ำมัน จากนั้นใส่ลงในชามผสม แล้วใส่ผงปรุงรส Chilly Cheese ลงไป 3 ช้อนโต๊ะ คลุกเคล้าให้เข้ากัน พักไว้เตรียมจัดเสิร์ฟ
- นำเฟรนช์ฟรายส์ใส่ลงในโคนวาฟเฟิล แล้วราดด้วยซอสชีส ตามด้วยการโรยพาร์สลีย์สับ เท่านี้ก็ได้เมนูเก๋ ๆ แล้วล่ะ
16.ขนมจีบหมูเด้ง
มาดูของว่างสไตล์จีนกันบ้าง กับ ขนมจีบหมูเด้ง สูตรอาม่า ทำง่าย ๆ นึ่งแปป ๆ ก็ได้กินแล้ว หมูเด้งกินเพลินสู้ฟัน โรยกระเทียมเจียวหอม ๆ จิ้มกับจิ๊กโฉ่วเข้ากันอย่าบอกใคร แถมยังรสชาติกลมกล่อมกินง่ายอีกด้วย

วัตถุดิบขนมจีบหมูเด้ง
- กุ้งสับหยาบ 100 กรัม
- หมูบด 200 กรัม
- รากผักชี 2 ราก
- กระเทียม 3 กลีบ
- พริกไทยดำ 1 ช้อนชา
- แครอทหั่นเต๋า 50 กรัม
- แผ่นเกี๊ยว 20 แผ่น
- ซอสปรุงรส 1 ช้อนโต๊ะ
- น้ำมันหอย 1 ช้อนโต๊ะ
- น้ำตาลทราย ½ ช้อนโต๊ะ
- น้ำมันงา 1 ช้อนชา
- แป้งข้าวโพด 1 ช้อนโต๊ะ
วิธีทำขนมจีบหมูเด้ง
- โขลกรากผักชี กระเทียมและพริกไทย เข้าด้วยกัน จากนั้นนำมาผสมกับกุ้งสับ หมูสับ แครอทหั่นเต๋า ปรุงรสด้วยซอสปรุงรส น้ำมันหอย น้ำตาล น้ำมันงา และแป้งข้าวโพด คลุกเคล้าให้ส่วนผสมเข้ากันเป็นเนื้อเดียว
- ห่อขนมจีบ โดยการวางแผ่นเกี๊ยวบนระหว่างนิ้วโป้งและนิ้วชี้ แล้วตักไส้ประมาณ 1 ช้อนโต๊ะใส่ลงไป ใช้นิ้วโป้งกับนิ้วชี้รูดแผ่นเกี๊ยวให้เป็นทรง แล้วใช้สันช้อนช่วยกดแผ่นเกี๊ยวให้เป็นจีบ
- เมื่อห่อเสร็จแล้ว พรมน้ำก่อนเพื่อให้แป้งนิ่ม ไม่แข็ง แล้วค่อยนึ่งเป็นเวลา 15-20 นาที หรือจนไส้สุก จากนั้นจัดเสิร์ฟ โรยกระเทียมเจียว กินกับจิ๊กโฉ่ว
17.โรตี
มาทำ โรตี อาหารว่างรสหวานฉ่ำ กับแป้งโรตีกรอบ ๆ ที่ทอดจนได้ที่ ใส่เนยแบบจุก ๆ หวานมันจุใจไม่ง้ออาบังเลยค่ะ แล้วจะรู้ว่าความจริงโรตีไม่ได้ยากอย่างที่คิด แค่ขอแรงนวดนิด ๆ หน่อย ๆ เท่านั้นเองค่ะ

วัตถุดิบโรตี
- แป้งสาลีอเนกประสงค์ 550 กรัม
- เนยละลาย 15 กรัม
- ไข่ไก่ 1 ฟอง
- น้ำ 270 กรัม
- นมข้นหวาน 80 กรัม
- เกลือ 1 ช้อนชา
- น้ำมันพืช (สำหรับปั้น และทอด)
- เนย (สำหรับทอด)
- นมข้นหวาน (สำหรับราดหน้า)
วิธีทำโรตี
- ผสมแป้งโรตี โดยผสมน้ำ เนยละลาย ไข่ไก่ เกลือ และ นมข้นหวาน เข้าด้วยกัน ในชามอีกใบ ใส่แป้งแล้วทำหลุมไว้ตรงกลาง จากนั้นเทส่วนผสมของเหลวลงไปตรงกลางหลุมแป้ง แล้วคนให้เข้ากันดี แตะน้ำมันที่มือให้ทั่ว จากนั้นปั้นแป้งโรตีให้เนียนเข้ากัน แป้งเป็นก้อน ๆ เท่า ๆ กันโดยทาน้ำมันลงบนมือเพื่อไม่ให้แป้งติดกับมือ คลุมแป้งด้วยพลาสติกแร็ป ก่อนนำไปพักไว้ในตู้เย็นประมาณ 30 นาที
- ทาน้ำมันลงบนเขียงไม้ หรือพื้นโต๊ะ จากนั้นวางแป้งลงไป ค่อย ๆ ใช้มือเกลี่ยแป้งเป็นวงกลมจนบาง คลึงแป้งให้เป็นสี่เหลี่ยม โดยดึงมุมทั้งสีด้านออก
- ตั้งกระทะบนไฟปานกลาง และตักน้ำมันลงไป นำแผ่นโรตีลงไปทอดในกระทะ จากนั้นใส่เนยลงไปตรงกลาง ก่อนพลิกทอดอีกด้านหนึ่งจนกรอบ
- เสิร์ฟโรตีกรอบโดยวางเรียงกัน แล้วราดด้วย นมข้นหวาน เพียงเท่านี้ก็เสร็จเรียบร้อย
18.ตะโก้ข้าวโพด
มาดูขนมกินเล่นแบบไทย ๆ กันอีกสักเมนู กับ ตะโก้ข้าวโพด ที่มีทั้งกะทิหวานมันเค็ม และข้าวโพดหวาน ๆ กินเพลินไม่หยุดมือ ก็มันฟินซะขนาดนี้เลยนี่นา!

วัตถุดิบตะโก้ข้าวโพด
- ข้าวโพดต้มสุก 1 ถ้วย
- น้ำเปล่า 500 มิลลิลิตร
- น้ำตาลทราย 150 กรัม (สำหรับชั้นแป้ง)
- แป้งมัน 70 กรัม (สำหรับชั้นแป้ง)
- ใบเตย 1 ใบ
- เกลือ ½ ช้อนชา (สำหรับชั้นแป้ง)
- กะทิ 500 มิลลิลิตร
- เกลือ ½ ช้อนชา (สำหรับชั้นกะทิ)
- น้ำตาลทราย 50 กรัม (สำหรับชั้นกะทิ)
- แป้งมัน 70 กรัม (สำหรับชั้นกะทิ)
วิธีทำตะโก้ข้าวโพด
- นำหม้อขึ้นตั้งไฟปานกลาง เทน้ำเปล่าลงไป ตามด้วยข้าวโพดต้มสุก น้ำตาลทราย เกลือ และแป้งมัน คนไปเรื่อย ๆ จนแป้งสุก และหนืด ตักใส่กระทงใบตอง ⅔ ของกระทง และพักไว้อุณหภูมิห้องให้เซตตัว
- นำหม้อขึ้นตั้งไฟปานกลาง เทกะทิลงไป ตามด้วยน้ำตาลทราย เกลือ แป้งมัน และใบเตย คนให้เข้ากัน และคนจนแป้งสุกและหนืดขึ้น ตักชั้นกะทิใส่ลงบนชั้นแป้งที่เตรียมไว้จนเต็ม ทำจนครบทุกชิ้น และพักไว้อุณหภูมิห้องให้เซตตัวดี โรยข้าวโพดด้านบนเล็กน้อย แค่นี้ก็พร้อมเสิร์ฟแล้วจ้าา
19.คอร์นด็อกชีส
คอร์นด็อกชีส ของว่างสไตล์เกาหลีที่มีชีสยืดเยิ้มโดนใจ ไม่ต้องอิจฉาหนุ่ม ๆ สาว ๆ ในซีรีส์กันอีกต่อไปแล้ว เพราะเราจะทำกินเอง! คอร์นด็อกกรอบนอกนุ่มใน ใส่ชีสฟิน ๆ ไปอีก ต้องลอง!

วัตถุดิบคอร์นด็อกชีส
- ไส้กรอก 6 อัน
- แป้งแพนเค้กสำเร็จรูป 300 กรัม
- ชีสมอสซาเรลลาหั่นเต๋า 200 กรัม
- พริกไทย 1 ช้อนชา
- เกลือ 1 ช้อนชา
- นมสด 100 มิลลิลิตร
- ไข่ไก่ 1 ฟอง
- เกล็ดขนมปัง 200 กรัม
วิธีทำคอร์นด็อกชีส
- นำไส้กรอกมาบั้งฝั่งหนึ่งเป็นสี่ส่วน แล้วเสียบด้วยไม้แหลม นำฝั่งที่ไม่ได้บั้งอยู่ปลายไม้ จากนั้นนำชีสมาเสียบไว้บนสุดของไม้
- ผสมแป้งแพนเค้กสำเร็จรูป นมสด ไข่ไก่ แล้วคนให้เข้ากัน ปรุงรสด้วยเกลือ และพริกไทย นำไส้กรอกเสียบไม้มาชุบแล้วคลุกกับเกล็ดขนมปัง
- นำไส้กรอกที่ชุบไว้มาทอดในน้ำมันที่ร้อนจัด จนได้สีเหลือง จัดเสิร์ฟพร้อมซอสมะเขือเทศ จิ้มกินฟิน ๆ ไปค่าา
20.โตเกียวสังขยา
ก่อนจากกันวันนี้ขอปิดท้ายด้วย โตเกียวสังขยา เมนูขนมกินเล่นย้อนวัย แถมยังทำไม่ยากอีกด้วย แป้งโตเกียวนุ่ม ๆ ไส้สังขยาหวานมันรสชาติเข้ากั๊นเข้ากัน เป็นขนมที่คิดถึงจริง ๆ ค่ะ

วัตถุดิบโตเกียวสังขยา
ส่วนผสมทำตัวแป้ง
- ไข่ไก่ 4 ฟอง
- แป้งสาลีเอนกประสงค์ 195 กรัม
- น้ำตาลทราย 185 กรัม
- น้ำ 3/4 ถ้วยตวง
- เบคกิ้งโซดา 1 ช้อนชา
ส่วนผสมไส้ขนมโตเกียว
- ไข่ไก่ 4 ฟอง
- น้ำตาล 120 กรัม
- เนย 1 1/2 ช้อนโต๊ะ
- นม 3/4 ถ้วยตวง
- แป้งข้าวโพด 3 ช้อนโต๊ะ
- เกลือป่น 1/2 ช้อนชา
- กลิ่นวานิลา 1 ช้อนโต๊ะ
วิธีทำโตเกียวสังขยา
- นำเบคกิ้งโซดาเทใส่ในแป้งเอนกประสงค์ตามด้วยน้ำ คนให้ละลาย ตอกไข่และตามด้วยน้ำตาลทราย คนจนแป้งละลายดีและส่วนผสมเข้ากัน เสร็จแล้วพักไว้
- ตีไข่และน้ำตาลให้น้ำตาลละลายเทนมอุ่นคนจนส่วนผสมเข้ากัน ยกขึ้นตังไฟคนให้ส่วนผสมหนืดและจับเป็นก้อนขึ้น ใส่เนยลงไป คนจนส่วนผสมเข้ากันดีจึงปิดไฟ และทิ้งไว้ให้เย็น
- ตักส่วนผสมตัวแป้งและละเลงบนกระทะแบน พอแป้งสุกจึงตักไส้ขนมใส่บนตัวแป้ง ม้วนปิดไส้ แซะออกจากกระทะ จัดใส่จานเสริฟได้ทันที
เป็นยังไงกันบ้างคะ กับ 20 สูตรเมนูขนมกินเล่นทั้งคาวหวานที่เราได้รวบรวมมาให้ในวันนี้ ชอบเมนูไหน อยากกินเมนูไหน ลองทำกันดูนะคะ ส่วนใครจะลองทำขายดูก็ได้เช่นกัน ทำง่ายขายคล่องทุกเมนูแน่นอนจ้า แต่ถ้าใครกำลังมองหาเมนูง่าย ๆ เพิ่มกันอยู่ก็สามารถเข้าไปดู 20 สูตรเมนูหลากสไตล์ทำได้ง่าย ๆ ใน 3 ขั้นตอน กันได้เลยน้าา
ใครยังไม่จุใจก็มาดูสูตรอาหารที่น่าสนใจเพิ่มได้ตรงนี้เลย!