เปิด 30 สูตรเมนูทำขายตลาดนัด บอกทุกเม็ดแบบหมดหน้าตัก ทำง่ายขายรวย!
  1. เปิด 30 สูตรเมนูทำขายตลาดนัด บอกทุกเม็ดแบบหมดหน้าตัก ทำง่ายขายรวย!

เปิด 30 สูตรเมนูทำขายตลาดนัด บอกทุกเม็ดแบบหมดหน้าตัก ทำง่ายขายรวย!

เทหมดหน้าตัก เผย 30 สูตรเมนูทำขายตลาดนัด บอกหมดทุกกลเม็ดเคล็ดลับ แต่ละเมนูวิธีทำก็ง๊ายง่าย ขายก็รวย ลูกค้าติดตรึม รับรองว่าขายดีเป็นเทน้ำเทท่า!
writerProfile
27 เม.ย. 2022 · โดย
เวลาเตรียม
30 นาที
เวลาปรุง
30 นาที
แคลอรี่
500 Kcal/เสิร์ฟ
สำหรับ
2 เสิร์ฟ

วันนี้เอาใจสายพ่อค้าแม่ค้า กับ 30 สูตร เมนูทำขายตลาดนัด ยกขบวนของกินตลาดนัดมาแจกกันแบบหมดหน้าตัก มีเท่าไหร่ก็บอกให้หมดไม่มีหมกเม็ด รับรองว่าลูกค้าติดอกติดใจ ขายดิบขายดีแน่นอนค่ะ ถ้าทุกคนพร้อมกันแล้วเราไปดูกันเลยดีกว่าว่าวันนี้เรามีสูตรอะไรมาฝากกันบ้าง!

เปิด 30 สูตรเมนูทำขายตลาดนัด บอกทุกเม็ดแบบหมดหน้าตัก ทำง่ายขายรวย!

1.กุยช่ายทอด

เมนูตลาดนัดเมนูแรกของเราวันนี้ก็คือ กุยช่ายทอด นั่นเอง เมนูกินเล่นยอดฮิต หลอกตัวเองว่าผอมด้วยกุยช่ายแบบจัดเต็ม กรอบนอกหนึบใน ทำได้ทีละเยอะ ๆ อีกต่างหาก 

กุยช่ายทอด

วัตถุดิบกุยช่ายทอด

วัตถุดิบกุยช่ายทอด

  1. ใบกุยช่าย 1 กิโลกรัม
  2. แป้งข้าวเจ้า 360 กรัม
  3. แป้งมัน 45 กรัม
  4. น้ำเปล่า 500 กรัม
  5. เบคกิ้งโซดา ½ ช้อนชา
  6. กระเทียมสับหยาบ 2 ช้อนชา
  7. เกลือ 2 ช้อนชา

วัตถุดิบน้ำจิ้มกุยช่าย

  1. น้ำตาลทราย 60 กรัม
  2. ซีอิ๊วดำหวาน 2 ช้อนโต๊ะ
  3. น้ำส้มสายชู 2 ช้อนโต๊ะ
  4. น้ำเปล่า 100 มิลลิลิตร
  5. พริกขี้หนูสดบด 1 ช้อนโต๊ะ
  6. เกลือ 1 ช้อนชา

วิธีทำกุยช่ายทอด

  • หั่นใบกุยช่ายเป็นท่อนเล็ก ๆ แล้วผึ่งให้สะเด็ดน้ำ ตั้งกระทะเจียวกระเทียมให้หอม ใส่ใบกุยช่าย เบกกิงโซดาอีก ปรุงรสด้วยเกลือ ผัดจนกระทั่งใบกุยช่ายนิ่ม
  • ผสมแป้งมัน แป้งข้าวเจ้า และน้ำเปล่า ใส่ใบกุยช่ายที่ผัด และปรุงรสให้เรียบร้อย ผสมให้ทุกอย่างเข้ากันดี ตักใส่ถาดสี่เหลี่ยมแล้วนำไปนึ่งใช้ไฟแรงให้สุกประมาณ 20 นาที พอนึ่งเสร็จแล้วก็ตัดเป็นชิ้น ๆ ขนาดพอดีคำ จะได้ทอดสุกง่าย
  • นำกุยช่ายลงทอดในน้ำมันที่ร้อนจัดให้เหลืองกรอบ
  • นำส่วนผสมน้ำจิ้มกุยช่ายทั้งหมดมาผสมให้เข้ากัน แล้วนำขึ้นตั้งไฟ คนให้น้ำตาลทรายละลายให้หมด แล้วพักไว้ให้เย็น ใส่ถ้วยเตรียมเสิร์ฟ
  • นำกุยช่ายทอดที่สะเด็ดน้ำมันแล้วมาเสิร์ฟพร้อมน้ำจิ้มกุยช่าย ก็เสร็จเป็นที่เรียบร้อย 

2.นักเก็ตไก่

เมนูไก่ที่ไม่ว่าเด็กหรือผู้ใหญ่ก็ต้องชอบ กับเมนู นักเก็ตไก่ ขอบอกเลยว่าทำง่ายมาก ๆ และอร่อยไม่แพ้ร้านฟาสต์ฟู้ดแน่นอนใครได้ชิมก็ต้องติดใจค่ะ

นักเก็ตไก่

วัตถุดิบนักเก็ตไก่

  1. ไก่บด 500 กรัม
  2. พริกไทยป่น 2 ช้อนโต๊ะ 
  3. ซีอิ๊วขาว 2 ช้อนโต๊ะ
  4. ซอสหอยนางรม 2 ช้อนโต๊ะ
  5. เกลือ 2 ช้อนชา
  6. แป้งข้าวโพด 4 ช้อนโต๊ะ 
  7. แป้งสาลีอเนกประสงค์ 200 กรัม
  8. ไข่ไก่ 2 ฟอง 
  9. เกล็ดขนมปัง 200 กรัม
  10. น้ำมันสำหรับทอด

วิธีทำนักเก็ตไก่

  • ผสมไก่บดกับพริกไทยป่น ปรุงรสด้วยซีอิ๊วขาว ซอสหอยนางรม เกลือ และแป้งข้าวโพด นวดจนส่วนผสมเข้ากันเป็นเนื้อเดียว
  • ปั้นเนื้อไก่แล้วจัดให้เป็นรูปทรงสี่เหลียม จากนั้นก็นำไปคลุกกับแป้งสาลีอเนกประสงค์ ไข่ไก่ และเกล็ดขนมปัง เตรียมไว้
  • ตั้งกระทะใส่น้ำให้ท่วม รอให้ร้อนแล้วนำไก่ที่ชุบแป้งไว้แล้ว ลงไปทอดให้สุกเหลือง เสร็จแล้วก็ตักขึ้นมา พักให้สะเด็ดน้ำมัน
  • นำนักเก็ตไก่ที่สะเด็ดน้ำมันแล้วมาจัดใส่จาน เสิร์ฟคู่กับน้ำจิ้มที่เพื่อน ๆ ชอบ 

3.สลัดโรลล์ปูอัด

มาดูเมนูสุขภาพกันบ้าง กับ สลัดโรลล์ปูอัด กินง่าย ฟินได้ทุกมื้อ เหมาะสำหรับคนทุกเพศทุกวัย โดยเฉพาะคนที่กำลังคุมน้ำหนัก ทั้งอิ่มทั้งได้สุขภาพ

สลัดโรลล์ปูอัด

วัตถุดิบสลัดโรลล์ปูอัด

  1. ปูอัด 12 ชิ้น
  2. กรีนโอ๊ก 120 กรัม
  3. เร้ดโอ๊ก 120 กรัม
  4. แตงกวาหั่นยาว 120 กรัม
  5. แครอทหั่นยาว 120 กรัม
  6. ผักชี 60 กรัม
  7. กระเทียม 30 กรัม
  8. รากผักชี 3 ราก
  9. น้ำตาลทราย 1 ช้อนโต๊ะ
  10. พริกขี้หนู 30 กรัม
  11. น้ำมะนาว 1 ช้อนโต๊ะ
  12. น้ำปลา 1 ช้อนโต๊ะ
  13. มายองเนส 50 กรัม
  14. แผ่นเปาะเปี๊ยะญวน 12 แผ่น

วิธีทำสลัดโรลล์ปูอัด

  • ทำน้ำจิ้มโดยการโขลกพริกขี้หนู กระเทียม และรากผักชีให้ละเอียด จากนั้นตักใส่ชามผสมไว้
  • ปรุงรสด้วย น้ำตาล น้ำมะนาว น้ำปลา และมายองเนส คนให้เข้ากันแล้วตักใส่ถ้วยพักไว้
  • นำแผ่นเปาะเปี๊ยะญวนชุบน้ำเพื่อให้นิ่ม จากนั้นวางกรีนโอ๊ก เร้ดโอ๊ก แครอท แตงกวา ผักชี และปูอัดลงไปบนแผ่นแป้ง ม้วนเข้าด้วยกัน เรียงใส่จานและวางน้ำจิ้มที่ทำไว้ พร้อมเสิร์ฟค่ะ 

4.หมูปิ้งกะทิ

มาต่อกันที่เมนู หมูปิ้งกะทิ เมนูยอดฮิตของทุกเพศทุกวัย กินกับข้าวเหนียวร้อน ๆ ฟินสุด ๆ ใคร ๆ ก็ต้องเลิฟ

หมูปิ้งกะทิ

วัตถุดิบหมูปิ้งกะทิ

  1. หมูสันคอหั่นชิ้น 1 กิโลกรัม 
  2. กะทิ 1 ถ้วยตวง
  3. กระเทียม 8 กลีบ 
  4. พริกไทยขาว 1 ช้อนชา 
  5. พริกไทยดำ 1 ช้อนชา 
  6. รากผักชี 3 ราก 
  7. น้ำตาลปี๊บ 4 ช้อนโต๊ะ
  8. น้ำตาลทราย 2 ช้อนโต๊ะ 
  9. เกลือ ½ ช้อนชา
  10. ซีอิ๊วขาว 3 ช้อนโต๊ะ 
  11. ซอสหอยนางรม 3 ช้อนโต๊ะ 
  12. ซีอิ๊วดำ 1 ช้อนชา 

วิธีทำหมูปิ้งกะทิ

  • นำไม้สำหรับเสียบไปแช่น้ำเตรียมไว้ เพื่อไม่ให้ไหม้เวลาปิ้ง โขลกรากผักชี กระเทียม พริกไทยขาว และพริกไทยดำ ให้ละเอียด ผสมกะทิ และส่วนผสมที่โขลกไว้ รวมถึง น้ำตาลปี๊บ น้ำตาลทราย เกลือ ซีอิ๊วขาว ซอสหอยนางรม และซีอิ๊วดำ คนส่วนผสมทุกอย่างให้เข้ากัน
  • นำหมูสันคอหั่นชิ้นลงไปคลุกกับเครื่องหมักให้เข้ากัน แล้วหมักทิ้งไว้ในตู้เย็น 3 ชั่วโมง เมื่อหมักจนครบเวลาแล้ว นำหมูมาเสียบไม้ 
  • นำหมูที่เสียบไม้ไว้ขึ้นเตาย่างจนสุกดี ถ้ามีส่วนที่ไหม้เกรียมให้ตัดแต่งออก แล้วยกขึ้นจัดเสิร์ฟพร้อมกับข้าวเหนียว

5.ทอดมันเห็ด

เอาใจชาวมังสวิรัติด้วยเมนูเห็ดอย่าง ทอดมันเห็ด ที่ทำง่าย ๆ ไม่กี่ขั้นตอน เนื้อทอดมันกรุบกรอบ เผ็ดเล็ก ๆ โดนใจ หอมเครื่องแกงไม่ต่างจากทอดมันแบบอื่นเลย

ทอดมันเห็ด

วัตถุดิบทอดมันเห็ด

  1. เห็ดนางฟ้า 200 กรัม
  2. น้ำพริกแกงเผ็ด 2 ช้อนโต๊ะ
  3. น้ำปลา 2 ช้อนชา
  4. น้ำตาลทราย 1 ช้อนโต๊ะ
  5. ใบมะกรูดซอย 2 ช้อนโต๊ะ
  6. แป้งทอดกรอบสำเร็จรูป 120 กรัม
  7. ไข่ไก่ 2 ฟอง
  8. น้ำมันพืชสำหรับทอด

วิธีทำทอดมันเห็ด

  • นำเห็ดนางฟ้ามาล้างน้ำให้สะอาด แล้วนำมาหั่นเต๋า แล้วพักให้สะเด็ด 
  • ผสมน้ำพริกแกงเผ็ด และไข่ไก่ คนให้เข้ากัน หลังจากนั้นใส่เห็ดนางฟ้า ปรุงรสด้วยน้ำปลา และน้ำตาลทราย ใส่แป้งทอดกรอบ ใบมะกรูด คนให้เข้ากันอีกครั้งให้ส่วนผสมมีลักษณะข้น
  • ตั้งกระทะใส่น้ำมันพืชพอร้อน ตักส่วนผสมทอดมันมาหยอดลงในกระทะให้เป็นชิ้นเท่า ๆ กัน ทอดจนสุกเหลือง ตักขึ้นพักไว้ให้สะเด็ดน้ำมัน
  • นำทอดมันเห็ดมาจัดใส่จาน เสิร์ฟคู่กับน้ำจิ้มตามชอบได้เลยค่ะ

6.ขนมโตเกียว

ขนมโตเกียว ตำนานเมนูทำขายตลาดนัด แป้งโตเกียวหอมนุ่ม ใส่ไส้แบบตู้ม ๆ ยังไงลูกค้าก็ต้องหลง สูตรนี้จะทำเป็นแบบกรอบหรือแบบนุ่มก็ได้ด้วยนะ!

ขนมโตเกียว

วัตถุดิบขนมโตเกียว

  1. น้ำตาลป่น 80 กรัม 
  2. นมสด 100 กรัม 
  3. น้ำปูนใสหรือน้ำสะอาด 80 กรัม
  4. กลิ่นวานิลลา 1 ช้อนชา 
  5. แป้งเอนกประสงค์ 140 กรัม
  6. แป้งข้าวเจ้าหรือแป้งมันสำปะหลัง 30 กรัม 
  7. ผงฟู 1 ช้อนชา
  8. เกลือ 1/2 ช้อนชา
  9. น้ำมัน หรือ เนยละลาย 15 กรัม
  10. เนยละลายสำหรับย่างแผ่นแป้ง

ไส้โตเกียว

  1. ไข่นกกระทา ตามชอบ
  2. ไส้กรอก ตามชอบ
  3. หมูสับลวก ตามชอบ
  4. ต้นหอมซอย ตามชอบ 
  5. ซอสปรุงรสฝาเหลือง ตามชอบ
  6. ซอสมะเขือเทศ ตามชอบ 
  7. ซอสพริก ตามชอบ
  8. ปูอัด ตามชอบ 
  9. ซอสพิซซ่า ตามชอบ
  10. ชีสขูด ตามชอบ 

วิธีทำขนมโตเกียว

  • นำไข่ตีกับน้ำตาลให้ละลายเข้ากันดี จากนั้นร่อนแป้ง ผงฟู เกลือ ลงไปแล้วผสมให้เข้ากันจนเหนียวข้น ขั้นตอนนี้สำคัญเพราะจะทำให้แป้งเหนียวนุ่ม จากนั้นจึงใส่น้ำปูนใสหรือน้ำเปล่าลงไปผสมต่อจนเข้ากัน ใส่นมแล้วคนให้เข้ากัน หรือกรองด้วยกระชอนเพื่อความเนียนละเอียดของแป้ง
  • ทาเนยบางๆ ที่กระทะ ให้ร้อนจนพอดีแล้วจึงใส่แป้งลงไป เกลี่ยให้หนาหรือบางก็ได้ตามที่เราชอบ
  • พอแป้งใกล้สุก ใส่ไส้ตามชอบเช่น ไส้พิซซ่าที่ใส่ซอสมะเขือเทศเข้มข้น ปูอัด และ ชีส ค่อย ๆ ม้วนเป็นรูปทรงกระบอก จัดเสิร์ฟ 

7.ทอดมันกุ้งกรอบ

ทอดมันกุ้งกรอบ เมนูทอดสีเหลืองกรอบพร้อมกุ้งเนื้อแน่น ๆ ที่ไม่ว่าจะเด็กหรือผู้ใหญ่ก็ต้องติดใจกันอย่างแน่นอน แถมวิธีทำก็ง่ายแสนง่าย เพิ่งเริ่มเข้าครัวก็ทำได้ 

ทอดมันกุ้งกรอบ

วัตถุดิบทอดมันกุ้งกรอบ

  1. กุ้งขาว 500 กรัม
  2. หมูสามชั้น 100 กรัม
  3. ซอสปรุงรส 1 ช้อนโต๊ะ
  4. รากผักชี 1 ช้อนโต๊ะ
  5. กระเทียม 1 ช้อนโต๊ะ
  6. พริกไทย 1 ช้อนโต๊ะ
  7. ไข่ไก่ 2 ฟอง
  8. แป้งทอดกรอบ 100 กรัม
  9. เกล็ดขนมปัง 100 กรัม
  10. น้ำมันสำหรับทอด 2 ถ้วยตวง

วิธีทำทอดมันกุ้งกรอบ

  • นำกุ้งขาว หมูสามชั้น ไข่ไก่ 1 ฟอง รากผักชี พริกไทย และกระเทียมใส่ลงในโถปั่น ปรุงรสด้วยคนอร์ขวด ซอสข้นปรุงรส รสหมู 1 ช้อนโต๊ะ ปั่นทุกอย่างให้ละเอียดเข้ากัน
  • นำส่วนผสมที่ปั่นเสร็จแล้วไปแช่ในตู้เย็นประมาณ 30 นาที
  • นำส่วมผสมของทอดมันกุ้งมาปั้นเป็นก้อนเท่า ๆ กันแล้วนำไปคลุกกับแป้งทอดกรอบ ไข่ไก่ และเกล็ดขนมปัง จากนั้นนำลงไปทอดในน้ำมันร้อน ๆ ทอดจนมันสุกกรอบ และเปลี่ยนสีน้ำตาล จากนั้นจึงตักขึ้นพักให้สะเด็ดน้ำมัน
  • นำทอดมันกุ้งกรอบที่สะเด็ดน้ำมันแล้วมาเสียบไม้ จัดเรียงใส่จานเสิร์ฟคู่กับน้ำจิ้มไก่ เพียงเท่านี้ “ทอดมันกุ้งกรอบ” ของเราก็พร้อมให้ทุกคนลิ้มลองแล้วค่า!

8.ก๋วยเตี๋ยวลุยสวนกุ้ง

เอาความแซ่บมาลงตลาดกับเมนูอาหารเพื่อสุขภาพสุดฮิตอย่างเมนู ก๋วยเตี๋ยวลุยสวนกุ้ง เมนูกุ้งสุดอิ่มท้อง กินคู่กับน้ำจิ้มฟิน ๆ สาว ๆ ต้องเลิฟ

ก๋วยเตี๋ยวลุยสวนกุ้ง

วัตถุดิบก๋วยเตี๋ยวลุยสวนกุ้ง

  1. กุ้งขาว 10 ตัว
  2. ผักกาดหอม 30 กรัม
  3. ใบโหระพา 20 กรัม
  4. ใบสะระแหน่ 20 กรัม
  5. แครอทหั่นเส้น 30 กรัม
  6. แตงร้านหั่นแท่ง 30 กรัม
  7. ก๋วยเตี๋ยวเส้นใหญ่แบบไม่ตัด 4 แผ่น
  8. น้ำจิ้มไก่ 50 กรัม

วิธีทำก๋วยเตี๋ยวลุยสวนกุ้ง

  • นำกุ้งมาปอกเปลือกออก ไม่ต้องผ่าหลังและเก็บหางไว้ แล้วนำมาลวกให้พอสุก
  • นำแผ่นก๋วยเตี๋ยวแผ่นใหญ่มาหั่นแบ่งเป็น 4 ส่วน เตรียมไว้
  • นำแผ่นก๋วยเตี๋ยวที่หั่นเตรียมไว้มาวางเป็นสี่เหลี่ยนขนมเปียกปูน และตามด้วยวางผักกาดหอม ใบโหระพา ใบสะระแหน่ แครอท แตงร้าน และกุ้ง ตามลำดับ
  • พับมุมล่างของแผ่นก๋วยเตี๋ยวขึ้นมาให้มีหางกุ้งโผล่ออกมาด้านนอกตามด้วย มุมซ้าย และมุมขวา หลังจากนั้นม้วนตัวกุ้งจากด้านล่างขึ้นไปจนถึงมุมด้านบนที่ยังไม่ได้พับ เป็นอันเสร็จเรียบร้อย เสิร์ฟพร้อมน้ำจิ้มไก่ หรือน้ำจิ้มอื่น ๆ ตามชอบได้เลย

9.กล้วยฉาบโบราณ

อีกหนึ่งเมนูเด็ดห้ามพลาด กับ กล้วยฉาบโบราณ เมนูของกินเล่นในตำนาน มันไม่หยุด ฉุดไม่อยู่ ยิ่งกว่ากล้วยเบรคแตก ด้วยความหวานมันเฉพาะตัวกับกล้วยแผ่นบ้าง ติดใจจนต้องกลับมาซื้อซ้ำแน่นอน!

กล้วยฉาบโบราณ

วัตถุดิบกล้วยฉาบโบราณ

  1. กล้วยน้ำว้าห่าม 1 หวี 
  2. น้ำตาลทราย 500 กรัม 
  3. เกลือ 1 ช้อนชา 
  4. น้ำมันสำหรับทอด 
  5. มะนาว 2 ลูก 
  6. น้ำเปล่า ¼ ถ้วยตวง 

วิธีทํากล้วยฉาบโบราณ

  • นำกล้วยน้ำว้าห่ามมาปอกเปลือก แล้วแช่ในน้ำผสมน้ำมะนาว เพื่อป้องกันไม่ให้กล้วยดำ 
  • ขั้นตอนวิธีทํากล้วยฉาบถัดมาคือ ตั้งน้ำมันให้ร้อน เอากล้วยที่ปอกไว้มาฝานลงไปทอด คอยคนอย่าให้กล้วยติดกัน ทอดจนสุกเหลือง แล้วตักขึ้นพักไว้ 
  • ตั้งหม้อไฟกลาง ใส่น้ำตาลทราย เกลือ และน้ำเปล่า เคี่ยวให้ละลายเป็นผลึกเล็กน้อย แล้วนำไปราดลงกล้วยที่ทอดไว้ คลุกให้เข้ากัน 

10.หมูทอดเกลือ

หมูทอดเกลือ เมนูทอดง่าย ๆ ที่สามารถกินฟิน ๆ ได้ทุกเพศ ทุกวัย จะขายช่วงไหนของวันก็ขายดี คู่กับข้าวเหนียวร้อน ๆ สักห่อคือเลิศ!

หมูทอดเกลือ

วัตถุดิบหมูทอดเกลือ

  1. หมูสันนอกหั่นเส้น ½ กิโลกรัม
  2. เกลือ 2 ช้อนชา
  3. พริกไทย ½ ช้อนชา
  4. น้ำมันสำหรับทอด
  5. ต้นหอมซอย สำหรับโรยตกแต่ง

วิธีทำหมูทอดเกลือ

  • หมักหมูสันนอก กับ เกลือ และพริกไทย คลุกผสมให้เข้ากัน หมักทิ้งไว้ 30 นาที 
  • ตั้งกระทะใส่น้ำมัน ใช้ไฟกลางค่อยแรง นำหมูที่หมักไว้ลงไปทอดจนสุกเหลือง แล้วตักขึ้นสะเด็ดน้ำมันพักไว้ 
  • จัดใส่จานจัดเสิร์ฟ โรยด้วยต้นหอมซอย จะกินกับข้าวสวยหรือข้าวเหนียวก็เลิศ! 

11.เค้กกล้วยหอม

มาต่อกันที่เมนูของหวานอย่าง เค้กกล้วยหอม วิธีทำไม่ซับซ้อน วัตถุดิบที่ก็หาได้ทั่วไป แต่อบทีหอมไปสามบ้านแปดบ้าน สูตรนี้เนื้อเค้กก็นุ่มชุ่มฉ่ำ แถมหวานน้อยอีกต่างหาก

เค้กกล้วยหอม

วัตถุดิบเค้กกล้วยหอม

  1. แป้งอเนกประสงค์ 200 กรัม 
  2. เกลือ ¼ ช้อนชา
  3. ผงฟู ½ ช้อนชา 
  4. เบกกิ้งโซดา ½ ช้อนชา 
  5. ไข่ไก่ 2 ฟอง 
  6. น้ำตาลทราย 150 กรัม 
  7. นมสด 125 มิลลิลิตร 
  8. กล้วยหอมบด 2 ลูก 
  9. เนยจืดละลาย 80 กรัม 
  10. กล้วยหอมหั่นแว่น (สำหรับตกแต่ง) 

วิธีทำเค้กกล้วยหอม

  • บดกล้วยหอมให้ละเอียดแล้วพักไว้ จากนั้นผสมไข่และน้ำตาลทราย ตีให้ขึ้นฟูหรือเริ่มเปลี่ยนสี แล้วใส่นมสด ตามด้วยเนย คนให้ส่วนผสมทุกอย่างเข้ากัน แล้วจึงใส่เนื้อกล้วยบดลงไป 
  • ร่อนส่วนผสมของแห้ง แป้ง เกลือ เบกกิ้งโซดาและผงฟูลงในส่วนผสมของเหลวที่เราเตรียมไว้ แล้วคนให้ส่วนผสมทุกอย่างเข้าเป็นเนื้อเดียวกัน 
  • ตักใส่พิมพ์ความสูงประมาณ ⅓ ของพิมพ์ แล้วนำเข้าอบด้วยไฟบน-ล่าง อุณหภูมิ 180 องศาเซลเซียส เป็นเวลา 20 นาที เมื่อเค้กสุกดี จึงนำมาพักไว้ให้เย็น แล้วค่อยจัดเสิร์ฟ 

12.ลูกชิ้นทอด

ลูกชิ้นทอด เมนูกินเล่นกรอบนอกนุ่มใน ลูกชิ้นเด้ง ๆ หุ้มด้วยแป้งทอดจนกรอบ ราดด้วยน้ำจิ้มเปรี้ยวเผ็ดครบรส เด็ก ๆ กินได้ผู้ใหญ่ก็ชอบ เปลี่ยนเป็นลุกชิ้นต่าง ๆ ได้ตามชอบเลย

ลูกชิ้นทอด

วัตถุดิบลูกชิ้นทอด

  1. ลูกชิ้น 1 กิโลกรัม 
  2. แป้งข้าวเจ้า 1 ถ้วยตวง 
  3. น้ำเย็นจัด 1 ถ้วยตวง 
  4. น้ำปูนใส 4 ช้อนโต๊ะ 
  5. พริกไทย 1 ช้อนโต๊ะ 
  6. สีผสมอาหาร 4 หยด 

วัตถุดิบน้ำจิ้ม

  1. พริกแดง 7 เม็ด 
  2. กระเทียมดอง 3 หัว 
  3. น้ำเปล่า 1 ถ้วยตวง 
  4. น้ำมะขามเปียก 1 ถ้วยตวง 
  5. น้ำตาลปี๊บ ½ ถ้วยตวง 
  6. พริกป่น 2 ช้อนโต๊ะ 
  7. ผักชี 1 ต้น 
  8. แป้งมัน 1 ช้อนโต๊ะ 

วิธีทำลูกชิ้นทอด

  • สับพริก กระเทียมดอง ให้ละเอียด ตั้งหม้อบนเตา ใช้ไฟอ่อน ใส่น้ำเปล่า น้ำมะขามเปียก น้ำตาลปี๊บ คนจนละลายเข้ากัน ใส่พริก กระเทียมดอง พริกป่น คนให้เข้ากันอีกรอบ รอจนเดือด ใส่แป้งมันผสมน้ำลงไป คนจนน้ำจิ้มข้นได้ที่ ปิดไฟใส่ผักชี
  • นำแป้งข้าวเจ้าใส่ถ้วย เทน้ำเย็นจัดลงไป คนให้เข้ากัน เติมน้ำปูนใส พริกไทย และสีผสมอาหารสีส้มคนให้เข้ากัน นำลูกชิ้นที่เสียบไม้แล้วมาลงชุบ ตั้งน้ำมันไฟกลาง รอจนน้ำมันร้อนจัด ใส่ลูกชิ้นที่ชุบแป้งเรียบร้อบแล้วลงไป คอยคีบไม่ให้ลูกชิ้นไปติดกับไม้อื่น ทอดจนสีเหลืองกรอบสวยงาม
  • จัดใส่จานเสิร์ฟคู่กับน้ำจิ้มรสแซ่บ และผักสดตามใจชอบ

13.ยำขนมจีน

มาดู ยำขนมจีน เมนูยำสุกแซ่บต้องซี้ดปากกันบ้าง เคล้าเส้นขนมจีนนุ่ม ๆ กับน้ำปรุงปลาร้านัว ๆ ใส่ปลาทูหอม ๆ ไปอีก คนเดินผ่านเป็นต้องน้ำลายสอจนต้องแวะมาซื้อทีเดียว!

ยำขนมจีน

วัตถุดิบยำขนมจีน

  1. ขนมจีน 2 จับ
  2. ปลาทูทอดแกะเนื้อ 2 ตัว
  3. ถั่วฝักยาวซอย 1 ถ้วย
  4. ต้นหอมซอย ½ ถ้วย
  5. เมล็ดกระถิน ½ ถ้วย
  6. พริกขี้หนูซอย 3 ช้อนโต๊ะ
  7. น้ำปลาร้าต้มสุก ½ ถ้วย
  8. น้ำมะนาว 3 ช้อนโต๊ะ
  9. น้ำตาลปี๊บ 1 ช้อนโต๊ะ
  10. น้ำปลา 1 ½ ช้อนโต๊ะ
  11. พริกป่น 1 ช้อนโต๊ะ

วิธีทำยำขนมจีน

  • นำน้ำปลาร้าต้มสุกเทลงในชามผสม ใส่น้ำตาลปี๊บ คนให้ละลายเข้ากันดี
  • ใส่พริกป่น พริกขี้หนูซอย น้ำมะนาว และน้ำปลา คนให้เข้ากัน ตามด้วยขนมจีน เนื้อปลาทูทอด ถั่วฝักยาวซอย ต้นหอมซอย และเมล็ดกระถิน คลุกเคล้าให้เข้ากัน
  • ตักใส่จานเสิร์ฟ โรยด้วยเมล็ดกระถินอีกสักนิด ก็พร้อมรับประทานแล้วจ้า 

14.บัวลอยเสียบไม้

บัวลอยเสียบไม้ อีกหนึ่งขนมไทย แต่มาในแนวประยุกต์ ซื้อแล้วถือเดินกินได้ง่าย เหมาะกับการเป็นเมนูทำขายตลาดนัดสุด ๆ ใครได้ลองก็ต้องติดใจ

บัวลอยเสียบไม้

วัตถุดิบบัวลอยเสียบไม้

  1. แป้งข้าวเจ้า 1 ถ้วย
  2. แป้งข้าวเหนียว 1 ถ้วย
  3. มันม่วงบด 50 กรัม
  4. ฟักทองบด 50 กรัม
  5. น้ำใบเตย 50 มิลลิลิตร
  6. น้ำเปล่า (แป้งมันม่วง) 50 มิลลิลิตร
  7. น้ำเปล่า (แป้งฟักทอง) 50 มิลลิลิตร
  8. หัวกะทิ 500 มิลลิลิตร
  9. น้ำตาลทราย ½ ถ้วย
  10. เกลือ ½ ช้อนชา
  11. งาขาว และงาดำ ตามชอบ
  12. น้ำตาลแดง ตามชอบ 

วิธีทำบัวลอยเสียบไม้

  • นำหม้อขึ้นตั้งไฟปานกลาง เทหัวกะทิลงไป ตามด้วยน้ำตาลทราย และเกลือ คนให้เข้ากัน และต้มจนเดือด 
  • แบ่งแป้งข้าวเหนียว และแป้งข้าวเจ้า เป็นสามส่วนเท่า ๆ กัน (ส่วนละ ⅓ ถ้วย) ถ้วยแรกใส่มันม่วงบด และน้ำเปล่า (แป้งมันม่วง) นวดให้เข้ากันจนแป้งไม่ติดมือ ถ้วยที่สองใส่ฟักทองบด และน้ำเปล่า (แป้งฟักทอง) นวดให้เข้ากันจนแป้งไม่ติดมือ ถ้วยที่สาม ใส่น้ำใบเตย นวดให้เข้ากันจนแป้งไม่ติดมือ
  • ปั้นบัวลอยขนาดประมาณเท่าเหรียญห้า หรือตามชอบ จากนั้นนำมาเสียบไม้ และนำไปแช่เย็นให้เซตตัว 20 นาที นำบัวลอบเสียบไม้ไปต้มในน้ำเดือดจัดจนสุก และตักออกใส่น้ำเย็นเพื่อให้เซตตัว 
  • จัดบัวลอยเสียบไม้ใส่จาน โรยงาขาว งาดำ และน้ำตาลแดง ราดน้ำราดที่เตรียมไว้ พร้อมเสิร์ฟจ้า 

15.เฉาก๊วยนมสด 

หนึบเด้งจนต้องเบิ้ล! กับ เฉาก๊วยนมสด หวานเย็นจับใจ แถมวิธีทำก็ง่ายกว่าที่คิด เดินตลาดนัดร้อน ๆ ได้กินเฉาก๊วยชื่นใจ ๆ สักแก้วต้องฟินแน่นอน เหมาะทำขายสุด ๆ 

เฉาก๊วยนมสด

วัตถุดิบเฉาก๊วยนมสด

วัตถุดิบเฉาก๊วย

  1. น้ำ 12 ถ้วยตวง (3 ลิตร)
  2. หญ้าเฉาก๊วย 500 กรัม
  3. เบคกิ้งโซดา 2 ช้อนชา
  4. แป้งมัน 1/2 ถ้วยตวง
  5. ผงวุ้น 1 1/2 ช้อนโต๊ะ

วัตถุดิบเฉาก๊วยนมสด

  1. เฉาก๊วย หั่นเต๋า 1/2 ถ้วยตวง
  2. น้ำเชื่อมคาราเมล 1 ออนซ์ (น้ำตาลอ้อย 1 ถ้วยตวง + น้ำตาลทรายแดง 1 ถ้วยตวง + น้ำเปล่า 1 ถ้วยตวง)
  3. นมสด 2 ออนซ์
  4. น้ำแข็งป่นละเอียด และน้ำตาลทรายแดง ตามต้องการ

วิธีทำเฉาก๊วยนมสด

  • นำหญ้าเฉาก๊วยล้างน้ำให้สะอาด ประมาน 3-4 น้ำ ให้ดินและทรายหลุดออก จากนั้นนำ น้ำ ดื่มเนสท์เล่ เพียวไลฟ์ ใส่ลงในหม้อแล้วนำไปตั้งไฟ เมื่อน้ำเดือดใส่เบคกิ้งโซดาและคนให้เข้ากับน้ำ ตามด้วยหญ้าเฉาก๊วยที่ล้างไว้ลงไป ต้มทิ้งไว้เป็นเวลาอย่างน้อย 2 ชั่วโมง
  • เมื่อครบเวลาแล้วนำไปกรองเอาแต่น้ำเฉาก๊วย ให้ได้ 8 ถ้วยตวง จากนั้นนำน้ำเฉาก๊วยที่ได้ ใส่หม้อขึ้นตั้งไฟ แล้วเติมผงวุ้นและแป้งมัน คนให้เข้ากัน ต้มจนกว่าน้ำเฉาก๊วยจะหนืดขี้น เมื่อน้ำเฉาก๊วยได้ที่แล้ว เทใส่พิมพ์แล้วแช่ในตู้เย็น เป็นเวลา 30 นาที แล้วค่อยนำออกมาตัดให้เป็นชิ้นสี่เหลี่ยม เตรียมจัดเสิร์ฟ
  • นำเฉาก๊วยที่เตรียมไว้ ใส่ลงในแก้วที่ต้องการจัดเสิร์ฟ ตามด้วยน้ำแข็งบดละเอียด นมสด ราดด้วยน้ำเชื่อมคาราเมล และน้ำตาลทรายแดง เป็นอันเสร็จเรียบร้อย 

16.ขนมปังลาวาชาเขียว

ขนมปังลาวาชาเขียว สูตรขนมปังเหนียวนุ่มแบบฮ่องกงสูตรนี้ พร้อมไส้ชาเขียวสุดเข้มข้นแบบทะลักทะลวง ใครเดินผ่านเป็นต้องเหลียวแน่นอน แถมหอมยั่วน้ำลายสุด ๆ 

ขนมปังลาวาชาเขียว

วัตถุดิบขนมปังลาวาชาเขียว

วัตถุดิบขนมปัง

  1. แป้งขนมปัง (สำหรับทังจง) ⅓ ถ้วย 
  2. น้ำ (สำหรับทังจง) ½ ถ้วย 
  3. นม (สำหรับทังจง) ½ ถ้วย
  4. แป้งขนมปัง 2 ½ ถ้วย 
  5. น้ำตาล 4 ช้อนโต๊ะ
  6. เกลือ ½ ช้อนชา
  7. ไข่ไก่ 1 ฟอง 
  8. นม (ส่วนที่ 2) ½ ถ้วย 
  9. แป้งทังจง 120 กรัม
  10. ยีสต์ 2 ช้อนชา
  11. เนย (ตั้งในอุณหภูมิห้อง) 3 ช้อนโต๊ะ 

วัตถุดิบไส้ชาเขียว

  1. เจลาตินผง 1 ½ ช้อนชา 
  2. น้ำ 2 ช้อนโต๊ะ
  3. นม 2 ถ้วย
  4. เกลือ ½ ช้อนชา
  5. ผงชาเขียว ¼ ถ้วย 
  6. แป้งข้าวโพด 4 ช้อนโต๊ะ 
  7. น้ำตาล ½ ถ้วย
  8. ไข่ไก่ 2 ฟอง
  9. เนย 4 ช้อนโต๊ะ
  10. วิปปิ้งครีม 1 ถ้วย 

วิธีทำขนมปังลาวาชาเขียว

  • ผสมแป้งขนมปังสำหรับทังจง น้ำ และนมสำหรับทันจงเข้าด้วยกันในหม้อ และใช้ตะกร้อมือกวนจนเหนียวเหมือนแป้งเปียก แล้วนำไปพักไว้ในตู้เย็นจนหายร้อน จากนั้นแบ่งออกมา 120 กรัม เพื่อนำไปผสมกับโดว์ขนมปัง
  • ในถ้วยผสม ใส่ยีสต์ลงไป ตามด้วยแป้งขนมปัง น้ำตาล และเกลือ ตามลงไป จากนั้นใช้ช้อนไม้ทำหลุมตรงกลาง แล้วจึงใส่นม ไข่ไก่ และแป้งทังจง ใช้ช้อนไม้คนให้แป้งเข้ากันเป็นก้อน จากนั้นนวดต่อด้วยมือบนพื้นไม้จนแป้งเริ่มเนียนเข้าด้วยกัน ผสมเนยที่อ่อนตัวลงไปในแป้ง แล้วนวดต่อจนเข้ากันดี เมื่อแป้งเนียนดีแล้ว นำไปพักไว้ประมาณ 1 ชั่วโมง หรือจนกว่าแป้งจะฟูเป็นสองเท่า
  • ผสมเจลาตินผงกับน้ำ คนให้เข้ากันแล้วพักไว้ จากนั้นตีไข่ไก่ น้ำตาล และแป้งข้าวโพดเข้าด้วยกัน แล้วพักไว้เช่นกัน
  • ใส่นม วิปปิ้งครีม ผงชาเขียว และเกลือลงไปในหม้อตั้งไฟอ่อน ใช้ตะกร้อมือคนให้เข้ากันจนผงชาเขียวละลายดี แล้วจึงเทส่วนผสมของไข่ไก่ตามลงไป คนจนส่วนผสมข้นขึ้นมา เมื่อส่วนผสมนมข้นขึ้นแล้วให้ปิดไฟ จากนั้นใส่เจลาติน และเนยที่เตรียมไว้ลงไปคนให้เข้ากัน นำไปพักในตู้เย็นจนกว่าจะเย็น
  • นำแป้งโดว์ที่เตรียมไว้มาตีลมออก จากนั้นแบ่งเป็น 2 ก้อนเท่า ๆ กัน แล้วจึงรีดแป้งเป็นแผ่นสี่เหลี่ยมบาง ๆ ใส่ไส้ชาเขียวที่เย็นแล้วลงไปตรงกลาง แล้วจึงพับแป้งขนมปังทั้งสี่ด้านเพื่อห่อให้เรียบร้อย ก่อนนำวางลงพิมพ์ที่เตรียมไว้ แล้วนำไปพักไว้ในอุณหภูมิห้อง (พรูฟ) อีกครั้งเพื่อให้แป้งฟูขึ้นมา นำขนมปังไปเข้าอบที่อุณหภูมิ 180 องศาเซลเซียส ไฟบน-ล่าง เป็นเวลา 30 - 45 นาที 

17.ไก่ทอดหาดใหญ่

ตลาดนัดที่ไม่มี ไก่ทอดหาดใหญ่ ก็ไม่ใช่ตลาดนัด! ไก่ทอดที่มีลักษณะเฉพาะตัว หนังกรอบเนื้อนุ่มชุ่มฉ่ำ หอมกลิ่นเครื่องเทศเฉพาะตัว จะกินเปล่า ๆ ก็อร่อย หรือจะจิ้มน้ำจิ้มก็ดี ยิ่งมีข้าวเนียวร้อน ๆ ก็ยิ่งฟิน ใครจะไม่เลิฟ

ไก่ทอดหาดใหญ่

วัตถุดิบไก่ทอดหาดใหญ่

  1. น่องไก่ติดสะโพก 2 กิโลกรัม 
  2. พริกไทยขาวเม็ด 2 ช้อนโต๊ะ 
  3. ลูกผักชี 1 ช้อนโต๊ะ 
  4. ยี่หร่า 2 ช้อนชา 
  5. กระเทียม ¼ ถ้วย 
  6. รากผักชี 5 ราก 
  7. ซอสหอยนางรม 3 ช้อนโต๊ะ 
  8. ซีอิ๊วขาว 3 ช้อนโต๊ะ 
  9. เกลือป่น 1 ช้อนชา 
  10. น้ําตาลทราย 1 ช้อนโต๊ะ 
  11. แป้งสาลี ½ ถ้วย 

วิธีทำไก่ทอดหาดใหญ่

  • โขลก พริกไทยขาว ลูกผักชี กระเทียม รากผักชี และยี่หร่า ให้ละเอียดเข้ากัน นำเครื่องเทศที่โขลกไปมักกับน่องไก่ติดสะโพก ปรุงรสด้วย ซีอิ๊วขาว ซอสหอยนางรม เกลือป่น และน้ำตาล โรยแป้งสาลี เติมน้ำเล็กน้อย แล้วคลุกให้เข้ากัน หมักทิ้งไว้ 1-2 ชั่วโมง หรือจะหมักข้ามคืนก็ได้
  • เมื่อหมักจนเข้าเนื้อแล้ว นำไก่ลงทอดในน้ำมันท่วม ใช้ไฟกลาง ทอดจนไก่เปลี่ยนเป็นสีน้ำตาล จึงยกขึ้นพักไว้ จัดเสิร์ฟพร้อม หอมเจียว เท่านี้ก็พร้อมรับประทาน!

18.สลัดโรลล์อกไก่ น้ำสลัดวาซาบิ

เมนูตลาดนัดแบบเอาใจคนรักสุขภาพกับ สลัดโรลล์อกไก่ น้ำสลัดวาซาบิ เมนูอาหารเพื่อสุขภาพ ผักสด ๆ อกไก่นุ่ม ๆ กินกี่ครั้งก็ติดใจ 

สลัดโรลล์อกไก่ น้ำสลัดวาซาบิ

วัตถุดิบสลัดโรลล์อกไก่ น้ำสลัดวาซาบิ

  1. อกไก่ปรุงสำเร็จ 1 ห่อ 
  2. แผ่นแป้งเปาะเปี๊ยะญวน 5 แผ่น 
  3. กรีนโอ๊ก 1 หัว
  4. เร้ดโอ๊ก 1 หัว
  5. แครอท ½ หัว 
  6. กะหล่ำม่วงซอย ⅓ หัว 
  7. พริกหยวกสามสี อย่างละ 1 หัว 
  8. มายองเนส ½ ถ้วย 
  9. วาซาบิ 1 ช้อนโต๊ะ 
  10. มะนาว 1 ซีก 
  11. เกลือ ½ ช้อนชา
  12. พริกไทย ¼ ช้อนชา 

วิธีทำสลัดโรลล์อกไก่ น้ำสลัดวาซาบิ

  • นำอกไก่ปรุงสำเร็จมาหั่นเป็นเส้นยาว เตรียมไว้
  • นำมายองเนสมาผสมกับวาซาบิ เกลือ พริกไทย และบีบมะนาวลงไป คนให้เข้ากันแล้วพักไว้
  • ตัดแผ่นเปาะเปี๊ยะเป็นครึ่งวงกลม และนำไปชุบน้ำพอหมาด วางกรีนโอ๊กลงไป ตามด้วยเร้ดโอ๊ก แครอท พริกหยวกสามสี กะหล่ำม่วงซอย และอกไก่ที่หั่นไว้ แล้วม้วนให้สวยงาม
  • จัดเสิร์ฟพร้อมน้ำสลัดวาซาบิที่เตรียมไว้

19.ไข่เต่ามันม่วง

ขั้นกว่าของขนมไข่เต่า หรือไข่นกกระทา กับ ไข่เต่ามันม่วง สีม่วงสดใสแปลกตา ชวนหยิบเข้าปาก กลิ่นหอม รสหวานถูกใจเหมือนเดิม!

ไข่เต่ามันม่วง

วัตถุดิบไข่เต่ามันม่วง

  1. มันเทศญี่ปุ่น 500 กรัม
  2. แป้งมันสำปะหลัง 2 ถ้วย
  3. แป้งสาลีอเนกประสงค์ ⅓ ถ้วย
  4. ผงฟู 1 ช้อนชา
  5. น้ำตาล 4 ช้อนโต๊ะ
  6. เกลือ ½ ช้อนชา
  7. กะทิ 2 ช้อนโต๊ะ
  8. ไข่แดง 1 ฟอง

วิธีทำไข่เต่ามันม่วง

  • ปอกเปลือกมันเทศญี่ปุ่นหั่นเป็นชิ้น แล้วนำไปนึ่งประมาณ 20 นาทีจนสุก แล้วนำมาบดให้ละเอียด
  • ร่อนแป้งมันสำปะหลัง แป้งสาลีอเนกประสงค์ และผงฟูลงในอ่างผสม ใส่เกลือและน้ำตาลทรายลงไป ใส่มันเทศญี่ปุ่นลงไปนวดให้เข้ากัน ตามด้วยกะทิและไข่แดง เทลงไปในส่วนผสมมันเทศญี่ปุ่นแล้วนวดต่อให้เข้ากันดี
  • ปั้นส่วนผสมทั้งหมดเป็นก้อนกลมเล็ก ๆ ขนาดประมาณหัวแม่มือ
  • ตั้งกระทะใส่น้ำมันตั้งไฟกลางจนน้ำมันร้อน นำมันที่ปั้นจนกลมแล้วลงทอด ทอดไฟกลางหมั่นคนเรื่อย ๆ จนสุก นำขึ้นพักไว้

20.ไก่ย่างแดง

ไก่ย่างแดง เมนูไก่ย่างสีสันเตะตา กินกันมาทุกเพศทุกวัย ทำง่าย ๆ ไม่ยุ่งยาก ใช้วัตถุดิบเพียงไม่กี่อย่างก็ทำขายได้ ลูกค้าติดใจแน่นอนจ้าา

ไก่ย่างแดง

วัตถุดิบไก่ย่างแดง

  1. สะโพกไก่ 1 กิโลกรัม 
  2. พริกไทยขาว ½ ช้อนโต๊ะ 
  3. กระเทียม 6 กลีบ 
  4. รากผักชี 2 ราก 
  5. ซีอิ๊วขาว 2 ช้อนโต๊ะ 
  6. ซอสหอยนางรม 2 ช้อนโต๊ะ 
  7. น้ำตาลปี๊บ 1½ ช้อนโต๊ะ 
  8. สีผสมอาหารสีส้ม 1 ช้อนชา 

วิธีทำไก่ย่างแดง

  • นำสะโพกไก่มาหั่นเป็นชิ้นพอดีคำ ใส่อ่างผสมไว้ โขลกรากผักชี กระเทียม และพริกไทย ให้ละเอียดเข้ากันดี แล้วตักใส่ลงชามผสม ปรุงรสด้วย ซีอิ๊วขาว ซอสหอยนางรม น้ำตาลปี๊บ และเพิ่มสีผสมอาหารสีส้มลงไป คลุกผสมให้เข้ากัน หมักไว้ 2 ชั่วโมง หรือข้ามคืน 
  • นำไม้เสียบลูกชิ้นมาแช่น้ำ ป้องกันไม้ไหม้ขณะย่าง นำไก่ที่หมักไว้มาเสียบไม้
  • ก่อไฟเตรียมย่างไก่ แล้วนำไก่ที่เสียบไม้ไว้มาย่างให้สุกดี เมื่อสุกดีแล้วยกขึ้นจากเตา เตรียมขายได้เลย

21.เต้าฮวยนมสดมะพร้าวอ่อน

ถือว่าเป็นเมนูของหวานยอดฮิตกินไม่เบื่อกับ เต้าฮวยนมสดมะพร้าวอ่อน ทั้งรสชาติหอม หวาน มัน ที่ยั่วยวนใจ ที่สำคัญเมนูนี้ทำง่ายมาก แช่เย็นไว้ได้ล่วงหน้าอีกต่างหาก

เต้าฮวยนมสดมะพร้าวอ่อน

วัตถุดิบเต้าฮวยนมสดมะพร้าวอ่อน

วัตถุดิบเต้าฮวย

  1. น้ำเปล่า 200 กรัม
  2. น้ำมะพร้าว 200 มิลลิลิตร
  3. ผงวุ้น 1 ช้อนชา
  4. นมข้นหวาน 100 กรัม
  5. วิปปิ้งครีม 150 กรัม
  6. เนื้อมะพร้าวอ่อน 150 กรัม 

วัตถุดิบน้ำราด

  1. น้ำมะพร้าว 100 มิลลิลิตร
  2. วิปปิ้งครีม 100 กรัม
  3. น้ำตาลทราย 50 กรัม

วิธีทำเต้าฮวยนมสดมะพร้าวอ่อน

  • นำหม้อขึ้นตั้งไฟปานกลาง เทน้ำมะพร้าวลงไป ตามด้วยวิปปิ้งครีม นมข้นหวาน และผงวุ้น คนให้เข้ากัน รอจนเดือด และยกออกจากเตา จากนั้นเทใส่ถ้วย 3/4 ของถ้วยเสิร์ฟ ใส่เนื้อมะพร้าวอ่อนตามลงไป และนำไปแช่ตู้เย็น 45 นาที
  • ทำน้ำราด โดยนำหม้อขึ้นตั้งไฟปานกลาง เทน้ำมะพร้าวลงไป ตามด้วยวิปปิ้งครีม และน้ำตาล คนให้เขากันและรอจนเดือด ยกออกจาเตาพักให้เย็น
  • นำเต้าฮวยออกมาจากตู้เย็น ราดด้วยน้ำราดที่เตรียมไว้ พร้อมเสิร์ฟจ้า 

22.ข้าวยำไก่แซ่บ 

ชอบอาหารรสแซ่บจัดจ้าน ต้องถูกใจเมนู ข้าวยำไก่แซ่บ สูตรนี้แน่นอน รสชาติเผ็ดจี๊ดถึงใจ ใส่ข้าวคั่วหอม ๆ  ถ้าใครไม่ชอบเผ็ดมากก็ปรับได้ตามชอบ ถือว่าเป็นอีกเมนูทำขายยอดฮิตเลยค่ะ

ข้าวยำไก่แซ่บ

วัตถุดิบข้าวยำไก่แซ่บ

วัตถุดิบหมักไก่

  1. สะโพกไก่ (เลาะกระดูกออก) 400 กรัม
  2. แป้งทอดกรอบ ½ ถ้วยตวง
  3. เกลือ 1 ช้อนชา
  4. ซีอี๊วขาว 1 ช้อนโต๊ะ
  5. น้ำมันพืช 1 ช้อนโต๊ะ

วัตถุดิบสำหรับทำยำไก่

  1. พริกป่น 1 ช้อนโต๊ะ
  2. ข้าวคั่ว 2 ช้อนโต๊ะ
  3. น้ำตาลปี๊บ 1 ช้อนโต๊ะ
  4. น้ำมะนาว 3 ช้อนโต๊ะ
  5. น้ำปลา 3 ช้อนโต๊ะ
  6. หอมแดงซอย 2 ช้อนโต๊ะ
  7. ผักชีซอย 1 ช้อนโต๊ะ
  8. ต้นหอมซอย 1 ช้อนโต๊ะ
  9. ผักชีฝรั่งซอย 1 ช้อนโต๊ะ
  10. ใบสะระแหน่ 1 ช้อนโต๊ะ
  11. น้ำเปล่า 1 ช้อนโต๊ะ

วิธีทำข้าวยำไก่แซ่บ

  • หมักไก่ด้วยซีอิ๊วขาว เกลือ และน้ำมันพืช จากนั้นคลุกเคล้าให้เข้ากัน พักทิ้งไว้เป็นเวลา 30 นาที
  • นำไก่ที่หมักไว้จนได้ที่แล้ว มาผสมแป้งทอดกรอบกับน้ำเปล่า (น้ำเย็นจัด) คลุกเคล้าให้เข้ากัน
  • ตั้งกระทะโดยใช้ไฟปานกลาง ใส่น้ำมันพืชลงไปให้พอท่วมชิ้นไก่นะคะ รอจนน้ำมันร้อน แล้วนำไก่ที่ชุบแป้งแล้วลงทอดให้เหลืองกรอบ เมื่อไก่ทอดเย็นตัวลงแล้ว นำมาหั่นเป็นชิ้นพอคำก่อนนำไปคลุกเคล้ากับน้ำยำ
  • นำน้ำตาลปี๊บ น้ำมะนาว และน้ำปลาคนให้เข้ากันจนน้ำตาลละลาย จากนั้นใส่ข้าวคั่วและพริกป่นลงไป คลุกเคล้าให้เข้ากันแล้วชิมรสตามชอบ โรยด้วยหอมแดงซอย ผักชีซอย ต้นหอมซอย ผักชีฝรั่งซอย และไก่ที่หั่นเตรียมไว้ลงตามไป คลุกเคล้าทุกอย่างให้เข้ากัน ใส่ใบสะระแหน่ เสิร์ฟพร้อมข้าวสวยร้อน ๆ 

23.กระเพาะปลาน้ำแดง

เดินตลาดนัดทีไรก็ต้องซื้อ กระเพาะปลาน้ำแดง ติดไม้ติดมือมาทุกที จะซื้อกินร้อน ๆ เลย หรือซื้อกลับไปเป็นมื้อเย็นก็เข้าท่า ใคร ๆ ก็ต้องแวะเพราะมันหอมซะเหลือเกิน ใส่เส้นหมี่อีกหน่อยก็เป็นมื้อเด็ดได้เลย!

กระเพาะปลาน้ำแดง

วัตถุดิบกระเพาะปลาน้ำแดง

  1. กระเพาะปลา 200 กรัม
  2. เนื้อไก่ฉีก 100 กรัม 
  3. เห็ดหอม 200 กรัม
  4. ขิง 3 แง่ง 
  5. ซอสปรุงรส รสหมู 1 ช้อนโต๊ะ
  6. เหล้าจีน 2 ช้อนโต๊ะ 
  7. แป้งข้าวโพด 3 ช้อนโต๊ะ 
  8. น้ำสะอาด 1,000 มิลลิลิตร 
  9. พริกไทยป่น 2 ช้อนชา 
  10. ผักชี สำหรับตกแต่ง 

วิธีทำกระเพาะปลาน้ำแดง

  • ตั้งน้ำใส่หม้อ แล้วใส่ขิงฝานเพื่อเพิ่มกลิ่นหอมให้แก่น้ำซุปและดับคาวกระเพาะปลา ใส่ซอสปรุงรส 1 ช้อนโต๊ะ เพื่อปรุงรส ให้เข้มข้น กลมกล่อม 
  • ใส่เห็ดหอม ไข่นกกระทา และกระเพาะปลา ต้มให้น้ำซุปเดือด ประมาณ 5 นาทีเพื่อให้กระเพาะปลานิ่ม 
  • ละลายแป้งข้าวโพดกับน้ำเล็กน้อยแล้วคนให้ละลาย ค่อย ๆ เทแป้งใส่หม้อ คอยคนเรื่อย ๆ จนแป้งหมด ตั้งให้เดือดข้นก็เรียบร้อยพร้อมเสิร์ฟแล้ว

24.บลูเบอร์รี่ชีสพาย

บลูเบอร์รี่ชีสพาย อีกหนึ่งเมนูเบเกอรีแบบไม่ง้อเตาอบ ที่วิธีทำก็ไม่ซับซ้อน ทำได้ทีละมาก ๆ แถมหวานหอมชื่นใจทุกคำอีกด้วย แหม ก็ใครจะไปห้ามใจกับหน้าบลูเบอร์รีเงา ๆ แสนน่ากินกันได้ล่ะ!

บลูเบอร์รี่ชีสพาย

วัตถุดิบบลูเบอร์รี่ชีสพาย

วัตถุดิบส่วนฐาน

  1. แครกเกอร์บดละเอียด 1 ถ้วย
  2. น้ำตาลทราย 2 ช้อนโต๊ะ
  3. เนยละลาย ¼ ถ้วย

วัตถุดิบส่วนหน้า

  1. บลูเบอร์รี่ฟิลลิ่ง 1 ถ้วย
  2. ครีมชีส 1 ก้อน
  3. น้ำตาลทราย ⅔ ถ้วย
  4. เกลือ ¼ ช้อนชา
  5. นม ⅓ ถ้วย
  6. ไข่ 4 ฟอง
  7. น้ำมะนาว 2 ช้อนโต๊ะ

วิธีทำบลูเบอร์รี่ชีสพาย

  • นำแครกเกอร์ใส่ถุง บดให้ละเอียด แล้วเทใส่ชามผสม เทน้ำตาลและเนยละลายตามลงไป คลุกให้เข้ากัน
  • นำภาชนะที่สามารถเข้าไมโครเวฟได้มาปูด้วยกระดาษไข ใส่แครกเกอร์ที่ผสมลงไปแล้วกดให้แน่น นำเข้าไมโครเวฟ โดยใช้ความร้อน 800 วัตต์ เป็นเวลา 2 นาที แล้วนำออกมาพักไว้
  • นำครีมชีสออกจากตู้เย็น พักไว้ให้นุ่มแล้วนำมาตี ค่อย ๆ เติมน้ำตาลตีไปเรื่อย ๆ จนเข้ากัน เติมเกลือ นม แล้วตีอีกครั้งจนเป็นเนื้อเดียวกัน
  • ตอกไข่ใส่ชามอีกใบ ใส่น้ำมะนาว ตีให้เข้ากัน แล้วนำไปเทผสมกับส่วนผสมครีมชีส คนให้เข้ากัน แล้วนำเข้าไมโครเวฟ ใช้ความร้อน 800 วัตต์ เป็นเวลา 2 นาที คอยนำออกมาคนทุก ๆ 30 วินาที จนเนื้อเนียน เทส่วนผสมครีมชีสลงบนฐานแครกเกอร์ที่เตรียมไว้ แล้วนำเข้าตู้เย็นประมาณ20นาที จนเซตตัว
  • เมื่อเซตตัวแล้ว นำออกจากตู้เย็น ยกออกจากภาชนะ จัดเสิร์ฟโดยราดบลูเบอร์รี่ฟิลลิ่ง

25.อิตาเลียนโซดา

อีกหนึ่งเมนูตลาดนัดคลายร้อน กับ อิตาเลียนโซดา เมนูเครื่องดื่มเย็นเจี๊ยบ ซาบซ่า แถมหวานชื่นใจสุด ๆ วิธีทำก็ง่ายมาก ทำได้ง่าย ๆ ขายดีแน่นอน

อิตาเลียนโซดา

วัตถุดิบอิตาเลียนโซดา

  1. โซดา 1 ขวด
  2. น้ำหวานกลิ่นที่ชอบ 15 มิลลิลิตร (สตรอว์เบอร์รี, แอปเปิ้ล, บลูฮาวาย, ฯลฯ)
  3. น้ำเชื่อม 30 มิลลิลิตร
  4. น้ำมะนาว 10 มิลลิลิตร
  5. นำ้แข็งก้อนเล็ก 1/3 แก้ว

วิธีทำอิตาเลียนโซดา

  • ใส่น้ำเชื่อม น้ำหวานกลิ่นที่ต้องการ น้ำมะนาว และน้ำแข็งลงในเชคเกอร์ เขย่าให้เข้ากันแล้วเทใส่แก้วที่เตรียมไว้
  • เติมน้ำแข็งจนเต็มแล้วเทน้ำโซดาตามลงไป แค่นี้ก็เสร็จเรียบร้อย!

26.บราวนีกรอบ

เป็นอีกเมนูที่ฮิตสุด ๆ ในช่วงนี้ สำหรับ บราวนีกรอบ ที่เปลี่ยนบราวนีเนื้อนุ่มชุ่มฉ่ำเป็นคุกกี้แผ่นบางกรุบกรอบ แถมมีรสช็อกโกแลตเข้มข้นอีกด้วย สูตรนี้สามารถทำเป็นสูตรชาเขียวได้ง่าย ๆ อีกด้วย แค่เปลี่ยนจากผงโกโก้เป็นผงชาเขียวเท่านั้นเอง!

บราวนีกรอบ

วัตถุดิบบราวนีกรอบ

  1. แป้งสาลีอเนกประสงค์ ½ ถ้วยตวง 
  2. ผงโกโก้ ¼ ถ้วยตวง 
  3. แป้งข้าวโพด 1 ช้อนโต๊ะ 
  4. ผงกาแฟ 1 ช้อนชา 
  5. เกลือ ¼ ช้อนชา 
  6. เบกกิ้งโซดา ¼ ช้อนชา 
  7. ไข่ขาว 2 ฟอง 
  8. น้ำตาลทราย ½ ถ้วยตวง 
  9. กลิ่นวานิลลา ½ ช้อนชา 
  10. น้ำมันพืช 2 ช้อนโต๊ะ 
  11. อัลมอนด์หั่น 1 ถ้วยตวง 

วิธีทำบราวนีกรอบ

  • ผสมแป้งสาลีอเนกประสงค์ ผงโกโก้ แป้งข้าวโพด ผงกาแฟ เกลือ และเบกกิ้งโซดาเข้าด้วยกัน พักไว้
  • ตีไข่ขาวด้วยความเร็วสูงสลับกับใส่น้ำตาลทรายลงไป จนไข่ขาวขึ้นฟูตั้งยอด ผสมกลิ่นวานิลลาลงไป แล้วนำของแห้งที่พักไว้มาผสมกับไข่ขาวที่ตีจนตั้งยอด ตะล่อมจนกระทั่งส่วนผสมเข้ากันดี ใส่น้ำมันพืชลงไปผสม ตะล่อมจนกลายเป็นเนื้อเดียวกัน
  • นำส่วนผสมบราวนีมาปาดบาง ๆ ลงบนแผ่นรองอบ โรยด้วยอัลมอนด์หั่นให้ทั่วแล้วนำเข้าเตาอบ อบด้วยอุณหภูมิ 150 องศาเซลเซียส เป็นเวลา 25 นาที พอสุกกรอบแล้ว นำออกจากเตาอบ พร้อมเสิร์ฟความอร่อย 

27.แซนวิชหอยจ๊อกุ้ง

ทุกคนอาจจะคุ้นเคยกับหอยจ๊อกันดี แต่วันนี้เราปรับหน้าตาให้ดูร่วมสมัยยิ่งขึ้นกับ แซนวิชหอยจ๊อกุ้ง ที่เปลี่ยนหอยจ๊อให้เป็นชิ้นสี่เหลี่ยมน่ารัก ทำง่าย ทอดง่าย กรอบนอกนุ่มใน กินกับน้ำจิ้มบ๊วยคือฟินน~

แซนวิชหอยจ๊อกุ้ง

วัตถุดิบแซนวิชหอยจ๊อกุ้ง

  1. ไข่ไก่ 2 ฟอง 
  2. กุ้งสับ 400 กรัม 
  3. หมูติดมันสับ 200 กรัม 
  4. รากผักชี 15 กรัม
  5. กระเทียม 15 กรัม 
  6. พริกไทย 15 กรัม 
  7. น้ำตาลทราย 2 ช้อนโต๊ะ 
  8. น้ำมันหอย 3 ช้อนโต๊ะ
  9. น้ำมันงา 2 ช้อนโต๊ะ 
  10. ซีอิ๊วขาว 2 ช้อนโต๊ะ
  11. แห้วสับ 1 ถ้วย
  12. แป้งมัน 3 ช้อนโต๊ะ 
  13. แผ่นฟองเต้าหู้หั่นสี่เหลี่ยม
  14. เชือกสำหรับผูก 
  15. น้ำมันพืชสำหรับทอด 

วิธีทำแซนวิชหอยจ๊อกุ้ง

  • โขลก รากผักชี กระเทียม พริกไทย ให้ละเอียด ผสม กุ้งบด เนื้อหมูบด สามเกลอ เครื่องปรุง และต้นหอมให้เข้ากัน ผสมแป้งคลุกให้เข้ากัน ตามด้วยแห้วเป็นลำดับสุดท้าย 
  • วางฟองเต้าหู้ นำส่วนผสมที่คลุกไว้มาวาง ตามความเหมาะสมและนำฟองเต้าหู้อีกแผ่นมาวางทับ เอาเชือกมาผูกให้ฟองเต้าหู้อยู่ตัว เอาลงนึ่ง ประมาณ 15-20 นาที 
  • พักไว้ให้พอแห้ง นำลงทอดในน้ำมันร้อน ไฟปานกลางให้เหลืองกรอบ เสิร์ฟกับน้ำจิ้มบ๊วย

28.หม่าล่า

ตลาดนัดจะขาดเมนู หม่าล่า ไปได้ยังไง! เนื้อสัตว์และผักย่าง ทาเครื่องเทศหม่าล่าแบบฉ่ำ ๆ รสชาติเผ็ดร้อนจนลิ้นชา ถูกใจคนชอบกินเผ็ดแน่นอนจ้า 

หม่าล่า

วัตถุดิบหม่าล่า

  1. พริกฮวาเจียว 2 ช้อนโต๊ะ 
  2. พริกไทยดำ 2 ช้อนโต๊ะ
  3. พริกขี้หนูแห้ง 8 เม็ด
  4. พริกป่น 2 ช้อนโต๊ะ 
  5. ยี่หร่าป่น 2 ช้อนโต๊ะ 
  6. กระเทียม 16 กลีบ 
  7. ขิง 2 แง่ง 
  8. ผงพะโล้ 2 ช้อนโต๊ะ 
  9. ซีอิ๊วขาว 4 ช้อนโต๊ะ 
  10. น้ำมันมะกอก 4 ช้อนโต๊ะ 
  11. ซอสฮอยซิน 2 ช้อนโต๊ะ
  12. น้ำตาลทรายแดง 2 ช้อนโต๊ะ 
  13. เนื้อสัตว์เช่นไก่ หมู กุ้ง และผักต่าง ๆ ตามชอบ

วิธีทำหม่าล่า

  • นำพริกขี้หนูแห้ง พริกป่น พริกฮวาเจียว พริกไทยดำ กระเทียม ขิง และผงพะโล้มาตำรวมกันให้ละเอียด นำส่วนผสมของพริกไปผสมกับซอสฮอยซิน ซีอิ๊วขาว น้ำมันมะกอก และน้ำตาลทรายแดง คนให้เข้ากัน แล้วพักไว้ 
  • นำตัวซอสหม่าล่าที่ผสมเสร็จแล้ว ไปคลุกกับเนื้อสัตว์ที่หั่นเตรียมไว้ แล้วเสียบไม้ แช่ตู้เย็นไว้ประมาณ 30 นาที ส่วนผักเสียบไม้ไว้ได้เลย ไม่ต้องหมัก
  • ตั้งกระทะให้ร้อน แล้วนำเนื้อสัตว์ที่หมักไว้มาปิ้งให้สุก ส่วนผัก ปิ้งให้สุกก่อนแล้วค่อยทาด้วยซอส เท่านี้ปิ้งย่างหม่าล่าของเราก็พร้อมรับประทานกันแล้ว

29.ข้าวโพดทอดไส้นม

ข้าวโพดทอดไส้นม เมนูข้าวโพดที่เหนือไปอีกขั้น ทั้งกรอบนอกและนุ่มละมุนด้วยไส้นมข้างใน เยิ้ม ๆ ถูกใจแน่น ต้นทุนไม่แพงแถมลูกค้าติดตรึม!

ข้าวโพดทอดไส้นม

วัตถุดิบข้าวโพดทอดไส้นม

  1. ข้าวโพดดิบ 1 ฝัก 
  2. แป้งเทมปุระ 2 ช้อนโต๊ะ 
  3. แป้งข้าวโพด 1½ ช้อนโต๊ะ 
  4. นม 1½ ถ้วยตวง 
  5. ไข่ไก่ 1 ฟอง 
  6. เนยชนิดจืด 20 กรัม 
  7. เกลือ 1 ช้อนชา 
  8. ผงปรุงรส 1 ช้อนชา 
  9. นมข้นหวาน 4 ช้อนโต๊ะ 
  10. น้ำตาลทราย 1 ช้อนโต๊ะ 
  11. น้ำเย็นจัด 

วิธีทำข้าวโพดทอดไส้นม

  • แกะข้าวโพดออกจากซัง แล้วใช้มีดเฉือนเมล็ดข้าวโพดออกจากฝัก นำไปคลุกกับแป้งเทมปุระและผงปรุงรส พรมน้ำเย็นจัดลงไปเล็กน้อย นำเข้าตู้เย็นพักไว้ 
  • ผสม นม น้ำตาลทราย นมข้นหวาน และแป้งข้าวโพด คนจนทุกอย่างเข้ากันดี ตั้งไฟอ่อน คอยคนเรื่อย ๆ จนมีลักษณะข้นขึ้นแล้วจึงใส่เนยลงไป คนจนเนยละลายหมด พักไว้จนเย็นแล้วนำไปแช่ช่องแข็งจนแข็งดี แล้วนำมาตัดแบ่งเป็นก้อน
  • นำไส้นมที่ตัดแบ่งมาคลุกกับแป้งเทมปุระ ชุบไข่ แล้วนำเมล็ดข้าวโพดมาปั้นห่อเอาไว้ นำลงทอดไฟปานกลางจนขึ้นสี พร้อมเสิร์ฟ 

30.ทอฟฟี่เค้กเม็ดมะม่วง

ปิดท้ายกันด้วยเมนูทำขายตลาดนัดในตำนาน อย่าง ทอฟฟี่เค้กเม็ดมะม่วง สุดคลาสสิก ทำง่ายแถมทนความร้อน ขายในตลาดนัดนาน ๆ ตัวเค้กก็ยังอยู่ดีไม่มีปัญหาแน่นอน

ทอฟฟี่เค้กเม็ดมะม่วง

วัตถุดิบทอฟฟี่เค้กเม็ดมะม่วง

วัตถุดิบแป้ง

  1. แป้งเค้ก 130 กรัม
  2. ผงกาแฟ 30 กรัม 
  3. ผงโกโก้ 30 กรัม 
  4. น้ำตาลทราย 150 กรัม
  5. ผงฟู 2 ช้อนชา 
  6. เนยจืดละลาย 150 กรัม
  7. ไข่ไก่ 4 ฟอง
  8. เกลือ ⅛ ช้อนชา 

วัตถุดิบหน้าเค้ก

  1. แป้งเค้ก 40 กรัม 
  2. วิปปิ้งครีม 60 มิลลิลิตร 
  3. น้ำตาลทราย 120 กรัม
  4. เกลือ ¼ ช้อนชา 
  5. ผงกาแฟ 1 ช้อนโต๊ะ 
  6. เนยจืดละลาย 50 กรัม 
  7. เม็ดมะม่วงหิมพานต์ 200 กรัม

วิธีทำทอฟฟี่เค้กเม็ดมะม่วง

  • วอร์มเตาอบไฟบน - ล่าง อุณหภูมิ 200 องศาเซลเซียส 15 นาที จากนั้นปรับเป็นอุณหภูมิ 180 องศาเซลเซียส และเตรียมพิมพ์ขนาด 8x8x2 ทาเนย และโรยแป้งเค้กบาง ๆ จะช่วยให้เอาเค้กออกจากพิมพ์ง่ายขึ้น
  • ร่อนของแห้ง ได้แก่ แป้งเค้ก ผงโกโก้ ผงกาแฟ ผงฟู และเกลือ เข้าด้วยกัน
  • ตีไข่ และน้ำตาลทราย ด้วยความเร็วสูง 5 นาที จนกลายเป็นสีเหลืองอ่อน ใส่ของแห้งที่ร่อนไว้ลงไป ตามด้วยเนยจืดละลาย คนให้เข้ากัน เทใส่พิมพ์ที่เตรียมไว้นำเข้าเตาอบ 20 นาที
  • ใส่วิปปิ้งครีมลงในหม้อ ตามด้วยเนยจืดละลาย ผงกาแฟ น้ำตาลทราย เกลือ และแป้งเค้ก คนให้เข้ากัน นำหม้อขึ้นตั้งไฟปานกลาง และคนไปเรื่อย ๆ จนหนืด ใส่เม็ดมะม่วงหิมพานต์ลงไป
  • ปรับไฟเตาอบเป็น 200 องศาเซลเซียส เค้กที่อบแล้ว ไม่ต้องนำออกจากพิมพ์ เทหน้าเค้กที่ทำเสร็จแล้วลงไป และเกลี่ยให้ทั่ว นำเข้าเตาอบ 12 นาที จากนั้นนำออกมาพักไว้ให้เย็น ตัดเป็นชิ้นตามชอบ พร้อมเสิร์ฟจ้า

น่ากินทั้งนั้นเลยใช่ไหมคะ กับ 30 เมนูทำขายตลาดนัด ที่ครองใจคนทุกเพศทุกวัย เมนูก็สุดแสนจะหลากหลาย เฮลตีบ้าง ของทอดบ้าง ขนมหวานบ้าง หรือจะเป็นน้ำเย็น ๆ ชื่นใจ ก็ล้วนเป็นเสน่ห์ของตลาดนัดใช่ไหมล่ะคะ กินนี่นิด ชิมนู่นหน่อย อร่อยไปหมดเลย ถ้าเพื่อน ๆ คนไหนอยากลองเอาไปทำขายกันก็สามารถนำไปใช้ได้เลยนะคะ แต่ถ้ายังไม่จุใจล่ะก็ เรายังมี 20 สูตร “เมนูทำขายหน้าโรงเรียน” ย้อนวันวานกำไรงาม ให้ทุกคนไปจดกันต่ออีกด้วย!

ดูรวมสูตรน่าทำขายต่อตรงนี้เลย!