#วงในบอกมา
- ที่มาของชื่อมาจากลักษณะของขนมที่คล้ายกับค้างคาว
- ไม่มีส่วนผสมของเนื้อค้างคาวแต่อย่างใด
- สามารถเพิ่มความกลมกล่อมด้วยน้ำจิ้มอาจาด
สวัสดีเจ้าค่ะทุกท่าน วันนี้ดิฉันคามิน้องวิวรับบทนางเล็ก ๆ จะพาทุกท่านมาทำเมนูของว่างในวังอย่าง “ค้าวคาวเผือก” เมนูของว่างของไทยแต่โบราณที่ในสมัยปัจจุบันหารับทานได้ยากเหลือเกินเจ้าค่ะ เลยจะพาเพื่อน ๆ มาทำเมนูนี้กันบอกได้เลยว่าทำง่าย อุปกรณ์ไม่เยอะมากอีกด้วย ถ้าพร้อมแล้วเราไปเข้าครัวพร้อม ๆ กันเลยเจ้าค่ะ

วัตถุดิบ
- เผือก 300 กรัม
- มะพร้าวขูดขาว 125 กรัม
- แป้งสาลีอเนกประสงค์ 100 กรัม
- เกลือป่น 1 ช้อนชา
- พริกไทยป่น 1 ช้อนชา
- ใบมะกรูด 1 ช้อนโต๊ะ
- เนื้อกุ้งสับ 300 กรัม
- หอมแดง 1/2 ถ้วย
- น้ำตาลมะพร้าว 1 ช้อนชา
- กะทิ 1/4 ถ้วย
- แป้งข้าวเจ้า 2 ช้อนโต๊ะ
วิธีทำ
STEP 1 : นึ่งเผือก
- ปอกเปลือกของเผือก แล้วนำไปล้างให้สะอาด จากนั้นหั่นเป็นเต๋าขนาดเท่า ๆ กัน
- นำไปนึ่งให้สุก แล้วบดให้ละเอียด จากนำไปนวดก้บแป้งสาลีประสงค์ให้เข้ากัน เติมกะทิเล็กน้อย


STEP 2 : ผัดไส้
- นำหอมแดงลงผัดให้สุกใส ตามด้วยเนื้อกุ้งสับให้สุก
- ตามด้วยมะพร้าวขูดขาว ปรุงรสด้วย น้ำตาลปี๊บ เกลือและพริกไทยให้สุกและเข้ากันดี
- เมื่อทุกอย่างสุกดีแล้ว โรยใบมะกรูด เพื่อเพิ่มความหอมและสีสันที่สวยงาม


STEP 3 : ทอด
- ปั้นแป้งเผือก รีดให้เป็นแผ่นแล้วนำไว้ที่ผัดไว้ใส่ตรงกลาง พับริมเข้าหากันเป็นรูปสามเหลื่ยม บีบให้มิดไส้กุ้งและเนียนเป็นเนื้อเดียวกัน
- นำลงชุบใน แป้งข้าวเจ้าที่ละลายกับกะทิ เติมเกลือเล็กน้อย นำลงทอดที่น้ำมันร้อนจัด ทอดให้เป็นสีเหลืองอ่อน ๆ


เสร็จเป็นที่เรียบร้อยแล้วกับเมนู “ค้างคาวเผือก” เมนูของว่างไทย ตำรับชาววัง โดยที่มาจากรูปทรงของค้างคาวที่กำลังกางปีกบิน ส่วนเผือกนั้นก็มาจากเผือกที่เป็นส่วนผสมของแป้งนั้นเองค่า แต่ตัวสูตรของ “ค้างคาวเผือก” นั้นมีที่มาหลายสูตร หลายตำรับ ถ้าเพื่อน ๆ คนไหนทีสูตร “ค้างคาวเผือก” แบบอื่น ๆ ก็สามารถแชร์เข้ามากันได้นะคะ หรือจะลองทำสูตรนี้ก็ได้นะคะ แต่ถ้ายังไม่ถูกใจก็สามารถเข้ามาดูสูตรทำอาหารอื่น ๆ ได้ Wongnai cooking ได้เลยจ้า