- หน้าแรก
/
- รูป Think TANK (Third Place)
ของว่าง
Third Place พร้อมอาหารและเครื่องดื่ม เปิดตลอด 24 ชั่วโมง บนถนนนางลิ้นจี่“Third (3rd) Place” เป็นคำที่เราเริ่มได้ยินคุ้นหูและได้สัมผัสมากขึ้นในปัจจุบัน รวมถึงปัจจัยเรื่องการใช้งาน Internet ที่เราสามารถเข้าถึงได้ง่ายมากกว่าแต่ก่อนมาก จากการแพร่หลายและนิยมใช้ Wireless & Mobile Internet โดยเทคโนโลยี Wi-Fi, Public Hotspot หรือ High Speed Mobile Internet ถ้าแปลตรงตัวจริงๆก็คือ “สถานที่ที่ 3” ในความหมายจริงๆแล้วก็คือสถานที่ที่เราสามารถใช้เพื่อพบปะพูดคุย ประชุมงาน (หรือเรียกว่ากิจกรรมทางสังคม) สำหรับกลุ่มคน หรือถ้าในกรณีสำหรับคนเดียวก็คือสถานทีที่ใช้พักผ่อนหรือนั่งทำงานนั่นเองครับ ซึ่งเป็นที่ที่เราเข้ามาใช้สถานที่อันดับที่ 3 รองจากบ้านและที่ทำงานของเรานั่นเองครับ ในบ้านเราถ้าพูดถึงก็จะเป็นพวกร้านกาแฟหรือคาเฟ่ต่างๆ
หนุ่มสาวออฟฟิศหรือนักเรียน-นักศึกษาสมัยนี้ หลายคนมักจะชอบหิ้ว notebook computer, tablet หรือหยิบหนังสือเล่มโปรดหรือตำราเรียนติดมือไปหาร้านกาแฟที่เน้นบรรยากาศสงบและมีความเป็นส่วนตัว (มี Wi-Fi) นั่งทำงาน เช็คอีเมล์ (หรือเรียกว่า Virtual Office หรือ Mobility Workforce) จับกลุ่มติวหนังสือหรืออ่านหนังสือเพลิน ๆ แต่ร้านส่วนใหญ่ก็มักจะไม่เปิดตลอดเวลาตามความต้องการของลูกค้าซึ่งมี lifestyle ที่หลากหลาย ที่จอดรถจำกัดหรือมีขนาดเล็กไม่เอื้ออำนวยเท่าไหร่ครับ
ร้านที่ผมจะมารีวิวครั้งนี้ชื่อเต็มๆว่า “Think Tank (third place)” ฟังจากชื่อแล้วเราก็รู้ทันทีว่าเค้าต้องการให้ร้านมี concept เป็น 3rd place อย่างแน่นอน มาดูกันว่าเป็นไปตามนั้นหรือเปล่าครับ
[ที่ตั้งร้านและการเดินทาง:]
ถนนนางลิ้นจี่ แขวงทุ่งมหาเมฆ เขตสาทร (ตรงข้าม ม.ราชมงคลกรุงเทพหรือ UTK ประตูทางเข้าฝั่งถนนนางลิ้นจี่) หรือสังเกตง่ายๆร้านนี้อยู่ติดวิทยุการบินกรุงเทพเลยครับ
1. มาจากถนนนราธิวาสราชนครินทร์ เข้าซอยนราธิวาสฯ 17 (ติดกับ ม.ราชมงคลกรุงเทพ อู่รถเมล์ 89) ประมาณ 500 เมตร เลี้ยวขวาเข้าถนนนางลิ้นจี่ (แยกสัญญาณไฟจราจร) ตรงมาอีกนิด ThinkTank อยู่หลังป้ายรถประจำทางซ้ายมือ
2. มาจากถนนสาทร เข้าซอยสวนพลูมาเรื่อยๆ พบทางบังคับเลี้ยวขวา และอีก 150 เมตร ให้เลี้ยวซ้ายเข้าถนนนางลิ้นจี่ (แยกสัญญาณไฟจราจร) ThinkTank อยู่หลังป้ายรถประจำทางซ้ายมือ
ร้านนี้ไม่เพียงทำเป็นร้านกาแฟธรรมดา แต่เค้าเนรมิตให้เป็นเหมือนศูนย์รวมความรู้ เปิดพื้นที่อิสระสำหรับจัดกิจกรรม Workshop นิทรรศการ หรือจัดประชุมเป็นกลุ่ม แบ่งร้านออกเป็นโซนต่าง ๆ คือ
• โซนห้องสมุดไว้อ่านหนังสือเงียบๆ (ห้ามใช้เสียงในห้องนี้)
• โซน Out-of-the Box (มีโซฟารูปทรงแปลกๆให้นั่งนอน) ที่ไว้จัดนิทรรศการหรืองานแสดงต่างๆ
• โซนคาเฟ่ตรงกลาง ไว้นั่งพูดคุยทานขนมอร่อย ๆ แถมยังมีห้องประชุมส่วนตัวไว้คอยให้บริการด้วย (ต้องโทรจองกันก่อน)
[สิ่งอำนวยความสะดวก:]
Free Wi-Fi, ที่เสียบปลั๊กไฟตามจุดต่างๆรอบร้าน (รวมถึงระเบียงนอกร้านในสวน) พื้นที่จอดรถจำนวนมาก (ร้านนี้บริการแบบ Self-service นะครับ คือสั่งอาหารหรือเครื่องดื่มเสร็จ จ่ายเงิน รอเรียกมารับเองที่เคาน์เตอร์ รวมถึงเก็บภาชนะที่ใช้เสร็จในจุดที่เค้ากำหนดให้ครับ)
ที่นี่ยังเป็นศูนย์รวมโครงการคืนน้ำใจสู่สังคมด้วย (ผ่านกิจกรรม CSR ต่างๆ) อย่างการรับบริจาคหนังสือ รับบริจาคฝาเปิดกระป๋องไว้ทำขาเทียม เป็นต้น และในบริเวณรอบๆร้านยังมีการคำนึงถึงเรื่อง Green Marketing ด้วย อย่างการให้ลูกค้าได้คัดแยกขยะก่อนทิ้งด้วยตัวเอง รวมถึงข้อความที่แปะตามจุดต่างๆให้ลดใช้ทรัพยากรอย่างกระดาษและน้ำ และภาชนะต่างๆในร้านจะใช้เป็นถาดไม้หรือถาดปิ่นโตครับ
[อาหารและเครื่องดื่มที่มีให้บริการ:]
นอกจากสถานที่แล้ว อาหารหรือขนมและเครื่องดื่มก็เป็นปัจจัยที่ช่วยให้น่านั่งขึ้น เมนูของที่นี่จะเป็นเบเกอรี่โฮมเมดทานง่าย อย่าง Apple Tart ทานคู่ไอศกรีมเย็นชื่นใจ หรือ Homemade Waffle (มี 2 size เล็กกับใหญ่) หอมมัน เสิร์ฟพร้อมไอศกรีมวานิลลา หรือขนมปังปิ้งหน้าต่างๆ และเค้กต่างๆ ถ้าเป็นพวกอาหารหนักๆก็มีขนมจีบ ซาลาเปา (รับมา) และพวกเมนูอย่างข้าวไข่ข้น สปาเก็ตตี้คาโบนาร่า ของทานเล่นอย่างเฟรนซ์ฟราย หากอยากทานเบาๆ ผมแนะนำ DIY Fresh Yogurt โยเกิร์ตรสธรรมชาติ เลือกใส่ท็อปปิ้งผลไม้ได้ตามใจชอบ
เครื่องดื่มที่มีให้บริการก็เป็นกาแฟต่างๆ ทั้งร้อนและเย็น ราคาเริ่มต้น 50 บาท ถึงเกือบร้อย (พวกกาแฟร้อนอย่าง Mocha, Latte, Cappuccino แก้วเล็ก 80 บาท) หรือ non-coffee อย่างชาและนม ชานมหรือชาเขียวไข่มุก (45 บาท) และพวกอิตาเลี่ยนโซดา
ผมมาใช้บริการร้านนี้อยู่หลายครั้งเหมือนกัน ส่วนใหญ่จะสั่งเป็นพวกกาแฟร้อน ผมว่ารสชาติไม่ค่อยดีเท่าไหร่ เจือจาง ไม่หอม ส่วนเมนูชาไข่มุก ถ้าอยากสั่งผมแนะนำเป็นชานมไข่มุกดีกว่าครับ ถือว่าพอใช้ได้ ส่วนชาเขียวไข่มุกรสชาติไม่ค่อยถูกปาก ส่วนพวกขนมที่ผมเคยสั่งจะเป็น Waffle, Sandwich ไส้แฮมชีส หรือขนมปังปิ้งต่างๆ ในเมนูพวกนี้ผมว่า Waffle อร่อยสุดและน่าสั่งสุดแล้วครับ อย่างอื่นผมว่าเฉยๆ โดยเฉพาะพวกขนมปังปิ้งส่วนตัวผมว่าไม่โดน สุดท้ายที่ผมได้ลองจะเป็น DIY Fresh Yoghurt ถ้าสั่งเป็นแบบ plain ธรรมดา ไม่เติม topping อะไร ผมว่าก็อร่อยดีนะครับ ราคาไม่แพงมาก รู้สึกจะ 30 บาท ถ้าเติมผลไม้ topping อย่างละ 10 บาท แล้วแต่ชอบครับ (ส่วนตัวผมว่าใส่แล้วมันหวานไป)
สรุปตามที่ผมรีวิวมา ถ้ามองร้านนี้เป็นสถานที่ที่ใช้เป็น 3rd place แล้วผมให้ 4 ดาวครับ ถ้ามองเป็นร้านที่จะมาหาอะไรทาน ผมให้แค่ 2 ดาวครับ เฉลี่ยแล้วสุดท้ายคือ 3 ดาวครับ (ร้านนี้ในความเห็นผม คิดว่าบน perceptual map น่าจะเป็นร้านที่เหมาะแก่การมาใช้สถานที่มากกว่าทานขนมอร่อยๆ ซึ่งก็น่าจะตรงกับ positioning map ที่ร้านเค้าตั้งใจให้เป็น)
29 Likes0 Comment