4.1
24 เรตติ้ง (22 รีวิว)
เปิดอยู่จนถึง 22:00
MOE Sushi & Bar
ซุป miso
แวะมาลองเมนูปูๆสุดอลังการที่ Moe ..งานนี้คนชอบกินปูห้ามพลาดจ้าา..Moe Sushi & Bar – ร้านอาหารญี่ปุ่นที่ซุกซ่อนอยู่ที่ชั้น G ของโรงแรม LUXX XL บนถนนหลังสวนนี้ดูว่าเพิ่งเปิดมาได้ไม่นานนัก แต่ก็ออกสื่อเยอะทีเดียวค่ะ อย่างวันที่แวะไปล่าสุดนี้ก็เจอกำลังถ่ายทำรายการโทรทัศน์ช่องหนึ่งอยู่ เราเลยรู้สึกอินเทรนด์ขึ้นมาทันที...(เสียดายไม่ได้เดินผ่านกล้อง..555+) ร้านนี้นอกจากจะเน้นขายพวกซูชิ ซาชิมิ ต่างๆแล้วตอนกลางวันยังมี lunch set และ bento ให้เลือกสั่งด้วย แถมยังมีส่วนของ bar ที่ว่ากันว่าเสิร์ฟ cocktail หลากหลายสูตรพิเศษของทางร้านที่ปรุงขึ้นให้เหมาะกับการจิบร่วมกับซูชิ เผื่อใครจะเบื่อชาเขียวร้อนหรือสาเกแบบเดิมๆ ...แต่กับครั้งนี้จุดมุ่งหมายของเราคือการมาลอง seasonal menu ของช่วงนี้.. ได้แก่เมนูปูๆทั้งหลายที่ร้านนี้ดูจะทำออกมาได้เร้าใจน่าลิ้มลองสุดๆค่ะ **-เมนูที่ได้ลอง-** พอได้ที่นั่งปุ๊บทางร้านจะมีของว่างจานจิ๋วๆมาเสิร์ฟให้ก่อน 1 ที่เป็น complimentary ค่ะ ซึ่งคงจะเปลี่ยนไปเรื่อยๆ ไม่ได้ตายตัวว่าจะเป็นอะไร อย่างของเราครั้งแรกไปตอนกลางวัน ได้มาเป็นสลัดเต้าหู้รสชาติแบบน้ำสลัดญี่ปุ่นสดชื่น ส่วนอีกครั้งที่ไปช่วงมื้อเย็นได้เป็นคล้ายๆ okonomiyaki หั่นเป็นคำเล็กๆเสิร์ฟมาร้อนๆอร่อยดีค่ะ [Seasonal Menu] ● ขาปูทาราบะ (ราคาปรับตามท้องตลาด) – เมนูนี้แม้ว่าจะเขียนไว้ในเมนูเล่มหลักด้วย แต่ก็ไม่ได้มีของตลอด มีเป็นบางช่วงฤดูเท่านั้น ซึ่งต้องติดตาม facebook ของทางร้าน หรือโทร.ถามดูน่ะค่ะ สำหรับเดือนสิงหาคมนี้มีโปรโมชั่นที่ราคาขาละ 900 บาทขาดตัว ซึ่งหลังจากวันที่ 31 สิงหาคมไปก็อาจจะยังมีให้สั่งอยู่ (ถ้าทางร้านได้ปูมา) แต่ราคาอาจจะขยับขึ้นเป็น 1,200 บาทตามที่ลงไว้ในเมนูอีกแผ่นนึงน่ะค่ะ สำหรับขาปูทาราบะนี้เราสามารถเลือกวิธีปรุงได้ 3 แบบค่ะ คือ ทำเป็นซูชิ ทำเป็นซาชิมิ (หรือจะให้ทำมาทั้ง 2 อย่างในจานเดียวก็ได้) หรือนำไปย่างสุก ซึ่งของเราสั่งไปเป็นซาชิมิ เสิร์ฟมาบนน้ำแข็งเย็นเชี้ยบ ชิ้นปูมีการลวกให้สุกเฉพาะด้านนอกและ sear มาเพียงเล็กน้อยเพื่อคงความสดหวานของเนื้อปูไว้ ด้านบนราดด้วยมันปูและ ikura ...ฟินเฟร่ออออ...! ● ข้าวผัดมันปู (ราคา 450 บาท) – เป็นข้าวผัดคลุกกับมันปูที่ทางร้านใช้ spider crab ที่นำเข้าจากฝรั่งเศส แถมเคลมว่าเป็นร้านเดียวในไทยแลนด์ที่มีเมนูนี้ขายนะจ๊ะ ข้าวญี่ปุ่นนุ่มหนึบกำลังดีผัดคลุกมันปูร้อนๆหอมๆเสิร์ฟมาในกระดองปู ท็อปด้วยเนื้อปูแบบจัดเต็ม ไข่กุ้งพูนๆ และ ikura เต่งๆ แถมโปะมันปูมาให้เห็นกันจะๆอีก 1 กองใหญ่ ..เป็น “ข้าวผัดปู” ที่ไฮโซที่สุดที่เคยเห็นมาเลยล่ะ เรื่องรสชาติไม่ต้องพูดถึงค่ะ ..วัตถุดิบจัดเต็มมาขนาดนี้จะไม่อร่อยก็ให้มันรู้ไป! ..เป็นอีกจานที่ฟินมากกก.. ถ้าใครตั้งใจจะไปทานแนะนำว่าควรโทรเช็คกับทางร้านก่อนแล้วจองปูไว้เลย เพราะเป็นอีกเมนูนึงที่มีของเฉพาะบางช่วงบางฤดู ไม่ได้มีประจำตลอด แถมนำเข้าจำนวนจำกัดในแต่ละอาทิตย์ แต่ถ้าไม่ซีเรียสจะลอง walk in เข้าไปเลยก็ได้ ถ้าเค้ามีของอยู่ก็สั่งได้น่ะค่ะ [เมนูประจำของร้าน] ● Full-On Botan Ebi (ราคา 380 บาท) – ตัวนี้เค้าว่าเป็น signature menu ที่ทางร้านภูมิใจนำเสนอ ซูชิกุ้งหวานที่เคียงมาด้วยเนื้อในหัวกุ้งที่เอาไปทอด บนตัวกุ้งท็อปด้วย ikura และไข่ปลาคาเวียร์ ..อันที่จริงก็อร่อยดีใช้ได้ เนื้อกุ้งไม่มีคาวเลย แต่ก็แอบรู้สึกว่าความเด้งกับความหวานมันยังไม่ถึงจุดพีค (แบบว่าอีกนิดดด...น่ะค่ะ) เดาเอาว่าเราอาจจะไปไม่ตรงกับวันที่ของเข้าล่ะมั้งนะ ● Volcano Eruption (ราคา 350 บาท) – สารพัดปลาดิบหั่นชิ้นเท่าลูกเต๋า คลุกเคล้าด้วย spicy sauce ของเค้าซึ่งเราก็ว่าไม่เห็นจะเผ็ด แต่เป็นซอสครีมที่มีรสมีชาติเข้มข้น อร่อยใช้ได้ทีเดียวค่ะ ปลาดิบที่ใช้นุ่ม สด ไม่มีคาวเลย แต่บางชิ้นเราแอบเคืองที่มีหั่นติดเอ็นเหนียวๆด้วย แต่ก็แค่ 2-3 ชิ้นเท่านั้น จานนี้โรยมาด้วยเศษแป้งเทมปุระทอดกรุบกรอบ ทานเพลินใช้ได้ค่ะ แต่ทานมากไปก็มีเลี่ยนบ้างเหมือนกันนะ [Soup] มีให้เลือกสั่งอยู่ 2 เมนูค่ะ ● Miso soup (ราคา 60 บาท) – เข้มข้นใช้ได้ มีเต้าหู้กับสาหร่ายลอยมาครบเครื่องสมราคาค่ะ ● Osuimono (ราคา 80 บาท) – เป็นซุปปลาที่อร่อยมากกก... ทั้งๆที่เป็นแค่ซุป ไม่ได้เป็นเมนูหลักอะไร แต่ทำออกมาได้รสดี ชุ่มคอ ชิ้นปลาที่ใส่มาก็โตพอใช้ เนื้อนุ่มอร่อยไม่มีคาวและไม่แห้งสากกระด้างเหมือนของเจ้าอื่นหลายๆเจ้า ..ปลื้มมากค่ะ สำหรับเมนูของหวาน ทางร้านจะมีเป็นพวกไอศครีมซึ่งมีรสให้เลือกพอสมควร กับเค้ก Tokyo Cream Roll แต่พอดีว่าอิ่มจนจุกแล้วก็เลยไม่ได้ลองล่ะค่ะ **-ทำเลที่ตั้ง / บรรยากาศ-** โรงแรม LUXX XL Boutique Hotel นี้ตั้งอยู่บนถนนหลังสวนฝั่งตรงข้ามเยื้องๆกับซอยหลังสวน 7 ค่ะ ความที่ด้านหน้าถนนจะมีร้านอาหารเวียดนามตั้งอยู่ ทางเข้าโรงแรมก็เลยมีลักษณะเป็นซอยเล็กๆ เดินเข้าไปจะเจอประตูไม้สักทึบๆบานเบ้อเริ่มอยู่ซ้ายมือ นั่นล่ะค่ะประตูโรงแรม ผลักเข้าไปได้เลย ทางเข้าตัวร้านจะอยู่ด้านหลัง reception นะคะ ร้านนี้มีขนาดกลางๆ ไม่เล็ก ไม่ใหญ่ มีทั้งที่นั่ง indoor และ outdoor ให้เลือกนั่งตามใจชอบ โต๊ะที่นั่งก็มีทั้งแบบโซฟา แบบโต๊ะ-เก้าอี้ธรรมดา และที่นั่งติดบาร์ไว้ดูพ่อครัวทำซูชิ ร้านตกแต่งแนวร่วมสมัยเก๋ไก๋น่ารักทีเดียวค่ะ โดยรวมแล้วก็เป็นอีกร้านที่น่าสนใจ นอกจากจะมี seasonal menu เด็ดๆเร้าใจให้ต้องมาลองแล้ว ในแต่ละเดือนก็ยังมีโปรโมชั่นต่างๆให้ติดตาม ทำให้ราคาเต็มที่จัดว่าแรงนี้ดูซอฟท์ลงได้เหมือนกัน แถมยังมีส่วนลดตามสื่อต่างๆเอย ชิงโชคเอย.. ถ้าใครชอบอาหารแนวๆนี้ก็น่าแวะมาลองดูค่ะ... อ่านต่อ
60 Likes0 Comment
photo