- หน้าแรก
/
- รูป Riedel Wine Bar & Cellar (รีเดล ไวน์ บาร์ แอนด์ เซลล่าร์) Gaysorn Village


บรรยากาศ
รู้จักครั้งแรกคือเป็นร้านไวน์ นี่เป็นครั้งแรกที่ได้มาทานอาหาร ลองเป็น all day lunch set ประทับใจและอยากไปอีกแก้วไวน์แพงๆที่เคยเห็นหลักๆมาจากriedel แล้วก็เลยค้นมาเจอร้านอาหาร+wine cellarที่มีตู้กดให้ลองtasteเป็น wine by glass(by volumeอีกที)หลากหลายราคาตั้งแต่ไม่ถึง100ไปจนหลายพัน เคยไปครั้งแรกตอนใกล้ปีใหม่ก็คือไปซนลองชิมไวน์กดๆมาเลือกเล่น ประทับใจตัวนึงจากtoscana 2014มาก ชื่อampeliea เป็นองุ่นcaber francเด่น ละให้กลิ่นเหมือนข้าวญี่ปุ่นแบบเห้ยย ลองเล่นหลายตัวอยุ แต่ตัวนี้ประทับใจมากจริงๆ หลังจากนั้นไม่มีโอกาสไปอีกพักใหญ่
จนคราวนี้เจอ all day lunch set เป็น course menu แถม house wine ลองดูรูปแล้วคิดว่าน่าจะอร่อยคุ้ม ก็เลยได้มาลอง พบว่าไม่ผิดหวังจริงๆ ส่วนตัวเลือกเป็น 4course menu 1290++ เค้าจะมีตัวเลือกให้เลือกตามกลุ่มต่างๆ แล้วhouse wine1แก้ว ไม่ได้ให้ลองtaseก่อนนะ ต้องขอเค้า red(merlotไม่ได้ขอดูฉลาก) white(pinot griogio) ให้tone acidและbalanceดี จบแบบกลมกล่อม ทั้งคู่ สรุปเลือกเป็นmerlotมา เพราะกะไว้ว่าน่าpairingกับเมนูที่เลือกได้เยอะกว่า ทุกจานเป็นportionปกติหมด เริ่มที่จานแรก truffle soup ละมุนหอมกลมกล่อม เสริฟมาด้วยอุณหภูมิกำลังร้อนพอเหมาะพอดี มีพริกไทยป้ายไว้ขอบจานเล็กน้อย ด้านบนน่าจะเรียกว่าปอเปี๊ยะขลุ่ย อันนี้แอบอมน้ำมันหน่อยนึง น่าจะลงทอดตอนน้ำมันไม่ร้อนพอ(ขอแอบหักคะแนน) กินกับmerlotก็กลางๆ ไม่ขัดกัน และอร่อยแบบคำสุดท้ายซุปยังพออุ่นๆอยู่(ขอยกความดีความชอบให้ภาชนะที่ร้านเลืิกใช้ คือคัดสรรรายละเอียดมากๆในทุกจาน) จานต่อมา เป็นspicy crab linguine พาสต้าที่มั่นใจว่าร้านทำเส้นเอง(textureค่อนหนาได้เคี้ยวเกือบหนึบแต่ไม่กรุบ)ผัดพริกแห้งใส่เนื้อปูแบบgenerous ประทับใจสุดในจานคือมะเขือเทศsundired รสมันแอบออกเปรี้ยวนิดๆแต่ยังมีความหวานอยู่เล็กน้อย กินพร้อมกับชีสparmesanที่ไม่รู้ว่าใช้เป็นตัวหรูหราparmegiannoเลยมั้ย?มันคือลงตัวมากๆ😇 ละถ้าตักทุกคำรวมๆกะนก็จะอร่อยใช้ได้ แต่ชีสคือตัวสมานรสที่ดีงามในแต่ละคำเหมือนลมเย็นๆข้างสระว่ายน้ำแล้วมะเขือเทศจะเป็นตัวตัดให้ได้อีกรสนึงมา เพิ้มความสดชื่นแบบเหมือนมีแดดส่องหน้า ร้านมีsalt n pepperแยกมาให้เผื่อเลี่ยน แต่เราไม่เลี่ยนเพราะกดไวน์เป็น sauvignon blancมา ไม่ได้ถ่ายฉลาก ร้านแนะนำมาได้ดีเลย (แก้วนี้200นิดๆ) ตัวนี้กินแล้วเหมือนทุกคำจะจบแล้วรีเฟรชใหม่ ไม่ถึงกับเสริมกันจนเคลิ้มแต่มันเหมาะกับจานผัดๆงี้แหละ อันต่อมาคือชอบสุดๆเลย แก้มวัวตุ๋น เมนูอร่อยหรูหราที่มักจะตามมาด้วยความเลี่ยนเอ็นตุ๋น ตัวเนื้อแก้มมันจะมีชั้นไขมันคล้ายcollagenพอประมาณ เวลาตุ๋นจนเปื่อยนุ่มมันจะฟินเหมือนกึ่งๆละลายในปากเอาลิ้นดุนฟืนๆคำแรกๆ แต่พอถ้าไม่ร้อนคือเลี่ยน(textureเลี่ยนลิ้นแบบตรงส่วนคากิเนื้อแทรกเอ็นที่ทิ้งไว้เย็นงี้) อันนี้คือเชฟเจาะลึกรายละเอียดมาก เริ่มจากเสิร์ฟมาจานร้อน(ไม่รู้ตั้งใจหรืออุ่นจานไว้รอกินพาสต้าหมด แต่คือดีงาม) กะปริมาณpotatomash(ที่อร่อยแบบหลับตาแล้วเคลิ้ม มันนุ่มละมุนดีงามจริงๆ)มาพอเหมาะกับปริมาณsauceที่เข้าใจว่าเป็นแบบreductionเพื่อไม่ให้ข้นจนเลี่ยน ซึ่งมันเข้ากันมากกก ผักแกล้มคือเน้นตัดรส แครอทนั่นดองน้ำส้มนะ ละเห็นแว้บๆคือเห็ดคล้ายๆเห็ดภูฐานดองน้ำส้ม+เกลือแล้วมาย่างให้ขอบสุกกรอบ ส่วนผักไม่รู้ชื่อมีกลิ่นอ่ินๆเฉพาะตัว จานนี้คือกินอร่อยยันคำสุดท้าย(เลือกไวน์แดงแต่แรกเพราะจะกินกับอันนี้นี่แหละ) จบมื้อด้วยของหวาน creme brule มีส้มแมนดารินด้านบน กลางๆค่อนดี รุสึกตัวน้ำตาลที่โรยสำหรับbruleแอบหนาไปนิส รสขมน้อยๆที่คลาสสิคแทบไม่เจอเลย คาดว่าเค้าคงกลัวส้มเปรี้ยว แต่มันไม่เปรี้ยวเท่าไหร่ หรือกินไม่ถูกวิธีเองก็ไม่แน่ใจ ตัวคัสตาร์ดเนียนนุ่มโอเคนะ ยังแอบเย็นอยุ่(อาจเป็นเหตุผลให้น้ำตาลไม่ไหม้เท่าที่ควร) โดยรวมคือประทับใจอาหารมาก อร่อย ต้องหาโอกาสไปอีกเรื่อยๆ (จริงๆอันนี้กิน2คนน่าจะได้ แต่ว่าเรากินเยอะ คนเดียวเกลี้ยงทุกอย่าง555)
0 Like0 Comment
