4.7
6 เรตติ้ง (5 รีวิว)
ปิดอยู่จะเปิดในเวลา 12:00
Jharokha by Indus
Jharokha by Indus เปิดหน้าต่างโลกอาหารอินเดียในบรรยากาศเมืองราชสถานนี่คือร้านใหม่ในเครือของร้านอาหารอินเดีย Indus ร้านรางวัล LINE MAN Wongnai Users’ Choice 2024 ที่เข้าขั้นร้านอาหารอินเดียที่คนกรุงเทพฯ ชื่นชอบ ยิ่งแตกแบรนด์มาสู่ Jharokha by Indus บนชั้น 2 ของตึก Erawan Bangkok ยิ่งทำให้เข้าถึงแฟนคลับมากขึ้นอีก แน่นอนว่าที่นี่มีความต่างจาก Indus อยู่บ้าง ในเรื่องของบรรยากาศและสไตล์อาหารที่โมเดิร์นขึ้น . จาโรก้า มาในบรรยากาศของโปโลคลับในแคว้นราชสถานที่มีความหรูหราด้วยไม้มะฮอกกานี และหนัง รวมถึงรูปวาดของนกยูงที่สื่อถึงกษัตริย์และอำนาจในอินเดีย สำหรับคำว่า Jharokha มีความหมายว่า หน้าต่าง ที่ต้องการสื่อสารกับคนกินว่าที่นี่เปรียบได้กับหน้าต่างไปสู่โลกของอาหารอินเดีย . ส่วนคอนเซปต์ของอาหารนำเสนออินโนเวทีฟของ Kopa เตาถ่านที่ใช้อบอาหาร ซึ่งเป็นหนึ่งในเทคนิคที่นำมาใช้ควบคู่กับเทคนิคดั้งเดิมอย่าง Tandoor ที่สำคัญที่นี่เลือกใช้วัตถุดิบท้องถิ่นเป็นหลัก ไม่ว่าจะเป็น ไก่ออร์แกนิกจากคลองไผ่ในโคราช เนื้อปูจากสุราษฏร์ธานี และผักผลไม้ที่ปลูกในบ้านเรา โดยมีเชฟ Sanket Hoskote ที่เคยทำงานกับ Carnival by Tresind ร้านโมเดิร์นอินเดียในดูไบ และ Alchemy ในบังกาลอร์ อินเดีย ซึ่งไ้ดทำงานร่วมกับตำนานเชฟอย่าง Hari Nayak จนทำให้ร้านนี้กลายเป็นร้านอาหารอินเดียโมเดิร์นที่ดีที่สุดของประเทศ . มาที่นี่คุณสามารถเริ่มต้นที่ค็อกเทลที่บาร์ในส่วนต้อนรับ ก่อนมากินอาหารที่ห้องอาหารหลัก เราเริ่มจาก Bhuna Kalejji คุกกี้รูปกุหลาบที่ยัดไส้ด้วยปาเต้ไก่ผสมเครื่องเทศ ตามด้วย Bheja Pav เฟรนซ์โทสต์หน้าสมองแพะและมันฝรั่งทอดกรอบ Himalayan Gucchi and Khumb เห็ดมอเรลจากเทือกเขาหิมาลัยยัดไส้ครีมย่างถ่านกับเห็ดนางรมซูวีด และเกรวีเห็ดมอเรล แต่ที่ชอบเป็น Chutney platter รากบัวทอด กับนานจิ๋ว กินกับชัตเน่ต่าง ๆ . Batak Seekh Kebab เคบับเนื้อเป็ดย่างทันดูร์มาพร้อมกับชัตเน่สับปะรด ตามด้วย Shikari Maas ke Sule สันในแกะหมักกับพริก Mathania ส่งตรงจากราชสถาน นำไปย่างใน Kopa . มาที่เมนคอร์ส Champaran Gosht เนื้อแพะตุ๋นนาน 6 ชั่วโมง ในหม้อดินที่ปิดด้วยแผ่นแป้ง ทำให้ด้านในร้อนระอุ มีข้าวบริยานี นาน กาลิคนาน ให้เลือกกินด้วยกัน นอกจากนี้ยังมี Paneer Anarkli แกงกะหรี่ชีสพานีย์ . จบด้วยของหวาน เราชอบนะไม่หวานแบบที่เคยกิน จานแรกเป็น Kesar Falooda ไอศกรีมกลิ่นกุหลาบกับโดมซัฟฟรอน Banana Kulfi ที่หน้าตาเป็นรังผึ้ง ไอศกรีมกลิ่นกล้วย กินกับน้ำผึ้งดอกลำใย และมูสมะพร้าว และ Pondi “Cherry” ที่ใช้ช็อกโกแลตจากเมือง Pondicherry มากินกับ Himachai Cherries เชอร์รีจากอินเดีย . ใครชอบอาหารของ Indus เราเชื่อว่าต้องชอบ Jharokha by Indus เพราะกินง่ายขึ้นอีกสำหรับคนที่อาจจะไม่ชอบกลิ่นรสเครื่องเทศแบบดั้งเดิม .... อ่านต่อ
0 Like0 Comment
photo