4.0
162 เรตติ้ง (125 รีวิว)
เปิดอยู่จนถึง 23:59
เมนูของร้าน บ้านไร่ยามเย็น - Baanrai Yarmyen Restaurant
ยำไข่มดแดงไข่เยอะดี
ร้านอาหารพื้นบ้านล้านนา เหมาะแก่การรับแขกเราได้มากินอาหารที่ร้าน บ้านไร่ยามเย็น จากคำแนะนำของญาติเราเอง ถ้าให้อธิบายเส้นทางคงจะไม่ถูกต้องเพราะไม่ใช่คนเชียงใหม่ แนะนำให้มาตาม google maps รับรองไม่พลาด หนทางลึกลับซับซ้อนนิดหน่อย ที่จอดร้านมีตรงหน้าร้าน แนะนำให้มาแต่หัววันเพราะเป็นร้านยอดฮิต อาหารอร่อย บรรยากาศดี มีเพลงเพราะๆให้ฟัง ใครมาช่วงค่ำนี่ไม่มีที่จอดรถเลยทีเดียว แถมโต๊ะที่ถูกจองก็เยอะมาก เมื่อเดินผ่านซุ้มประตูด้านหน้าของร้านจะรู้สึกถึงการตกแต่งแบบเหนือๆ มีตุงตรงทางเข้าร้าน พร้อมกับเพลงบรรเลงเบาๆ โต๊ะเก้าอี้ทำด้วยไม้ มีโซนน้ำตกจำลอง มีในตัวอาคารและด้านนอก ในร้านไม่กว้างนักและจัดตะค่อนข้างใกล้กัน พอคนเยอะรู้สึกถึงความอึดอัดหน่อยๆ พอค่ำจะมียุงเยอะ ตัวใหญ่มาก ขอยาทากันยุงได้ที่พนักงาน อาหารทั้งหมดเป็นอาหารพื้นบ้านล้านนา มีเมนูที่หาทานได้ยากอยู่หลายเมนู น่าสนใจมาก เราว่าราคาก็ยังอยู่ในระดับที่เหมาะสม ไม่แพงจนเกินไป เมนูที่เราได้ลองมีเยอะมากๆ แต่ละเมนูก็อร่อยๆด้วยกันทั้งนั้น น้ำพริกข่า จิ้นนึ่ง (ราคา 220 บาท) – มาเหนือแล้ว นอกจากน้ำพริกอ่องและน้ำพริกหนุ่มแล้ว น้ำพริกข่าก็เป็นอีกเมนูที่พลาดไม่ได้เช่นกัน น้ำพริกข่าของร้านนี้จะคล้ายน้ำพริกตาแดง คลุกข้าวได้ ไม่ใช่น้ำพริกแห้งๆ มีผักเคียงมา พร้อมกับจิ้นนึ่งเยอะมาก คนรักเนื้ออย่างเราฟินสุดๆ จิ้นนึ่งก็คือเนื้อควายหรือเนื้อวัวที่นำมานึ่งให้เปื่อย รับประทานคู่กันกับน้ำพริกข่า แนะนำให้ทานร้านๆเพราะมันเพิ่งนึ่งมา เนื้อวัวนุ่มมาก ช่วงน่องลายจะมีเอ็นกรุบๆ ถ้าทิ้งไว้จนเย็นเนื้อจะเหนียว คั่วเห็ดถอบ (ราคา 130 บาท) – เข้าใจว่าไม่ใช่ฤดุเห็ดถอบ ดังนั้นก็ได้เห็ดแก่ สีเข้มจนคล้ำ บางคนอาจจะชอบเพราะเคี้ยวกรุบๆดี แต่เราว่ามันออกจะเหนียวไปหน่อย ในแง่ของรสชาติแน่นอนว่าอร่อยทีเดียว ไม่จัดจนเกินไป แกงผักหวานปลาแห้ง (ราคา 120 บาท)– โอ๊ย เมนูนี้อร่อยมากกกก แกงผักหวานสไตล์ล้านนา น้ำสีแดงใสๆ ไม่เผ็ดจนเกินไป ใส่ผักหวาน ปลาแห้ง และวุ้นเส้น แปลกใจที่วุ้นเส้นของร้านนี้ทิ้งไว้ก็ไม่อืด รสชาติกำลังดี ชอบขนาดที่ซดจนน้ำแกงหมดเลยแหล่ะ ยำไข่มด (ราคา 120 บาท) – จานนี้อร่อยไม่แพ้กัน ไข่มดเยอะมากๆ ให้มาไม่อั้น ใส่เครื่องสมุนไพรน้อยกว่า ทำให้เราได้กินไข่มดเต็มๆคำ รสชาติแบบภาคเหนือ ไม่ได้จัดจ้านแบบอีสานแต่ก็กินเพลินๆได้จนหมดจาน จิ้นส้มหมก (ราคา 100 บาท) – ชื่อเค้าเรียกกันเป็นภาษาเหนือ แต่ที่เข้าใจง่ายๆก็คือแหนมที่นำไปย่างไฟทั้งห่อนั่นเอง จานนี้เราว่าธรรมดาไปหน่อย มันเหมาะกับเป็นกับแกล้มมากกว่ากับข้าว ส้าผักแพะ (ราคา 110 บาท) – อีกเมนูที่หาทานยาก ไม่สามารถหาทานได้ในกรุงเทพฯ ส้ม ในภาษาเหนือ แปลว่า ยำ ดังนั้นเมนูคือการยำผักแพะ ผักแพะนี่ไม่ใช่ผักชนิดเดียว แต่ตามที่ค้นหาข้อมูลมา แพะ แปลว่าป่าละเมาะ ผักแพะก็คือผักที่ขึ้นตามป่า ประกอบด้วยผักหลายๆอย่าง เช่น ยอดผักขี้ติ้ว ยอด-ดอกปู่ย่า ยอดเหมือด ดอกครั่ง ยอดผักจ้ำ ยอดมะม่วง ยอดดอกโศก ซึ่งผักดังกล่าวจะมีรสฝาด มันเปรี้ยว และมีกลิ่นหอม และอาจจะใส่ผักอย่างอื่น พวกผักคาวตอง ผักชีฝรั่ง ผักกาดน้อย หรือผักกาดต้นเล็ก ลูกมะกอกลงไปด้วยแล้วแต่สูตร(ที่มา-https://www.matichonweekly.com/column/article_75642) รสชาติของเมนูนี้ไม่คุ้นกับลิ้นเราซะเลย ก็ฝากๆเปรี้ยวๆเหมือนยำ ผอมสมุนไพร แปลกดี หมูเค็มทอด/เนื้อเค็มทอด (เมนูละ 130 บาท) – น่าจะมีการตากแดดเพราะเนื้อให้รสชาติเหมือนเนื้อแดดเดียว เค็มไปนิด กินกับข้าวเหนียวจะเหมาะกว่ากินเปล่าๆ ปลาบึกลวกจิ้ม (ราคา 160 บาท) – เมนูที่คุณอาสั่งมาให้ลอง เราว่าปลาบึกนี่ออกคาวๆนะ แม้จะมีน้ำจิ้มให้จิ้มและผักกินคู่กัน ส่วนตัวรู้สึกว่าปลาชนิดอื่นอร่อยกว่า หรือว่าเราไม่ค่อยชอบปลาน้ำจืดก็ไม่รู้แหะ โดยรวมชอบและอยากแนะนำร้านนี้ เป็นอีกหนึ่งร้านของคนเชียงใหม่ในการพาคนต่างถิ่นมาลิ้มรสและสัมผัสบรรยากาศแบบล้านนา ราคาก็ไม่แพงจนเกินไป เหมาะแก่การเป็นร้านที่รับแขกจริงๆ... อ่านต่อ
14 Likes0 Comment
photo