4.1
21 เรตติ้ง (13 รีวิว)
เปิดอยู่จนถึง 23:00
เมนูของร้าน ย้อยยำตำนัว
แซ่บสะท้านกับขนมจีนน้ำย้อย และเมนูตำยำมากมาย ที่ ย้อยยำตำนัว เชียงใหม่“ขนมจีนน้ำย้อย” นับเป็นของกินที่ขึ้นชื่อมากใน อ.ลอง จ.แพร่ ครับ เนื่องจากเป็นขนมจีนที่หากินได้ค่อนข้างยากในจังหวัดอื่นที่ไม่ใช่แพร่ เลยทำให้น้อยคนนักที่จะมีโอกาสได้ลิ้มลองรสชาติของเมนูที่ว่านี้ แต่ก็ต้องบอกว่านี่คือคามโชคดีของชาวเชียงใหม่เลยจริง ๆ ครับ ที่ตอนนี้ได้มีร้าน ย้อยยำตำนัว เชียงใหม่ มาเปิดให้บริการ พร้อมเมนูเด่นประจำร้านที่ใครมาก็ต้องสั่งอย่าง ขนมจีนน้ำย้อยสูตรต้นตำรับจากเมืองลอง เอาเป็นว่าถ้าพร้อมแล้วเดี๋ยวเราไปชิมกันเลยดีกว่าครับ ร้าน ย้อยยำตำนัว เชียงใหม่ ที่เรากำลังจะเดินทางไปกันนี้ตั้งอยู่แถว ๆ สันติธรรม ถ้าเพื่อน ๆ มาจากทางแจ่งหัวลิน ให้ตรงมาเรื่อย ๆ เมื่อถึงวัดสันติธรรมให้ชะลอรถ แล้วเลี้ยวเข้าถนนช้างเผือก ซ.2 ทางด้านขวามือ พอเลี้ยวเข้ามาแล้วเราก็จะเห็นร้านเป้าหมายของเราในวันนี้อยู่ทางขวามือ เมื่อเข้ามานั่งในร้านเมนูแรกที่ผมสั่งไปแน่นอนว่าจะต้องเป็นขนมจีนน้ำย้อยอยู่แล้วล่ะ โดยวันนี้ผมเลือกสั่งเป็นขนมจีนน้ำย้อยชุดสุดคุ้ม (159 บาท) โดยภายในชุดนั้นก็จะประกอบไปด้วย “เส้นขนมจีนแป้งหมัก” ที่บีบกันสด ๆ จำนวน 1 กก. ซึ่งข้อดีของขนมจีนแป้งหมักหรือเส้นหมักเนี่ยก็คือความเหนียวนุ่ม บวกกับกลิ่นหอมของเส้น ที่ขนมจีนเส้นสด (เส้นสีขาว) นั้นไม่สามารถให้เราได้ และที่สำคัญเลยคือมันทำให้ความฟินเวลากินกับ “น้ำพริกน้ำย้อย” เนี่ยมันเพิ่มขึ้นแบบทวีคูณเลย! โดยตัวน้ำพริกน้ำย้อยก็จะมี 3 รสชาติคือ รสดั้งเดิม, กุ้งกรอบ และหมูกรอบ ส่วนตัวแล้วผมชอบแบบดั้งเดิมมากกว่ากินแล้วมันแซ่บสะใจดี นอกจากเส้นขนมจีนและน้ำพริกน้ำย้อย สิ่งที่มาพร้อมกันอีกก็มีผักเครื่องเคียง, กากหมู และน้ำขนมจีน 3 ชนิดที่ประกอบไปด้วย “น้ำใส” ตัวนี้เป็นออริจินอลที่มาควบคู่กัน แบบที่อ.ลอง จ.แพร่ เขากินกันเลย “น้ำเงี้ยว” แบบชาวเชียงใหม่ และ “น้ำยากะทิ” เข้มข้นหอมมัน ส้มตำชาชูกรอบ (169 บาท) เมนูนี้คือแปลกดี พอได้ลองกินแล้วก็คือชอบมากเลยครับ โดยทางร้านจะเสิร์ฟส้มตำมาให้เรา (เลือกได้นะว่าจะเอาตำไทยหรือตำปูปลาร้า) พร้อมกับหมูชาชูที่ผ่านการหมักด้วยเคล็ดวิชาลับเฉพาะของทางร้าน แล้วจึงเอาไปทอดจนกรอบกรุบ ๆ เคี้ยวแล้วเพลินสุด ๆ จนหยุดไม่อยู่ ยิ่งจับคู่กับส้มตำนะบอกเลยว่าหวงสุด! ชนิดที่ว่าใครมาขอลองชิมผมนี้บอกให้สั่งมาเองอีกจานเลย 55555 มาต่อกันที่ ตำกุ้งตกครก (120 บาท) และ ตำหมูตกครก (79 บาท) สองจานนี้จะคล้าย ๆ กันแค่เปลี่ยนหมูเป็นกุ้งและเปลี่ยนกุ้งเป็นหมู (เอ๊ะ! จะพูดวนทำไม) รสชาติของเมนูนี้ก็จะออกมาแซ่บนัว โดยการเอาน้ำปลาร้าและเครื่องต่าง ๆ มาคุลกเคล้าเข้ากับกุ้งสดและหมูย่าง จะกลายเป็นอีกเมนูที่กินได้เพลินมาบอกเลย ยำทะเลโหด (1,499 บาท) บอกเลยว่าเมนูนี้โหดสมชื่อจริง ๆ สั่งปุ๊บยกอาหารทะเลมาเป็นถาดใหญ่เลยจ้า! หมึกกล้วยไข่เล็ก, ปูม้า, หอยแมลงภู่, กุ้ง และปลากะพง วางเรียงอัดแน่นมาแบบเต็มถาดอย่างละ 1 กก. พร้อมกับน้ำจิ้มซีฟู้ดรสสะแด่วลิ้น ทั้งหมดนี้ถ้าคิดเฉลี่ยนนะตกอย่างละ 300 บาทเอง! เห้ย!!..คือราคานี้ผมคิดว่าที่เชียงใหม่อาจจะหาที่ไหนไม่ได้แล้ว แถมเรื่องความสดก็ห่วงนะจ้ะ เพราะอาหารทะเลเชียงใหม่ที่ร้านนี้จัดขึ้นเครื่องบินส่งตรงจากทะเลมาทุกอาทิตย์ เอาเป็นว่าถ้าใครอยากกินอาหารทะเลเชียงใหม่แบบสะใจ ๆ จัดชุดนี้ไปถูกใจแน่นวลอะ ห่อหมกมะพร้าวอ่อนทะเล (199 บาท) ถ้าชุดเมื่อกี้มันใหญ่ไปกลัวกินไม่หมด จะสั่งเป็นห่อหมกทะเลก็ได้นะ เพราะในมะพร้าวอ่อนลูกนี้มีอาหารทะเลรวมไว้ทั้ง 5 อย่างเลย ทั้งกุ้ง, หมึก, หอยแมลงภู่, เนื้อปู และเนื้อปลากะพง ส่วนรสชาติก็เข้มกลมกล่อมตามมาตรฐานของความเป็นห่อหมกเลยจ้า เอาใจคนรักน้องจุ้งงงง..ด้วย กุ้งเผา (S 300 บาท , L 580 บาท) ฟินสุด ๆ ไปเลยจ้ากับกุ้งตัวใหญ่ไซส์เพ้! ที่ส่งตรงมาจากฉะเชิงเทรา ให้เราได้ลิ้มลองรสชาติของมันหอม ๆ ที่หัว และเนื้อตัวที่กรอบเด้งสู้ฟัน จนเหมือนน้องกุ้งกำลังเล่นปล้ำกันอยู่กับลิ้นยังไงก็ไม่รู้ แถมยังมาคู่กับน้ำจิ้มซีฟู้ดรสสะแด่วลิ้นอีก โอ้ยยย..พ่อจ๋าแม่จ๋าอยากบอกว่า..​หนูฟินดิ้นไปดิ้นมาแปดล้านตลบเลยแหละ แอร๊ยยย~ ปิดท้ายวันนี้กันด้วยเมนู ยำปลากะพงทอดสมุนไพร (320 บาท) ที่ใช้ปลากะพงทอดไซส์ใหญ่ น้ำหนักแต่ละตัวก็ใกล้ ๆ หนึ่งโลกันทั้งนั้น โดยจะเอาหั่นออกมาเป็นชิ้นแบบพอดีคำ แล้วทอดจนสุกเหลืองกรอบ แล้วราดด้วยน้ำยำสมุนไพรรสแสบแซ่บลิ้น บอกตรง ๆ เลยว่าประทับใจกับร้าน ย้อยยำตำนัว เชียงใหม่ มาก ๆ เลยครับ เพราะนอกจากจะมีเมนูหากินยากอย่าง “ขนมจีนน้ำย้อย” แล้ว เรื่องอาหารทะเลเชียงใหม่แบบสด ๆ ความแซ่บจากเมนูตำและเมนูยำ ก็ยังเป็นอะไรที่ดีงามไม่แพ้กันอีกด้วย... อ่านต่อ
0 Like0 Comment
photo