4.2
104 เรตติ้ง (80 รีวิว)
ปิดอยู่จะเปิดในเวลา 11:30
Mizu 水 by Sankyodai
Bara Chirashi
ยกกันมาทั้งท้องทะเล การันตีด้วยความสดใหม่ของปลาดิบคุณภาพเยี่ยม พร้อมเมนูอาหารญี่ปุ่นพรีเมี่ยมถูกปากและถูกใจMizu by Sankyodai ร้านอาหารญี่ปุ่นร้านใหม่ในเครือเดียวกันกับร้าน Sankyodai ที่แตกหน่อแตกสาขาออกมา ร้านนี้เค้ายังคงยืนยันในคอนเซปท์ของอาหารญี่ปุ่นแบบพรีเมี่ยมครับ โดยมีเมนูชูโรงเป็นเมนู Omakase แบบเชฟจัดให้ที่มีพร้อมให้บริการอยู่ในทุกๆเย็นๆของทุกวันครับ ที่มาของชื่อร้าน "Mizu" นั้นก็มีที่มาแบบตรงๆเลยครับ คือแปลว่า "น้ำ" นั่นหมายถึงว่าทุกเมนูของทางร้านนั้นจะมาจากในน้ำเท่านั้นครับ ไม่ว่าจะเป็นปลา กุ้ง หอย ปลาหมึก เมนูที่มาจากบนบกนั้นจะไม่มีในร้านนี้ แต่จะไปอยู่ที่ร้านแม่อย่าง Sankyodai แทนครับ ด้วยความที่ร้านนี้ตั้งอยู่ในตึกชาญอิสระใกล้กับซอยธนิยะที่มีแต่คนญี่ปุ่นเดินกันพลุกพล่าน จึงไม่แปลกใจครับที่ในทุกเที่ยงของทุกวันนั้นลูกค้าที่มาทานเกือบจะ 100% จะเป็นคนญี่ปุ่นทั้งหมด วันนี้พวกผมยกทัพกันมาทาน Lunch Set ของทางร้าน ขอบอกเลยครับว่ามันอลังการงานสร้าง ทางร้านจัด Lunch Set มาแบบจัดเต็ม ทานแล้วอิ่มไปจนถึงเย็นได้เลยครับ คุณภาพของอาหารนั้นก็ไม่ต้องกังวลครับเพราะชื่อของ Sankyodai นั้นการันตีคุณภาพอยู่แล้วแน่นอนครับ [วิธีการเดินทาง] ร้านนี้ตั้งอยู่ที่ชั้น 2 ของตึกชาญอิสระในย่านสีลม-ลุมพินี-พระราม 4 ครับ ร้านอยู่ติดกับร้าน Hokkaido Ramen เลยครับ วิธีการเดินทางมายังตึกนี้นั้นสามารถเข้ามาได้หลายทางครับ ถ้าขับรถมาให้ขับรถเข้ามาจอดในตึกชาญได้จากทางเข้าฝั่งพระราม 4 แต่ถ้านั่ง BTS มาแนะนำให้ลงที่สถานีศาลาแดง เดินเข้าซอยธนิยะเห็น 7-Eleven ด้านขวามือเมื่อไรให้เดินเลี้ยวขวาเข้าซอยด้านข้างที่มีขาวข้าวแกงเยอะๆ แล้วเดินสะพานเหล็กเข้ามายังตึกได้เลยครับ เข้ามาจะเจอร้านอยู่ร้านที่สองถัดจากร้าน Hokkaido Ramen เลยครับ [บรรยากาศ/การบริการ] ร้านนี้เป็นร้านอาหารญี่ปุ่นแบบพรีเมี่ยม บรรยากาศภายในร้านก็เลยดูหรูหราสวยงามตามไปด้วยครับ ร้านนี้ค่อนข้างเล็กนะครับ มีโต๊ะที่นั่งอยู่แค่ประมาณ 4 โต๊ะเท่านั้นและที่นั่งที่บาร์อีกเพียง 8 ที่นั่งครับ ถ้าจะมาทานผมแนะนำให้โทรมาจองโต๊ะไว้ก่อนเลยดีกว่าครับ เพราะร้านนี้ลูกค้าจะแน่นมากๆในช่วงเที่ยงวันของวันธรรมดา ส่วนตอนเย็นก็ได้ข่าวว่าลูกค้ามาทาน Omakase Set กันอย่างเนืองแน่นเลยเช่นกันครับ ด้วยความที่ร้านวาง positioning ตัวเองให้เป็นร้านอาหารญี่ปุ่นแบบพรีเมี่ยมแล้ว การบริการของพนักงานในร้านนี้จึงไม่มีขาดตกบกพร่องครับ พนักงานดูแลลูกค้าได้อย่างทั่วถึงมากครับ ไม่ว่าจะเป็นการคอยสังเกตจานที่ทานหมดแล้วแล้วก็จะเข้ามาเก็บอย่างรวดเร็ว หรือจะเป็นน้ำชาที่ใกล้จะหมด ทางร้านก็จะมีการมาเติมให้อย่างทันที ส่วนของการจัดเตรียมอาหารนั้นก็ใช้เวลาไม่ช้าเกินไปครับ ทยอยมาเสิร์ฟครบถ้วนครับ [รสชาติอาหาร/ความคุ้มค่า] อาหารญี่ปุ่นของทางร้านทุกเมนูนั้นเป็นเป็นเมนูพรีเมี่ยมครับ ปลาของทางร้านนั้นอิมพอร์ตเข้ามาทั้งหมด ดังนั้นเชื่อในเรื่องของความสดใหม่ได้เลยครับ อีกสิ่งหนึ่งที่ผมชอบเลยก็คงจะเป็นข้าวของทางร้าน ที่ผมสอบถามแล้วเลยทราบว่าทางร้านนั้ใช้ข้าวพันธ์ โคชิ ฮิคาริ ที่ข้าวนั้นจะเป็ดเม็ดเรียวๆ หุงออกมาแล้วไม่เละ ไม่แข็งเป็นก้อนจนเกินไปครับ ทางร้านปรุงมันออกมาได้อร่อยเลยล่ะครับ วันนี้พวกผมมาทาน Lunch Set กัน ทางร้านมีเมนูให้เลือกอยู่ไม่เยอะมากเท่าไรเลยจัดกันมาคนละเซตแบบกะทานกันเบาๆ แต่หารู้ไม่เลยครับว่าแต่ละเซตนั้นทางร้านจัดมาให้อย่างใหญ่ ทุกเซตนั้นจะเสิร์ฟมาพร้อมเครื่องเคียงอย่างสลัดผัก ผักดอง ไข่ตุ๋น แล้วก็ซุปมิโสะครับ ก่อนปิดเซตทางร้านก็จะมีชาหรือกาแฟ และผลไม้ไว้ให้ปิดท้ายอีกด้วยครับ Irifune Bento (800 บาท) - เซตนี้เป็นเซตอาหารกลางวันที่ใหญ่ที่สุดและครบที่สุดครับ เพราะว่าจะได้ทานหลากหลายเมนูมากครับ 1) ซาชิมิ - ในเซตมีทั้งแซลมอน อากามิ แล้วก็ปลาหมึกอย่างละสองชิ้น ปลาทั้งหมดสดมากไม่มีคาวเลยครับ 2) ซูชิ - เสิร์ฟมาทั้งหมด 5 คำครับ แซลมอน หอยเชลล์ อากามิ กระพง แล้วก็อาจิครับ ซูชิของทางร้านใส่วาซาบิมาให้เรียบร้อย ข้าวซูชินั้นอร่อยมากครับ เปรี้ยวนิดๆกำลังพอดี ปลาสดใหม่ทุกคำไม่มีคาวเลยครับ 3) เทมปุระ - มาทั้งกุ้ง ฟักทอง มันม่วง เห็ดหอม แล้วก็ผักทอด ทางร้านทอดเทมปุระออกมาได้กรอบอร่อยครับ อาจจะไม่ได้ร้อนเหมือนเพิ่งขึ้นออกมาจากเตา แต่ก็ยังกรอบอร่อยอยู่ครับ น้ำจิ้มเทมปุระก็อร่อยครับ 4) เมนูอื่นๆ - ในช่องเบนโตะนี้ก็มีทั้งปลาหิมะย่างด้วยซอสไข่ปลา ไข่หวาน ผักดอง ยำสาหร่ายแล้วก็ปลาตัวเล็กทอด ไข่หวานของทางร้านเนื้อเนียนนุ่ม หวานอร่อยมากๆครับ Sushi Set (750 บาท) - ซูชิเซตนี้ประกอบไปด้วย ซูชิทั้งหมด 9 คำ พร้อมกับมากิอีก 6 คำครับ ซูชิของทางร้านจะเป็นซูชิพรีเมี่ยมแบบ Chef Selection แล้วแต่วันนะครับ ไม่สามารถเลือกได้ อย่างวันนี้ 9 คำที่เสิร์ฟมาเป็น ไข่ปลาแซลมอน อานาโกะ (ปลาไหลทะเล) ปลากระพง ปลาหมึก ปลาแซลมอน ปลาซาบะย่าง ปลาฮามาจิ แล้วก็ปลาทูน่า อากามิ แล้วก็ชูโทโร่ครับ ส่วนมากิเป็นมากิอากามิทั้ง 6 คำครับ - ซูชิของทางร้านนั้นคำใหญ่กำลังพอดีครับ ปลาสดใหม่ทุกคำ ข้าวซูชิก็อร่อย ทานหมดนี่ยังไงก็อิ่มแน่นอนครับ Bara Chirashi (600 บาท) - เซตนี้เสิร์ฟเป็นข้าวหน้าปลาดิบแบบหั่นลูกเต๋าครับ ทางร้านให้ข้าวหน้าปลาดิบมาอย่างใหญ่มากครับ ปลาดิบที่ให้มานั้นก็มีทั้งปลาแซลมอน อากามิ อานาโกะ ไข่ปลาแซลมอน ปลาซาบะดอง ไข่หวาน ไข่กุ้ง และแตงกวาครับ - ทางร้านให้ปลาดิบมาเยอะมาก ชิ้นเล็กบ้างใหญ่บ้างสลับๆกันไป แต่คุณภาพแต่ละชิ้นนี่คับแก้วครับ อร่อยทุกชิ้นทุกคำเลยครับ Unajyu (450 บาท) - เซตนี้เป็นข้าวหน้าปลาไหลย่างเสิร์ฟมาพร้อมกับกระเจี๊ยบ ปลาไหลของทางร้านเป็นปลาไหลตัวใหญ่ชิ้นใหญ่ ย่างมาได้หอมมากครับ ซอสที่ราดมาก็เข้มข้นหวานมันถูกใจมากครับ Gindara Tobiko Yaki (480 บาท) - เมนูนี้เป็นเมนู A La Carte ที่ลองทานกันเพิ่มเติม เป็นปลาหิมะย่างราดมาด้วยซอสไข่กุ้ง ปลาหิมะนี่ไม่ต้องพูดอะไรมากก็พอจะทราบกันอยู่แล้วว่ามันอร่อยมากๆ ทางร้านย่างมันออกมาได้หอมมันอร่อย เนื้อของปลาหิมะนั้นก็หวานอร่อย ยิ่งได้ความกรึบของไข่กุ้งที่โรยมาด้านบนอีกยิ่งทำให้เมนูนี้อร่อยมากขึ้นไปอีกด้วยครับ ราคาของ Lunch Set ทั้งหมดนี้เป็นราคาเน็ทแล้วนะครับ ไม่มีการบวกเพิ่มใดๆทั้งสิ้น เมื่อเทียบราคากับคุณภาพแล้วผมขอบอกเลยครับว่ามันไม่ใช่แค่อิ่มอย่างเดียว แต่ความอร่อยที่ได้รับนั้นมันคุ้มค่ากับที่จ่ายไปอย่างยิ่งครับ ใครที่มีงบประหยัดหน่อยทางร้านก็มีวัตถุดิบที่รองลงมาอีกหน่อย ก็ยังสามารถอร่อยได้เหมือนกันครับ ร้านนี้แม้จะเป็นร้านใหม่แต่คุณภาพนั้นก็ไม่ได้แพ้ร้านดังๆร้านไหนเลยครับ ประทับใจตั้งแต่บรรยากาศ คุณภาพอาหารแล้วก็รสชาติ เดี๋ยวยังไงต้องมาลอง Omakase ของทางร้านดูอีกสักที เชื่อว่าไม่มีผิดหวังแน่นอนครับ... อ่านต่อ
68 Likes0 Comment
photo