- หน้าแรก
/
- "Copa Cabana" หรือ "Coconut strawberry" ร้าน Paris Mikki สุขุมวิท 19
ขนมหวานสไตล์ฝรั่งเศสระดับตัวแม่ ใครชอบ "Authentic French Pastry" ไม่ควรพลาดร้านนี้เค้าบอกเลยว่าขนมเค้าเป็น "Authentic French Pastry" คือเป็นขนมหวานสไตล์ฝรั่งเศสอย่างแท้จริง เชฟจ้าของร้าน เชฟแครอล (Carol Boosaba) เชฟไทยที่ทำงานที่ฝรั่งเศสกว่า 9 ปี เคยทำงานกับร้านดังๆอย่าง Angelina และ Laudree มาแล้ว วัตถุดิบต่างๆ ที่นำมาทำขนมคัดมาอย่างดี เนยนำเข้าจากฝรั่งเศส ดังนั้นทั้งเรื่องฝีมือและรสชาติไม่ต้องกังวลเลยค่ะ
Location: อยู่ชั้นล่างของอาคารเมธาวัฒนา ซอยสุขุมวิท 19 ร้านอยู่ติดถนน มองเห็นได้เลย สามารถจอดรถในที่จอดรถของอาคารได้ฟรี(จอดได้ไม่เกิน 1 ชั่วโมง) ถ้าเดินทางด้วย BTS ลงสถานีอโศกแล้วเดินเข้าซอยสุขุมวิท 19 ไปประมาณ 200 เมตร
ขนม: Authentic French Pastry ขนมมีให้เลือกเยอะมากๆ ถ้าจะกินให้ครบคงต้องไปหลายๆรอบ มีขนมที่หากิน(อร่อย)ยากเช่น St Honore ด้วย Mille-feuille สาขานี้มีชาให้บริการด้วย
บรรยากาศร้าน: เป็นร้านเล็กๆที่อัดแน่นไปด้วยจิตวิญญารของความเป็นปารีส ไม่ว่าจะเป็นการตกแต่งร้านที่เรียบแต่ดูคลาสสิค โต๊ะ เก้าอี้ ขนม เปิดประตูเข้าไปนึกว่าอยู่ปารีส อิอิ ร้านไม่ได้มีมุมมุ้งมิ้งให้ถ่ายภาพ แต่เป็นร้านนั่งชิลๆ กินขนมจิบชาสบายๆ สาขานี้จะมีลูกค้าต่างชาติแวะเวียนมาเรื่อยๆ และขนมที่มีเยอะๆตอนเปิดร้าน พอตกเย็นมาเกือบหมดทุกวัน
บริการ: เนื่องจากเป็นร้านเล็ก มีพนักงานแค่ 3 คน แต่ก็น่ารักดีค่ะ เอาใจใส่ดี
**ขนมที่ชอบและอยากบอกต่อ**
เนื่องจากมากินร้านนี้บ่อยมากๆ กินขนมไปเกือบ 70% ของที่ร้านขายแล้ว มีทั้งที่ชอบมากกกกไปจนถึงไม่ชอบ ซึ่งถือว่าเป็นเรื่องปกติที่บางครั้งรสชาติหรือ combination ของขนมบางตัวไม่โดน ไม่ถูกปาก แต่มีขนมบางตัวที่รู้สึกชอบมากและอยากบอกต่อ
1. "Mille-feuille" หรือ "มินเฟย" เป็นเมนูที่ "ขายดีมาก" ถ้าไปช้า --> หมด ถ้าใครอยากชิมแนะนำให้ไปเร็วๆหรือโทรจองก่อนนะคะ เป็นมินเฟยที่อร่อยที่สุดตั้งแต่เคยกินมา (อร่อยกว่าของร้าน Angelina ที่ปารีสด้วย คหสต) ตัวขนมประกอบด้วยแผ่นแป้งพัฟที่บางเป๊ะเวอร์ 4 ชั้นสลับกับวานิลาครีมเบาๆนุ่มที่ใช้ฝีกวานิลาจากมาดากัสการ์ ตัวพัฟน่าจะโรยน้ำตาลแล้วอบอีกรอบเพื่อให้เกิดคาราเมลเกาะตรงผิว caramelize) เวลาประกบไส้ครีมตัวพัฟจึงไม่แฉะ เป็นการผสมผสานระหว่างความกรอบของพัฟและความนุ่มละมุนของครีมวานิลาอย่างลงตัว ขนมตัวนี้ไม่หวานนะคะ รสละมุน แต่กินคนเดียวอิ่มข้าวไปเลยเหมือนกันค่ะ
2. St Honore ออกเสียงแบบฝรั่งเศสยาก ( "r" เค้าไม่ได้ออกเสียงแบบที่เราคุ้นเคยอ่ะ) และเป็นขนมที่ทำยาก(เคยหัดทำด้วยค่ะ) ขนมซับซอน แต่....เป็นขนมที่ส่วนตัวชอบมาก ฐานเป็นพัฟกรอบๆหอมเนย(คุณภาพดี) ขอบของพัฟมีมินิชูครีมไส้คสตาร์ดที่หัวจุ่มคาราเมลวางตั้งอยู่ 3 ลูก ที่ว่างระหว่างชูครีมมีชั้นเพสทรีครีมหรือครีมวานิลาคัสตาร์ดหอมๆที่แอบมีคาราเมลหอมๆตรงกลางด้วย ปิดชั้นคัสตาร์ดครีมด้วยครีมวานิลานุ่มๆ และมีมินิชูครีมอีกลูกบนยอดขนม (ช่างซับซ้อนหลายชั้นจริงๆ) ขนมตัวนี้มีทั้งความกรอบ (พัฟ เปลือกชูครีมและคาราเมลที่เคลือบชูครีม) และความนุ่ม (ครีมคัสตาร์ด และวานิลาครีม) ซึ่งเป็นความกรอบและนุ่มหลายระดับด้วย เป็นขนมที่รสละมุน แม้จะราคาสูง แต่คุ้มค่าค่ะ
3. Lady Pinske" หรือ "Almond Lychee Raspberry tart" หน้าตาเธอเลดี้สมชื่อ รสชาติก็นุ่มนวลจริงๆ เป็น
ตัวฐานน่าจะเป็น sablés กรอบๆ ร่วนนิดๆคล้ายคุกกี้ ตัวมู้สสีขาวผ่องไม่แน่ใจว่ารสอะไรนะคะแต่นุ่มเบาไส้ด้านในล่างสุดเป็น sponge cake ชิ้นเล้กๆ ฉ่ำๆถัดมาคือราสเบอร์รีเจลลีและลิ้น ตักกินพร้อมกันทุกชั้น พร้อมกับกินราสพืเบอร์รีที่แปะมาด้านบนจะฟินมากค่ะ รสจะนวลๆพอดีๆ ไม่มาก ไม่น้อย แต่ถ้ามีกลิ่นหุหลาบด้วยจะเลิฟมาก ^_^
4. Phillippe 70 ขอแนะนำถ้าใครเป็นสายดาร์คและชอบกิน dark chocolate เพราะทุกชั้นเป็นช็อกโกแลตที่มีหลากรสสัมผัส มันก็จะขมๆหน่อย แต่อร่อยมากค่ะ ตัว mini macaron ที่ท้อปปิ้งมาอร่อยมากค่ะปลื้มๆๆ
5. Framboise Eclair เอแคลร์แบบฝรั่งเศส framboise แปลว่า 'ราสพ์เบอร์รี" รสจริงๆคือ chocolate raspberry นั่นเอง ตัวเปลือกเอแคลร์อบมาแบบเพอร์เฟค ด้านในกลวง เปลือกกรอบนิดๆ ไม่แห้งแข็ง ตัวไส้ ชอกโกแลต+ราสพ์เบอร์รีทั้งรสและกลิ่นอยู่ในจังหวะที่พอดิบพอดี ไม่มากหรือน้อยไป
6. Croissant ร้านนี้ครัวซองเนื้อด้านในอาจจะไม่แน่น บางทีเนื้อดูโหว่ๆ แต่ส่วนตัวชอบกลิ่นและรสของเนยในครัวซองเค้า มันหอมและมีความลึกในรสที่บอกไม่ถูก แต่ชอบ ^_^
กทม มีขนมสไตล์ฝรั่งเศสหลายร้านให้เลือก แต่ร้านนี้มีความคลาสสิก มีความ Authentic อย่างที่ทางร้านบอกไว้จริงๆ ยกให้เป็นตัวแม่เลยค่ะ
ปล ร้านมีสาขาที่ Open House at Central Embassy ด้วยนะคะ แต่ขนมหมดเร็วและไม่มีชา
9 Likes0 Comment
