- หน้าแรก
/
- รูป ภูฟิน ดอย


รีวิวกินอาหารกลางวันที่ภูฟิน หางดง เชียงใหม่- ไปตามอากู๋ พิมพ์คำว่า "ภูฟินดอย" เราวิ่งจากอ.สันป่าตองมาตามถนนคันคลองชลประทานฝั่งที่จะเข้าตัวเมือง เลี้ยวเข้าซอยที่มีป้าย ไร่สติสัมปันโน (ปากซอยไม่มีป้าย ภูฟินดอย) แล้ววิ่งตามอากู๋มาเรื่อยๆ ข้างในซอยถึงจะเริ่มมีป้ายบอกทางบ้าง ทางก็เริ่มแคบ และก็สูงชันเป็นระยะ เพราะร้านอยู่บนภู ผิวถนนขุรขระบางช่วง
- พอขึ้นมาถึงร้าน มีรถจอด 3-4 คัน ในวันธรรมดา ในร้านมีนักท่องเที่ยวจีนอยู่ด้วย เขาหาร้านกันเก่งเนอะ
- ในร้านมีทั้งโซนนั่งด้านนอกและโซนห้องแอร์ เราเลือกนั่งด้านนอก ใกล้ๆพัดลม ที่ร้านมีท่อปล่อยไอน้ำให้มาปะทะกับลมพัดลมตลอดเวลา ที่นั่งเป็นโซฟา แบบตั้งตรง นั่งไม่ค่อยสบาย โต๊ะก็เตี้ยอีก ระดับความสูงของโต๊ะกับเก้าอี้สำหรับการกินอาหารไม่ถนัดเลย
โต๊ะแบบโซฟานี้จะจัดแบบติดกัน 3 ชุด (พนักโซฟาติดกันเลย) ไม่ต้องหวังความเป็นส่วนตัว นอกนั้นเป็นโต๊ะเล็กๆแบบนั่งพื้น มีเบาะหนังให้รองนั่ง แต่มุมที่เห็นวิวดีจะเป็นโต๊ะแบบเคาเตอร์ยาว ให้นั่งพื้นมีเบาะรองนั่ง
- ที่ร้านมีป้ายเขียนเป็นภาษาอังกฤษ สรุปใจความประมาณว่า ต้องสั่งอาหารทุกคน คนที่ไม่สั่ง จะถูกชาร์จ 50 บาท
-จุดถ่ายรูป ทางร้านเอาเถาวัลย์มาทำเป็นทรงรังนกให้คนเข้าไปยืนข้างในได้ มุมนี้ลืมถ่ายเลยยืมรูปเพื่อนมาใช้ค่ะ
- เมนูที่พวกเราสั่งกันจะมีดังนี้
1. ข้าวผัดกะเพราหมู
จัดมาในจานทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้ายาว พร้อมถ้วยน้ำปลาพริก
2. ยำวุ้นเส้น
ใส่หมูสับกับหมูยอ จานนี้บอกว่าขอไม่เผ็ด ก็ได้ตามที่ขอ (คือบางร้านขอไม่เผ็ด แต่ได้เผ็ดมากมาก็มี)
3.สปาเก็ตตี้แฮมผัดพริกแห้ง
เมนูนี้คือเผ็ดพริกไทยมาก กินแบบเผ็ดร้อนยาวๆไปตั้งแต่ต้นจนจบ รู้สึกว่า น่าจะเผ็ดพริกไทยน้อยกว่านี้ จะได้ชิมพริกแห้งบ้าง แต่เผ็ดจนแตะพริกแห้งไม่ไหวเลย เมนูนี้สั่งมากินเหมือนกัน 2 คน คอนเฟิมความเผ็ดร้อนเหมือนกันทั้งคู่
4. ชาเขียวมัทฉะเย็น
คือแก้วซ้ายมือในรูป รสชาติธรรมดา ยังไม่โดดเด่น เมนูนี้ลืมถ่ายเองเลยยืมรูปเพื่อนมาใช้
5. ชาเขียวเย็น
คือรูปด้านบน แก้วขวา รสชาติไม่ใช่ชาตรามือ
6. คาปูชิโน่ร้อน
เสิฟพร้อม กับแครกเกอแบบหวานโรยน้ำตาล 2 ชิ้น
7. ชีสเค้ก
จำชื่อเมนูไม่ได้ เสิฟมาพร้อมกับดอกอัญชัน กับลูกอะไรไม่รู้ ราดด้วยซอสช็อกโกแลต แต่งจานสวยดี
8. ข้าวเหนียวมะม่วง
เสิฟมาในจานสี่เหลี่ยมผืนผ้ายาว พร้อมน้ำกะทิและไอติม
รสชาติมะม่วงโอเค แต่กะทิแบบกล่อง ไม่ใช่สด เมนูนี้รอนานมาก พอลุกไปตาม เขาบอกว่า พนง.ลืมจดค่ะ
9. น้ำลิ้นจี่โซดา
จริงๆ ที่ร้านเขาไม่ได้ใช้ชื่อนี้ แต่เขาตั้งชื่อใหม่เป็นชื่อฝรั่ง จำยากเลยจำไม่ได้ค่ะขออภัย
เสิฟมาใน 3 ภาชนะ โดยน้ำลิ้นจี่จะอยู่ในเหยือกแก้วเล็กมีฝาปิด อีกภาชนะคือแก้วใส่น้ำแข็ง ส่วนเหยือกแก้วอีกอันจะใส่น้ำแข็งแห้งมาให้ดูมีควันพวยพุ่งอลังการเฉยๆค่ะ กินบ่าได้
น้ำลิ้นจี่ดูรสชาติเหมือนน้ำผลไม้กล่องหรือน้ำเชื่อมเข้มข้นใส่กลิ่น
-สรุป: ค่าอาหาร 4 คน 1000 กว่าบาท ราคาเรทสไตล์แหล่งท่องเที่ยว ร้านค่อนข้างเล็ก มีจุดให้ถ่ายรูปไม่เยอะมาก ที่นั่งแบบโซฟาเป็นเบาะแบบตั้งตรง นั่งไม่สบาย โซฟาก็จัดกันชิดเกินไป ไม่มีความเป็นส่วนตัว โต๊ะแบบนั่งพื้นก็มีบางมุมที่ไม่ได้พัดลมเลย และทางร้านน่าจะจัดเก้าอี้นั่งพื้นแบบมีพนักจะนั่งสบายกว่า วันนี้เราก็นั่งพิงราวเหล็กเอา ไม่ค่อยสบายเท่าไร อาหารก็รสชาติเฉยๆ คล้ายๆอาหารแช่แข็งเอามาเวฟ กาแฟและชารสชาติธรรมดา ส่วนใหญ่คนที่มาจะเน้นมากินลมชมวิวมากกว่า เพราะร้านอยู่บนภูสูงเห็นวิวตัวเมือง และภูเขาโดยรอบประมาณ 180 องศา พนง.บอกถ้ามาเสาร์อาทิตย์คนจะเยอะมาก พอดีเรามาวันธรรมดาเลยค่อนข้างโล่ง และเรามาช่วงหน้าร้อน แดดเปรี้ยง เลยไม่ค่อยฟินเท่าไร และต้องสั่งอาหารทุกคนค่าไม่งั้นเจอชาร์จ พนง. บางคน หน้าหงิกไม่เหมาะมาทำงานบริการเท่าไร
หมายเหตุ : การรีวิวรสชาติอาหารเป็นความชอบส่วนตัว แต่ละคนชอบไม่เหมือนกัน โปรดใช้การพิจารณา ราคา และ รูปอาหาร บรรยากาศร้านในการตัดสินใจเพิ่มเติม
0 Like0 Comment
