- หน้าแรก
/
- รูป The Riddler Japanese Gastronomic Dining & Wine Bar ลุมพินี
Tasing course แบบ Japanese วัตถุดิบพรีเมียม ตกแต่งสวย รสชาติอร่อยลงตัว"The Riddler" ร้านอาหารญี่ปุ่นระดับพรีเมียมที่ใส่ใจในทุกรายละเอียด เริ่มตั้งแต่วัตถุดิบที่คัดสรรมาจากญี่ปุ่นและท้องถิ่นบ้านเราเอง โดยมีเชฟฝีมือดีที่จะทำให้เราตื่นตาตื่นใจในแต่ละเมนูที่เสิร์ฟมา
สถานที่ร้าน จะอยู่ในซอยร่วมฤดี ใกล้รถไฟฟ้าสถานีเพลินจิต อยู่ที่ชั้น 1 อาคาร B โครงการ Woodberry Common ค่ะ พอเข้ามาในร้าน ก็ดูน่าสนใจแล้วค่ะ เพราะที่นี่รวบรวมไวน์คุณภาพหลากหลายจากทั่วทุกมุมโลกเรียงรายสวยงาม ส่วนที่นั่งจะเหมือนเราเข้ามาในถ้ำจำลองเลยค่ะ โทนสีส้มดำ ทำให้ร้านดูเท่และคลาสสิคดีค่ะ
ครั้งนี้ เรากับเพื่อนมาทาน Tasing course แบบ Japanese Borderless Cuisine ซึ่งจะมี 11 เมนูค่ะ
ราคา 2800 THB++ ต่อท่าน ยังไม่รวมเครื่องดื่ม แต่ที่ร้านก็จะมีโปรโมชั่นเครื่องดื่ม สามารถสอบถามวันที่ไปทานได้ค่ะ
สำหรับการทาน แนะนำว่าให้จองมาก่อน หรือถ้าแบบ Walk in สามารถมาหลังบ่ายสองได้ค่ะ
📚มาเริ่มคอร์สกันค่ะ
1️⃣ Uni Toast
คำแรกก็น่าสนใจแล้วค่ะ หน้าตาสวยงาม เหมาะกับคนที่ชอบถ่ายรูปก่อนกินแบบเรา ฐานเป็นขนมปังทอดกับเนยจนกรอบ ตรงกลางเป็นเนื้อ วากิว Tenderloin จากจังหวัดสกลนคร และท็อปด้านบนด้วยอูนิจากฮอกไกโดแบบล้นๆ
พอกัดลงไป เราจะได้ความกรอบของโทสต์ ความชุ่มฉ่ำหอมๆของเนื้อ และความนุ่มละลายในปากของอูนิ มีรสชาติเค็มหวานหอมที่ลงตัวค่ะ
2️⃣ Pate, Namerou Tart
เสิร์ฟมา 2 แบบ 2 คำ ซึ่งแนะนำให้ทานคำซ้ายก่อนค่ะ
🔸️Pate ฐานคือ Parmigiano Reggiano เป็นเนยแข็งจากอิตาลีไปทอดจนกรอบ ฟูกรอบและหอมมาก ท็อปด้านบนด้วยตับไก่ผสมเครื่องเทศและชีส ทำให้ได้รสนุ่มหอมละมุน ไม่มีกลิ่นคาวเลย มีแต่กลิ่นทรัฟเฟิลคือหอมฟุ้งในปากเลยค่ะ
🔸️Namerou Tart เชฟต้องการนำเสนออาหารพื้นเมืองเก่าแก่ของชาวประมงญี่ปุ่น โดยฐานทำเป็นกระทงที่มีกลิ่นขิง ตัดรสกับไข่ปลาแซลมอนจากฮอกไกโดที่มีรสเค็มๆมันๆ
3️⃣ Genmaicha
มีความอลังการด้วยควันที่มาเสิร์ฟให้เราได้ถ่ายรูปสวยๆที่โต๊ะ ปลาไหลย่างเนื้อนุ่มหนังกรอบกับกลิ่นควันที่อบมาหอมๆ พร้อมซอส Genmaicha จากเมืองชิซูโอกะ มีความลงตัวมากค่ะ จานนี้ปลื้ม
4️⃣ Oden
มากันในรูปแบบซุปใสบ้าง ตัวซุป Oden ทำจาก Dashi และ Kombu ตุ๋นพร้อมกับปลา Katsuo ตากแห้ง ทำให้ได้รสหวานหอมกลมกล่อม
สำหรับตัวเครื่อง คำแรกจะเป็นเนื้อวากิวริบอาย ที่เบิร์นมาหอมๆ ม้วนกับ Daikon ทำให้ได้ความนุ่มๆด้วย ส่วนคำที่สอง เป็นฟองเต้าหู้ที่ห่อ Daikon ซึ่งร้านจะตัดเป็นเม็ดเหมือนไข่มุกแทรกด้านใน จะได้ความนุ่มฉ่ำและหวานหอม ทานคู่น้ำซุปลงตัวดีค่ะ
5️⃣ Wafu Pasta
มาต่อกันที่เมนูเส้นค่ะ จะเป็นพาสต้าที่มีชีสจัดเต็มถึง 5 ชนิดคือ Gorgonzola, Parmesan, Mozzarella, Smoke Cheese และ Cheddar Cheese บอกเลยว่าสายชีสต้องชอบ เป็นเส้น Linguine ผัดกับ Oyster ที่ Dry Aged 3 - 5 วัน จึงได้ความหนุบๆดีค่ะ การเสิร์ฟจานนี้มีลูกเล่นด่วย Tuile ที่ทำจาก Parmesan มาเป็นแผ่นโปะด้านบน ก่อนท่านเราก็ใช้ช้อนตัดเป็นคำและคลุกเคล้าทุกอย่างด้วยกัน บอกเลยว่าเข้มข้นชีสสุดๆ เราชอบนะจานนี้ เพราะเราชอบชีสค่ะ
เมนูนี้เสิร์ฟพร้อมชาอู่หลงรสพีช ที่ช่วยดับรสเข้มของชีสในพาสต้า พอดื่มชาตามลงไป ก็รู้สึกว่าคำต่อไปมาได้เลยจ้า
6️⃣ Aka Ebi
จานนี้มาพร้อมสีสันสดใสและสวยงาม เป็นการจัดเรียงด้วย Aka Ebi หรือกุ้งหวานที่มาจากอาร์เจนติน่า ยังมีแอปเปิ้ลคาเวียร์ บีทรูท กับซอสรสเปรี้ยวอย่าง Salsa จากอเมริกาใต้ ที่ทานแล้ว เราจะได้ความเปรี้ยวและสดชื่น เมนูนี้มีเสิร์ฟ Ebi Senbei แผ่นแป้งที่ทำจากเปลือกและหัวกุ้งจึงทำได้รสเค็มๆหอมๆ ทานกับ Salsa แล้วเข้ากันดีค่ะ คืออร่อยจนถึงขั้นถามว่าซื้อ Ebi Senbei ที่ไหน แต่เค้าบอกว่าเป็น Homemade ที่ทำเองค่ะ
7️⃣ Tataki
เนื้อปลาส่วน Akami ชิ้นโต นำไป Aged 1-3 วัน และนำไปย่างฟาง จึงมีความหนุบและหอม ทานคู่กับซอส Tonnato ออกแนวครีมๆรสเข้มข้น เป็นสูตรเก่าแก่ของ Italy เลย พอทานรวมกันทำให้ตัดรสชาติกันได้ดีค่ะ ยังมีท็อปด้านบนด้วยทรัฟเฟิลที่สไลด์มาเป็นแผ่น ทำให้เพิ่มกลิ่นหอมๆด้วยค่ะ
8️⃣ Tomato
เมนู Cleanser ก่อนเข้าเมนูหลัก มาในถ้วยน่ารัก เป็นมะเขือเทศราชินีจากเชียงใหม่ โดยมาใน 3 รูปแบบคือ มะเขือเทศเชื่อม มะเขือเทศเจลลี่ และมะเขือเทศวินิการ์หมักกับดาชิ 7 วัน คำนี้จะให้รสเค็มหวานและสดชื่น คำนี้เพื่อล้างปากก่อนเข้าเมนคอร์สค่ะ
9️⃣ Main
จะมีให้เลือก 1 ใน 3 เมนู เรามากับเพื่อนเลยสั่งเป็นเมนูเนื้อ กับเมนูปลาค่ะ
🔸️Tenderloin (+500 บาท)
เนื้อเทนเดอลอยด์ จะเพิ่มราคาอีก 500 บาท เสิร์ฟมาหน้าตาน่าทาน เป็นเนื้อไทยวากิวจากจังหวัดสกลนคร ที่ Dry Aged 7 วัน ซึ่งเชฟนำเสนอการย่างแบบดั้งเดิมของญี่ปุ่นและเกาหลี คือการย่างเนื้อให้ข้างในถึงอุณหภูมิที่กำหนด แล้วพักที่อุณหภูมิห้อง แล้วไปทำซ้ำแบบเดิมอีกหลายครั้งจนพอดี เพื่อให้เนื้อมีความจุยซี่ มาพร้อมซอสเนื้อที่ตุ๋นนาน 6 ชั่วโมง บอกเลยว่าเนื้อนุ่มหอมอร่อยกับซอสที่เข้มข้นเข้ากันมากๆ ยังมีผักที่ไปผัดกับเนยจนหอม ทานคู่กันลงตัว และที่พิเศษคือความสวยงามข้างๆ เป็นเจลที่มี 3 สี คือ Red Chili Gel, Garlic Charcoal Gel และ Wasabi Gel เพื่อเป็นทางเลือกให้เราได้ Mix and Match ในการทานเนื้อจานนี้ค่ะ
🔸️Gindara
จะเป็นการเสิร์ฟปลามาคู่ซุปค่ะ เป็นปลาเนื้อขาว ที่มีความนุ่มสดไม่คาวเลย นำไปย่างจนหนังกรอบ ทานคู่กับซอส Butter Based รสเข้มข้นมีกลิ่นหอมยูซุนิดๆ ส่วนซุปเป็นซุปมิโซะ ที่มีกลิ่นหอมๆจากน้ำสต็อคของปลา ซึ่งจานปลารสจะแนวครีมๆเข้มข้น ส่วนจานซุป พอทานด้วยกัน จะทำให้เมนูนี้่รสชาติละมุนขึ้นค่ะ
1️⃣0️⃣Yuzu Granita
เริ่มต้นเมนูของหวานด้วยความสดชื่นกันค่ะ ด้านล่างเป็น Yuzu Curd ที่มีรสเปรี้ยวๆหอมๆจากน้ำผึ้งและเลมอน เพิ่มความสดชื่นและได้เคี้ยวกรุบๆของ Granita ที่มีกลิ่นหอมยูซุด้วยค่ะ รู้สึกทานแล้วชีวิตสดใสเลยค่ะ
1️⃣1️⃣ Fondant
จานสุดท้ายแล้ว ตบท้ายด้วย Chocolate Fondant ก่อนทานก็ต้องเจาะให้มีลาวาไหลสวยๆ ด้านในเป็น Nashi Pear หั่นเป็นชิ้นเล็กๆ นำไป Compote กับ สาเก ทำให้จานนี้ไม่มีเลี่ยนเลย แต่เราขอบอกว่าช็อคโกแลตเค้าเข้มข้นและไม่หวานไป คือดีค่ะ เสิร์ฟมาคู่กับไอศกรีมรสชาร์โคลเติมความสดชื่น และยังมี Sweet Butter Crumble และ Charcoal Tuile เพิ่มความกรุบกรอบด้วย
โดยรวม เราชอบการนำเสนอในแต่ละจาน ที่ทำออกมาได้สวยงาม และรวมหลายๆอย่างให้ได้รสชาติที่อร่อยลงตัว และมีการเลือกใช้วัตถุดิบที่มาจากญี่ปุ่นตามชื่อคอร์ส แต่ก็ไม่ลืมที่จะเลือกวัตถุดิบจากบ้านเราด้วย เช่น เนื้อจาสกลนคร ผักจากโครงการหลวง ทำให้รู้สึกว่าเค้าใส่ใจในรายละเอียดดีค่ะ
ใครสนใจก็มาลองทานที่ร้านกันนะคะ ซึ่งร้านก็มีเมนูแบบ A la carte ด้วยค่ะ
🏡 The Riddler Wine Bar and Restaurant
🚩 ซอยร่วมฤดี ชั้น 1 อาคาร B โครงการ Woodberry Common
☎️ 082-547-7005
⏲️ เปิดทุกวัน เวลา 11.00 - 23.00 น.
📲LINE: @theriddlerbangkok
🎯IG: theriddlerbangkok
💻FB: Theriddlerbangkok
🌎Website: https://www.riddler.co.th
📍https://maps.app.goo.gl/1eqQF9sTYvzhhDj5A
3 Likes0 Comment