Three Sixty Lounge Millennium Hilton Bangkok Hotel
Lobster & Shrimp cocktail ใน Picnic Hamper
จิบค้อกเทลเบาๆ เคล้าก้อนเมฆที่ลอยต่ำๆ กับบรรยากาศมหานครแบบ360องศาThree Sixty จะมีอยู่สองโซน คือThree Sixty Outdoor Lounge ซึ่งเป็น Outdoor Lounge ส่วนตัว สามารถเลือกนั่งได้ทั้งสองฝั่งคือฝั่งที่เห็นฝั่งตึกสูงระฟ้าของกรุงเทพ กับฝั่งเมืองเก่า แต่ทั้งสองฝั่งก็เห็นริ้วน้ำเจ้าพระยาอย่างชัดเจน ส่วนโซนนี้จะมีที่นั่งรองรับได้ประมาณ60ที่นั่ง เป็นชั้นลดหลั่นกัน พอให้เห็นวิวอย่างชัดเจนทุกชั้นไป ที่โซนนี้จะมีบาร์เล็กไว้ให้จิบเครื่องดื่มแบบไม่มีแอลกอฮอล์ แบบ Mocktail ให้พอสดชื่นๆ ไปจนถึงนั่งจิบcocktail ให้มึนจนหัวหมุนก็มีพร้อมให้บริการครบครับ ส่วนของว่างที่พาลเอาอิ่มได้ของโซนนี้ที่อยากแนะนำจะเป็น Picnic Hamper (1,800 nett) ซึ่งจะมีเสิร์ฟเฉพาะวันพฤหัสถึงวันเสาร์เท่านั้น จะเป็นBasket กรุบกริบ เหมาะกับการมาเป็นคู่อย่างยิ่ง เพราะในตระกร้านี้จะเสิร์ฟของมาเป็นคู่ๆหมดเลย แต่ถ้าใครเหงา ไม่มีคู่มาก็นั่งด้วย จะทานคนเดียวก็ไม่ผิดกติกาใดๆ เล่นเอาอิ่มเลยก็ได้ครับ ในเซ็ต นี้จะเริ่มต้นที่ 1. Spreads จะมี Guacamole & Nachos เป็นAvocado dipsที่ผมชอบมากๆ ทานกับCorn chips เพลินมากๆครับ 2. Bread ขนมปังที่นี่ก็จะเป็น Garlic Breadครับ ส่วนตัวมาเป็น Salad 3. Salad จะเป็นLobster & Shrimp cocktail พร้อมผักสลัด แล้วยังมีSalmon & Tuna Sashimi, ปูอัดและแคลิฟอเนียมากิ 4. On Short Crust เป็น Foie Gras terrine พร้อม Champignons, artichokes, Pachino, mache และTruffle Essence 5. Chinese Take Out Box เป็น Deep-fried prawns & Aioli เป็นมายองเนสผสมกระเทียมครับ หอมดี ทานง่าย เบาๆดี ไม่นึงว่าจะอร่อยครับ 55 6. In Glass Jars เป็น Rigatoni All Amatriciana พาสต้าเส้นRigatoni กับซอส all amatriciana ถือว่าเป็น Traditional italian Tomatoes sauseเลยครับ รสจะบางๆครับ ไม่ได้เข้มข้นเหมือนซอสมะเขือเทศหลายๆตัวที่ทานกัน 7. Wrapped เป็นแซนวิสสเต็กเนื้อทานกับหอมผัดทานกับซอส Pommery Mustardและ Sesame Bun เครื่องดื่มเริ่มต้นด้วย Cocktail(450++) รสเบาๆ นั่งดูวิวไปจิบกันไปกันก่อน ทั้งสามตัวจะออกสดชื่นๆหน่อยครับ Citrus Mojito, Femme Fatale, Purple Niagara Fall พอแดดร่มลมตก อยากเพิ่มดีกรีของเครื่องดื่ม แต่อยากลดดีกรีของเสียงเพลงก็มาต่อที่ Three Sixty Jazz Lounge ชั้น32ได้อีกครับ ชั้นนี้จะเดินขึ้นบันไดต่อขึ้นมาอีกนิดเดียว จะมีLive Jazz Band มาเล่นสดให้ฟังทุกวันครับ ขึ้นมาชั้นบนก็สามารถเลือกวิวตามใจชอบได้เลยครับ อยากนั่งแล้วเห็นวิวมุมไหนของมหานครของไทย ในวิว360องศาอย่างแท้จริง ทุกมุมสามารถเห็นโค้งน้ำเจ้าพระยาอย่างสวยงาม เลือกมุมนั่งสงบๆ ฟังเพลงJazz เบาๆ ดูความวุ่นวายภายนอกได้อย่างเย็นใจเลยครับ อาหารของThree Sixty Jazz Lounge จะเป็นของว่างเบาๆครับ ตอนนี้ครบองค์ประชุมแล้วพร้อมสั่งทานกันต่อ พร้อมกับเครื่องดื่มทั้ง Cocktail และ Mocktail กันครับ เริ่มด้วยของว่างกันก่อนครับกับ Grilled Lemongrass Marinated Chicken Skewer (450++) เป็นไก่หมักตระไคร้ย่าง Sun-Dried Marinated Port Strip with Sesame (450++) เป็นหมูแดดเดียวครับ Deep-Fried Rock Lobster Spring Roll with Mango Relish (490++) เป็นปอเปี๊ยะทอด ส่วนไส้เป้นกั้งกระดานครับ เมนูนี้จะไม่มีน้ำจิ้มแบบทั่วไปครับ จะเป็นSause Mango Relish ที่แต่งอยู่รอบๆจานครับ Battered Fried Fish Finger (450++) เป็นFish&Chips ธรรมดาครับ ตัวปลาทำเป็น Fish Finger ชิ้นไม่ใหญ่มาก พอดีๆคำ ทานง่ายๆ เสิร์ฟทานกับTartar Sause Crispy Soft Shell Crab Salad, Wasabi Mayo&Tobiko Caviar (450++) เป็นสลัดปูนิ่มครับ ซอสวาซาบิมายองเนสและไข่กุ้ง(ตามที่ทราบว่าจริงๆก็คือไข่ปลาครับ) เมนูนี้วาซาบิมาไม่ฉุนเกินครับ ออกหวาานๆมันๆจากมายองเนส และมีกลิ่นวาซาบิบางๆให้พอหอมขึ้นจมูกครับ Golden Fried Calamari Rings, Aioli Mayo (450++) อีกหนึ่งเมนูโปรผมครับ สั่งทานแทบจะทุกที่เลย Flow Cheese Room Selention (990++) เมนูนี้ผมละเมียดลองทุกแบบที่เสิร์ฟมาเลยครับ บาตัวก็ทานง่ายมากๆ หอม อร่อยดี แตก็มีหลายๆตัวที่เค็มจัดไปมากๆ หรือฉุนมากๆก็ทีครับ แต่ตัวที่เด็ดสุกน่าจะเป็นชีสตัวนึงที่มี Truffle แทรกอยู่ตรงกลาง เป็นเนื้อ Truffleจริงๆครับ ไม่ใช่แค่ผสม Truffle Oilเข้าไป เด็ดจริงครับ เครื่องดื่ม เริ่มต้นด้วย Isan Summer (450 nett) เมนูนี้รังสรรค์โดยคุณยอด เลอศักดิ์ จำกัดศิลป์ แชมป์ระดับนานาชาติ ที่ได้แรงบันดาลใจจากอาหารอีสานบ้านเกิดครับ ใช้เหล้ารัมจากประเทศกัวเตมาลาที่ใช้เวลาบ่มถึง23ปี และได้รับรางวัล Platinum Medal จาก Beverage Testing Institute in Chicagoด้วย ผสมกับน้ำส้มจีนคั้นสด, เสาวรสสด เติมความหวานด้วย Thai tea Syrup และเพิ่มกลิ่นหอมแบบไทยๆด้วยใบมะกรูดเผาไฟครับ รอบแก้วจะคลุกด้วยข้าวคั่ว ครี่งฝั่ง เผื่อใครไม่ชอบหรือไม่อยากทานข้าวคั่วจะได้เลือกอีกฝั่งนึงได้ครับ แก้วนี้ให้ความเป็นไทยสุดๆครับ ส่วนตัวไม่เคยทาน Cocktailที่มีความเป็นไทยขนาดนี้มาก่อนครับ Bohemian Bliss (450++) แก้วนี้เป็นแอ็บแซ็งธ์ เครื่องสีเขียวประหลาด ตัวปราบเซียน เพราะแอลกอฮอล์สูงมากๆ บางยี่ห้อสูงถึง90% เลยก็มีครับ ทำให้เป็นของต้องห้ามของบางประเทศด้วยครับ จับเทลงบนแอปเปิ้ลสดผ่าครึ่ง ชุบด้วยน้ำตาล แล้วจับเบิร์นกับไฟ ค่อยๆซิปช้าๆให้ร้อนผ่าว แล้วลดดีกรีด้วยเครื่องดื่มที่ผสมกับน้ำแอปเปิ้ล เสิร์ฟมาในแก้วทรงสูง แก้วนี้ต้องค่อยๆซิปเบาๆนะครับ แรงใช้ได้เลย Pink Sangria (450++) แก้วนี้จะใช้ผลไม้สดๆ หั่นเต๋า ผสมกับ Rose Wine ครับ เหมาะกับสาวๆดีครับ Seduction of a Geisha (450++) แก้วนี้จะเป็นCognac ผสมกับสาเกญี่ปุ่น ชาเขียว ขิงสด และ Shitake Syrup ครับ เสิร์ฟมาพร้อมกับปลาดิบด้วย ใครไม่ดื่มแอลกอฮอล์ ที่นี่ก็มีMocktail ให้บริการด้วยครับ อย่าง Blue Sky (270++)เป็นน้ำลิ้นจี่ กับโซดาครับ ทานง่ายๆสดชื่นๆครับ หรือจะเป็น Virgin Mojito (270++) คือจะเป็น Mojito แบบไม่มีแอลกอฮอล์ครับ ก่อนกลับก็แวะลงมาเดินเล่นตรง Outdoor Lounge อีกหน่อย ตกดึกแล้วลมดีเลยครับ บรรยากาศสบายมากๆ... อ่านต่อ
40 Likes0 Comment
photo