Chef's table by All About Beef

พูดถึง Chef’s Table หลายคนก็คงคุ้นกับชื่อนี้ มันเป็นรูปแบบของการบริการอาหารอย่างหนึ่ง ซึ่งแตกต่างจากทั่วไปที่เวลาไปร้านอาหาร เราก็จะสั่งอาหารตามแบบที่เราอยากกิน ตามเมนูที่ทางร้านมีให้ แต่สำหรับ Chef’s Table นั้นเราไม่สามารถรู้ได้เลยว่าวันนี้เราจะได้กินอะไร (อาจจะมีเพียงแค่แจ้งว่าเราไม่ชอบกินอะไร หรือแพ้อาหารอะไร) ทุกจานเชฟจะเป็นคนรังสรรค์อาหารเหล่านั้นขึ้นมาตามคอนเซ็ปต์ที่ทางร้านตั้งขึ้น ลูกค้ามีหน้าที่นั่ง และรอดูว่าวันนี้ฉันจะได้กินอะไรบ้าง Chef’s Table by All About Beef เป็นร้านหนึ่งที่ต่อยอดมาจากร้านขายเนื้อขาประจำของน้าอ้วน ร้าน All About Beef เป็นร้านที่ขายเนื้อโดยเฉพาะ โดยที่นี่จะมีเนื้อหลายส่วน และหลายเกรดมาก เรียกได้ว่ามีตั้งแต่ราคาหลักสิบบาท ไปจนถึงชิ้นหลายพันบาทกันเลยทีเดียว ต้องบอกเลยว่าที่นี่มีเนื้อดี ๆ หลากหลายชนิดมาก ดังนั้นเขาจึงอยากนำเสนอเนื้อเหล่านั้นผ่านทางจานอาหาร ที่ได้รังสรรค์ คิดเมนูต่าง ๆ จากเชฟที่เรียกได้ว่ามีประสบการณ์และคร่ำหวอดอยู่ในเรื่องนี้โดยเฉพาะ จึงเป็นที่มาของ Chef’s Table by All About Beef อย่างที่น้าอ้วนบอกว่า Chef’s Table นั้นคือรูปแบบการกินอาหารที่ผู้กินจะไม่รู้มาก่อนว่าเชฟจะเสิร์ฟอะไร แต่ถ้ามารีวิวในวันนี้ ก็คงรู้กันหมดแล้วหละ ๕๕๕ แต่ไม่เป็นไร ถือว่าเรามาแนะนำให้รู้จัก เผื่อใครเห็นเมนูไหนที่รู้สึกว่าอยากกิน รู้สึกว่าจานนี้ฉันชอบ จะได้รู้ไว้ว่าความอร่อยได้รอพวกคุณแล้ว รอบนี้ถือว่าเป็น Seasons ที่สองของร้านนี้แล้ว การเปลี่ยนเมนูในรอบนี้ ทางร้านก็ได้เก็บเอาคอมเมนท์ต่าง ๆ จากลูกค้าที่ได้มากินในรอบที่แล้ว เอามาพูดคุย ปรึกษากัน และคิดค้นเมนูใหม่ ที่ทำให้แน่นขึ้น อลังการขึ้น และคุ้มค่าขึ้น โดยรอบนี้ เมนูที่จะเสิร์ฟจะมีด้วยกัน 7 คอร์ส ในราคาเพียง 999++ บาทเท่านั้น ในแต่ละวันจะให้บริการเพียง 2 รอบเท่านั้นคือ 18.00 น. และ 20.00 น. และจำกัดจำนวนลูกค้าเพียง 4 ท่านต่อรอบเท่านั้น และที่สำคัญร้านไม่รับ Walk In นะจ๊ะ ถ้าอยากไปกินต้องจองก่อน สำหรับลูกค้าท่านใดที่อยากจองโต๊ะ ส่งข้อความไปจอง และ เช็ควันเวลาว่างกันก่อนนะ เพราะร้านนี้บอกเลยว่าคิวแน่นจริง เริ่มต้นด้วย Welcome Drink ด้วย น้ำมะม่วง + Blue Hawaii เป็นเครื่องดื่มที่ช่วยสำหรับการเปิดต่อรับรส ก่อนเข้าคอร์ส เป็นหนึ่ง เมนูที่รวม 3 สัญชาติได้แก่ ไทย ฝรั่งเศส และญี่ปุ่น ไทย – พายไส้ในเป็นมัสมั่นรสเด็ด มีการตัดเลี่ยนด้วยช็อตเน่สับปะรด ญี่ปุ่น – เนื้อลวกกับน้ำซุปร้อน เพื่อดึงรสชาติของเนื้อออกมา เสิร์ฟพร้อมกับมะนาวคาร์เวีย และเพิ่มความฉุนด้วยหัวไชเท้าขูด ฝรั่งเศส – ปาเต๊ะ หรือตับไก่บด โดยมีเนื้อล้ำ (เนื้อสันสะโพก) และแป้งทูเลย์มะพร้าว ลิ้มลอง เนื้อริบอายไทยอย่างดี รสสัมผัสนุ่มอร่อย ผสานกับหอยเชลล์รสชาติหวานอร่อย ผสานความสดชื่นด้วยส้มโอ เรียกได้ว่า Seafood vs Meat มาในสไตล์ของยำแบบไทย ๆ ร่วมมือร่วมใจ Roasted Bone Marrow ไขข้อกระดูกวัว หลาย ๆ คนอาจจะมองข้ามเมนูนี้ โดยการเอามากินกับสตูว์ซี่โครงนุ่มและฉ่ำมาก เสิร์ฟพร้อมกับวาซาบิดองสูตรเด็ดเฉพาะเพื่อตัดเลี่ยน นึกว่าเป็นเกาหลี เนื้อเชอร์ลอยด์ดองกับเกลือ 2 วันเพื่อให้เนื้อมีรสชาติ เนื้อจะอุ้มน้ำทำให้ชุ่มฉ่ำ ย่างไฟให้สุกแบบมีเดียม เสิร์ฟพร้อมกิมจิในสไตล์เกาหลี ซุปลิ้นวัว สไตล์เดียวกับซุปหางวัว เป็นการนำเครื่องปรุงและวัตถุดิบต่าง ๆ มาผสานเข้าด้วยกัน จะทำให้ได้ทุกอย่างจะอยู่ในน้ำซุป รสชาติจัดจ้าน กินคู่กับลิ้นวัวย่างที่รสชาติกรุบกรอบ ท็อปด้วยโฟมขึ้นฉ่ายผักชี เกือบได้ไปยุโรป เมนคอร์สจานนี้บอกเลยว่าสุดยอดมาก ใช้เนื้อเท็นเดอลอยด์สุดนุ่มนำเข้ากับ New Zealand กินคู่กับ Herb Crust โหระพา (ที่เห็นเป็นผงสีเขียว ๆ) เสิร์ฟคู่กับ Anna Potatoes ที่มีทั้งมันแบบไทยและแบบฝรั่ง อบด้านบนด้วยชีส เห็ดแชมปิญอง เสิร์ฟกับ Pea Mash และราดด้วยซอสเนื้อสุดเข้มข้น ลูกครึ่ง Éclair หน้าอ่อน และหน้าธรรมดา ไส้ครีมก๋วยเตี๋ยวน้ำตก ยังไม่พอแค่นั้นยังมีเจลลี่ก๋วยเตี๋ยวน้ำตกเพิ่มมาด้วย เสิร์ฟพร้อมไอศกรีม เรียกได้ว่าเป็นเมนูของหวาน vs คาว ที่น่าสนใจ 7 คอร์สผ่านไป ใน Seasons ที่แล้วก็มีลูกค้าบางท่านก็คอมเม้นท์ว่าอาจจะยังไม่อิ่มเท่าที่ควร จากที่น้าอ้วนดูเมนูของ Seasons นี้แล้วบอกเลยว่าแต่ละอย่างแน่นมาก หลายเมนูจัดกันแบบแน่น ๆ จุก ๆ รสชาติเข้มข้น เปิดตัวด้วยเมนูเรียกน้ำย่อย กินเล่นสบาย ๆ แล้วเริ่มไล่ความหนักหน่วงตั้งแต่คอร์สที่ 2 และอิ่มจุกที่คอร์สที่ 6 และปิดท้ายความอร่อย ล้างปากด้วยของหวานในคอร์สสุดท้าย เรียบเรียง ผสานความอร่อยของเนื้อที่รังสรรค์ออกมาในหลายรูปแบบ หลากหลายสไตล์ของเนื้อที่ถ้าใครที่เป็นคนชื่นชอบเนื้อ รับรองว่าฟินแน่นอน