KRBB The Boutique Butcher (KRBB The Boutique Butcher) วัฒนา

เมื่อก่อนเวลาใครชวนกินเนื้อวัวก็มักจะปฏิเสธไปค่ะ เพราะแค่ไม่เคยกิน เลยไม่รู้ว่ารสชาติเป็นยังไง แต่ก็สงสัยนะคะ ที่ว่ามันนุ่มละลายในปากเนี่ยมันเป็นยังไง ละลายจริงเหรอ? แล้วความสงสัยที่ว่านั่นก็หมดไปเมื่อพี่ที่ออฟฟิศลากมาชิมเมนูสุดเลิศที่ KRBB The Boutique Butcher ร้านบุชเชอร์หนึ่งเดียวในไทยที่นำเข้าเนื้อวัวชั้นดีจากประเทศญี่ปุ่น ชักอยากรู้แล้วล่ะสิว่ามันจะฟินแค่ไหน ตามวาฬมาเลยค่ะ! ร้าน KRBB อยู่ใน Habito Mall ชั้น 3 ตรงสุขุมวิทนี่เอง พอขึ้นบันไดเลื่อนมาจะเห็นเป็นห้องกระจกบุชเชอร์ที่เอาไว้แล่เนื้อทั้งตัวโชว์กันหน้าร้านเลย และโชคดีของวาฬที่วันนั้นมีโอกาสพบหนึ่งในหุ้นส่วนของร้านซึ่งก็คือคุณบิ๊ก ได้เล่าให้ฟังว่าร่วมกับหุ้นส่วนเฟ้นหาเนื้อคุณภาพดีที่ญี่ปุ่น จนได้มาเจอกับคุณ Ozaki ที่ขึ้นชื่อเรื่องฟาร์มอันดับหนึ่งของคนเลี้ยงวัวในประเทศญี่ปุ่น ถึงขนาดมั่นใจในคุณภาพจนตั้งชื่อเนื้อตามนามสกุลของตัวเองแทนที่จะเป็นแหล่งผลิตอย่างที่เจ้าอื่นทำกัน! ความดีงามของ Ozaki Beef มันอยู่ที่มีเนื้อแดงในปริมาณพอเหมาะมีลายหินอ่อนเยอะ แต่กินแล้วไม่เลี่ยนจนเกินไป ซึ่งทั้งหมดเกิดมาจากการเลี้ยงดูวัวที่ดีใส่ใจตั้งแต่อาหารการกินน้ำยันความเป็นอยู่ที่พิถีพิถัน และที่ร้านยังมีบุชเชอร์มากประสบการณ์แล่เนื้อวัวทั้งตัวเป็นส่วน ๆ ไว้บริการลูกค้า บ้านไหนอยากซื้อไปทำเองก็ดี หรือบ้านไหนเดินเข้าร้านมาเลือกเนื้อแล้วให้ที่ร้านปรุงอาหารให้ก็เลิศค่ะ เปิดมาเมนูแรกกับอาหารจานเดียว KRBB Don (990 บาท) ข้าวหน้าเนื้อเสือร้องไห้ กินแล้วแทบจะร้องไห้เพราะความนุ่มของเนื้อกับซอสรสหวานที่เข้ากั๊นเข้ากัน พร้อมหอมทอดกับครัมเบิลกรอบ ๆ Ozaki Gyu Burger (490 บาท) ขนมปังกรอบนอกนุ่มในตรงกลางเป็นเนื้อเบอร์เกอร์หนา ๆ กับซอสที่ทำเอง พร้อมชีสและผักดอง ส่วน Yakiniku (Ozaki Beef เริ่มต้นที่ 750 บาท / 100 กรัม) จะเป็นบริการพิเศษเพิ่มเติมของร้าน KRBB คือเราจะเลือกเนื้อส่วนไหนก็ได้ แล้วให้ทางร้านปรุงมาให้โดยมีค่าบริการเพิ่มเมนูละ 350 บาท สำหรับเมนูนี้แนะนำให้ย่างส่วน Oyster Blade ก่อน จะทำได้ทั้งรสเนื้อ ความมัน และความกรุบนิดของเอ็น ตามด้วย Eye Log หรือสันคอส่วนล่าง และ Rib Finger มันชุ่มลิ้น ยิ่งย่างเกรียมยิ่งฟินนนน และเคล็ดลับการย่างก็คือ ให้ย่างด้านใดด้านหนึ่งก่อน เมื่อเห็นว่าด้านบนเลือดเริ่มสุกออกมาให้กลับอีกด้านย่างต่อ นับหนึ่งถึงสิบก็กินได้เลย จะทำให้ได้เนื้อที่ทั้งกรอบเกรียมและนุ่มสุดลิ้น Sukiyaki (Hokkaido F1 - Out Side 330 บาท / 100 กรัม) กินแบบญี่ปุ่นแท้ โดยเชฟจะมาปรุงให้ในขั้นตอนแรก โดยการราดซอสคลุกเคล้าเข้ากับหอมใหญ่ตามด้วยน้ำซุปดาชิ จากนั้นลุยค่ะ มีตะเกียบกี่คู่คีบเนื้อลงหม้อแล้วจุ่มไข่สดกินเลย! และเมนูสุดท้ายช่วงชีวิตติดเนื้อในวันนี้ Seiro Mushi (Ozaki - Rib Eye 1,550 บาท / 100 กรัม) หรือเนื้อนึ่งในถาดไม้ไผ่แบบญี่ปุ่นสองชั้น ชั้นล่างอัดแน่นด้วยผักนานาชนิด ส่วนชั้นเนื้อรองด้วยหอมซอย วิธีกินคือห่อเนื้อกับหอมซอยจิ้มน้ำจิ้มคีบเข้าปากแล้วจะพบกับความหอมหวานนุ่มลิ้นฟินลืมรสของเนื้อที่อื่นไปจนสิ้น จากที่ได้ชิมมาทั้งหมดวันนี้บอกเลยว่าคนรักเนื้อห้ามพลาดจริง ๆ เพราะที่นี่คือสวรรค์ของคนชีวิตติดเนื้อ! และยังมีโปรโมชันดี ๆ จากบัตรเครดิตไทยพาณิชย์มาฝากอีกด้วย กับส่วนลด 15% เฉพาะค่าอาหาร สำหรับบัตรเครดิต SCB Private Banking, SCB First, และ SCB Prime และรับส่วนลด 10% สำหรับบัตรเครดิตไทยพาณิชย์อื่น ๆ ตั้งแต่วันนี้ - 31 สิงหาคม 2560