มาซาโตะ (ประเทศไทย) (Masato (Thailand) Co., Ltd.)

เท่าที่ทราบคือเจ้าของร้าน (เชฟ Masato Shimizu) เคยเป็น Head Chef อยู่ร้านใน New York แล้วเป็นเชฟที่อายุน้อยที่สุดที่ได้ดาว Michelin ... เชฟย้ายมาอยู่ไทยแล้วก็เปิดร้านนี้มาได้ประมาณปีกว่าๆ เป็นร้านที่จองยากและต้องรอคิวนานมาก หลายคนบอกว่าจองล่วงหน้าหลายเดือน โชคดีมากที่น้องที่ออฟฟิศจองให้เพื่อนไว้แล้วไม่รู้ยังไงมาบอกว่าว่าง 1 ที่ เลยขอใช้สิทธิ์ซะเลย เป็นความโชคดีมาก :D ร้านอยู่ในซอยสวัสดี 1 เป็นซอยเล็กๆ ในซอยสุขุมวิท 31 (ไม่แนะนำให้ขับรถเข้าไปครับเพราะแคบจริง) ที่จอดรถต้องจอดตามถนนเอา แต่จะมีคนคอยโบกรถให้ไปจอดตามช่องว่างที่เหลือให้ ... ร้านอยู่ทางขวามือ ทางเข้าเป็นประตูไม้เลื่อนๆ ร้านนี้ถ้าเป็นไปได้ควรจะลอง Omakase ครับ เค้าจะรับเป็นรอบๆ ไป มื้อนี้ผมไปรอบ 2 ทุ่มครึ่ง ไปถึงร้านก่อนเวลานิดหน่อยเลยต้องนั่งรอที่โต๊ะที่เป็นโซฟาสั่งเครื่องดื่มระหว่างรอถึงรอบ Omakase รอบนึง 10 คน ราคาคนละ 4,000 บาท แต่พอ ++ แล้วก็จะเป็น 5,000 บาท ได้อาหารประมาณ 20 จาน (มื้อนี้ผมได้ซูชิประมาณ 16 คำแล้วก็มีอย่างอื่นอีก 5-6 อย่าง) ใช้เวลาทานประมาณ 2 ชั่วโมงครึ่ง ซูชิทุกคำไม่ต้องจิ้มอะไรทั้งสิ้นเพราะเชฟปรุงรสมาให้เรียบร้อยๆ ไม่ว่าจะเป็นการใส่เกลือหรือบีบมะนาว หรือใส่วาซาบิมา เชฟพูดภาษาอังกฤษได้คล่องแคล่ว หายห่วงเรื่องการอธิบายซูชิแต่ละคำ ส่วนผู้ช่วยเชฟก็จะคอยเอาสมุดภาพปลาต่างๆ มาให้ดูหลังจากเชฟเสิร์ฟซูชิแต่ละคำ เพื่อให้เห็นว่าหน้าตาปลามันเป็นยังไงบ้าง และจับมาจากทะเลตรงไหนของญี่ปุ่น ซึ่งเป็นความแตกต่างจากร้านอื่นในไทยเกือบทุกร้าน เพราะร้านอื่นจะไม่ได้พยายาม present ถึงที่มาของปลาอย่างจริงจังเท่าที่นี่ รีวิวนี้จะพูดถึงอาหารที่เสิร์ฟมาในแต่ละจานตามลำดับนะครับ [ เริ่มเสิร์ฟตามลำดับนี้ ] [1] หอยเป๋าฮื้อนึ่งสาเก ตัวค่อนข้างใหญ่ หั่นมาเป็น 2 ชิ้น ราดด้วยน้ำซุปที่ใช้นึ่ง อร่อยทั้งตัวเนื้อหอยและน้ำที่ราดมา เวลาทานไปเราจะไม่ได้รสชาติเหล้าสาเกอะไร [2] ปลาคัตสึโอะ มาถึงเชฟก็โชว์เนื้อปลาชิ้นใหญ่ให้ดูก่อนที่จะเอาเข้าไปในครัวเพื่อทำให้ด้านนึงของปลาสุก (ลองดูภาพในรีวิวประกอบครับ :D) [3] ปลาหมึกตัวเล็กๆ จากเมือง Toyama เชฟบอกว่าปลาหมึกพวกนี้อยู่ลึก 200 เมตร เอามาเสียบไม้ย่าง 3 ตัว กัดแล้วน้ำทะลัก เชฟบอกว่ามันคือปลาหมึกล้วนๆ เลยไม่ได้ยัดไส้อะไรเข้าไป สิ่งที่เรากัดเจอก็คือพวกเครื่องในของปลาหมึกล้วนๆ อร่อยถูกใจครับ [4] Tomato มะเขือเทศญี่ปุ่น ลูกจะเล็กๆ ทาเกลือนิดหน่อย [5] Ika เชฟเอาออกมาจากแพ็คแบบซองพลาสติกใสๆ สีขาว แล้วก็ไม่ต้องหั่นอะไรเพิ่มเลย ... เคี้ยวได้ง่ายมาก โรยเกลือกับบีบมะนาวหน่อย อร่อยจริง [6] ถ้าฟังไม่ผิดจะเป็นปลา Kawahagi ท็อปด้านบนด้วยซอสตับปลา [7] ปลาอะไรจำไม่ได้ แต่ได้ยินว่าเป็นปลาซาร์ดีน คำนี้ไม่ได้ติดใจอะไรเท่าไหร่ [8] Kinmedai วิธีที่ทำที่แปลกหน่อยคือ ผู้ช่วยเชฟจะเอาถ่านมาทาบเบาๆ ด้านบน [9] Chu Toro ชอบมากๆ ครับ ไม่ต้องมีคำบรรยายเพิ่มเติม [10] Otoro ของที่เชฟเอามาให้ทานไม่ได้เป็นแบบ farm-raised แต่เป็นแบบ wild-caught ไขมันแทรกสวยงาม [11] Kohada ปลาตะเพียนทะเล เชฟบอกว่าดองมาเป็นเวลา 3 วัน [12] Akagai หอยแครงญี่ปุ่น ก่อนหน้านี้เคยกินอย่างเดียว แต่ไม่เคยเห็นตอนที่เชฟทำ วันนี้เห็นกับตาว่าก่อนที่หน้าตาหอยจะขดงอแบบนี้ เชฟจะต้องโยนเจ้าหอยแครงนี้ลงกับโต๊ะแรงๆ เพื่อเปลี่ยนสภาพแบนๆ ให้เป็นหงิกงอน่ากิน [13] Kuruma Ebi เห็นรีวิวก่อนหน้าที่ไปทานมาก่อนหน้าได้เป็น Botan Ebi แต่มื้อนี้คงจะคนละ season กัน ได้มาเป็น Kuruma Ebi แทน ซึ่งก็ไม่ผิดหวัง [14] Taraba ขาปูทาราบะ มาแบบอุ่นๆ หน่อย (เหมือนว่าทีแรกเชฟลองแตะๆ ดูแล้วอุณหภูมิไม่ได้ ก็เลยเอาเข้าครัวไปทำอะไรมาเพิ่ม) คำนี้ทานแล้วเหมือนไม่ได้ทานขาปู รสชาติมันกลืนกันไปหมดเลย แต่ค่อนข้างชอบครับ [15] Uni ได้มา 2 ชนิดจาก Hokkaido ทั้งคู่ พนักงานเอาภาพมาให้ดูว่าหน้าตาเป็นยังไง ต่างกันที่สีและความยาวของขนที่ชนิดนึงจะยาวกว่าอีกอันมาก อันนึงเรียกว่า Murasaki Uni (สีเหลือง) เสิร์ฟมาเป็นข้าวหน้าไข่หอยเม่นในถ้วยเล็กๆ รสชาติจะค่อนข้างละมุน ส่วน Uni อีกชนิดจำชื่อไม่ได้ (สีส้ม) เสิร์ฟมาเป็น Gunkan หอมกลิ่นสาหร่าย รสชาติ Uni ชนิดนี้จะ strong กว่า [16] Anago ปั้นมากับข้าวซะเห็นแต่เนื้อปลาที่แทบจะหุ้มข้าวไว้หมด [17] Toro สับห่อสาหร่าย เชฟจะเอาแผ่นสาหร่ายลนไฟแล้วก็เอามาห่อซูชิทูน่าสับ คำนี้ไม่ได้ติดใจอะไร [18] Tamagoyaki ไข่หวานนุ่มนิ่ม หั่นมาเป็นแบบแท่งยาวๆ เนื้อเนียนมาก ก่อนหน้านี้ชอบของร้าน Fillets มาก แต่พอมาเจอของร้าน ตอนนี้ผมชอบของร้านนี้มากสุดแล้ว ฮ่าๆ [19] Yuzu Granita ผมเรียกมันว่าน้ำแข็งใสรสส้ม Yuzu ทานแล้วสดชื่นดีครับ ทีแรกคิดว่าเป็นของหวานอย่างสุดท้ายซะอีก [20] พุดดิ้งเต้าหู้ ตัวเนื้อเต้าหู้ค่อนข้างหนืดๆ กว่าที่เคยกินร้านอื่นชัดเจนมาก ซอสราดหวานๆ ทานคู่กันก็ฟิน มื้อนี้ชอบหลายคำครับ แต่ที่ชอบมากสุด 5 อันดับแรกก็จะเป็น ปลาหมึกเสียบไม้ย่าง, Ika, Chu Toro, Taraba, Kuruma Ebi [ สรุป ] เป็นมื้อพิเศษที่ฟินอีกมื้อ ซูชิดีงามทุกคำ ราคาสูงหน่อยแต่ถ้าเทียบกับ Omakase ร้านอื่นราคาก็ไม่ได้ต่างกันมาก คิดว่าคุ้มกับการได้ประสบการณ์การทาน Omakase ในระดับนี้ และคุ้มกับการรอคิวอย่างยาวนานครับ :D คิดว่าเชฟ Masato น่าจะได้ดาวมิชิลินในไทยเพิ่มอีกแน่เลย รอลุ้นกันครับ