จิบไถ่ คาเฟ่ (Jibtai Cafe) จตุจักร

ร้านนี้อยู่ในโซนที่ผ่านไปผ่านมาบ่อยๆ แต่ไม่เคยรู้เลยว่า มีร้านน่านั่งบรรยากาศดีๆสงบๆเหมาะกับการนั่งอ่านหนังสือ ทำงานแบบต้องใช้สมาธิ แถมยังมีเครื่องดื่มและอาหารอร่อย ที่สำคัญราคาถูกซะด้วย การเดินทางมายัง ร้าน “จิบไถ่ คาเฟ่” เป็นครั้งแรกที่จะมายังร้านนี้ด้วยความที่ไม่เคยมา และไม่ชำนาญทางที่ร้านตั้งอยู่ เราจึงใช้ระบบนำทางในรถ Navigator System ในการค้นหาเส้นทางมายังร้านจิบไถ่ ระหว่างการเดินทางก็เพลิดเพลินไปกับเสียงเพลงไม่ว่าจะเปิด วิทยุ ซีดี MP3 ดีวีดี USB ก็มีพร้อมบนจอระบบสัมผัส ขนาด 7 นิ้ว แถมมีพวงมาลัยมัลติฟังก์ชั่น ติดตั้งระบบควบคุมเครื่องเสียง และระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ ที่พวงมาลัย ทำให้สะดวกสบาย เราจึงไม่ต้องละสายตาจากถนน หรือปล่อยมือจากพวงมาลัยเลย เนวิเกเตอร์แนะนำให้ใช้เส้นวิภาวดี-รังสิต ตรงมาเรื่อยๆเกาะป้ายวัดเสมียนนารี แล้วให้เลี้ยวซ้ายข้ามทางรถไฟเข้ามา พอเจอสี่แยกให้เลี้ยวขวา พอเลี้ยวขวาแล้วให้ชิดซ้ายทันที ร้านจะอยู่ติดกับโรงเรียนวัดเสมียนนารีเลย ห่างจากสี่แยกมาประมาณ 50 เมตรเท่านั้น เป็นร้านที่อยู่ใต้ตึก CEC สามารถจอดรถหน้าร้านได้เลย ไม่มีเสียค่าที่จอดรถ ลักษณะของร้านจะกว้างขวาง นั่งสบาย มีหลายมุมให้เลือก ตกแต่งแบบง่ายๆ จะมีการตกแต่งโดยเอาทีวีเก่ามาทำเป็นตู้ปลา เก๋ดี ส่วนของกินที่นี่มีทั้งแบบอาหารจานหลัก เมนูอาหารเช้า เมนูบรันช์ และขนมต่างๆ ส่วนเครื่องดื่มก็มีทั้งร้อนและเย็น มีทั้งแบบสไตล์โมเดิร์นและแบบโบราณ เมนูแรกเป็นเมนูอาหารเช้าง่ายๆ “จิบไถ่ ไข่กระทะ” (ราคา 90 บาท) ไข่กระทะที่ใช้ไข่ 2 ฟอง ไส้กรอก แฮมทอดกรอบ และซอสสูตรพิเศษที่มีมะเขือเทศเป็นเบส รสชาติเค็มๆ หวานๆ เข้ากันได้ดีกับไส้กรอก แล้วก็เสิร์ฟพร้อมกับน้ำส้ม และขนมปังปิ้งกับเนย ต่อมาเป็น “วาฟเฟิล คลับแซนด์วิช” (ราคา 90 บาท) วาฟเฟิลกรอบนอกนุ่มใน ประกบคู่กับแฮมชิ้นโต ไข่ดาว ชีสรสเข้ม และผักสด เสิร์ฟพร้อมน้ำส้ม และมันฝรั่งแผ่นทอดกรอบ เมนูนี้แนะนำว่าต้องสั่งมากิน 2 คน กินคนเดียวไม่หมดแน่ เพราะวาฟเฟิลชิ้นใหญ่มาก ชอบตรงที่ชีสและแฮมรสชาติเค็มๆ มันๆ เข้ากันได้ดี และมีผักสดๆ กับไข่ดาวช่วยเบรคความเข้มข้นของชีสและแฮมอีกที ส่วนอันนี้สั่งมากินเล่นขำๆ ได้ ไม่อิ่มมากเหมือนชื่อ “พิซซ่าอบ” (ราคา 50 บาท) แป้งพิซซ่าแบบบางๆ กรอบๆ ชิ้นเล็กๆ พอดีคำ อบมาร้อนๆ ข้างบนท้อปปิ้งด้วยแฮม พริกหวาน มะเขือเทศ และชีสที่ละลายเยิ้ม เคยอ่านเจอว่าเป็นเมนูที่ครอบครัวของเจ้าของร้านทำกินกันเองในครอบครัว แล้วก็เลยแบ่งปันความอร่อยมาสู่ลูกค้าด้วย “ไส้กรอกชีสลวก” (ราคา 50 บาท) เมนูนี้ดูเผินๆ ก็เหมือนจะธรรมดาๆ เพราะมีแค่ไส้กรอกชีสมาให้ 3 ชิ้น พร้อมผักเคียง และซอสพริกกะซอสมะเขือเทศ แต่ด้วยความที่มันเป็นไส้กรอกของบีลัคกี้ ที่เราชอบกินมาตั้งแต่เด็กๆ ซึ่งมันเนื้อแน่นมาก และชีสก็เยอะจริงๆ และมันถูก “ลวก” มา ไม่ใช่ทอด มันก็เลยอร่อยแบบไม่เลี่ยน ไม่มีน้ำมันเยิ้มใดๆ ผิวไส้กรอกก็ไม่แตกด้วย จานนี้กินคนเดียวหมดอย่างไว ผักแนมที่ให้มาด้วยก็กินอร่อยนะ ไม่ใช่แค่ให้มาประดับจานเฉยๆ เท่านั้น แถมยังตัดเลี่ยนได้ดีด้วยแหละ ไส้กรอกและแฮมของที่นี่จะใช้ผลิตภัณฑ์ของบีลัคกี้ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ของครอบครัวเจ้าของร้านอยู่แล้ว ไส้กรอกและแฮมเลยอร่อยและคุณภาพดีถูกใจเรา มาถึงขนมกันบ้าง กับ “วาฟเฟิล น้ำผึ้ง พีช” (ราคา 65 บาท) วาฟเฟิลหนาๆ นุ่มๆ แบ่งได้ 4 ชิ้นพอดีๆ สมควรจะสั่งมากินกับเพื่อน เพราะเยอะเอาเรื่องอยู่เหมือนกัน ด้านบนท้อปปิ้งมาด้วยพีชในน้ำเชื่อมและวีปครีมรสละมุน โรยหน้าอีกนิดด้วยอัลมอนต์สไลซ์กรุบๆ กรอบๆ จานนี้อร่อยลงตัวมาก ชอบที่วิปครีมเค้าเนื้อเบาๆ รสบางๆ แต่ก็รู้สึกว่ามันครีมมี่มากๆ ส่วนเครื่องดื่มมีทั้งแบบร้อนและเย็น และมีทั้งแบบโบราณกับทันสมัยเช่นเดียวกับอาหาร เริ่มที่เมนูเครื่องดื่มแบบโบราณหน่อยๆ “จิบไถ่ร้อน” (ราคา 60 บาท) เอสเพรสโซ่สูตรโบราณ เสิร์ฟพร้อมชาจีน และขนมปังปิ้ง มาเป็นเซ็ต อันนี้แอบชิมไปหน่อย (เพราะปกติไม่กินกาแฟ) กาแฟรสชาติหอมเข้มข้นดี แต่ถ้าชอบกินอะไรนมๆ จะชอบอันนี้ “Iced Matcha Latte” (ราคา 45 บาท) มัทฉะ ลาเต้รสชาตินุ่มๆ หวานน้อย ค่อนข้างจะได้รสนมชัดเจนกว่ารสชา แล้วก็ตัดด้วยอะไรใสๆ สดชื่นๆ อีกสักแก้ว เลยได้ “น้ำผึ้งมะนาวเย็น” (ราคา 50 บาท) มาลอง มันเป็นน้ำผึ้งผสมมะนาวรสชาติกลมกล่อม หวานกำลังดี และเปรี้ยวแค่นิดๆ จิบแล้วรู้สึกว่ารสชาติมันไม่ได้สังเคราะห์แบบที่ร้านอื่นที่เคยกินมาแล้วไม่ประทับใจ เพราะว่าที่ “จิบไถ่ คาเฟ่” เค้าคั้นน้ำมะนาวกันสดๆ แล้วเอามาผสมกับน้ำผึ้งแท้ของสวนจิตรลดา รสชาติเลยอร่อยแบบธรรมชาติ