- หน้าแรก
/
- รีวิว Lux & Fabrique
รีวิว Lux & Fabrique
กลับมาอย่างยิ่งใหญ่!
ข่าวดีจ้า! วันนี้ผมมีข่าวดีมาบอกกันเหล่าเที่ยวยามราตรีผู้มีใจรักในเสียงดนตรีตื๊ด ๆ มันส์ ๆ ในเชียงใหม่ ว่าหลังจากที่ปิดร้านFabrique เชียงใหม่ เขาปิดร้านเพื่อยกแผงปรับปรุงชุดใหญ่ไปเมื่อไม่นานมานี้ ตอนนี้ร้านได้กลับมาเปิดเป็นปกติแล้ว พร้อมกลับชื่อใหม่สุดไฉไลว่า Lux & Fabrique เชียงใหม่ ส่วนจะมีอะไรเปลี่ยนแปลงไปบ้างนั้นเดี๋ยวเราไปดูพร้อม ๆ กันเลยดีกว่าครับ ถ้าใครแอบลืมไปแล้วว่า Lux & Fabrique เชียงใหม่ นั้นอยู่ตรงไหน ก็มาทวนความจำกันอีกทีละกันนะครับ จากแจ่งศรีภูมิด้านนอก ให้ขับตรงไปทาง ถ.วิชยานนท์ เลี้ยวซ้ายผ่านวัดชัยศรีภูมิ เมื่อขึ้นสะพานไปร้านก็จะอยู่ทางซ้ายมือ ติดกับโรงแรมเชียงใหม่เพรสซิเดนท์เลยครับ ในตัวร้านก็จะมี 2 โซนด้วยกันครับ โซนแรกเป็นโซนของ Lux ในส่วนนี้จะเป็นโต๊ะนั่งแบบสบาย ๆ แต่แฝงไปด้วยความหรูหรา ให้เรานั่งทานข้าวพร้อมฟังดนตรีสดจากวงดนตรีคุณภาพ ในช่วงหัวค่ำ จากนั้นเมื่อเริ่มดึกก็ปรับจังหวะความคึกด้วย DJ สาวสวย ตรงนี้ถ้าใครฟังน้อง DJ เปิดเพลงจนเริ่มรู้สึกคันเท้าอยากออกสเต็ป ก็สามารถย้ายไปด้านใน Fabrique ต่อกันได้เลยนะครับ ส่วนผมตอนนี้ขอรีวิวอาหาร และเครื่องดื่มของทางร้านให้ได้รู้จักกันก่อนก็แล้วกัน ด้วยกฎหมายที่ห้ามโฆษณาเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ วันนี้ผมจึงแนะนำเพื่อน ๆ ได้แค่ม็อกเทลเท่านั้นนะครับ แต่ถึงอย่างนั้นที่นี่ก็ถือได้ว่ามีม็อกเทลหลายตัวที่น่าสนใจทั้ง White Pinky (80 บาท) Apple Blue (80 บาท) Rainbow Shots (250 บาท) และ Red Lady (220 บาท) ยังไงก็สั่งมากินกันสวย ๆ นั่งแบบใส ๆ กลับบ้านไปจะได้ไม่ต้องกลัวด่านเป่าแอลกอฮอล์ อิอิ ในส่วนของอาหารก็ขอเริ่มด้วย ขาไก่ฮ่องเต้ (150 บาท) เมนูเด็ดประจำร้าน Fabrique ที่ไม่ได้กินนานหลังจากที่ปิดปรับปรุงไป รสชาติต้องบอกว่ายังมีความจัดจ้านครบเครื่องเหมือนเดิมครับ ส่วนขาไก่ก็เปื่อยนุ่มชนิดที่ว่าดูดกันเพลินเลยแหละคุณ หอยแมลงภู่นิวซีแลนด์แช่น้ำปลา (150 บาท) จานนี้เหมาะกับสั่งมาทานเล่น หรือเปนกับแกล้มเลยนะ คือจัดจ้านจริง ๆ รสชาติเผ็ดเปรี้ยวคู่กับเนื้อหอยแมลงภู่นิวซีแลนด์หนึบ ๆ ได้อย่างลงตัว ยำปลาดุกฟู (120 บาท) จานนี้เมนูโปรดผมเลยครับ เนื้อปลาดุกสับละเอียดแล้วทอดในน้ำมันร้อน ๆ ตักขึ้นมาพักไว้เพื่อให้ไม่อบน้ำมัน เสิร์ฟให้ทานพร้อมน้ำจิ้มสูตรเฉพาะของทางร้าน รสชาติก็จะหวานนิด ๆ เผ็ดเปรี้ยวหน่อย ๆ แต่ถ้าอยากได้รสชาติเผ็ดขึ้นมาหน่อยก็ต้อง กุ้งผัดพริกฮ่องกง (180 บาท) เมนูที่ทางร้านใช้กุ้งสดไซส์กำลังดี มาผัดกับพริกและเครื่องต่าง ๆ ในสไตล์อาหารฮ่องกง ใครไม่เคยชิมแนะนำให้ลองดูแล้วยูจะติดใจ ปิดท้ายอาหารวันนี้ด้วย ปลาทับทิมทอดสมุนไพร (230 บาท) จานนี้คือดีบอกเลย ปลาทับทิบตัวโต หั่นเนื้อเป็นลูกเต๋าชิ้นพอดีคำ แล้วชุบแป้งทอดจนเหลืองกรอบพร้อมเครื่องสมุนไพร เสิร์ฟให้กินคู่กับน้ำจิ้มสามรสรสโดนใจ กินหมดจานนี้อิ่มท้องสบายใจยันเข้านอนเลยแหละ 555 ในฐานะที่ผมเป็นนักเที่ยวกลางคืนตัวยงคนหนึ่งในเชียงใหม่ หรือที่สาว ๆ จะเรียกผมว่าเพลย์บอยเชียงใหม่ ต้องบอกว่าการกลับมาในครั้งนี้ของ Lux & Fabrique เชียงใหม่ เป็นการ Come Back ที่คุ้มค่าการรอคอยจริง ๆ ครับ ถ้าใครรู้ข่าวนี้แล้วก็แวะไปกินข้าว และฟังเพลงมันส์ ๆ กันได้ทุกวันจนถึงตี 1 เลยนะ