Mililin Cafe & Eatery (มิลิลิน คาเฟ่)

ตามหาคาเฟ่ดีๆ ในจันทบุรี จนมาเจอร้านนี้ Mililin cafe ด้วยการตกแต่งสีขาว เขียว ดูสะอาดตาประกอบกับเสียงอวยในวงในที่ดูน่าเชื่อถือ เราจึงมา ร้านมีที่จอดรถหน้าร้านสะดวกสบาย แต่แอบงงๆ ว่าประตูหน้าอยู่ตรงไหน เพราะมองเข้าไปจากตำแหน่งที่เราจอดรถจะเห็นโซนหลังร้านที่พนักงานกำลังเตรียมอาหาร และห้องน้ำ ไม่เป็นไร เราอาจจะจอดมาทางหลังร้านเอง ก็เลยเดินวนๆ หาทางเข้าจนเจอ แต่เราเลือกนั่งรอข้างนอกเพราะต้องการสั่งกลับบ้านและอยากถ่ายรูปเล่น ร้านส่วนด้านนอกจะเต็มไปด้วยพื้นที่สีเขียวดูรามรื่น น่านั่งสบาย แต่เรามาเที่ยงพอดี ต่อให้อยากนั่งแค่ไหนก็ทนหิวไม่ไหวเลยเดินถ่ายรูปเล็กน้อยรออาหารแล้วกลับ เราสั่งกับข้าวไปสองอย่าง และของหวานหนึ่งอย่าง สลัดปลากะพง : จานนี้ประทับใจมาก เราทานหมดโดยไม่ได้ชิมน้ำสลัดแม้แต่นิดเดียว เพราะผักสดกรอบ หวานนิดๆ และไม่ขมหรือเหม็นเขัยวเลย ถือว่าร้านเลือกวัตถุดิบดีมากๆ อันนี้ปรบมือให้ บ้านไหนมีคนไม่ชอบทานผัก หรืออยากริเริ่มให้เด็กน้อยทานผัก เราว่าผักสลัดร้านนี้ผ่านค่ะ ปลากะพงเรียงมาสวยๆ ห้าชิ้นใหญ่ ไม่เยอะมากมาย แต่ก็พอดีกับผักสลัดนะคะ อร่อย ไม่คาว ทะเลผัดพริกขี้หนู : ยอมใจความตกแต่งจาน ตกแต่งกล่องของทางร้านค่ะ ขนาดเมนูคาวก็ยังเรียงกุ้งมาให้สวยๆ เลย เปิดกล่องมาความน่าทานเพิ่มขึ้นบวกๆ เลยค่ะ ทะเลจานนี้มีกุ้ง หมึก หอย กุ้งกับหมึกดูจุ๋มจิ๋มไปนิด และกุ้งไม่สดแบบกรอบๆ นะคะ สดแบบเพิ่งซื้อจากตลาด แต่ไม่ได้เพิ่งขึ้นมาจากสะพานปลาอะไรแบบนั้นค่ะ แกะเปลือกไว้หัวไว้หางมาให้เรียบร้อย แต่เราไม่กล้าทานหัวกุ้ง พอแกะเอาแต่เนื้อก็เลยรู้สึกกุ้งเล็กไปเลย เนื้อไม่แน่น เด้งสู้ฟันเท่าไหร่ ปลาหมึกเองก็ชิ้นบางค่ะ แต่ยังดีไม่เหนียว หอยได้เป็นหอยแมลงภู่มาพร้อมฝาตัวใหญ่มากค่ะ อันนี้รู้สึกประทับใจ รสชาติผัดออกมาได้ดีไม่เค็มจัดค่ะ พริกขี้หนูคือหอมมาก ออกเขียวหน่อยๆ โทสต์ครีมสดสตอร์เบอร์รี่ : มาถึงเมนูหักดาวของมื้อนี้กันบ้าง ไม่ว่าเมนูอื่นจะทำดีมาเท่าไหร่ โดนเมนูนี้หักทิ้งหมดค่ะ เราก็อยากสั่งตัวซิกเนเจอร์ของร้านนะคะ แต่พอรู้ว่าตัวเองน่าจะชอบทานอะไรแบบนี้มากกว่า และเลือกเป็นครีมสดเพราะคิดว่าเอามาราดทานเองก็น่าจะได้รสชาติไม่ต่างค่ะ แต่ความจริงคือ ไม่มีครีมสดค่ะ ลองพลิกหาทั่วแล้วก็ไม่มีเลย น้องพนักงานก็บอกเองว่าจะแยกทอปปิ้งมาให้ทั้งหมด สรุปคือเราเลยไม่ได้ชิมครีมสดที่บอกว่าเด็ดมากจนต้องสั่ง แต่นั่นก็ยังไม่ทำให้ดาวน่วงหมดขนาดนั้นค่ะ เรายังทำใจว่าขนมปังเปล่าก็ต้องทานได้แหละ แต่ความจริงคือทานไม่ได้เลย ปกติโทสต์จะต้องแห้งแต่ฉ่ำเนย แต่อันนี้แห้งอย่างเดียวค่ะ ทานแล้วเหมือนเคี้ยวกระดาษมาก เสียใจสุดๆ กลิ่นเนยก็ยังไม่ได้กลิ่นเลย เข้าใจว่าเชฟในครัวคงทำเหมือนพร้อมทานในร้าน แต่พอเราเก็บมาทานทีหลังมันเลยแข็งไปหมด ผลไม้ก็ทานได้ค่ะ บลูเบอร์รี่สดกรอบดี สตอร์เบอร์รี่ก็เปรี้ยวตามประสาค่ะ น้ำผึ้งก็ดีนะคะ หอมมาก อร่อยเลยแหละ แต่โทสต์ไม่ได้ไง เคี้ยวไม่ไหวจริงๆ เราทานไม่ถึงครึ่งเพราะเคี้ยวแล้วปวดฟันปวดเหงือก เลยทิ้งดีกว่า ไม่ไหวค่ะ ราคาเท่าร้านแบรนด์ดังๆ เลยนะ บางเจ้ามีไอศครีมด้วยซ้ำ เสียใจ